ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 550 ทะเลาะกัน
ตอนที่ 550 ทะเลาะกัน
เย่เชียนสามารถเข้าใจความคิดของซ่งหลันได้เพราะแท้ที่จริงแล้วผู้หญิงที่พยายามมาหลายปีโดยไม่มีผลตอบแทนนั้นเธอจะรู้สึกเศร้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่รู้เรื่องนี้และถึงแม้ว่าจะมีผู้ชายที่ไล่ตามจีบซ่งหลันแต่ถึงยังไงซ่งหลันก็ยังคงมีเพียงเย่เชียนเท่านั้นที่อยู่ในใจของเธอ
ซึ่งการปรากฏตัวของชายหนุ่มคนนั้นเย่เชียนจึงรู้สึกหึงหวงอย่างมาก
เมื่อเย่เชียนได้ยินซ่งหลันพูดเช่นนั้นเย่เชียนจึงพูดด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นแต่ถ้าพี่กับเขาคนนั้นติดต่อกันอีกผมจะฆ่าเขา! ”
“นายคิดอะไรอยู่เย่เชียน..นายไม่ได้ชอบฉันแต่นายกลับไม่อนุญาตให้คนอื่นใสชอบฉัน..นายจะทำตัวเป็นเจ้าของฉันไปทำไม” ซ่งหลันโต้กลับ
เย่เชียนก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะและหลังจากลังเลอยู่นานเย่เชียนก็พูดอย่างเคร่งเครียดว่า “นี่ไม่ใช่วันแรกที่พี่รู้จักผมหนิ..พี่ไม่รู้หรือว่าผมมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเองผมก็พูดไปแล้วไม่ใช่หรอว่าห้ามพี่คุยกับเขาอีก!”
ในห้องนั่งเล่นชิงเฟิงซึ่งยังคงจดจ่ออยู่กับเอกสารการฝึกฝนก็ได้ยินเย่เชียนตะโกนอย่างดังจากในห้องนอนและเขาก็ตกตะลึงจากนั้นก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
“นายคิดยังไงกับฉัน..นายพูดมาซิว่านายคิดยังไงกับฉัน..ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนรับใช้ของนายและนายก็บังคับฉันจนฉันไม่มีเสรีภาพส่วนตัวของฉันเลย” ซ่งหลันพูด อย่างไรก็ตามเสียงนั้นแหบและสั่นอย่างเห็นได้ชัด
เย่เชียนนั้นไม่เคยเห็นซ่งหลันร้องไห้และนี่เป็นครั้งแรกถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่เห็นเธอต่อหน้าต่อตาก็ตามแต่เขาก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงการแสดงออกของซ่งหลันผ่านน้ำเสียง ซึ่งหลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเย่เชียนก็สงบสติอารมณ์ลงและพูดว่า “พี่หลันผมขอโทษผมคงพูดมากไปหน่อย..เพราะงั้นตอนนี้ใจเย็นๆ และเรามาคุยกันดีๆ นะ..ได้ไหม? ”
“เรากำลังคุยกันเรื่องอะไรกัน..แล้วเราต้องคุยอะไร..ตอนนี้นายแค่รู้สึกว่าฉันเป็นสมบัติส่วนตัวของนายแล้วนายจะทำอะไรก็ได้ที่นายต้องการ..นายห้ามไม่ให้คนอื่นมาชอบฉันและไม่ให้ฉันทิ้งนายไป..ทำไมนายถึงได้เห็นแก่ตัวแบบนี้?” ซ่งหลันพูด
“อืมผมยอมรับว่าผมเห็นแก่ตัว..ถ้างั้นผมก็อย่างจะถามพี่ว่าพี่ตัดสินใจที่จะทำแบบนี้จริงๆ หรอ..พี่อยากจะไปอยู่กับเขาจริงๆ หรอ” เย่เชียนพูด
“แล้วจะทำไม?” ซ่งหลันรู้สึกประหม่าอย่างมากเพราะหัวใจของซ่งหลันก็ยับยั้งชั่งใจอยู่ตลอดเวลาและเธอก็ระบายมันออกมาในตอนนี้ แต่เธอก็รับรู้ถึงอารมณ์ของเย่เชียนดี
