ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 535 หลอกล่อเย่เชียน
ตอนที่ 535 หลอกล่อเย่เชียน
เย่เชียนไม่เคยหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเพราะด้วยสถานะปัจจุบันของเขาถ้าหากเขาต้องการผู้หญิงที่เป็นนางแบบหรือดาราล่ะเขาก็สามารถหาได้อย่างง่ายดายแล้วทำไมเขาถึงต้องไปพัวพันกับผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์เช่นนี้ด้วย นอกจากนี้ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ รอบๆ ตัวเขาเองนั้นต่างก็สวยและบริสุทธิ์ดังนั้นมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปหาผู้หญิงขายบริการเหล่านั้นเลย
หลังจากได้ยินคำพูดของเย่เชียนแล้วฮัวซงเจี๋ยก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและเขาก็สงสัยว่าเชื้อราดำนั้นหมายถึงอะไร? หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่งเขาก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากนั้นฮัวซงเจี๋ยก็พูดว่า “กลับมาเข้าเรื่องกันเถอะ..คุณเย่ผมคิดว่าถ้าพวกเราร่วมมือกันเราคงจะเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอนและผมก็สัญญาว่าในอนาคตมณฑลเหอหนานแห่งนี้จะเป็นโลกของพวกเราและเหล่ยเจียงก็จะไม่มีวันขึ้นมาเทียบกับพวกเราได้”
“ประธานหัวคุณล้อผมเล่นหรอ?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “มันไม่มีความขัดแย้งระหว่างผมกับเหล่ยเจียงในด้านธุรกิจเลย..แล้วทำไมผมถึงต้องไปทำให้เขาขุ่นเคืองด้วยล่ะ..ยิ่งไปกว่านั้นคนในวงการค้ายาเสพติดน่ะต่างก็เป็นพวกบ้าและโหดเหี้ยมกันทั้งนั้นแล้วถ้าผมไปสู้กับพวกเขาแบบนั้นมันก็เท่ากับว่าผมกำลังมองหาความตายไม่ใช่หรอ?”
“แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับเขา..แต่ถ้าเราสองคนร่วมมือกันล่ะก็มันก็ไม่มีปัญหาอะไร..คุณเย่แค่คอยสนับสนุนทางการเงินให้ผมและปล่อยส่วนที่เหลือให้ผมจัดการก็พอ” ฮัวซงเจี๋ยพูด
“พวกเขาอยู่ในวงการยาเสพติดเพราะงั้นการเอาชนะพวกเขามันก็ไม่ได้ทำให้เราได้ประโยชน์หรืออะไรเลยและนอกจากนี้ผมก็ไม่เข้าใจว่าเราจะทำลายเครือข่ายยาเสพติดของเขาได้ยังไง..คุณอยากครอบครองธุรกิจยาเสพติดด้วยหรอ..ส่วนผมน่ะผมไม่ต้องการทำมันและผมจะไม่แตะต้องสิ่งที่เลวร้ายแบบนั้นอย่างแน่นอน” เย่เชียนพูด
“คุณเย่คุณต้องชัดเจนนะว่าถ้าหากคุณไม่รีบจัดการกับเหล่ยเจียงแล้วคุณไม่กลัวหรอว่าจะเริ่มจัดการกับคุณก่อนน่ะ” ฮัวซงเจี๋ยพูดอย่างจริงจัง
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้นเลยเพราะเหล่ยเจียงกับผมไม่มีข้อข้องใจหรือขัดแย้งกันใดๆ และผมเองก็ไม่คิดว่าเขาจะจัดการกับผม..แต่ทว่าสำหรับคุณก็ไม่แน่เพราะอย่างที่พูดไปว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้..ซึ่งผมเกรงว่าหลังจากที่เรากำจัดเหล่ยเจียงได้แล้วต่อไปมันก็จะถึงคราวของผมเอง..”
