ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 482 คาเวียร์
ตอนที่ 482 คาเวียร์
เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งกับชาวญี่ปุ่นนั้นอาจกล่าวได้ว่าเขามีประเด็นกับชาวญี่ปุ่นมาตั้งนานแล้วก่อนหน้านี้ตั้งแต่ที่เย่เชียนเข้ามาในประเทศจีนเขาก็มีความขัดแย้งมากมายกับชาวญี่ปุ่น ซึ่งอันดับแรกคือนักฆ่าขององค์กรดาร์คลิลลี่และถึงแม้ว่าวิธีการแก้ปัญหาสุดท้ายจะเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดก็ตามแต่นี่ก็อาจถือได้ว่าเป็นหายนะของผู้คนในประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ หลังจากนั้นก็แก๊งยากูซ่ายามากุจิจากนั้นก็เป็นองค์กรทหารรับจ้างเรดซันและสุดท้ายก็เกี่ยวพันกับสมาคมมังกรทมิฬหรือมังกรดำ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็แทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะกวาดล้างชาวญี่ปุ่นทั้งหมดในทันที
ถ้าไม่ใช่เพราะมีดคลื่นโลหิตล่ะก็เย่เชียนคงจะไม่มายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนและจะไม่มีความขัดแย้งกับพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่อย่างแน่นอน แล้วนับประสาอะไรกับเซอร์เก้วิชพุชกินและเหล่าทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเช่นนี้จนลามมาถึงการพัวพันในการต่อสู้ภายในของมาเฟียในประเทศรัสเซีย
ครั้งนี้เย่เชียนไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับชาวญี่ปุ่นเลยซึ่งไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนดูเหมือนว่าเขาจะมีความขัดแย้งกับชาวญี่ปุ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และวิธีที่ดีที่สุดก็คือกำจัดรากเหง้าและถอนรากถอนโคนเพื่อให้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตถูกกำจัดออกไปโดยสิ้นเชิง
ตอนนี้เย่เชียนก็รู้สึกเบื่อเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรสักอย่างมานานแล้ว ดังนั้นการกำจัดกับเหล่าชาวญี่ปุ่นก็เหมือนกับการเรียกน้ำย่อยก่อนทานอาหารมื้อใหญ่
“คุณรู้หรือเปล่าว่าพวกเขามาจากไหน? ” เย่เชียนถาม
“เวลาน้อยเกินไปเรายังไม่รู้ที่มาของพวกนั้น” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูดเบาๆ สำหรับองค์กรที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้การที่ไม่รู้ว่าศัตรูเป็นใครหรือได้รับการช่วยเหลือมาจากใครนั้นแน่นอนว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ย่อมรู้สึกละอายใจเล็กน้อย
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเขาก็บอกให้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะความอดทนนี้เป็นวิธีการรับมืออที่ดีและไม่ใช่เรื่องของการหลีกเลี่ยงหรือหลบหนีและไม่ทำอะไรเลยแต่อย่างน้อยๆ เราก็ต้องทำการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์สถานการณ์ของฝ่ายตรงข้ามอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สามารถตำหนิอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ได้เพราะท้ายที่สุดแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้นั้นยุ่งยากเกินไปและเกรงว่ามันจะเกินความคาดหมายของเขาซึ่งมันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาอย่างยิ่ง
