ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 476 ตรวจสอบ
ตอนที่ 476 ตรวจสอบ
เหตุผลที่เย่เชียนพูดเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเขาต้องการตอบแทนคูลอฟส์อังเดรที่ช่วยเขาแต่ตอนนี้เขาตัดสินใจที่จะร่วมมือกับคูลอฟส์อังเดรแล้วดังนั้นเย่เชียนจึงต้องช่วยคูลอฟส์อังเดรจัดการปัญหาภายในของเขาและเมื่อคูลอฟส์อังเดรได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้ามาเฟียคูลอฟส์แล้วล่ะก็คูลอฟส์อังเดรจะมีพลังและอำนาจที่จะช่วยให้เย่เชียนได้รับผลประโยชน์มากขึ้นอย่างมาก
และด้วยวิธีนี้มันจะเทียบเท่ากับการทำลายความเสี่ยงของคูลอฟส์อังเดรออกไปและเย่เชียนก็ไม่ต้องกังวลว่าคูลอฟส์อังเดรจะหักหลังเขาในสักวันหนึ่งจนทำให้ผลประโยชน์ของตัวเองเสียหายเพราะความไม่มั่นคงของคูลอฟส์อังเดร ดังนั้นเย่เชียนจึงทำเช่นนี้เพื่อกำจัดปัญหาและความเสี่ยงภายหลังทั้งหมดและเมื่อถึงตอนนั้นคูลอฟส์อังเดรก็จะไม่ถูกใครคุกคามอีก เพราะท้ายที่สุดแล้วความร่วมมือในครั้งนี้ก็เป็นการตกลงกันด้วยวาจาและไม่มีอะไรรับประกันได้การที่เย่เชียนทำเช่นนี้เป็นเพียงเพื่อประโยชน์ของตัวเองฝ่ายเดียว
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของคูลอฟส์อังเดรแล้วโปดันโนว่าก็แอบโล่งใจและมีความสุขเล็กน้อยและเธอก็ต้องชื่นชมความสามารถในการพูดของเย่เชียนด้วยเพราะเธอเคยพูดเรื่องแบบนี้กับคูลอฟส์อังเดรมานานแล้วแต่ผู้ชายคนนี้เอาแต่พูดว่าเขาต้องก้าวไปทีละก้าวอย่างระมัดระวังและหลบเลี่ยงสิ่งต่างๆ ให้มากที่สุดจนทำให้สถานการณ์บานปลายเช่นนี้มาจนถึงทุกวันนี้ แต่ประโยคคำพูดและการวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ของเย่เชียนนั้นกลับสามารถทำให้คูลอฟส์อังเดรเปลี่ยนทัศนคติและตัดสินใจได้ในทันที
ที่จริงแล้วสาเหตุที่คูลอฟส์อังเดรเห็นด้วยกับการตัดสินใจของเย่เชียนนั้นไม่ได้เป็นเพราะการโน้มน้าวใจของเย่เชียนแต่อย่างใดแต่เป็นเพราะเขาก็รู้สถานการณ์ในปัจจุบันของตัวเองเป็นอย่างดีและถ้าหากเขาไม่ทำอะไรบางอย่างล่ะสิ่งต่างๆ ก็คงจะเลวร้ายอย่างมาก ซึ่งด้วยการช่วยเหลือขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นจึงทำให้ความมั่นใจของคูลอฟส์อังเดรก็มีมากขึ้นอย่างยิ่งดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะทำการใหญ่ตามความคิดและวิสัยทัศน์ของเย่เชียนนั่นเอง
มูร์มัคส์เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศรัสเซียและเต็มไปด้วยหิมะและน้ำแข็งตลอดทั้งปีมันจึงถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งน้ำแข็งและหิมะ ซึ่งองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นก็ตั้งอยู่ในเมืองน้ำแข็งและหิมะนี้เช่นกัน องค์กรทหารรับจ้างระดับโลกองค์กรนี้ได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่หลายอย่างรวมไปถึงการช่วยเหลือกองกำลังรัฐบาลของประเทศรัสเซียในการสู้รบกับกลุ่มต่อต้านในทวีปยุโรปทางตะวันออกและแม้กระทั่งการลอบสังหารบุคคลสำคัญทางการเมืองในหลายๆ ประเทศ ในโลกของทหารรับจ้างนั้นถึงแม้ว่าชื่อเสียงของจิ้งจอกหิมะจะไม่สูงอันดับต้นๆ แต่ประสิทธิภาพในการสู้รบของพวกเขาก็ไม่สามารถละเลยได้เพราะสมาชิกภายในของพวกเขาหลายคนนั้นเคยเป็นถึงทหารของกองกำลังพิเศษของหมีขั้วโลกที่เกษียณแล้วและเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษจากประเทศรัสเซียอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการรบส่วนบุคคลหรือการทำงานเป็นทีมพวกเขาก็แล้วมีประสบการณ์สูงอย่างมาก
ถึงแม้ว่าจะมีการกล่าวว่ามีสมาชิกของจิ้งจอกหิมะจะมีแค่สองร้อยคนก็ตามแต่ทว่าคนจำนวนมากกว่าสองร้อยคนนั้นล้วนเป็นผู้รอดชีวิตที่ปฏิบัติภารกิจตัดหัวมานับไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละคนอาจกล่าวได้ว่ามีประสบการณ์การล้างบางในสงครามและสละเลือดนักรบชายชาติทหารที่ไม่กลัวความตายและเป็นทหารที่แท้จริงก็ว่าได้
หลังจากออกจากมอสโกแล้วเย่เชียนและหลินเฟิงก็เดินทางไปที่มูร์มันสค์ ซึ่งคนที่มาต้อนรับพวกเขาก็คืออัสลานที่เป็นหนึ่งในผู้นำของมาเฟียคูลอฟส์ในเมืองนี้ ซึ่งในเมืองมูร์มัคส์นั้นมีมาเฟียอยู่หลายองค์กรโดยพื้นฐานแล้วตระกูลคูลอฟส์จะมีสาขาย่อยในเมืองใหญ่และเมืองเล็กทั่วประเทศรัสเซียและพวกเขาทั้งหมดอยู่ในสถานการณ์การปกครองแบบหลายฝ่าย ตัวอย่างเช่นในเมืองมูร์มัคส์นั้นไม่ได้มีเพียงแค่องค์กรคูลอฟส์ของคูลอฟส์อังเดรเท่านั้นแต่ยังมีวลาดิเมียร์คนของคูลอฟส์อาสเชฟลุงของคูลอฟส์อังเดรอีกด้วย
มีทั้งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ไม่ดีในแง่มุมนี้ซึ่งประการหนึ่งมันสามารถป้องกันไม่ให้ใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งครอบคลุมอำนาจและคุกคามการดำเนินงานตามปกติของสังคมและไม่ก่อให้เกิดคงามรุนแรงและกระแสความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ
ยกตัวอย่างเช่นเมืองมูร์มัคส์ในตอนแรกที่มีเพียงมาเฟียองค์กรเดียวคือมาเฟียคูลอฟส์แต่เนื่องจากวลาดิเมียร์อยู่คนละฝ่ายจึงทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพวกเขาสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วสิ่งนี้ก็ทำให้องค์กรมาเฟียอื่นๆ ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้เพื่อก้าวเข้ามามีบทบาทในเมือง
เมื่ออัสลานไปรับเย่เชียนและหลินเฟิงจากสนามบินจู่ๆ ชายคนหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ข้างๆ เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรออกทันทีและชายคนนั้นก็พูดอย่างรีบร้อนว่า “หัวหน้าครับ..อัสลานฮอร์ดมิล์ฟมารับคนที่สนามบินแล้ว..มีคนผิวเหลืองน่าจะเป็นคนจีนหรือญี่ปุ่นก็ไม่รู้..ตอนนี้พวกเขาอยู่ไกลเกินไปผมไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดเลย..ถ้างั้นผมขอถอนตัวกลับก่อนนะครับ”
ตอนนี้ชายคนนั้นก็ไม่ได้ออกไปไหนไกลนักเพราะเมื่อเขาไปถึงรถและกำลังจะเปิดประตูออกจู่ๆ ก็มีคนเดินผ่านมาและมีแสงสีขาวกะพริบจากนั้นร่างของชายคนนั้นก็ค่อยๆ ล้มลงไปกับพื้น
