ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 504 สิงโตกับกระต่าย
ตอนที่ 504 สิงโตกับกระต่าย
เบอร์นาร์ดสกี้ผู้เป็นถึงอดีตผู้พันของหน่วยรบพิเศษหมีขั้วโลกแห่งประเทศรัสเซียและได้เข้าร่วมในสงครามต่างๆ กับยุโรปและทวีปตะวันออกหลายครั้งและสามารถกล่าวได้ว่าเป็นเขาชายชาติทหารที่แท้จริงที่ผ่านสมรภูมิด้วยเลือดและเนื้อ ซึ่งหลังจากปลดประจำการแล้วเบอร์นาร์ดสสี้ก็ได้ก่อตั้งองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะขึ้นมาอย่างเฉียบขาดซึ่งสร้างความรุ่งโรจน์ให้แกนายทหารที่ปลดประจำการและเกษียณของหน่วยรบพิเศษหมีขั้วโลก ซึ่งในเวลาเพียงสามปีองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็เติบโตขึ้นจากองค์กรทหารรับจ้างขนาดเล็กที่ไม่มีใครรู้จักจนเติบโตขึ้นมาเป็นหนึ่งในทหารรับจ้างระดับโลก
ในหลายๆ ภารกิจนั้นประสิทธิภาพขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นยอดเยี่ยมมากและประสิทธิภาพในการต่อสู้ของสมาชิกแต่ละคนนั้นก็แข็งแกร่งกว่าของหน่วยรบพิเศษหมีขั้วโลกแห่งประเทศรัสเซียอีก มันเป็นเพราะความโดดเด่นและความสามารถของพวกเขานั้นที่ทำให้รัฐบาลรัสเซียส่งกองกำลังไปปราบปรามพวกเขา อย่างไรก็ตามองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็ต้านทานได้ดีมากและครั้งนั้นพวกเขาก็เอาชนะกองกำลังของรัฐบาลรัสเซียได้ ซึ่งมันเป็นการต่อสู้ครั้งที่ทำให้องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะมีชื่อเสียงดั่งทุกวันนี้
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วรัฐบาลรัสเซียก็ล้มเลิกการปราบปรามองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะและยอมรับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะให้เป็นหนึ่งในองค์กรในเครือข่าย อย่างไรก็ตามสิ่งที่จำเป็นต้องมีก็คือหากรัฐบาลรัสเซียมีภารกิจการรบหรือการปราบปรามในต่างประเทศนั้นองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะจะต้องเป็นผู้นำและแน่นอนว่าพวกเขาจะได้รับค่าตอบแทนด้วย
ถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะจะทรงพลังแต่เขาก็ไม่สามารถรุกรานรัฐบาลรัสเซียได้ เพราะมันคือการแสวงหาความตายอย่างไม่ต้องสงสัยและถึงแม้ว่าเงื่อนไขเหล่านี้จะอึดอัดไปสักหน่อยสำหรับทหารรับจ้างแต่ตราบใดที่พวกเขาได้รับค่าจ้างล่ะก็มันก็พอจะรับได้ ซึ่งหลังจากผ่านการต่อสู้หลายครั้งจึงทำให้ประสิทธิภาพขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะพัฒนาไปอย่างยอดเยี่ยม เมื่อเป็นเช่นนั้นรัฐบาลของรัสเซียก็ไม่ถือว่าพวกเขาเป็นองค์กรเถื่อนอีกต่อไปและมักจะขอร้องให้พวกเขาออกทำภารกิจต่างๆ มากมายและยังขอให้พวกเขาร่วมมือกับหน่วยรบพิเศษหมีขั้วโลกในการฝึกฝนพิเศษอีกด้วย
เมื่อองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเริ่มมีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ จนทั้งโลกก็เริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขาและสี่ปีต่อมาองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการให้เข้าร่วมในการประชุมร่วมของเหล่าองค์กรทหารรับจ้างจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งนั่นหมายความว่าองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นกลายเป็นองค์กรทหารรับจ้างระดับโลกแล้ว
ตัวตนและความยิ่งใหญ่ขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะนั้นก็มีอยู่จริงแต่เขี้ยวหมาป่านั้นยิ่งใหญ่กว่า
เบอร์นาร์ดสกี้ก็ถือได้ว่าเป็นคนที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเย่เชียนจะยังคงชื่นชมเขาอยู่ในใจแต่ทว่าศัตรูก็ยังคงเป็นศัตรูเสมอและถ้าหากเขี้ยวหมาป่าต้องการที่จะพัฒนาในประเทศรัสเซียนั้นเขาก็ต้องกำจัดองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะออกไป
เย่เชียนก็เดินไปไปหาเบอร์นาร์ดสกี้อย่างช้าๆ ซึ่งเขาคนนี้มีอายุมากกว่า 40 ปีแล้วแต่รูปร่างของเขาก็ยังคงสูงและแข็งแรง สถานการณ์ในตอนนี้ทั้งเขี้ยวหมาป่าและองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็ไม่มีการปะทะกันใดๆ เพราะพวกเขาทั้งหมดเพียงมองหน้ากันอย่างระมัดระวัง ซึ่งสถานการณ์ที่กระชั้นชิดเช่นนี้หากเป็นการดวลปืนล่ะก็มันจะพัฒนาไปสู่สถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างมาก
หลังจากนั้นหลินเฟิงก็เดินออกมาจากความมืดอย่างเป็นธรรมชาติแต่สมาชิกขององค์กรเซเว่นคิลนั้นยังคงซ่อนตัวอยู่ในความมืด เพราะท้ายที่สุดนักฆ่าขององค์กรเซเว่นคิลนั้นล้วนเป็นนักฆ่าและนักฆ่าก็ไม่ต้องการให้คนจดจำรูปลักษณ์ของพวกเขาได้มากเกินไปและตั้งแต่ที่เย่เชียนทำเช่นนี้หลินเฟิงก็รับรู้ได้ว่าเย่เชียนหมายถึงอะไร
เบอร์นาร์ดสกี้ก็จ้องมองไปที่หลินเฟิงเป็นเวลานานและค่อยๆ พูดว่า “ผมไม่คาดคิดว่าหลินเฟิงผู้นำองค์กรเซเว่นคิลในตำนานที่มีชื่อเสียงจะเป็นเด็กหนุ่มแบบนี้”
“ผมไม่ใช่เด็กแล้วผมอายุ28ปีแล้ว” หลินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“มีตั้งกี่คนที่ต้องการเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลินเฟิงแห่งองค์กรเซเว่นคิล..เพราะงั้นเบอร์นาร์ดสกี้คนนี้ก็ถือว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของคุณสักครั้งและต่อให้ต้องตายผมก็ไม่เสียใจเลย” เบอร์นาร์ดสกี้พูด
“มีคนมากมายที่ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของผม..แต่พวกเขาตายกันไปหมดแล้ว” หลินเฟิงยังคงมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาซึ่งเป็นคำพูดที่ธรรมดาแต่เมื่อมันออกมาจากปากของเขาแล้วมันกลับดูหนาวเหน็บเป็นพิเศษ
เบอร์นาร์ดสกี้ก็พยักหน้าเบาๆ แล้วหันไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “ผมปรารถนาในการต่อสู้กับราชาหมาป่าเย่เชียนมาโดยตลอด..ซึ่งมันควรค่าแก่ความภาคภูมิใจของชายชาติทหารต่อให้ต้องตายด้วยมือของคุณ”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมจะไม่ปรานีเพราะคุณได้ฝ่าฝืนข้อห้ามที่ยิ่งใหญ่ไป”
“ไม่เป็นไรเพราะวันนี้ผมไม่ได้วางแผนที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ!” เบอร์นาร์ดสกี้พูด “ไม่มีใครที่ไม่รู้ว่าทักษะการต่อสู้ของราชาหมาป่าเย่เชียนนั้นไม่มีใครเทียบได้ในโลกใบนี้”
“คุณก็พูดเกินไป..เพราะคนที่อยู่ข้างๆ ผมนั้นผมยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยแล้วคุณจะพูดได้ยังไงว่าไม่มีใครเทียบกับผมได้ในโลกใบนี้?” เย่เชียนพูดขณะที่เขามองไปที่หลินเฟิงเพราะทักษะการต่อสู้ของเขากับหลินเฟิงนั้นไม่อาจตัดสินกันเพียงเวลาสั้นๆ ได้และไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันการต่อสู้ที่เท่าเทียมกันหรือภายใต้เงื่อนไขของการใช้พลังงานมืดนั้น อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็มีร่างกายที่ผิดปกติที่หลินเฟิงนั้นไม่มีและถ้าหากเย่เชียนสามารถฝึกพลังชี่ได้แล้วล่ะก็แน่นอนว่าหลินเฟิงนั้นก็ไม่สามารถเทียบกับเย่เชียนได้เลย
เบอร์นาร์ดสกี้ก็ยิ้มจางๆ และไม่ได้พูดอะไรอีก เพราะคำพูดของเย่เชียนนั้นทำให้เขายากที่จะตอบเพราะหากเขายังคงยืนยันว่าเย่เชียนไม่มีใครเทียบได้ในโลกใบนี้ล่ะก็มันจะเป็นการดูถูกหลินเฟิงอย่างไม่ต้องสงสัย และหากในโลกนี้ไม่มีใครเทียบเย่เชียนได้อย่างที่เขาพูดจริงๆ ล่ะก็มันคงเป็นเรื่องโกหกเหลวไหลทั้งสิ้นแต่การที่เย่เชียนได้ต่อสู้กับเสือดาวหิมะในครั้งนั้นมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นในโลกของทหารรับจ้างอย่างยิ่ง
