ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 485 ความมั่นใจ
ตอนที่ 485 ความมั่นใจ
หลังจากออกจากคลับเฮาส์แล้วเย่เชียนและหลินเฟิงก็เดินหลบไปตามถนนสองสามสายและหลังจากนั้นจึงโทรไปหาอัสลานฮอร์ดมิลฟ์และขอให้ส่งรถมารับพวกเขา
เย่เชียนนั้นเป็นดั่บุคคล VIP ในเมืองมูร์มัคส์สำหรับเขาดังนั้นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จึงไม่กล้าละเลยเย่เชียนแม้แต่น้อยเขาจึงรีบขับรถไปยังที่อยู่ที่เย่เชียนบอกเป็นการส่วนตัว หลังจากมาถึงสถานที่นัดหมายแล้วอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ได้เชิญเย่เชียนและหลินเฟิงขึ้นรถด้วยความเคารพจากนั้นก็ขับรถกลับไปที่บ้านของเขา
“มิสเตอร์เย่..มิสเตอร์หลินไปเดินชมทิวทัศน์มาสนุกไหมครับ?” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ถามขณะที่เขาขับรถ เพราะเขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคลับเฮาส์ดังนั้นวันนี้เขาจึงเอ่ยปากถาม
“มันยอดเยี่ยมมาก..มันน่าตื่นเต้นจริงๆ!” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“น่าตื่นเต้น?” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเล็กน้อยและเขาก็ไม่เข้าใจความหมายของคำพูดของเย่เชียนเพราะการเดินชมวิวและทิวทันศ์ของเมืองมูร์มัคส์ครั้งนี้จะน่าตื่นเต้นได้อย่างไรและถึงแม้ว่าเขาจะคิดไม่ออกแต่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ยังไม่คิดที่จะถาม
“ทั้งสองคนชอบเที่ยวสถานที่แบบไหนหรอ..เดี๋ยวหลังจากปัญหาต่างๆ จบแล้วผมจะได้แนะนำทั้งสองให้เที่ยวอย่างผ่อนคลายเอง” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูด
“ฆ่าและกวาดล้างศัตรูให้หมด! ..นี่คือความตื่นเต้นที่สุดของผม” เย่เชียนพูดเบาๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นมิตรบนใบหน้าของเขา
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยและเขาก็ต้องฝืนยิ้มตาละห้อยเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดี หลังจากหยุดไปชั่วขณะอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็พูดว่า “หัวหน้าคูลอฟส์อังเดรโทรมาหาผมวันนี้และบอกให้ผมทำตามคำสั่งของมิสเตอร์เย่..ถึงแม้ว่าผมจะไม่เข้าใจว่าคุณคิดอะไรอยู่แต่คุณช่วยบอกพวกเราหน่อยได้ไหมเนื่องจากนี่เป็นคำสั่งของหัวหน้าเพราะงั้นผมจะทำตามอย่างเคร่งครัด..ผมหวังว่ามิสเตอร์เย่จะบอกแผนการให้ผมทราบเพื่อที่ผมจะได้จัดการสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย”
“แผน? ” เย่เชียนฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “พูดตามตรงผมก็ไม่มีแผนอะไรเลย..แต่เนื่องจากหัวหน้าของคุณบอกให้คุณทำตามคำสั่งของผมดังนั้นคุณก็ต้องทำตามที่ผมบอก..เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีแผนอะไร”
เย่เชียนพูดอย่างนั้นก็จริงแต่ทว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้ไร้แผนการโดยสิ้นเชิงเพราะเขามักจะวางแผนสิ่งต่างๆ อย่างสม่ำเสมอถึงแม้ว่าบางครั้งเขาจะทำสิ่งที่ไร้สาระเพราะความสนุกและตื่นเต้นแต่เขาก็จะไม่เบี่ยงเบนไปจากแผนการหลักของเขา เหตุผลที่เขาไม่พูดไม่ใช่เพราะเขากังวลว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จะทำแผนการของเขารั่วออกไปภายนอกแต่เย่เชียนไม่ชอบที่จะพูดถึงแผนของเขาทั้งหมดเพราะเขาชอบให้คนอื่นทำตามคำสั่งของเขาและคนเหล่านั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้มากเกินไป