หลังจากเข้าไปในรถของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์แล้วเย่เชียนและหลินเฟิงก็ยิ้มให้กัน เพราะทันทีที่พวกเขาออกมาจากสนามบินแล้วในตอนที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์เดินมาหาพวกเขานั้นพวกเขาก็สังเกตเห็นชายที่คอยสะกดรอยตามอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ตั้งแต่แรกแล้ว
ความจริงก็คือสมาชิกขององค์กรเซเว่นคิลได้เดินทางมาถึงที่เมืองมูร์มัคส์ก่อนแล้วเมื่อคืนนี้ ซึ่งหลินเฟิงก็ได้โทรหาสมาชิกขององค์กรเซเว่นคิลเอาไว้ดังนั้นเมื่อหลินเฟิงและเย่เชียนมาถึงที่สนามบินนั้นก็มีคนขององค์กรเซเว่นคิลอยู่รอบๆ บริเวณซึ่งพวกเขาก็ได้ตรวจสอบและเฝ้าระวังอย่างลับๆ แล้ว ซึ่งคนที่ฆ่าชายคนนั้นเมื่อครู่นี้ก็คือสมาชิกขององค์กรเซเว่นคิลนั่นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของเย่เชียนเพราะเมื่อเขาเห็นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์แล้วเย่เชียนก็รู้ว่าเขาและหลินเฟิงจะต้องเผชิญหน้ากับคนของวลาดิเมียร์อย่างแน่นอน เพื่อที่เขาจะได้วางแผนความขัดแย้งระหว่างคูลอฟส์อังเดรละกลุ่มอื่นๆ เพื่อทำให้องค์กรเหล่านี้ไม่สามารถหยิ่งผยองได้อีก อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆ ก็ไม่ควรรีบมากเกินไปดังนั้นเย่เชียนจึงขอให้หลินเฟิงสั่งให้คนของเขาเริ่มลงมือหลังจากที่ชายคนนั้นคุยโทรศัพท์เสร็จเขาก็จะฆ่าชายคนนั้นทันที
“สวัสดีมิสเตอร์เย่..มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรได้บอกผมเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วและผมก็ได้จัดการทุกอย่างให้แล้วถ้ามิสเตอร์เย่มีความต้องการอื่นๆ ก็บอกผมมาได้เลยเดี๋ยวผมจัดการให้” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูดอย่างเคารพ เพราะคูลอฟส์อังเดรได้แจ้งอย่างชัดเจนในโทรศัพท์แล้วว่าเย่เชียนเป็นเพื่อนของเขาและขอให้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ทำตามการเตรียมสิ่งต่างๆ ตามที่เย่เชียนต้องการไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็มีความสุขมากเพราะเขารู้สึกว่าคูลอฟส์อังเดรพร้อมที่จะปฏิบัติในฐานะผู้บังคับบัญชาของเขาซึ่งอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคูลอฟส์อังเดรจะสามารถขึ้นเป็นผู้นำของมาเฟียคูลอฟส์ได้อย่างแน่นอน
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “มิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์อย่าพูดแบบนั้นคราวนี้ผมมาที่มูร์มันสเลยต้องรบกวนคุณน่ะครับ”
“ไม่มีปัญหา” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูด “ผมได้จัดเตรียมอาวุธและกำลังพลเอาไว้ให้แล้วผมไม่รู้ว่ามิสเตอร์เย่จะไปตรวจสอบตอนนี้หรือไปพักผ่อนก่อนดี? ”
“ขอตรวจสอบก่อนดีกว่า” เย่เชียนพูด
“ได้!” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ตอบแล้วสั่งให้คนขับรถขับไปที่โกดังเก็บอาวุธทันที
“มิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ผมได้ยินมาจากมิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรอังเดรว่ามีมาเฟียอีกกลุ่มที่ในมูร์มันสค์ใช่ไหม” เย่เชียนถาม
