ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 478 ยิง
ตอนที่ 478 ยิง
เย่เชียนไม่สนใจถ้าหากวลาดิเมียร์จะขุ่นเคืองเพราะเขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้วลาดิเมียร์ขุ่นเคืองเพื่อที่เขาจะได้วางแผนเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างวลาดิเมียร์และอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จนกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างคูลอฟส์อังเดรและตระกูลคูลอฟส์อย่างแท้จริง ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถเริ่มกวาดล้างได้เพราะท้ายที่สุดแล้วเย่เชียนก็ไม่ได้ต้องการให้คูลอฟส์อังเดรทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ เมื่อถึงเวลานั้นเพื่อไม่ให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันหรือแม้กระทั่งคูลอฟส์อังเดรทรยศต่อตัวเองเช่นนั้นซึ่งด้วยวิธีนี้มันจะทำให้คูลอฟส์อังเดรมองย้อนกลับมาตระหนักสิ่งต่างๆ
วลาดิเมียร์หันหน้าไปมองเย่เชียนพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชาแล้วพูดว่า “ไม่ทราบว่าสุภาพบุรุษคนนี้คือ?” ทั้งหมดเป็นภาษารัสเซียแน่นอนว่าเย่เชียนนั้นไม่เข้าใจและมองอย่างเหม่อลอยและมองไปที่หลินเฟิงแล้วหันไปมองที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ซึ่งอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ไม่ได้แปลให้เย่เชียนฟังเพราะเขาไม่เห็นสายตาของเย่เชียน
เย่เชียนก็ยักไหล่เล็กน้อย “คุณไม่รู้เหรอว่าภาษาจีนจะกลายเป็นภาษาสากลของโลกแล้ว..ถ้าคุณไม่พูดภาษาจีนคุณจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้ยังไง..ขอโทษทีนะไม่ทราบว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรเพราะถ้าคุณต้องการคุยกับผมโปรดใช้ภาษาจีนด้วย!”
หลินเฟิงก็ฉีกยิ้มเพราะถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้จักเย่เชียนมานานแต่เขาก็เข้าใจวิธีการพูดของเย่เชียนอยู่บ้าง เพราะถ้าหากใครที่พูดดีกับเย่เชียนแล้วเขาก็จะพูดดีกับคนคนนั้นกลับ
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ถึงกับแน่นิ่งไปชั่วขณะและรู้สึกมีความสุขมากเพราะเป็นเวลานานแล้วเนื่องจากความผิดพลาดจากการตัดสินใจของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์นั้นวลาดิเมียร์จึงสามารถหยิ่งผยองมาโดยตลอดและทันทีที่เย่เชียนปลดอาวุธเช่นนั้นก็ทำให้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์โล่งใจมากและเขาหวังว่าจะได้ร่วมมือกันระหว่างคูลอฟส์อังเดรและเย่เชียนเป็นอย่างยิ่ง
ใบหน้าของวลาดิเมียร์เปลี่ยนไปอย่างมากเพราะเขาอยู่ที่ชายแดนระหว่างจีนและประเทศรัสเซียมาโดยตลอดดังนั้นเขาจึงรู้เรื่องภาษาจีนเล็กน้อยดังนั้นสิ่งที่เย่เชียนพูดเขาก็สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด แต่เขายังไม่เข้าใจตัวตนของเย่เชียนแต่เมื่อเห็นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์เคารพเย่เชียนเขาก็เดาได้ว่าตัวตนของเย่เชียนนั้นไม่ง่ายเลย ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะหยิ่งผยองเกินไปและหลังจากหยุดไปชั่วขณะวลาดิเมียร์ก็พูดเป็นภาษาจีนอีกครั้ง “ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร?”