“แล้วคุณรู้ไหมว่าตอนนี้พวกเขากบดานอยู่ที่ไหน?” เย่เชียนถาม
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็แน่นิ่งครู่หนึ่งแล้วถามว่า “มิสเตอร์เย่คุณพร้อมที่จะลงมือหรือเปล่า..ผมจะให้คนของผมเตรียมตัวในวันนี้” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูด ซึ่งเขาลืมตัวว่าเย่เชียนให้เขาอยู่นิ่งๆ เพราะเขาคิดว่าเย่เชียนตระหนักถึงภัยคุกคามต่างๆ แล้วเมื่อเย่เชียนได้ยินว่าชาวญี่ปุ่นมีส่วนเกี่ยวข้องจึงต้องพร้อมที่จะลงมือเช่นนั้น
“ไม่! ..ผมแค่อยากรู้ว่าพวกนั้นเป็นเพื่อนเก่าของผมหรือเปล่า” เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูด
“โอ้” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ตอบอย่างผิดหวังเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ผมก็ยังไม่รู้..เดี๋ยวผมจะส่งคนไปตรวจสอบทันทีแล้วผมจะรีบบอกคุณ”
“ผมจะรอคุณ” หลังจากที่เย่เชียนพูดจบเขาก็วางสายโทรศัพท์ไป
“อะไรนะชาวญี่ปุ่นอยู่ที่นี่?” หลินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจ
“อืม..แต่ผมไม่รู้ว่าพวกนั้นเป็นใคร” เย่เชียนพูด “พี่หลินคืนนี้เราไปสนุกด้วยกันไหม? ”
หลินเฟิงก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะจากนั้นเขาก็หัวเราะและพูดว่า “ได้..ฉันยินดีที่จะลุยกับนาย” โดยที่หลินเฟิงนั้นยังไม่เข้าใจเลยว่าเย่เชียนหมายถึงอะไรเพราะเขาต้องการที่จะพบกับความตื่นเต้น ซึ่งเย่เชียนเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมหลินเฟิงเป็นนักฆ่าเลือดเย็นได้แต่หลังจากอยู่กับเขามาสักพักหนึ่งแล้วดูเหมือนว่าเลือดของหลินเฟิงจะเริ่มเดือดขึ้นทุกวันๆ และหลินเฟิงเหมือนจะรู้สึกเจ็บปวดถ้าเขาไม่ได้ระบายมันออกไป
“ไปกันเถอะ..ไปกินมื้อค่ำกันพี่สามารถสั่งอะไรก็ได้ที่พี่ต้องการ” เย่เชียนตบหน้าอกของเขาและพูด
“น่าสนใจ..พอดีฉันอยากจะลองกินคาเวียร์น่ะ” หลินเฟิงฉีกยิ้มและพูด
“นี่พี่ล้อผมเล่นหรอ” เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูดว่า “ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าอึปลาพวกนั้นมันอร่อยอะไรนักหนา”
“อึปลาอะไรนั่นมันคือไข่ปลา” หลินเฟิงจ้องมองไปที่เย่เชียนและพูด
“ไข่ปลาอะไรมันเป็นสีดำ” เย่เชียนยักไหล่และพูด
หลังจากแต่งตัวกันเสร็จแล้วทั้งสองก็พากันออกจากสปานวดซึ่งโชคดีที่นี่คือประเทศรัสเซียและผู้คนก็ไม่ค่อยสนใจเรื่องรักร่วมเพศมากนักเพราะถ้าเป็นในประเทศจีนเย่เชียนและหลินเฟิงก็จะพูดมองว่าเป็นเช่นนั้นอย่างแน่นอนและอาจจะมีคนอื่นพูดถึงเรื่องนี้ลับหลังพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็คาดว่าเย่เชียนคงจะไม่รังเกียจเลยเพราะเย่เชียนหน้าด้านเหมือนหมูที่ไม่กลัวน้ำเดือดมาโดยตลอดและเขาไม่สนใจคำนินทาของคนอื่นเลย
หลังจากออกจากสปานวดกันแล้วเย่เชียนและหลินเฟิงก็ไปที่ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในมูร์มันสค์และแน่นอนว่าเย่เชียนเหมือนถูกหลินเฟิงฆ่าอย่างไงอย่างงั้นเพราะไข่ปลาคาเวียร์เหล่านั้นมีราคาแพงมากและพวกมันก็ไม่ได้มีปริมาณเยอะอะไรมากมายเพราะส่วนใหญ่มันเป็นเพียงของว่างเล็กน้อยก่อนมื้ออาหารหลักเท่านั้น แต่หลินเฟิงถือว่าไข่ปลาคาเวียร์นั้นเป็นอาหารหลักโดยใช้ช้อนตักทีละคำเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