“ใช่! ..เขาชื่อวลาดิเมียร์และเขาก็เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคูลอฟส์อาสเชฟลุงของคูลอฟส์อังเดร..คนคนนี้มีเจ้าเล่ห์และร้ายกาจมากและยิ่งไปกว่านั้นอิทธิพลของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็เริ่มยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ..ผมเคยบอกให้หัวหน้าคูลอฟส์อังเดรเริ่มเคลื่อนไหวโดยเร็วที่สุดแต่หัวคิดเสมอว่าอีกฝ่ายเป็นลูกน้องของลุงของเขาดังนั้นเขาจึงไม่เต็มใจที่จะทำสิ่งต่างๆ ..และถ้ายังเป็นแบบนั้นต่อไปผมเกรงว่าเมืองนี้ทั้งเมืองคงจะไม่มีที่ให้พวกเรายืนอย่างแน่นอน” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ถอนหายใจเล็กน้อยและพูด สิ่งที่เขาพูดนั้นเฉียบขาดมากซึ่งคูลอฟส์อังเดรนั้นไม่ใช่คนที่ไม่เด็ดขาดแต่เขาให้ความสำคัญครอบครัวมากเสียกว่า
“มีคนตามคุณมาตอนที่คุณมารับผมเมื่อกี้และถ้าผมเดาไม่ผิดอีกฝ่ายน่าจะเป็นของวลาดิเมียร์” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์อดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั้งตัวเพราะเขาไม่คาดคิดว่าจะถูกสะกดรอยตามแต่เขาไม่รู้วลาดิเมียร์นั้นหยิ่งผยองมากถึงขนาดกล้าส่งคนมาคอยติดตามเขาเช่นนี้ ซึ่งหลังจากหยุดไปชั่วขณะอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็พูดว่า “ผมขอโทษมิสเตอร์เย่..ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมถูกสะกดรอยตาม..แต่ผมรับปากเลยว่าถ้าวลาดิเมียร์กล้าที่จะทำอะไรคุณล่ะก็ต่อให้แลกด้วยชีวิตของผมถึงยังไงผมก็จะคอยคุ้มกันคุณอย่างแน่นอน”
“มิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ไม่ต้องกังวลไป..เพราะคนที่สะกดรอยตามคุณมาถูกคนของเราฆ่าไปแล้ว..นอกจากนี้มันก็ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะรู้ว่ามิสเตอร์เย่อยู่ที่มูร์มันสค์หรือเปล่าถึงยังไงพวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” หลินเฟิงพูดอย่างช้าๆ
เย่เชียนมองไปที่หลินเฟิงด้วยรอยยิ้มและดูเหมือนว่าหลินเฟิงจะค่อยๆ เข้ามามีบทบาทและเข้าสู่การต่อสู้กับเขาอีกครั้งแล้วซึ่งทำให้เย่เชียนรู้สึกโล่งใจมากเพราะพรสวรรค์ของหลินเฟิงนั้นเป็นพรสวรรค์การต่อสู้ที่หาได้ยากมาก แต่เย่เชียนนั้นไม่ได้ต้องการผู้มีความสามารถเช่นนี้แต่สิ่งที่เย่เชียนหวังก็คือการที่หลินเฟิงสามารถก้าวออกจากความมืดได้อย่างแท้จริงและช่วยให้เขาสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาพร้อมๆ กัน
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนของเย่เชียนที่มูร์มัคส์ด้วยแต่แล้วเขาก็ตระหนักได้ว่าเย่เชียนเป็นถึงผู้นำขององค์กรกองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเช่นนั้นแล้วเขาจะไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างไร? แต่สำหรับหลินเฟิงที่สงบเสงี่ยมแต่พูดอย่างประหลาดใจเมื่อเขาพูดจนอัสลานฮอร์ดมิลฟ์มีความอยากรู้อยากเห็นแต่เขาก็ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้เลย
.
.
.
.
.
.
.