แน่นอนว่านี่ไม่รวมถึงเหล่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าและซ่งหลัน ซึ่งถึงแม้ว่าพี่น้องของเขี้ยวหมาป่าจะไม่ค่อยถามเย่เชียนว่าทำไมเย่เชียนถึงได้สั่งให้พวกเขาทำเช่นนี้หรือเช่นนั้นแต่เย่เชียนเองก็มักจะบอกแผนการของเขาให้พวกเขาฟังอย่างชัดเจนเสมอจากนั้นก็ให้พวกเขาปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ตรงหน้า ส่วนสำหรับซ่งหลันนั้นสิ่งที่เย่เชียนพูดคุยกับเธอส่วนใหญ่ก็คือเรื่องธุรกิจและโดยพื้นฐานแล้วก็มักจะเป็นแผนการให้เธอร่วมมือกับเขี้ยวหมาป่าเพื่อทำการขยายอำนาจและอิทธิพล
หลังจากฟังคำพูดของเย่เชียนแล้วอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรเขาค่อนข้างไม่ชอบสไตล์ที่ทำตามอำเภอใจของเย่เชียนและทัศนคติของเขาในเรื่องความอดทนต่อการรุกรานขององค์กรสลาดาร์ ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งของคูลอฟส์อังเดรล่ะก็เขาคงคิดว่าเย่เชียนจงใจช่วยสลาดาร์อาร์ตันแล้ว ซึ่งเขาก็ทำอะไรไม่ถูกเนื่องจากคูลอฟส์อังเดรที่สั่งให้เขาทำตามคำสั่งของเย่เชียนเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำเช่นนั้น
“นายไม่กลัวว่าเขาจะไม่พอใจและจะไม่ร่วมมือกับนายเหรอ?” หลินเฟิงโน้มตัวเข้าไปข้างๆ หูของเย่เชียนและกระซิบ
“ผมไม่กลัวหรอกเพราะนี่มันไม่ใช่เรื่องของผมเอง..เพราะงั้นผมจะไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้” เย่เชียนฉีกยิ้มและจงใจพูดเสียงดัง
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ฟังอย่างเป็นธรรมชาติและชัดเจนและหลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วก็ประมาณว่าเย่เชียนและหลินเฟิงกำลังคุยกัน และเมื่อคิดอย่างรอบคอบดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้เดิมทีเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องของเย่เชียนแต่เป็นเรื่องภายในขององค์กรคูลอฟส์เองและเป็นการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีและอำนาจของคูลอฟส์อังเดรเท่านั้น ซึ่งอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็รู้ดีว่าองค์กรทหารรับจ้างอย่างเขี้ยวหมาป่าไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับคูลอฟส์อังเดรเลยและถ้าหากเป็นคูลอฟส์อาสเชฟเขาก็คงจะเห็นด้วยอย่างแน่นอน
ทัศนคติของเย่เชียนทำให้เขาแทบจะทนไม่ได้จริงๆ ถ้ามันไม่เป็นไปตามคำสั่งของคูลอฟส์อังเดรล่ะก็ตอนนี้เขาก็อยากจะไล่เย่เชียนออกไปทันทีแล้วจัดการกับองค์กรสลาดาร์เองและเขาก็จะได้ไม่ต้องทนทุกข์และทนต่อเรื่องเหล่านี้
เดิมทีเมื่อหลินเฟิงยิงวลาดิเมียร์ไปครั้งนั้นความมั่นใจที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์มีในตัวเย่เชียนก็ค่อยๆ จางหายไปในช่วงเวลานั้น และตอนนี้เขามีเพียงความคิดเดียวและนั่นคือการกวาดล้างสลาดาร์อาร์ตันอย่างรวดเร็วและครอบครองมูร์มัคส์ทั้งหมดเอาไว้ในมือขององค์กรคูลอฟส์อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์กำลังคิดเรื่องนี้จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นดังนั้นเขาจึงรีบรับสายและเมื่อรับแล้วใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากและหลังจากนั้นเขาก็ตอบเพียง ‘อืม..’ ซ้ำๆ สองสามครั้งแล้วเขาก็วางสายโทรศัพท์ไป จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับเย่เชียนและหลินเฟิงว่า “ลูกน้องของผมโทรมาและบอกว่าคลับเฮาส์ของพวกสลาดาร์ที่ให้พวกชาวญี่ปุ่นคุมนั้นถูกระเบิดทิ้งโดยบุคคลปริศนา..มีคนรอดชีวิตแค่ไม่กี่คนเท่านั้นและยิ่งไปกว่านั้นผู้นำยากูซ่าเหล่านั้นก็ไม่รอดเลยสักคน!”