ฮัวซงเจี๋ยก็ขมวดคิ้วและยิ้มอย่างเย็นชาในใจเพราะเขามีแผนในการกำจัดเย่เชียนหลังจากกำจัดเหล่ยเจียงจริงๆ อย่างไรก็ตามเย่เชียนนั้นมีประโยชน์มากในตอนนี้และประการแรกหลี่จื้อเทียนเองก็มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับรัฐบาลกลางของประเทศจีนและเขาสามารถใช้เครือข่ายของหลี่จื้อเทียนเพื่อกำจัดเหล่ยเจียงได้ ประการที่สองเครือน่านฟ้ากรุ๊ปของเย่เชียนนั้นก็เป็นถึงหนึ่งใน 20 บริษัทชั้นนำของโลกดังนั้นแน่นอนว่าเย่เชียนจะต้องมีเครือข่ายกับต่างประเทศมากมายซึ่งช่วยให้สิ่งต่างๆ ของฮัวซงเจี๋ยพัฒนาไปได้เป็นอย่างดี
“ดูคุณพูดสิ..คุณคิดว่าผมเป็นคนแบบนั้นหรอ..คุณเองก็เห็นแล้วหนิเมื่อกี้ที่เหล่ยเจียงส่งคนมาคอยสะกดรอยตามเราซึ่งแสดงว่าเขาเริ่มเคลื่อนไหวเกี่ยวกับพวกเราแล้ว..เพราะงั้นถึงแม้ว่าคุณเย่จะไม่เคยขัดแย้งกับเขามาก่อนก็ตามแต่ตอนนี้เขาเห็นคุณและผมอยู่ด้วยกันแบบนี้เขาคงจะคิดว่าเราตกลงอะไรกันบางอย่างแน่นอนและเขาคงจะคิดว่าคุณกับผมกำลังร่วมมือกันอยู่เพราะงั้นเราก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไปแล้ว” ฮัวซงเจี๋ยพูด
เย่เชียนแสยะยิ้มเบาๆ และพูดว่า “สิ่งที่คุณพูดมานั้นก็มีเหตุผล..แต่ผมขอคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนนะเพราะนอกจากนี้ประธานฮัวเองก็รู้ดีว่าผมไม่สามารถตัดสินใจเรื่องนี้เพียงคนเดียวได้เพราะผมต้องถามหลี่จื้อเทียนหุ้นส่วนของผมก่อน”
เมื่อได้ยินเย่เชียนพูดเช่นนี้ฮัวซงเจี๋ยก็อดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มบนใบหน้าของเขาและพูดว่า “ไม่เป็นไรเพราะเรื่องนี้ต้องได้รับการพิจารณาก่อน..แต่คุณเย่ต้องให้คำตอบโดยเร็วที่สุดล่ะเพราะผมรู้สึกได้ว่าเหล่ยเจียงนั้นพร้อมที่จะเคลื่อนไหวแล้ว”
“ได้ครับ” เย่เชียนพูด “แต่ประธานฮัวรู้ได้ยังไงว่าเหล่ยเจียงกำลังเคลื่อนไหวอยู่..หรือเป็นเพราะเขาส่งคนมาติดตามเราคุณก็เลยคิดว่าเขากำลังเคลื่อนไหวอะไรบางอย่างอยู่”
“ไม่ใช่แน่นอน” ฮัวซงเจี๋ยพูด “การแข่งขันฟุตบอลโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้นดังนั้นเหล่ยเจียงจึงมีการเคลื่อนไหวเมื่อไม่นานมานี้และเขาก็ได้ติดต่อกับชาวต่างชาติอยู่บ่อยครั้ง..ซึ่งผมเองก็ได้ตรวจสอบและพบว่าบุคคลเหล่านั้นเป็นบุคคลสำคัญในแก๊งมาเฟียจากประเทศสหรัฐอเมริกา..