ทุกครั้งที่หลินเฟิงเอาคาเวียร์หนึ่งช้อนเข้าปากหัวใจของเย่เชียนก็เจ็บปวดทุกครั้ง
เมื่อมองไปที่การแสดงออกของเย่เชียนแล้วหลินเฟิงก็ฉีกยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “อย่าขี้เหนียวสิ..เดี๋ยวฉันให้ส่วนลดงานกับนาย”
เย่เชียนกลอกตาไปมาและกินสเต๊กของเขาต่อไป
เดิมทีไข่ปลาคาเวียร์มีราคาแพงและมีปริมาณไม่มากนักด้วยเหตุนี้หลินเฟิงจึงกินไม่เหลือเลยซึ่งสิ่งนี้ทำให้ผู้จัดการร้านอาหารตื่นเต้นมากและเขากำลังยินดูอยู่เป็นการส่วนตัว
ในระหว่างการเดินทางเย่เชียนก็ได้รับโทรศัพท์จากอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ว่าเขาพบแหล่งกบดานของชาวญี่ปุ่นแล้วซึ่งอยู่ในคลับเฮาส์และเดิมเป็นองค์กรของประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้วถึงแม้ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่ที่จริงแล้วที่นี่เป็นสำนักงานใหญ่ของแก๊งยากูซ่ายามากุจิในมูร์มัคส์เลยก็ว่าได้
ปรากฏว่าเป็นกลุ่มยามากุจิอีกครั้งซึ่งทำให้เย่เชียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เพราะหลังจากครั้งที่แล้วเย่เชียนก็ได้กำจัดหัวหน้าแก๊งยามากูจิทั้งสี่ไปแล้วแต่ทว่ากลุ่มยามากุจิเหล่านี้ก็ยังคงหยิ่งผยองได้อยู่อีก ดูเหมือนว่าเขาต้องกำจัดถอนรากถอนโคนแก๊งยามากุจิทั้งหมดจริงๆ และกวาดล้างสมาคมมังกรดำก่อนจากนั้นก็ไล่กวาดล้างแก๊งยามากุจิทั้งหมด
อย่างไรก็ตามโชคดีที่ตอนนี้รัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นแตกต่างไปจากเดิมเพราะพวกเขาค่อยๆ ทำการกวาดล้างกับองค์กรใต้ดินและถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่สามารถทำความสะอาดอย่างสมบูรณ์ได้แต่อย่างน้อยๆ ก็สามารถยับยั้งสิ่งต่างๆ ได้มากมาย อย่างไรก็ตามการก่อตัวของแก๊งยามากุจิก็มีอำนาจมหาศาลในประเทศญี่ปุ่นและควบคู่ไปกับสมาคมมังกรดำที่อยู่เบื้องหลังนั้นมันคงไม่ใช่วันหรือสองวันที่เย่เชียนจะทำการกวาดล้างได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่เย่เชียนจะเคลื่อนไหวแต่ถ้าหากเขาต้องการถอนรากถอนโคนแก๊งยามากุจิเขาก็ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น
หลังจากเช็คเอาท์แล้วเย่เชียนและหลินเฟิงก็เดินออกจากภัตตาคารไปซึ่งผู้จัดการก็ขอบคุณพวกเขาตลอดทางและยังคงทักทายพวกเขาที่จะมาบ่อยๆ
‘ถ้ามาที่นี่อีกไม่กี่ครั้งฉันคงไม่ต้องสวมกางเกงแล้ว’ เย่เชียนคิดอย่างลับๆ เพราะตอนนี้เขาแสร้งทำเป็นใจกว้างและเขาทำได้เพียงแสร้งทำเป็นยินดีเพราะเขาคงไม่โง่ถึงขนาดนี้ที่จะพูดแบบนี้ออกไป เมื่อคิดเช่นนั้นเขาก็ยิ้มและพูดกับผู้จัดการว่า “ไม่มีปัญหา..การบริการและรสชาติอาหารของที่นี่ดีมาก..ผมจะมาบ่อยๆ ในอนาคต..โอ้ใช่ผมจะเลี้ยงแขกที่นี่ทั้งหมดในวันพรุ่งนี้..รบกวนคุณช่วยจัดเตรียมสถานที่ให้ผมด้วย”
“ไม่มีปัญหาครับไม่มีปัญหา..ไม่ต้องกังวลครับผมจะเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อย” ผู้จัดการรีบพูดอย่างร่าเริงและกระรือตือร้น
“เยี่ยม..ผมหวังว่าถึงตอนนั้นพวกคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ” เย่เชียนตบบ่าผู้จัดการที่ไหล่แล้วพูด
เมื่อเห็นเย่เชียนและหลินเฟิงจากไปผู้จัดการก็รีบเข้าไปในร้านอย่างเร่งรีบและสั่งพนักงานให้จัดเตรียมสิ่งต่างๆ ทันทีโดยพูดว่า “รีบๆ ทำงานกันหน่อย..เตรียมตัวให้ดีพรุ่งนี้ฉันต้องการคาเวียร์ 200 กิโลกรัม”
