ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 499 การพัฒนายุทธวิธี
ตอนที่ 499 การพัฒนายุทธวิธี
เย่เชียนนั้นไม่ต้องการที่จะเพิกเฉยเรื่องขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเพราะเขานั้นเสียเวลาในประเทศรัสเซียนานเกินไปแล้วและเย่เชียนก็กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในฝั่งของเขตการปกครองไต้หวันด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีฉินหยูอีกที่เดิมเย่เชียนตั้งใจจะไปเยี่ยมเยือนเธอแต่น่าเสียดายที่เย่เชียนนั้นไม่มีเวลาว่างจนถึงตอนนี้เลยและไม่ว่าในกรณีใดถึงยังไงฉินหยูก็เป็นผู้หญิงคนแรกของเย่เชียนที่เย่เชียนจริงจังด้วยและถึงแม้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อฉินหยูจะไม่ได้ลึกซึ้งกว่าหลินโรวโร่วก็ตามแต่เขาก็คิดถึงเธอมาก ซึ่งถ้าเปรียบหลินโรวโร่วเป็นข้าวที่ต้องกินทุกวันฉินหยูก็เปรียบเสมือนมื้อเย็นที่เขาขาดไม่ได้ดังนั้นทั้งสองก็เป็นสิ่งที่เย่เชียนขาดไม่ได้
หลีจื้อเทียน ณ มณฑลเหอหนานของจีนก็โทรมาบอกเย่เชียนทุกอย่างเกี่ยวกับคาสิโนว่าโครงการดังกล่าวนั้นพร้อมแล้วและเขารอให้เอกสารจากรัฐบาลกลางออกอย่างเป็นทางการจากนั้นก็สามารถเปิดทำการอย่างเป็นทางการได้ ซึ่งตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เย่เชียนจะต้องดำเนินการในพิธีเปิดตัวโครงการ ซึ่งเย่เชียนก็ไม่เคยสงสัยเรื่องการติดต่อและความสัมพันธ์ของหลีจื้อเทียนกับรัฐบาลกลางเลยเนื่องจากหลีจื้อเทียนบอกว่าเอกสารของรัฐบาลกลางจะออกเร็วๆ นี้และเย่เชียนก็ไม่ได้กังวลอะไรมากเนื่องจากเครือข่ายของหลีจื้อเทียนนั้นค่อนข้างที่จะน่าเชื่อถือและหลีจื้อเทียนยังส่งคำเชิญให้กับเหล่านักพนันมืออาชีพชื่อดังหลายคนจากมาเก๊าและลาสเวกัสเป็นพิเศษอีกด้วย
นับตั้งแต่เริ่มต้นการร่วมมือกับหลี่จื้อเทียนนั้นเย่เชียนก็แทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมในกระบวนการของโครงการในมณฑลเหอหนานเลยและหลีจื้อเทียนนั้นก็แทบจะทำสิ่งต่างๆ คนเดียวเลย พูดตามตรงเย่เชียนเองก็ยังรู้สึกผิดเกี่ยวกับสิ่งนี้เพราะเขาเป็นหุ้นส่วนด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าการกระทำของเย่เชียนนั้นดูไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในฐานะหุ้นส่วน
เย่เชียนนั้นจะต้องไปเข้าร่วมพิธีเปิดโครงการคาสิโนครั้งนี้อย่างแน่นอนเพราะอุตสาหกรรมเช่นคาสิโนนั้นจะต้องถูกปกครองโดยองค์กรที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องไปร่วมด้วยและถึงแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเรื่องของอุตสาหกรรมการพนันก็ตามแต่ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นเย่เชียนก็ต้องไปที่นั่นและทำความเข้าใจกับมันด้วย
เย่เชียนก็รู้สึกว่าเวลาของเขานั้นไม่เพียงพอในแต่ละวันและเขาก็ต้องแบ่งร่างตัวเองออกเป็นสองส่วนเพื่อทำสิ่งต่างๆ แต่เขาก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องของเมืองเซี่ยงไฮ้เลยเพราะที่นั่นมีทั้งหวังหูและแจ็คอยู่จัดการสิ่งต่างๆ ที่นั่น ดังนั้นเย่เชียนจึงเชื่อว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ส่วนในประเทศเมียนมาร์ก็ยังมีเฟิงหลานและพี่น้องเขี้ยวหมาป่าจำนวนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้นเย่เชียนจึงเชื่อว่ามันคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในขณะนี้ ส่วนการจัดตั้งกองกำลังทางทะเลกับเหล่าโจรสลัดซาตานนั้นก็อยู่ภายใต้การดูแลของหลี่เหว่ยและมันก็กำลังดำเนินไปอย่างราบรื่นและสิ่งเดียวในตอนนี้ที่กำลังรออยู่ก็คือการจัดซื้อเรือรบนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยและไม่ใช่แค่เรื่องเงินแต่มันคือเรื่องของการเมืองและความมั่นคงระหว่างประเทศนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีแก๊งยามากุจิกับองค์กรทหารรับจ้างเรดซันและสมาคมมังกรดำอีกที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาเหล่านี้ ซึ่งศัตรูคู่แค้นของเย่เชียนกลุ่มนี่นั้นยิ่งปล่อยไปนานเท่าไหร่มันก็จะยิ่งคุกคามมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งทั้งสามองค์กรนี้เปรียบเสมือนเนื้องอกในร่างกายและเมื่อมีเนื้องอกที่คุกคามชีวิตเราก็ต้องตัดมันออกไปเพื่อขจัดปัญหาทั้งหมดและเย่เชียนจะได้หมดกังวลกันสิ่งต่างๆ และได้ผ่อนคลายเสียที