ผมจะบอกคุณว่าแก๊งมาเฟียอเมริกาน่ะเป็นเจ้าพนันฟุตบอลโลกรายใหญ่ที่สุดมาโดยตลอดและครั้งที่แล้วรายได้ต่อวันของพวกเขาก็มีอย่างน้อยๆ 100 ล้านดอลลาร์และยิ่งไปกว่านั้นแก๊งมาเฟียอเมริกันเนี่ยยังสามารถล็อคผลลัพธ์ของเกมได้อีกด้วยดังนั้นพวกเขาจึงทำกำไรได้มากมายมหาศาล..เพราะงั้นการที่เหล่ยเจียงติดต่อกับพวกเขานั้นแสดงว่าเหล่ยเจียงต้องอยากมีส่วนร่วมในการพนันฟุตบอลโลก..ด้วยเหตุนี้ผมจึงมั่นใจว่าเหล่ยเจียงต้องการใช้การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้เพื่อเอาชนะผม”
“ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยพนันบอลก็ตามแต่ผมก็เข้าใจว่ามันคงไม่ใช่แค่หัวโต๊ะพนันเพียงอย่างเดียวแต่มันต้องมีเครือข่ายเล็กๆ อีกจำนวนมากอยู่ภายใต้พวกเขา..เพราะงั้นผมจึงคิดว่าถึงแม้เหล่ยเจียงต้องการยึดครองธุรกิจของคุณแต่เขาจะไม่มีเครือข่ายที่กว้างขวางแบบคุณใช่มั้ย?” เย่เชียนพูด
“นั่นแน่นอนอยู่แล้ว..แต่ใครจะรู้ล่ะว่าความคิดของเหล่ยเจียงเป็นยังไง..ยิ่งไปกว่านั้นผมก็ไม่สามารถพลาดการพนันฟุตบอลโลกครั้งนี้ไม่เช่นนั้นผมจะไม่สามารถยืนหยัดในวงการพนันได้อีก..อันที่จริงเหล่ยเจียงเคยมาหาผมและพูดถึงความร่วมมือแต่ผมไม่เห็นด้วยกับเขาเพราะผมคิดว่าเขามีความโลภเกินไปและไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะหักหลังผม..แต่ทว่าคุณเย่แตกต่างออกไปและผมก็เชื่อว่าการร่วมมือกับคุณเย่นั้นจะมีอนาคตที่ดีกว่า” ฮัวซงเจี๋ยยกย่องและเยินยอเย่เชียนเป็นอย่างดี
“ประธานฮัวไม่ต้องกังวลไปเพราะผมจะพิจารณาความร่วมมือกับคุณหลังจากที่ผมกลับไป..อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของผมแต่เพียงผู้เดียวเพราะผมต้องปรึกษาและขอคำแนะนำจากหลี่จื้อเทียนด้วย” เย่เชียนพูด
“ตามนั้นครับ” ฮัวซงเจี๋ยพูด “มาครับคุณเย่..ผมขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับการร่วมมือในอนาคต” ฮัวซงเจี๋ยพูดพร้อมกับชูแก้วไวน์ขึ้น
“ได้ครับ! ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและชนแก้วกับฮัวซงเจี๋ย
ในขณะที่ทั้งสองคุยกันจู่ๆ ประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกและบอดี้การ์ดของฮัวซงเจี๋ยสองคนก็เดินเข้ามาพร้อมกับลากชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาด้วย ซึ่งรูปลักษณ์ของเขาซูบผอมและดูเหมือนคนติดยาและยิ่งไปกว่านั้นด้วยคราบเลือดบนใบหน้าของเขาแล้วเย่เชียนก็คิดว่าเขาคนนั้นถูกบอดี้การ์ดสองคนนี้ทำร้ายมา
“เจ้านายครับพวกผมนำตัวเขามาให้แล้วครับ” บอดี้การ์ดพูดขณะที่เขาจับชายติดยาคุกเข่าลงต่อหน้าฮัวซงเจี๋ย
