ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 515 คู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่
ตอนที่ 515 คู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่
ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นเริ่มชักกระตุกและภายในไม่กี่นาทีเขาก็หมดลมหายใจไป ซึ่งคนที่ถูกชิงเฟิงเอามีดจ่อเอาไว้ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนกและเขาก็ไม่คาดคิดว่าเย่เชียนจะกล้าฆ่าคนบนเครื่องบินจริงๆ
“ทำไม? ..ไม่อยากพูดงั้นเหรอ..เดี๋ยวจัดให้!” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ชิงเฟิง..จัดการซะ!” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็หันกลับมาและกำลังจะออกไปแต่ทว่าชายหนุ่มคนนั้นก็รีบพูดอย่างร้อนรนว่า “ก็ได้ๆ ฉันจะพูด..ฉันจะบอกทุกอย่าง”
“พูดสิ” เย่เชียนหันกลับมาและพูดพร้อมกับมองไปที่ชิงเฟิงและโบกมือให้ชิงเฟิงปล่อยมือจากชายหนุ่มคนนั้น
“คือ…คือ…” ชายหนุ่มคนนั้นยังคงลังเลและกลัวเล็กน้อยที่จะพูดออกมา เขารู้ดีว่าถ้าเขาพูดออกไปและเรื่องต่างๆ ไปถึงหูหัวหน้าของเขาล่ะก็เขาคงจะไม่รอดพ้นจากความตายเป็นแน่แต่ถ้าหากตอนนี้เขาไม่พูดเขาก็ต้องตายเช่นกัน เมื่อมองไปที่เพื่อนที่นอนไร้วิญญาณอยู่บนพื้นแล้วความกดดันทางจิตใจของเขาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และเขาก็ลังเลไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรดี
“พูดมาสิวะ!” เย่เชียนพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา
“ก็ได้ๆ ..พูดก็ได้” ชายหนุ่มคนนั้นพูดอย่างร้อนรน “เป็นประธานฮัวสั่งให้เราทำแบบนี้..เขาสั่งให้เรามาดักรอพวกคุณที่สนามบินและถ้าพวกเราเห็นคุณพวกเราก็ต้องทำให้คุณเสียเวลาและไปถึงมณฑลเหอหนานช้าขึ้น..พวกเราดักรอที่สนามบินมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว”
“ประธานฮัว? ” เย่เชียนขมวดคิ้วและถามว่า “ทำไมเขาถึงขัดขวางไม่ให้พวกเราไปที่เหอหนาน? ”
“เราเองก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน..เราก็แค่ทำตามคำสั่ง” ชายหนุ่มคนนั้นพูด “เอาล่ะฉันพูดทุกอย่างที่คุณอยากรู้แล้ว..ช่วยปล่อยฉันไปเถอะ”
เย่เชียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเนื่องจากประธานฮัวกำลังขัดขวางไม่ให้เขาไปที่เหอหนาน เห็นได้ชัดว่าตนจะต้องมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับพวกเขาเหล่านั้นเป็นแน่ กล่าวอีกนัยหนึ่งหลี่จื้อเทียนจะต้องพบกับปัญหาที่ยากลำบากและประธานหัวคนนั้นคงจะก็กลัวว่าเขาจะไปมีอำนาจเหนือเหอหนานเช่นั้น อย่างไรก็ตามประธานฮัวคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเพราะเมื่อรู้ว่าตนเป็นหุ้นส่วนของหลี่จื้อเทียนเขาตึงต้องการกำจัดหุ้นส่วนของหลี่จื้อเทียนไปแล้วกำจัดหลี่จื้อเทียนในเวลานี้ด้วยหรือไม่? ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่ทำเช่นนี้ในการหยุดตนจากการไปมณฑลเหอหนานเป็นแน่
เย่เชียนนั้นไม่เคยได้ยินชื่อประธานฮัวคนนี้เลยและหลี่จื้อเทียนเองก็ไม่เคยพูดถึง เมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของชายหนุ่มคนนี้แล้วเขาอาจไม่ใช่คนที่มีอำนาจอะไรมากนักและเกรงว่าเขาอาจจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประธานฮัวเลย ดังนั้นหลังจากที่เย่เชียนไปถึงที่มณฑลเหอนานแล้วเขาค่อยไปถามหลี่จื้อเทียนเอง