ทั้งสองก็ปลดปืนและอาวุธออกและทุกคนต่างก็ก้าวถอยเพื่อให้ที่ว่างแก่พวกเขา ซึ่งสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าและเซเว่นคิลนั้นก็ยังคงเฝ้าดูกันอย่างระแวดระวังเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะเล่นสกปรก
เบอร์นาร์ดสกี้นั้นสูงเกือบสองเมตรซึ่งสูงกว่าเย่เชียนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขามาก..อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์เช่นนี้แรงกดดันของเย่เชียนก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาและเมื่อเย่เชียนระงับรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแล้วแรงกดดันของเย่เชียนเพิ่มขึ้น ซึ่งคนนอกอาจไม่รู้สึกแต่เบอร์นาร์ดสกี้นั้นสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความหนาวเย็นที่เพิ่มขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจและเขายังคงมีความต้องการที่จะคุกเข่าลงและยอมรับความพ่ายแพ้นั่นเอง
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เพราะเบอร์นาร์ดสกี้กลัวแต่อ่อร่าและแรงกดดันของเย่เชียนนั้นแข็งแกร่งเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เย่เชียนได้สัมผัสกับการต่อสู้ในวันนั้นกับเหล่าสาวกม่อจื๊อ ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนี้เบอร์นาร์ดสกี้ก็เชื่อว่าเขาจะต้องตายก่อนเวลาอันควรและมันก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
เบอร์นาร์ดสกี้ก็ตะโกนและรีบวิ่งไปหาเย่เชียน ซึ่งมีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างทักษะการต่อสู้ของกองทัพต่างชาติและกองทัพจีน เพราะกองกำลังพิเศษของจีนนั้นมักฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โดยผสมผสานการจับและชี่กงที่ยากลำบากและพวกเขาก็ยังมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในขณะที่กองกำลังต่างชาติมักฝึกฝนเทคนิคการฆ่าและพละกำลังเพียงอย่างเดียวเพราะพวกเขาให้ความสนใจกับวิธีการฆ่าโดยตรงและมีประสิทธิภาพที่สุดนั่นเอง
ไม่ว่าจะเข้มแข็งหรืออ่อนแอแต่ในความเป็นจริงนั้นมันไม่มีคำตอบที่แน่นอน อย่างไรก็ตามสิ่งที่แน่นอนก็คือสิ่งที่เหล่าพี่น้องงเขี้ยวหมาป่าฝึกฝนนั้นไม่ใช่แค่การต่อสู้เพราะพวกเขารวมนักรบชาวจีนและต่างชาติเข้าด้วยกันและพวกเขาก็ได้สร้างทักษะการต่อสู้ที่เป็นของเขี้ยวหมาป่าขึ้นมาโดยเฉพาะ
ซึ่งไม่ต้องพูดถึงเย่เชียนเพราะเขาใช้พลังมืดที่ถูกสอนโดยหลินจินไท่ดังนั้นในเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดก็จะมีเพียงหมาป่าผีไป๋ฮวยเท่านั้นที่สามารถเผชิญหน้ากับเย่เชียนได้
เย่เชียนก็หันหน้าไปทางร่างที่เหมือนภูเขาของเบอร์นาร์ดสกี้และเย่เชียนก็ไม่รู้สึกประหม่าเลยแม้แต่น้อยเมื่อถูกหมัดที่เหมือนถังขยะฟาดเข้าใส่ เนื่องจากเขี้ยวหมาป่าอยู่ในทวีปตะวันออกกลางมาหลายปีดังนั้นภารกิจส่วนใหญ่ที่เขาทำก็ต้องติดต่อกับชาวต่างชาติจึงทำให้พวกเขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับมวยและศิลปะการต่อสู้จากต่างประเทศ
ทักษะการต่อสู้ของต่างประเทศนั้นค่อนข้างทื่อและเรียบง่ายเพราะส่วนมากจะเน้นการโจมตีด้วยหมัดจึงทำให้ส่วนล่างมักจะไม่เสถียร แต่มันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการศัตรูด้วยจังหวะแรกหรือจังหวะสองและมันก็เป็นวิธีที่ประหยัดพลังงานได้ดีอย่างมาก อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ต้องการใช้ทักษะเหล่านั้นเพราะมันคาดเดาได้ง่าย แต่เย่เชียนก็ไม่ต้องการใช้พลังฉี่เพราะสิ่งที่เย่เชียนต้องการก็คือการต่อสู้กับเบอร์นาร์ดสกี้อย่างสมศักดิ์ศรีเพื่อให้เกรียรติองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะและแม้แต่องค์กรทหารรับจ้างทั้งหมดให้พวกเขารับรู้ว่าพลังของเย่เชียนนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าคนต่างชาติอย่างพวกเขาเลย