ฮัวซงเจี๋ยก็พยักหน้าและมองไปที่ชายติดยาแล้วค่อยๆ พูดว่า “เงยหน้าขึ้น! ” ชายติดยาก็ไม่กล้าที่จะขัดขืนเขาจึงเงยหน้าขึ้นอย่างเชื่อฟังและพูดอย่างสั่นกลัวว่า “ครับ..ครับ! ”
“ไหนพูดมาซิว่าใครส่งแกมาคอยสะกดรอยตามฉัน!” ฮัวซงเจี๋ยถามอย่างเย็นชา
“คือ…มันเป็นคำสั่งของหัวหน้าเหล่ย..เขาสั่งให้ผมสะกดรอยตามคุณและรายงานว่าคุณพบใครบ้างและคุณทำอะไรบ้าง..แต่เขาก็ไม่ได้บอกผมว่าเหตุผลเพราะอะไร” ชายติดยาก็พูดว่า “คุณฮัวทั้งหมดนี้เป็นคำสั่งของหัวหน้าเหล่ย..ผะ..ผมก็แค่ทำตามคำสั่งโปรดยกโทษให้ผมด้วย” ชายติดยาพูดอย่างอ้อนวอน
แน่นอนว่าฮัวซงเจี๋ยนั้นสามารถเห็นได้ว่าชายติดยาไม่ได้โกหกเพราะสำหรับคนอย่างเขาตราบใดที่เหล่ยเจียงให้ยาเสพติดแก่เขามันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาที่จะต้องทำอะไรตามคำสั่งและไม่จำเป็นต้องบอกเหตุผลว่าทำไมและยิ่งไปกว่านั้นถึงแม้ว่าเขาจะถูกจับได้แต่เหล่ยเจียงก็สามารถปฏิเสธได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“พาเขาออกไปและหาที่ฝังศพเขาซะ” ฮัวซงเจี๋ยเหลือบมองไปที่บอดี้การ์ดทั้งสองและพูด
“ไม่นะคุณฮัน..ยกโทษให้ผมด้วยอย่าฆ่าผม” ชายติดยาวิงวอนอย่างขมขื่น ซึ่งแน่นอนว่าฮัวซงเจี๋ยนั้นไม่แม้แต่จะมองมาที่เขาเลยด้วยซ้ำเพราะฮัวซงเจี๋ยเพียงยกแก้วไวน์ขึ้นและชนแก้วกับเย่เชียน ส่วนบอดี้การ์ดทั้งสองก็ลากชายติดยาออกไปจากห้องส่วนตัวVIP
ถ้าเป็นคนอื่นบางทีเย่เชียนอาจจะหาทางช่วยเขาได้แต่เย่เชียนนั้นไม่ชอบพวกติดยามากนักเพราะคนแบบนี้อาจจะปกติเมื่อพวกเขาอยู่เฉยๆ แต่เมื่อไหร่ที่อาการติดยาและขาดยาเกิดผลล่ะก็พวกเขาเหล่านี้ก็สามารถทำทุกอย่างได้ทั้งการโกงทั้งการฆาตกรรมและการวางเพลิงต่างๆ นาๆ
เย่เชียนก็ยกข้อมือขึ้นเพื่อตรวจสอบเวลาบนนาฬิกาข้อมือและพูดว่า “มันก็เย็นมากแล้วผมต้องไปแล้วครับ..นอกจากนี้ประธานฮัวเองก็คงจะมีธุระที่ต้องทำเช่นกัน..คราวหน้าผมขอเป็นเจ้าภาพนะครับ..ขอบคุณมากครับ”
“ดูคุณพูดสิ..เอาเถอะธุระของคุณก็เหมือนธุระของผมเพราะงั้นก็ไม่ต้องกังวลไปผมสัญญาว่าภายในสามวันหลังป้อจะต้องส่งเงินให้คุณ” ฮัวซงเจี๋ยพูด
“ผมได้ยินคำพูดของคุณหัวแล้วผมก็โล่งใจ..ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ! ” เย่เชียนพูด
“เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณเอง! ” ฮัวซงเจี๋ยก็ลุกขึ้นยืนและพูด ไม่ใช่ว่าเขานั้นหวังดีกับเย่เชียนเพียงแต่ว่าฮัวซงเจี๋ยนั้นไม่คิดที่จะปล่อยให้เย่เชียนเปลี่ยนไปหรือลังเลดังนั้นเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้เย่เชียนตกลงที่จะร่วมมือกับเขา ยิ่งไปกว่านั้นเหล่ยเจียงก็ได้ส่งคนมาสะกดรอยตามตัวเองแล้วเพราะฉะนั้นเขาจึงต้องการให้เหล่ยเจียงเห็นว่าเขากับเย่เชียนนั้นร่วมมือกันจริงๆ แล้ว
******************************************************
ในช่วงบ่ายที่ผ่านมาตอนที่เย่เชียนกับฮัวซงเจี๋ยออกมาจากร้านขายวัสดุก่อสร้างนั้นหลัวป้อก็ไม่กล้าลังเลอีกต่อไปหลังจากส่งพี่เขยของเขากลับไปแล้วเขาก็รีบขับรถไปที่ธนาคารและถอนเงิน 2.25 ล้านหยวนออกจากธนาคาร จากนั้นเขาก็รีบไปที่บ้านของเฉินจงข่ายเนื่องจากเฉินจงข่ายได้ภรรยาของเขาล่วงหน้าเอาไว้แล้วดังนั้นเมื่อหลัวป้อไปถึงเงินจำนวนสองล้านก็ถูกวางอยู่บนโต๊ะแล้ว
หลัวป้อนั้นไม่มีความคิดใดๆ ในตอนนี้เพราะเขาแค่ต้องการมองเงินให้เย่เชียนโดยเร็วที่สุด ซึ่งเมื่อเขามาถึงบ้านของเฉินจงข่ายแล้วเขาก็ถูกพี่สาวแท้ๆ ของตนตำหนิอย่างเดือดดาล อย่างไรก็ตามสำหรับเขาสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไร้สาระไปแล้วเพราะเขานั้นถูกดุด่ามานานแล้วเขาจึงคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้เป็นอย่างดี
หลังจากที่ถูกตำหนิแล้วหลัวป้อก็หยิบเงินและรีบลงไปที่ชั้นล่างราวกับว่าพี่สาวของเขาจะฆ่าเขาในตอนนี้ ซึ่งตั้งแต่ตอนที่หลัวป้อถอนเงินจนกระทั่งเขาเอาเงินสองล้านออกมาจากบ้านของเฉินจงข่ายนั้นก็มีชิงเฟิงคอยสังเกตการณ์อยู่อย่างชัดเจน เพราะเมื่อตอนที่ชิงเฟิงอยู่ที่ทางเข้าสโมสรเย่เชียนก็บอกให้เขาออกมาตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ทันที
แน่นอนว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้ง่ายเพียงแค่นั้นเพราะเมื่อหลังป้อเพิ่งเดินออกจากบ้านของเฉินจงข่ายมาจู่ๆ ชิงเฟิงก็รีบวิ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วคว้ากระเป๋าเงินในมือของหลัวป้อและหายไปในชั่วพริบตา ซึ่งหลัวป้อเองก็ไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ และเงินก็ถูกปล้นไปอย่างไม่ทันตั้งตัวและเมื่อเขาตอบสนองได้เขาก็ต้องการที่จะไล่ตามชิงเฟิงไปแต่เขาก็ไม่รู้ว่าคนคนนั้นวิ่งไปที่ไหนแล้วและเขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของชิงเฟิงเขาจึงไม่รู้ว่าคนที่ขโมยเงินของเขาไปนั้นเป็นใครกันแน่
.
.
.
.
.
.
.