เย่เชียนก็ส่งยาที่เหลือให้ชิงเฟิงให้แล้วเย่เชียนก็พูดว่า “จัดการซะ! ” หลังจากพูดจบแล้วเขาก็หันหลังเดินออกจากห้องน้ำไป
ไม่นานหลังจากกลับไปนั่งแล้วชิงเฟิงก็เดินตามกลับมาและยิ้มให้กับเย่เชียน เพราะเย่เชียนไม่เคยอ่อนข้อให้ศัตรูของเขาเลยและถึงแม้ว่าชายหนุ่มทั้งสองจะไม่ได้ทำอะไรมากเกินไปแต่พวกเขาก็เป็นสุนัขรับใช้ของประธานฮัว ดังนั้นเขาจึงต้องเตือนเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ใครมาหยิ่งผยองกับเขาอีก
“อ๊ะ! …” ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องอย่างรุนแรงดังมาจากห้องน้ำ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีคนพบศพทั้งสองขณะเข้าห้องน้ำแล้วและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินก็รีบวิ่งไปและแอร์โฮสเตสก็ปลอบใจผู้โดยสารบนเครื่องบินพร้อมกับช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยบนเครื่องบิน
สิ่งที่เกิดขึ้นบนเครื่องบินนั้นร้ายแรงมากเมื่อเครื่องบินลงจอดที่สนามบินตำรวจติดอาวุธและตำรวจอาชญากรรมก็รออยู่ที่นั่นแล้ว ผู้โดยสารทั้งหมดบนเครื่องบินถูกนำตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการสอบปากคำเช่นกัน ซึ่งเย่เชียนและชิงเฟิงก็ออกมาได้อย่างสบายใจเพราะท้ายที่สุดเมื่อเย่เชียนแสดงใบรับรองยศจอมพลให้ดูแล้วพวกตำรวจจะกล้าหยุดเขาที่ไหน
หลังจากออกจากสนามบินก็มีคนเดินมาหาเย่เชียนซึ่งเป็นชายในวัยสามสิบต้นๆ ท่าทางอ่อนโยนมาก “คุณเย่ใช่หรือเปล่า? ” ชายคนนั้นเดินไปหาเย่เชียนและถามด้วยความเคารพ
“ใช่ครับ” เย่เฉียนพูด “แล้วคุณคือ…? ”
“คุณเย่..ผมคือผู้ช่วยของคุณหลี่..เขาติดธุระจึงมาด้วยตัวเองไม่ได้เขาก็เลยจึงขอให้ผมมารับคุณโดยเฉพาะ..เขาฝากบอกว่าเขาเสียใจมากที่ไม่ได้มาต้อนรับคุณด้วยตัวเองได้” ชายคนนั้นพูด
“โอ้ไม่เป็นไรครับ” เย่เชียนพูด
“ยินดีต้อนรับคุณเย่..ผมชื่อเหอปิง” เหอปิงพูดต่อ “รถมารออยู่ข้างนอกแล้ว..เชิญครับคุณเย่”
เย่เชียนพยักหน้าเล็กน้อยและเดินไปที่รถ ส่วนชิงเฟิงก็เดินตามไปอย่างใกล้ชิด ซึ่งเหอฟิงก็พูดด้วยความเคารพขณะที่เขาเดิน “คุณเย่ต้องการทานอะไรก่อนไหมหรือจะไปที่โรงแรมกันเลย? ”
“ไปกินอะไรกันก่อนก็ได้ผมก็หิวเหมือนกัน..มีอะไรดีๆ แนะนำไหม” เย่เชียนพูด
“ที่เหอหนานมีอาหารขึ้นชื่อ 4 อย่างคือไก่อบ..เป็ดย่าง..ปูดองและแพะตุ๋น..นี่คืออาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเห๋อนาน..นอกจากนี้ยังมีของว่างที่รสชาติดีอีกด้วย” เหอปิงแนะนำอย่างช้าๆ
“งั้นก็ไปกันเลย..ตอนนี้ผมหิวมาก..ผมไม่ได้กินอะไรบนเครื่องบินเลย” ชิงเฟิงตะโกน
“ผมยังไม่ได้ถามเลยว่าสุภาพบุรุษคนนี้คือ? ..” เหอปิงถาม
“ผมเป็นผ็ช่วยของบอสครับ..เรียกผมว่าชิงเฟิง” ชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มและดูเหมือนคนโง่