“ในประเทศจีนถ้าคุณอยากรู้จักชื่อใครสักคนคุณก็ต้องแนะนำตัวก่อนสิ..ผมคิดว่าคุณคงจะไม่เข้าใจมารยาทนี้เลยสินะ?” เย่เชียนพูดอย่างก้าวร้าว
คิ้วของวลาดิเมียร์ก็ขมวดเข้าหากันแน่นและใบหน้าของเขาก็ดูมืดมนเล็กน้อย อย่างไรก็ตามหลังจากไตร่ตรองไปชั่วขณะวลาดิเมียร์ก็พูดอย่างสุภาพว่า “ผมวลาดิเมียร์แห่งตระกูลคูลอฟส์”
“อืม…” เย่เชียนจงใจตอบเสียงแข็งจากนั้นก็ค่อยๆ พูดว่า “ถ้างั้นคุณก็คือมิสเตอร์วลาดิเมียร์สินะ..แล้วคนที่สะกดรอยตามผมมาที่สนามบินเมื่อกี้นี้เป็นของคุณหรือเปล่า? ..มิสเตอร์วลาดิเมียร์คุณนี่ช่างทีพลังเหนือธรรมชาติจริงๆ คุณรู้ได้ยังไงว่าผมจะมาที่นี่..ยังไงก็เถอะมิสเตอร์วลาดิเมียร์การทำเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นมิตรเลยนะ..ผมสงสัยว่ามิสเตอร์วลาดิเมียร์จะอธิบายกับผมยังไง?”
วลาดิเมียร์ต้องการที่จะโกรธแต่เพราะเขาไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้ริงของเย่เชียนเขาจึงไม่กล้าที่จะทำผลีผลามจนเกินไปเขาจึงระงับความโกรธในใจและหลังจากหยุดไปชั่วชณะวลาดิเมียร์ก็พูดว่า “ผมคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด..ถึงแม้ว่าคนๆ นั้นจะเป็นคนของผมแต่ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้เฝ้าติดตามคุณแต่ติดตามอัสลานฮอร์ดมิลฟ์..และตอนนี้ผมไม่รู้ว่าลูกน้องของผมอยู่ที่ไหน”
การยั่วยุและเย้ยหยันอย่างโจ่งแจ้งของวลาดิเมียร์ทำให้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์โกรธมากและเขาก็ไม่ยอมแม้แต่จะเผชิญหน้ากับคนนอกราวกับว่าวลาดิเมียร์ทำให้ตัวเองดูเหมือนเจ้านายของเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็พูดด้วยความเย็นชาว่า “มิสเตอร์วลาดิเมียร์..ผมอยากรู้จริงๆ ว่าทำไมคุณถึงส่งคนมาคอยสะกดรอยตามผมล่ะ..คุณต้องอธิบายเรื่องนี้กับผม..ไม่งั้นผมคงยอมไม่ได้!”
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์แสดงความโกรธเช่นนี้แต่วลาดิเมียร์ดูเหมือนจะไม่สนใจเลยเขาเพียงยักไหล่เล็กน้อยและพูดว่า “มิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าที่ผ่านมาคุณทำอะไรไปบ้าง..คุณต้องย้อนกลับไปคิดว่าคุณทำอะไรสำเร็จบ้างหรือเปล่า”
เย่เชียนก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่ามิสเตอร์วลาดิเมียร์กับมิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์จะไม่ลงรอยกันเลยนะ..นี่คือสิ่งที่มาเฟียเขาทำกันอย่างงั้นหรอ?”
“แล้วคุณคือ..” วลาดิเมียร์พูดแต่ก่อนที่เขาจะพูดจบเย่เชียนก็เข้ามาขัดจังหวะเขาและพูดว่า “ผมชื่อเย่..เย่เชียน..ที่แปลว่าอ่อนน้อมถ่อมตน!”