หลังจากที่กินอาหารเช้าที่หลินเฟิงปรุงเองแล้วเย่เชียนก็ได้วิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมาโดยเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าและนักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิล จากนั้นทั้งสองก็เริ่มหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์และยุทธวิธีในการกวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ ซึ่งตอนนี้จิ้งจอกหิมะได้บรรลุข้อตกลงการร่วมมือกับคูลอฟส์อาสเชฟแล้วนั่นก็หมายความว่าการต่อสู้ในครั้งนี้มันจะจัดการอย่างรวดเร็วไม่เช่นนั้นมันจะไปเกี่ยวข้องกับรัฐบาลของมูร์มันสค์และคูลอฟส์อาสเชฟอย่างแน่นอน จากนั้นสิ่งต่างๆ ก็จะยุ่งยากมากขึ้นเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่าจะมีการกล่าวกันว่าอำนาจและอิทธิพลของคูลอฟส์อาสเชฟในมูร์มันสค์นั้นจะจางหายมานานหลายปีแล้วแต่เขาก็ยังคงบดขยี้คูลอฟส์อังเดรมาโดยตลอด และเขามักจะแสดงให้รัฐบาลเห็นว่าเขาสามารถทำให้เศรษฐกิจนั้นดีขึ้นมากกว่าคูลอฟส์อังเดรและยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกส่วนใหญ่ขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะต่างก็เป็นนายทหารที่เกษียณแล้วของกองกำลังพิเศษหมีขั้วโลกแห่งประเทศรัสเซีย ดังนั้นการมีอยู่ขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะจึงได้รับการอนุมัติและสนับสนุนโดยรัฐบาลรัสเซียมาโดยตลอด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถพ่ายแพ้ได้ในบัดดลและเกรงว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆ เรื่อยๆ จนเย่เชียนอาจจะไม่สามารถหนีไปไหนได้เลย
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็มีส่วนร่วมด้วยในการกำหนดยุทธวิธี ส่วนม่อหลงนั้นออกไปข้างนอกจึงไม่ได้เข้าร่วมด้วยเพราะในเรื่องของการวางกลยุทธ์และยุทธวิธีนั้นเขาไม่มีความชำนาญในด้านนี้เลย ซึ่งเขานั้นเป็นมือปืนที่มีประสบการณ์โชกโชนแต่เขากลับไม่ถนัดในการวางกลยุทธ์ที่ดี อย่างไรก็ตามสำหรับม่อหลงนั้นสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเพราะเขาเพียงแค่ทำตามกลยุทธ์และต้องเป็นกลยุทธ์และแผนการที่เย่เชียนกำหนดขึ้นเท่านั้นเพราะเขาเชื่อว่าเย่เชียนจะไม่กระทำการโดยประมาทและจะไม่ทำสิ่งใดๆ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องของเขาเลย
ตลอดสองวันนอกเหนือจากการกินและการนอนนั้นพวกเขาทั้งสี่ก็ยังนั่งอยู่ในห้องเพื่อหารือและศึกษากลยุทธ์และยุทธวิธีในการต่อสู้กับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเพราะสมาชิกของจิ้งจอกหิมะนั้นล้วนเป็นทหารมืออาชีพทั้งความสามารถในการรบส่วนบุคคลและความสามารถในการทำงานเป็นทีมนั้นก็ไม่สามารถละเลยได้และนอกจากนี้พวกเขาก็ยังได้เข้าร่วมในปฏิบัติลับการหลายอย่างของรัฐบาลรัสเซียทั้งการต่อต้านกองกำลังผู้ก่อการร้ายและกองกำลังติดอาวุธของประเทศอื่นๆ ซึ่งพวกเขานั้นล้วนเป็นทหารที่มีประสบการณ์มากมายในการรบทุกรูปแบบ
สำหรับองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและองค์กรนักฆ่าเซเว่นคิลนั้นมักจะเป็นการต่อสู้ข้ามพรมแดนและพวกเขาสูญเสียข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์และกำลังพลไปและพวกเขาเพียงแค่ได้รับความช่วยเหลือจากอัสลานฮอร์ดมิลฟ์เท่านั้น ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่สามารถรับประกันได้อย่างมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถกวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะได้ สิ่งนี้ทำให้เย่เชียนตระหนักถึงปัญหาที่ร้ายแรงมากและนั่นคือปัญหาเรื่องกำลังคนเนื่องจากการพัฒนาอย่างรวดเร็วเกินไปของเขี้ยวหมาป่าและช่องว่างการขาดแคลนบุคลากรจึงเห็นได้ชัดว่าบางส่วนนั้นไม่สามารถเร่งรีบได้