หลังจากขึ้นรถแล้วเหอปิงก็บอกคนขับให้ขับรถไปที่โรงแรม ซึ่งเหอปิงนั้นสำเร็จการศึกษา MBA จากมหาวิทยาลัยเยลในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาอยู่หลี่จื้อเทียนและช่วยหลี่จื้อเทียนมาโดยตลอด การลงทุนในต่างประเทศของหลี่จื้อเทียนทั้งหมดนั้นก็ถูกจัดการโดยเหอปิงคนนี้เพราะเขาสามารถเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีและทำการลงทุนได้อย่างแม่นยำที่สุด แม้ในช่วงวิกฤตการเงินของอเมริกาที่หลายคนสูญเสียเงินไปแต่เขากลับยังสามารถทำเงินได้มากมาย
ซึ่งเดิมที่เหอปิงนั้นไม่เห็นด้วยกับแผนการลงทุนคาสิโนในมณฑลเหอหนานในครั้งนี้ เพราะการที่เขาอาศัยอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลานานเขาจึงไม่ค่อยรู้สถานการณ์ภายในประเทศมากนัก ดังนั้นเมื่อหลี่จื้อเทียนสรุปเกี่ยวกับแผนการต่างๆ เขาจึงไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์มากนัก
อย่างไรก็ตามเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีการออกเอกสารของรัฐบาลกลางเพื่อต่อต้านอุตสาหกรรมการพนันทั้งหมดและเมื่อมณฑลเหอหนานกำลังพัฒนาการท่องเที่ยวเหอปิงก็สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและเปลี่ยนคาสิโนให้เป็นโรงแรมจากนั้นเขาก็อดหลับอดนอนข้ามคืนเพื่อสร้างแผนรายละเอียดสำหรับการพัฒนาในอนาคต อาจกล่าวได้ว่าเหอปิงเป็นมือขวาและซ้ายที่สำคัญของหลี่จื้อเทียนมาก
แน่นอนว่าสำหรับองค์กรใหญ่ๆ มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพึ่งพาความแข็งแกร่งของคนเพียงคนเดียว แต่การสูญเสียเหอปิงเพียงคนเดียวก็อาจจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของหลี่จื้อเทียนได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้เลยใครก็ตามที่หายไปจากโลกนี้โลกก็จะเปลี่ยนไปและนั่นหมายความว่าเหอปิงคนนี้มีความสำคัญต่อหลี่จื้อเทียนมากและสามารถช่วยเขาจัดการธุรกิจต่างๆ ได้
“คุณเหอ..ผมขอถามคุณเกี่ยวกับใครบางคนหน่อยสิ..คุณรู้จักประธานฮัวหรือเปล่า” เย่เชียนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถาม
“ฮัวซงเจี๋ย? ..คุณเย่หมายถึงประธานฮัวซงเจี๋ยที่โด่งดังในมณฑลเหอนานหรือเปล่า? ” เหอปิงพูด
“อืม..ใช่ๆ” เย่เชียนครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่งโดยคิดว่าคนๆนี้น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดเพราะคนที่มีชื่อเสียงในมณฑลเหอหนานเท่านั้นที่จะสามารถขัดแย้งกับผลประโยชน์กับเขาได้และทำให้ตนไม่สามารถมาที่มณฑลเหอนานได้ “คุณรู้จักคนๆนี้มากแค่ไหน..ธุรกิจของเขาในเหอหนานมีขนาดใหญ่มากหรือเปล่า? ” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็ถามต่อ
“ผมก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก..แต่ผมคิดว่าชื่อฮัวซงเจี๋ยคนนี้ที่มีชื่อเสียงมากในเหอหนานและในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาก็ได้รับความเจริญรุ่งเรืองราวกับว่าเขาได้กลายเป็นCEOของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของมณฑลเหอหนาน..และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามณฑลเหอหนานก็วุ่นวายมากเมื่อรัฐบาลกลางของจีนต้องการพัฒนาการท่องเที่ยวและเขาก็เป็นคู่แข่งรายเดียวของเราและมักจะขัดแย้งกับคุณหลี่หลายครั้งและจุดประสงค์ของเขาก็คือการผูกขาดธุรกิจการพนัน..ผมได้ยินมาว่าเขามีคาสิโนของตัวเองในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย..อิทธิพลของเขาน่ะกว้างขวางมาก” เหอปิงพูดอย่างช้าๆ “อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็เป็นเพียงคำบอกเล่าและผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากเกี่ยวกับเขาเลย”