เย่เชียนก็กระแทกเท้าขวาลงบนพื้นและพุ่งออกไปเหมือนคันธนูที่ง้างลูกศรจากเชือกด้วยมวยปาจี๋ที่รวดเร็วดั่งสายฟ้า
คนที่มีสายตาที่ดีนั้นจะสามารถเห็นได้ว่าเมื่อเย่เชียนกระทืบเท้าขวาลงบนพื้นนั้นเขาทำให้ใบไม้ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็วและถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้กระจายออกไปไกลนักแต่พวกเขาก็ยังสามารถจินตนาการถึงพลังของการกระทืบเท้าของเย่เชียนได้
ด้วยเสียง “ปัง” ทั้งสองก็ต่อสู้กันและเบอร์นาร์ดสกี้ก็รู้สึกได้ถึงพลังอันล้นหลามที่มาจากแขนของเย่เชียนและเขาก็ไม่สามารถต้านทานมันได้อย่างเต็มที่และเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงโดยไม่สมัครใจและถอยออกไปสองสามก้าว ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เบอร์นาร์ดสกี้ตกใจไม่น้อยเลยเพราะถึงแม้ว่าเขาจะคาดเดาทักษะการต่อสู้ของเย่เชียนเอาไว้บ้างก็ตามแต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะสามารถเอาชนะตัวเองได้ด้วยแง่ของความแข็งแกร่งเช่นนี้
ในความคิดของเบอร์นาร์ดสกี้นั้นนักสู้ชาวจีนส่วนใหญ่มักจะใช้ทักษะที่รวดเร็วในการต่อสู้แต่ก็ไม่ได้ทรงพลังมากถึงขนาดนี้ โดยธรรมชาติแล้วเขาจึงจัดให้ทักษะการต่อสู้ของเย่เชียนอยู่ในหมวดหมู่นี้ และเขาก็คิดว่าวิธีเดียวที่จะชนะเย่เชียนได้นั้นคือการโจมตีเย่เชียนด้วยพลังที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อเผชิญกับเย่เชียนในตอนนี้นั้นความแข็งแกร่งที่สมบูรณ์แบบของเขานั้นก็ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิงและเย่เชียนก็ปัดเป่าความคิดของเบอร์นาร์ดสกี้ออกไปทั้งหมดด้วยหมัดนั้น
ทันทีที่เย่เชียนโจมตีครั้งแรกเสร็จเขาก็ถาโถมเข้าหาเบอร์นาร์ดสกี้อย่างไม่หยุดยั้งราวกับคลื่นลูกใหญ่ ซึ่งการเคลื่อนไหวหนึ่งครั้งนั้นแข็งแกร่งพอๆ กับการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวของคนที่เน้นพละกำลังเลยและทุกๆ การเคลื่อนไหวนั้นก็เหมือนกับสิงโตที่ไล่ขย้ำกระต่าย ยิ่งไปกว่านั้นเบอร์นาร์ดสกี้ก็ไม่มีโอกาสได้ตอบโต้กลับเลยด้วยซ้ำเพราะเขาถูกต้อนถอยหลังไปละก้าวๆ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวก็ทำให้เหล่าสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะต่างก็ตกใจกันไปโดยสิ้นเชิง
ทักษะของเบอร์นาร์ดสกี้นั้นเป็นหนึ่งในทักษะที่ดีที่สุดในบรรดาสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ ซึ่งไม่รู้ว่ามีสมาชิกกี่ร้อยคนที่มักจะขอคำแนะนำจากเขา อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นสถานการณ์ปัจจุบันแล้วสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะทั้งหมดก็แทบจะไม่เชื่อในสิ่งที่พวกเขาเห็น ซึ่งพวกเขานั้นไม่อยากจะเชื่อว่าเย่เชียนจะเอาชนะผู้นำของพวกเขาได้โดยที่เบอร์นาร์ดสกี้ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ตอบโต้ อย่างไรก็ตามในฐานะทหารรับจ้างพวกเขาต่างก็ฝึกฝนการต่อสู้มานานหลายปีดังนั้นพวกเขาจึงรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งและความเร็วของเย่เชียน ซึ่งในขณะนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมไปแล้วว่าพวกเขายังตกอยู่ในอันตรายและชีวิตของพวกเขาก็ขึ้นอยู่กับการต่อสู้ระหว่างเบอร์นาร์ดสกี้และเย่เชียน
.
.
.
.
.
.
.