“มิสเตอร์เย่ค่อนข้างเสียมารยาทและดูถูกมาเฟียอย่างพวกเรามากเกินไป..ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่ามิสเตอร์เย่ต้องการอะไร..มิสเตอร์เย่กำลังตั้งคำถามกับมาเฟียใช่ไหม?” วลาดิเมียร์ครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็คิดไม่ออกว่าเย่เชียนนั้นเป็นใครหรือมีอิทธิพลมาจากไหน
เย่เชียนยักไหล่เล็กน้อยและพูดว่า “สิ่งที่ผมบอกคือความจริง..ถ้ามิสเตอร์วลาดิเมียร์ไม่ต้องการฟังคุณก็กลับไปได้..อย่างไรก็ตามมันก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณทำอะไรได้บ้างคุณมีคุณสมบัติและความสำเร็จมากพอหรือเปล่า” คำพูดของวลาดิเมียร์ที่พูดกับอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ถูกส่งกลับไปหาเขาเองและวลาดิเมียร์ก็ตกใจและพูดอะไรไม่ออกเลย
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งวลาดิเมียร์ก็พูดว่า “มิสเตอร์เย่ต้องการประกาศสงครามกับมาเฟียอย่างโจ่งแจ้งเหรอ? ”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “ผมคิดว่ามิสเตอร์วลาดิเมียร์ไม่สามารถคิดแทนมาเฟียทั้งหมดได้ใช่ไหม..ทำไมผมถึงต้องไปยั่วยุมาเฟียด้วยล่ะ?” ความหมายในคำพูดนั้นชัดเจนเพราะเย่เชียนไม่ได้ยั่วยุมาเฟียแต่เขากำลังยั่ววลาดิเมียร์นั่นเอง
มุมปากของวลาดิเมียร์กระตุกเล็กน้อยและเขาก็พูดว่า “อย่านอกเรื่อง! ..ผมอยากรู้ว่ามิสเตอร์เย่ทำอะไรกับลูกน้องของผม?”
“ให้ผมตอบตามความจริงน่ะหรือ?” เย่เชียนยังคงยิ้มและถามราวกับว่าเขาไม่มีทีท่าว่าจะโกรธเลยแม้แต่น้อย
“ถ้ามิสเตอร์เย่อยากตอบแบบไหนก็เชิญ” วลาดิเมียร์พูด
“ผมจะบอกคุณตรงๆ เลยนะว่าตอนนี้ลูกน้องของคุณอยู่ในแดนสนธยาแล้ว..ถ้าคุณต้องการไปพบเขาล่ะก็ผมสามารถส่งคุณลงไปหาเขาได้นะ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วถ้ามิสเตอร์วลาดิเมียร์ไม่รู้ว่าแดนสนธยาคืออะไรล่ะก็..มันเป็นตำนานของประเทศจีนที่ว่ากันว่าคนเลวทั้งหมดจะเข้าสู่ดินแดนสนธยาหลังจากที่พวกเขาตายเหมือนกับนรกนั่นแหละ!”
“หืม..คุณกำลังท้าทายผมงั้นเหรอ?” วลาดิเมียร์ตะคอก
“ไอ้บ้านี่แล้วแกมาเล่นอะไรที่นี่ถ้าไม่ได้มาท้าทายน่ะ!” เมื่อคำพูดของหลินเฟิงจบลงเขาก็ชักปืนขึ้นมาและยิงเข้าไปที่หัวของวลาดิเมียร์พร้อมกับเสียง ‘ปัง’ จากนั้นทุกคนก็เห็นรูกระสุนเล็กๆ บนหน้าผากของวลาดิเมียร์และเขาก็ล้มลงไปโดยไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรเลย
การกระทำของหลินเฟิงนั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจอย่างมากและแม้แต่เย่เชียนเองก็ยังหวาดผวาเช่นกันเพราะเขาไมได้เจอเหตุการณ์เช่นนี้มานานแล้วและยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็ไม่ได้คิดที่จะฆ่าวลาดิเมียร์ในตอนนี้เพราะแต่เดิมเขาวางแผนจะจัดการกับวลาดิเมียร์หลังจากที่กวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะแล้วเพื่อที่จะยืดเวลาออกไปอีกสักหน่อยแต่ใครจะรู้ล่ะว่าตอนนี้หลินเฟิงเพิ่งกระฆ่าวลาดิเมียร์ไปแล้วโดยไม่พูดอะไรใดๆ สักคำ