“สองร้อยกิโลกรัมเลยเหรอผู้จัดการ..มันมากเกินไปไหม” พนักงานจัดซื้อถามด้วยความประหลาดใจ เพราะราคาของไข่ปลาคาเวียร์โดยทั่วไปถ้าคิดเป็นเงินหยวนก็อยู่ที่ประมาณ 1,200 หยวนจีนต่อ 30 กรัมและ 200 กิโลกรัมนั้นก็เกือบๆ 8 ล้านหยวนเลยทีเดียวและนี่ก็ไม่ใช่เรื่องตลกเพราะถ้าขายไม่ได้มันก็จะขาดทุนย่อยยับ
“นายรู้อะไรไหม..วันนี้นายเห็นลูกค้าคนนั้นหรือเปล่า? ..เขาจะจัดงานเลี้ยงในร้านของเราในวันพรุ่งนี้เขาให้จัดเตรียมคาเวียร์นายก็ต้องการเตรียมตัวให้ดี..เพราะงั้นก็อย่าถามมากทำตามที่ฉันบอกซะ” ผู้จัดการพูดด้วยความตื่นเต้น
“แต่ว่าผู้จัดการถ้าเขาโกหกคุณล่ะ..ผมคิดว่าคนจีนน่ะไว้ใจไม่ได้!” พนักงานจัดซื้อวัตถุดิบพูด
“จะน่าเชื่อถือหรือไม่นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับฉัน..เดี๋ยวฉันจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นเอง” ผู้จัดการพูดอย่างเฉียบขาดเพราะเขาตื่นเต้นมากจนไม่รู้ว่าทำไม
พนักงานจัดซื้อก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเดินออกไป ตอนนี้ผู้จัดการได้ตัดสินใจแล้วเขาจะทำอะไรได้นอกจากนี้เขาไม่ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาใดๆ อีกด้วยดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลที่จะคิดเรื่องต่างๆ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้พูดนั้นก็ถูกต้องจริงๆ เพราะเย่เชียนก็ไม่น่าเชื่อถือนัก ซึ่งงานเลี้ยงที่เย่เชียนบอกจะจัดเลี้ยงนั้นเป็นเพียงแค่การที่เย่เชียนกำลังแกล้งผู้จัดการคนนั้น อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้คาดหวังว่าผู้จัดการคนนี้จะไร้เดียงสาขนาดนี้เช่นกัน
หลินเฟิงรู้ถึงนิสัยของเย่เชียนและแน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมรับสิ่งที่เขาพูดในตอนนี้ ซึ่งหลังจากออกจากภัตตาคารแล้วหลินเฟิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “น้องเย่..นายกำลังทำร้ายคนอื่นถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ผู้จัดการคนนั้นจะต้องจัดซื้อวัตถุกิบในปริมาณมากอย่างแน่นอนและอาจถูกไล่ออกเลยก็เป็นได้”
“อะไรนะผมไม่ได้โกหกสักหน่อย..มันก็แค่งานเลี้ยงไม่ต้องกังวลไป..ผมต้องทำตามสิ่งที่ผมพูดออกไปสิ..ไม่งั้นผมจะเป็นผู้นำที่มีศักดิ์ศรีได้ยังไง” เย่เชียนตบหน้าอกของตัวเองอย่างหนักแน่น
หลินเฟิงยักไหล่เล็กน้อยแล้วถามว่า “แล้วเป็นไงบ้าง..ตอนนี้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์หาแหล่งกบดานของชาวญี่ปุ่นพวกนั้นได้แล้วหรือยัง?”
“มันอยู่ใกล้ๆ นี่แหละดูเหมือนจะเรียกว่า..เห้อ! ..ชื่อมันยาวเกินไปผมจำไม่ได้แต่เห็นว่ามันเป็นคลับเฮาส์” เย่เชียนเบื่อกับชื่อที่พูดลำบากพวกนี้เพราะชื่อมันยาวเกินไปและลำบากเกินไปที่จะต้องจำ
“อ่ามันน่าจะเป็นที่นี่แหละ” ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันทั้งสองก็มาถึงประตูคลับเฮาส์แห่งหนึ่งแล้วและเห็นเพียงป้ายของคลับเฮาส์ที่มีตัวอักษรแปลกๆ เขียนอยู่ซึ่งเย่เชียนก็ไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากลักษณะแล้วมันเหมือนกับที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์อธิบายเอาไว้ดังนั้นมันจึงควรเป็นที่นี่
.
.
.
.
.
.
.