หากเป็นเพียงการชักชวนพวกอันธพาลกลุ่มเล็กๆ มันก็จะเป็นเรื่องง่าย อย่างไรก็ตามเขี้ยวหมาป่านั้นก็มีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากในการสรรหาสมาชิกโดยเฉพาะองค์กรทหารรับจ้างอย่างเขี้ยวหมาป่าซึ่งมักจะมีภารกิจที่เสี่ยงและมีแนวโน้มที่จะทำให้ทั้งทีมพังพินาศเพราะคนคนเดียวเสมอและนี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่เย่เชียนต้องการเห็นเลย ดังนั้นข้อกำหนดและข้อกำจัดของเขี้ยวหมาป่าในการคัดเลือกสมาชิกองค์กรนั้นจึงเข้มงวดอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเขาก็ได้แก้ไขเบื้องต้นแล้วโดยการนำหน่วยย่อยหมาป่าเพชฌฆาตมาอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาซึ่งด้วยฝีใอและความชำนาญของพวกเขานั้นก็ค่อนข้างที่จะสามารถลดความกดดันของเย่เชียนได้มาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่เย่เชียนคาดหวังเอาไว้มากก็คือการที่หมาป่าผีไป๋ฮวยกลับมาร่วมทีมกับเขา ซึ่งเย่เชียนก็เชื่อว่าถ้าหากเขาสามารถเคลียร์ปัญหากับหมาป่าผีไป๋ฮวยได้ล่ะก็เขาจะช่วยเหลือเขี้ยวหมาป่าได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็รู้อยู่แก่ใจว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะกลับมาในสักวันหนึ่ง ซึ่งความขัดแย้งระหว่างเขากับหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้อีกต่อไปว่าเป็นศัตรูหรือเพื่อนกันแน่
ซึ่งเบอร์นาร์ดสกี้ก็ไม่ได้คาดคิดว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะโจมตีเขาเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาด ซึ่งในโลกของทหารรับจ้างนั้นถึงแม้ว่าเขี้ยวหมาป่าจะเป็นราชาก็ตามแต่องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็อยู่บนสนามหญ้าหลังบ้านของเขา ดังนั้นเบอร์นาร์ดสกี้ก็เชื่อว่าเย่เชียนจะไม่กล้ายกทัพข้ามน้ำข้ามทะเลมารุกรานเขาอย่างแน่นอน เพราะหลังจากที่เขี้ยวหมาป่ากวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างเสือดาวหิมะและกลายเป็นราชาแห่งโลกทหารรับจ้างได้นั้นพวกเขาก็จะปฏิบัติภารกิจในดินแดนขององค์กรทหารรับจ้างอื่นๆ เสมอและพวกเขี้ยวหมาป่าก็จะมาทักทายและขอใบเบิกทางอย่างสุภาพในฐานะผู้มาเยือนเสมอ ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาทางการเงินและในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสิ่งนี้ยังทำให้องค์กรทหารรับจ้างอื่นๆ สูญเสียความหวั่นเกรงที่พวกเขามีต่อเขี้ยวหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่เลยและดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่เขี้ยวหมาป่าสามารถกำจัดเสือดาวหิมะไปโดยปริยาย
หากเบอร์นาร์ดสกี้คาดการณ์สถานการณ์ในวันนี้นั้นเขาต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและเขาควรจะถามสิ่งต่างๆ กับเซอร์เก้วิชพุชกินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นและยิ่งไปกว่านั้นน่าเสียดายที่ไมคาอินอฟเสียชีวิตเร็วจนเกินไปเซอร์เก้วิชพุชกินจึงไม่มีเวลาบอกเบอร์นาร์ดสกี้เกี่ยวกับเรื่องของเขี้ยวหมาป่าเลย
*******************************
หลังจากนั้นพวกเขาก็ใช้กำลังคนทั้งหมดขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและองค์กรเซเว่นคิลรวมไปถึงเหล่ามาเฟียของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์เริ่มโจมตีองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ ซึ่งโดยปกติส่วนมากการโจมตีหลักจะเป็นเหล่ามาเฟียของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์โดยมีอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ลงสนามด้วย ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้เป็นยุทธวิธีของเย่เชียนแต่เนื่องจากอัสลานฮอร์ดมิลฟ์เสนอขึ้นมาเองในระหว่างการสนทนาเย่เชียนจึงเคารพในการตัดสินใจของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์นั่นเอง