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเย่เชียนจะประหลาดใจแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากเพราะในความเป็นจริงแล้วหลังจากกำจัดวลาดิเมียร์ตั้งแต่แรกถึงแม้ว่ามันจะมีปัญหาก็ตามแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรมากนักและยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็รู้ดีว่าหลินเฟิงทำเช่นนี้เพราะเขากลัวว่าวลาดิเมียร์จะแจ้งให้พวกองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะรู้ถึงสถานการณ์ต่างๆ ถ้าวลาดิเมียร์รู้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไรกันอยู่หากเป็นเช่นนั้นสิ่งต่างๆ ก็จะเป็นเรื่องยากอย่างมาก ซึ่งตอนนี้หลินเฟิงได้กำจัดวลาดิเมียร์ไปแล้วด้วยการยิงเพียงนัดเดียวดังนั้นปัญหาต่างๆ ก็จะน้อยลงโดยปริยาย
การกระทำของหลินเฟิงทำให้บรรยากาศโดยรอบตึงเครียดขึ้นทันทีและคนของวลาดิเมียร์ก็ชักปืนออกมาทั้งหมดและคนของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ไม่กล้าที่จะลังเลใดๆ พวกเขาจึงชักปืนออกมาเช่นกัน “วลาดิเมียร์ก็ตายไปแล้วพวกอยากไปนรกกับเขาไหม? ..ถ้างั้นก็วางปืนลงแล้วมาติดตามฉันซะ” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ตะโกนอย่างเคร่งขรึม
“ประเทศจีนมีคำพูดที่ว่าคนที่รู้ทันปัจจุบันนั้นยอดเยี่ยมมาก..หัวหน้าของพวกคุณตายไปแล้วแต่ถ้าคุณยังต้องการล้างแค้นอยู่ล่ะก็พวกคุณก็คิดผิด..เพราะถึงแม้ว่าคุณจะแก้แค้นแต่พวกคุณจะได้อะไรล่ะ? ..ติดตามมิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ซะ..และวางปืนลงอย่างเชื่อฟังและตามเขาไปในอนาคตพวกคุณจะมีชีวิตที่ดีและไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ ..แต่พวกคุณสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ใช่ไหม” เย่เชียนพูดเสริม
ลูกน้องทั้งหมดของวลาดิเมียร์ต่างก็มองไปที่เย่เชียนและพวกเขาทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ที่นั่นสักพักและดูเหมือนจะสูญเสียความคิดไปอย่างสมบูรณ์
“พูดไปก็เปลืองน้ำลายให้ฉันส่งพวกมันตามหัวหน้าของพวกมันไปดีกว่า!” หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและเมื่อเขาพูดเสร็จเขาก็ชักปืนออกมาอีกครั้ง
คนของวลาดิเมียร์ก็ไม่กล้าลังเลอีกต่อไปและพวกเขาก็วางปืนกันไปทีละคน อย่างที่เย่เชียนพูดตอนนี้หัวหน้าของพวกเขาตายไปแล้วดังนั้นพวกเขาจะไปล้างแค้นให้วลาดิเมียร์ทำไมกันล่ะ? นอกจากนี้เมื่อดูสถานการณ์ปัจจุบันพวกเขาก็ไม่มีโอกาสแก้แค้นหรือทำอะไรได้เลยเพราะคนพวกนี้ยังกล้าแม้แต่การฆ่าหัวหน้าของพวกเขาดังนั้นนับประสาอะไรกับเบี้ยตัวน้อยอย่างพวกเขากัน
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็พยักหน้าเล็กน้อยและพูดว่า “ดีมาก..พวกแกไปหาฮอลดริฟส์เดี๋ยวเขาจะมอบงานให้พวกแกเอง”
.
.
.
.
.
.
.