ไม่มีกำแพงที่ผ่านไม่ได้ในโลกใบนี้เนื่องจากข่าวลือดังกล่าวแพร่สะพัดไปในโลกภายนอกมันก็จะต้องมีความจริงไม่มากก็น้อย เขามีคาสิโนการพนันเป็นของตัวเองดังนั้นเย่เชียนก็เริ่มให้ความสนใจกับฮัวซงเจี๋ยมากขึ้นเรื่อยๆ และถึงแม้ว่าอิทธิพลของฮัวซงเจี๋ยจะยิ่งใหญ่แต่หลี่จื้อเทียนก็ไม่ได้อ่อนแอดังนั้นฮัวซงเจี๋ยจึงไม่กล้าที่จะทำอะไรกับเขาง่ายๆ
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มอย่างมีความสุขที่ได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ต้องการสร้างปัญหามากเกินไปก็ตามแต่เขาก็ไม่สามารถมีชีวิตที่เรียบง่ายเกินไปได้ ควบคู่กับชิงเฟิงเจ้าแห่งความโกลาหลวุ่นวาย และเนื่องจากฮัวซงเจี๋ยได้เริ่มเคลื่อนไหวกับตัวเองแล้วหากไม่ตอบโต้ล่ะก็ชิงเฟิงจะไม่พอใจเป็นแน่
เหอปิงเหลือบมองเย่เชียนด้วยความประหลาดใจเพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชียนถึงถามถึงฮัวซงเจี๋ยเมื่อเขามาถึงเหอหนานครั้งแรกและถ้าหากหลี่จื้อเทียนบอกเย่เชียนเกี่ยวกับความขัดแย้งกับฮัวซงเจี๋ยล่ะก็เขาคงจะบอกเย่เชียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ดังนั้นเหอปิงจึงคิดว่าเย่เชียนคงจะถามเพราะต้องการรู้ว่าฮัวซงเจี๋ยนั้นขัดแย้งกับหลี่จื้อเทียนจริงหรือไม่นั่นเอง
ถึงแม้ว่าเหอปิงจะประหลาดใจแต่เขาก็ยังรู้ว่าไม่ควรถามอะไรดี หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็ถามต่อ “เนื่องจากตอนนี้เอกสารของรัฐบาลกลางได้ออกมาแล้วและอุตสาหกรรมการพนันก็ถูกยกเลิก..ดังนั้นมันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยเพราะงั้นมันก็ไม่ควรมีความขัดแย้งใดๆ ระหว่างพวกเรากับฮัวซงเจี๋ยเลย”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นเพราะนักลงทุนในเหอหนานล้วนเป็นCEOบริษัทชั้นนำกันทั้งนั้น..เนื่องจากอุตสาหกรรมการพนันของเราจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับฮัวซงเจี๋ยก็ตามแต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้มากในช่วงนี้..แต่ผมมั่นใจว่าการลงทุนในเหอหนานของเราจะดำเนินไปอย่างราบรื่นแน่นอน” เหอปิงพูด
“ฮ่าๆ ..เขาเริ่มก่อนแล้ว” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
เหอปิงถึงกับผงะไปชั่วขณะและพูดว่า “เขาได้ทำอะไรกับคุณเย่ไปแล้วเหรอ? ” คำอธิบายนี้เท่านั้นที่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมเย่เชียนถึงได้ถามถึงฮัวซงเจี๋ยเมื่อเขามาถึงเหอหนานครั้งแรก ซึ่งเหอปิงก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นเพราะเขายังพอเดาได้และยิ่งไปกว่านั้นถ้าฮัวซงเจี๋ยต้องการจัดการกับหลี่จี้เทียนและโจมตีเย่เชียนจริงๆ ก็มันคงเป็นเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามปริศนาที่เย่เชียนคิดก็คือฮัวซงเจี๋ยคนนี้รู้เกี่ยวกับตัวเขามากน้อยแค่ไหน
.
.
.
.
.
.
.