“อืม..เรารู้เรื่องนี้แล้ว” หลินเฟิงพูดเบาๆ
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและเขาก็เพิ่งได้ข่าวว่าดังนั้นเย่เชียนและหลินเฟิงจะรู้ได้อย่างไร? หรือพวกเขามีแหล่งข่าวและข้อมูลดีกว่าองค์กรคูลอฟส์หรือ? อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็มองผ่านกระจกมองหลังในรถและเห็นรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้าของเย่เชียนและหลินเฟิงและหัวใจของเขาก็สั่นอย่างมากเพราะเขาจำได้ว่าเย่เชียนโทรมาและขอให้เขาไปตรวจสอบผู้ที่อยู่และแหล่งกบดานของชาวญี่ปุ่น “เป็นไปได้ไหมที่คุณสองคนเป็นคนทำเรื่องนี้?” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ถามด้วยความประหลาดใจ
ถึงแม้ว่าจะมีผู้คนจากประเทศญี่ปุ่นไม่มากนักแต่ก็มีอย่างน้อยหลายร้อยคนและพวกเขาล้วนเป็นคนที่โหดเหี้ยมแล้วเย่เชียนกับหลินเฟิงจะสามารถทำเช่นนั้นได้หรือ? ยิ่งไปกว่านั้นตามรายงานของลูกน้องของเขาดูเหมือนว่ามีคนฆ่าชาวญี่ปุ่นในห้องส่วนตัวก่อนจึงระเบิดคลับเฮาส์และเขาก็ไม่เชื่อว่าคนสองคนเป๋นคนลงมือทำสิ่งนี้
“หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็แค่เบื่อเลยหาอะไรทำ..พอดีเจอพวกยามากุจิเพื่อนเก่าผมก็เลยไปทักทายพวกเขานิดๆ หน่อยๆ น่ะ” เย่เชียนพูดอย่างเรียบเฉยราวกับว่าเขาแค่ไปเที่ยวเฉยๆ และทำเหมือนมันไม่มีอะไรมากไปกว่าการเล่นเกมและชาวญี่ปุ่นเหล่านั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อยในสายตาของเขา
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ถึงกับตะลึงอย่างมากที่เย่เชียนสามารถใช้คำพูดแบบนั้นได้ อย่างไรก็ตามจากคำพูดของเย่เชียนเขาก็ยืนยันได้แล้วว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เย่เชียนและหลินเฟิงลงมือทำ เมื่อคิดเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจอย่างมากและมีร่องรอยของความหวาดกลัวอยู่ในใจทันที เพราะเพียงคนแค่สองคนแต่กลับทั้งสองคนแต่กลับกวาดล้างแก๊งยามากุจิได้ทั้งแก๊งถึงที่แล้วถ้าหากองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดออกมาล่ะมันจะน่าตกใจขนาดไหน เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาเพิ่งจะตระหนักนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่นและสั่นสะท้านไปทั้งตัวและโชคดีอย่างยิ่งที่หัวหน้าของเขากับเย่เชียนมีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันไม่เช่นนั้นคำพูดเพียงไม่กี่คำในตอนนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะให้เขารับชะตากรรมเดียวกันกับเหล่าแก๊งยามากุจิ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็รู้สึกสบายใจอย่างมากและในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะทุกวันนี้สลาดาร์อาร์ตันนั้นเอาแต่โจมตีพวกเขาเรื่อยๆ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงรู้สึกพอใจอย่างมากเพราะตอนนี้เย่เชียนกับหลินเฟิงได้ทำการกวาดล้างกองกำลังพันธมิตรขององค์กรสลาดาร์อย่างแก๊งยามากุจิแล้วแน่นอนว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ต้องรู้สึกมีความสุขโดยธรรมชาติ
“มิสเตอร์เย่คุณเสี่ยงอันตรายเกินไป..แล้วผมจะอธิบายให้หัวหน้าคูลอฟส์อังเดรฟังยังไง..ถ้าคุณจะทำอะไรในครั้งต่อๆ ไปคุณต้องบอกผมด้วย..ผมจะได้ส่งคนของผมไปช่วย” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้มันกะทันหันไปหน่อย..ผมรับปากเลยว่าคราวหน้าถ้าหากมีอะไรผมจะแจ้งให้คุณทราบ” พูด ซึ่งเขาได้ยินน้ำเสียงของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์แล้วและรู้ว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ไม่ได้จะตำหนิเขาแต่มีเพียงความกังวลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถึงแม้ว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จะกลัวว่าจะถูกคูลอฟส์อังเดรลงโทษก็ตามแต่การที่เย่เชียนทำเช่นนี้นั้นมันก็สามารถหักล้างความไม่พอใจออกไปได้
“มิสเตอร์เย่คนพวกนั้นเป็นคนของแก๊งยามากุจิเพราะงั้นการที่เราไปฆ่าพวกมันแบบนี้คนในแก๊งยามากุจิจะต้องมาแก้แค้นอย่างแน่นอน..เราควรรีบจัดการสิ่งต่างๆ ให้เร็วที่สุดไม่งั้นพวกสลาดาร์กับพวกยามากุจิอาจจะรวมตัวกันเพื่อโต้กลับพวกเรา” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูดเบาๆ
“สิ่งที่คุณพูดนั้นสมเหตุสมผลแต่แก๊งยามากุจิคงไม่ได้เคลื่อนไหวตอบโต้เร็วขนาดนั้น..เพราะมันต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ ครึ่งเดือนเพื่อเกณฑ์คนจำนวนมากมา..ซึ่งมันนานพอที่จะให้คูลอฟส์อังเดรกำจัดสลาดาร์อาร์ตัน..จากนั้นพวกแก๊งยามากุจิเหล่านั้นจะหนีเข้าไปในรูโดยปริยาย..มิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ไม่คิดแบบนั้นหรอ” เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้ม
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็รู้ถึงความหมายของคำพูดของเย่เชียนนั่นคือในช่วงครึ่งเดือนนี้เย่เชียนก็พร้อมแล้วที่จะทำอะไรบางอย่างกับสลาดาร์อาร์ตันและเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นในใจจากนั้นเขาก็พูดว่า “ทุกอย่างแล้วแต่มิสเตอร์เย่เลยครับ”
.
.
.
.
.
.
.