นี่เป็นวิธีที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์แสดงความยิ่งใหญ่และโปรดปรานของเขาต่อเย่เชียนและเหล่าลูกน้องเพราะท้ายที่สุดแล้วเย่เชียนก็เป็นคนที่ช่วยเขากวาดล้างศัตรูคนสำคัญที่สุดของเขาถึงสองคนอย่างเช่นวลาดิเมียร์และสลาดาร์อาร์ตันและยิ่งไปกว่านั้นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ยังชัดเจนว่ามันคงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจัดการกับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะโดยอาศัยกำลังคนของเย่เชียนเพียงอย่างเดียวและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้ขอก็ตามถึงยังไงเขาก็เชื่อว่าคูลอฟส์อังเดรหัวหน้าของเขาก็ต้องคิดแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะเสนอความคิดเช่นนี้เพราะมันดูจริงใจอย่างมาก
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ต่อสู้กับเหล่าหทารรับจ้างจิ้งหิมะอย่างเดือดดาลด้วยอาวุธทั้งหมดและกำลังคนเกือบ 500 คนที่เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ อย่างไรก็ตามอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในสงครามโดยตรงนักเพราะหลังจากสลาดาร์อาร์ตันถูกกำจัดออกไปนั้นเขาก็ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องจัดการด้วยตัวเองอยู่
จางจิวเหว่ยก็เป็นผู้รับผิดชอบในการนำทีมชุดปฏิบัติการของเขี้ยวหมาป่า ส่วนเย่เชียนนั้นรับผิดชอบการบัญชาการหลักโดยมีหลินเฟิงคอยบัญชาการเหล่านักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลอยู่เคียงข้าง ซึ่งเขาได้วางแผนกับเหล่านักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลมาแล้วดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฐานปฏิบัติการขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นไม่ได้ใหญ่มากนักและมีขนาดเล็กกว่าเขี้ยวหมาป่ามาก ซึ่งสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะส่วนมากไม่ได้อาศัยอยู่ในฐานเพราะเขามักจะอาศัยอยู่ร่วมกับครอบครัวของพวกเขาในบ้านที่ซื้อในเมือง ซึ่งฐานปฏิบัติการนั้นถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและหอสังเกตการณ์และแม้แต่เซนเซอร์อินฟราเรดก็มีและเห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะปีนเข้ามาในรั้วและตราบใดที่มีการสัมผัสเพียงเล็กน้อยสัญญาณเตือนก็จะส่งเสียงและดึงดูดความสนใจของเหล่าสมาชิกของจิ้งจอกหิมะทันที
โชคดีที่เย่เชียนมีข้อได้เปรียบอย่างมากในด้านบุคลากรในครั้งนี้และมันเป็นการโจมตีที่กะทันหันอีกครั้ง ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ก็ถูกดำเนินไปได้ด้วยดีและจะทำการกวาดล้างและยึดฐานที่มั่นเพื่อพัฒนาเขี้ยวหมาป่าของเขาในอนาคต
เมื่อมองไปที่ฐานทัพขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะด้วยกล้องส่องทางไกลแล้วหลินเฟิงก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “การป้องกันฐานปฏิบัติการของพวกเขายั้ยไม่เข้มงวดกันเลย”
เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “พวกเขาเป็นองค์กรทหารรับจ้างที่ได้รับการยอมรับจากรัฐบาลรัสเซีย..เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการปราบปรามของกองกำลังต่างๆ และนอกจากนี้พวกเขาก็มั่นใจว่ามันไม่มีองค์กรใดที่กล้าโจมตีพวกเขาอย่างเปิดเผยเช่นนี้..ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีความหละหลวมในการป้องกัน..และยิ่งทักษะลับไร้เงาของนักฆ่าองค์กรเซเว่นคิลก็ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกแบบนี้แล้ว..พี่คิดว่าคนของพี่จะลอบเร้นเข้าไปได้ไหม?”
“มันไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร..เพราะสิ่งที่ยากที่สุดก็คือเซนเซอร์อินฟราเรด..เพราะคราวนี้พวกฉันไม่ได้นำอุปกรณ์ตัดสัญญาณมาเลยมันจึงลำบากนิดหน่อยในการจัดการกับเซนเซอร์อินฟราเรด..ต่อให้เข้าทางด้านหน้าถึงยังไงมันก็ยังยากอยู่ดี” หลินเฟิงพูดตามความเป็นจริง
.
.
.
.
.
.
.