“ผมก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะพูด..แต่ถ้าพี่รู้สึกอัดอั้นแบบนั้นมาหลายปีแล้วที่ผมบังคับคุณและไม่ได้ให้อิสระกับคุณแบบนี้..ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว..และถ้าพี่ต้องการที่จะแสวงหาความสุขของตัวเองจริงๆ พี่ก็ไปเถอะ” เย่เชียนพูด “ส่วนเครือน่านฟ้ากรุ๊ปผมจะให้แจ็คจัดการเอง..เพราะงั้นถ้าพี่อยากได้อะไรก็เพียงแค่พูดในสิ่งที่พี่ต้องการแล้วผมจะทำให้พี่เป็นครั้งสุดท้ายเอง”
“เย่เชียนนายมันเลว! ” ซ่งหลันสำลักและวางสายโทรศัพท์ไปอย่างรวดเร็วและเมื่อฟังเสียงทางโทรศัพท์ถูกตัดไปเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและขมวดคิ้วเข้าหากัน
เย่เชียนไม่ใช่ไม่เข้าใจความคิดของซ่งหลันแต่เขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่คำพูดของซ่งหลันก็กระทบจิตใจของเขาอย่างชัดเจนซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์นี้และนี่เป็นครั้งแรกที่เย่เชียนคุยกับซ่งหลันอย่างเดือดดาล
เมื่อมองไปที่โทรศัพท์เย่เชียนก็สะดุ้งและหลังจากสงบลงเย่เชียนก็รู้ว่าสิ่งที่เขาเพิ่งพูดมันมากเกินไปหน่อยเพราะซ่งหลันนั้นทำเพื่อเขาโดยไม่มีการเรียกร้องสิ่งใดมาหลายปีแล้วและเขาก็มองว่าเธอเป็นเหมือนเครื่องจักรในชีวิตมาโดยตลอดและเขากลับไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นซึ่งมันเป็นเรื่องยากอยู่แล้วที่ซ่งหลันจะใจกว้างขนาดนี้แต่เธอก็ไม่แสดงความไม่สบอารมณ์หรือไม่พอใจใดๆ และไม่เสียใจซึ่งเธอก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่ดีเลยทีเดียว
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเย่เชียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาและโทรออกไปยังเบอร์ของอู๋หวนเฟิง เมื่อเห็นการโทรของเย่เชียนอู๋หวนเฟิงก็มองขึ้นไปชั้นบนอย่างระมัดระวังและพูดเบาๆ ว่า “บอสเป็นอะไรรึเปล่า..ทำไมบอสถึงทำให้พี่หลันร้องไห้ล่ะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอร้องไห้นะ..มันเกิดอะไรขึ้น? ”
“หยุดถามก่อน..เธอเป็นยังไงบ้าง” เย่เชียนถาม
“เธอเก็บตัวเองอยู่แต่ในห้องและยังคงร้องไห้อยู่ในนั้น” อู๋หวนเฟิงพูด
“ตอนนี้มีไอ้บ้าชาวญี่ปุ่นที่ไล่ตามจีบพี่หลันอยู่บ้างหรือเปล่า” เย่เชียนถาม
“มีอยู่คนนึงผมตรวจสอบตัวตนของบุคคลนั้นแล้วเขาเป็นลูกหลานของตระกูอิงะที่เก่าแก่มากในญี่ปุ่น..แต่พี่หลันก็ไม่ได้สนใจอะไรเขาเลย..ไอ้หมอนั่นมันคิดไปเองคนเดียว..อย่าบอกนะว่าทั้งสองคนทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้หรอ?” อู๋หวนเฟิงพูด “บอสผมขอโทษ..ผมคงพูดมากเกินไป..จริงๆ แล้วพี่สาวเป็นผู้หญิงที่ดีเธอลำบากเพราะพวกเรามานานและเธอก็เป็นพี่สาวที่ดีของบอสเพราะงั้นบอสไม่ควรสงสัยในตัวเธอ”
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เย่เชียนก็พูดว่า “เมื่อกี้ฉันเองก็พูดมากเกินไปเหมือนกัน..เอาเถอะปล่อยเธอไปสักพัก..ว่าแต่นายเองก็มีแฟนเป็นพยาบาลอยู่ไม่ใช่หรือไง? ”
หน้าของอู๋หวนเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดงและเขาก็พูดว่า “เอ่อ…ใช่ครับ” ซึ่งอู๋หวนเฟิงก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรในแง่ของความรู้สึกเขากับม่อหลวนั้นทั้งสองก็มีนิสัยเดียวกัน
“ดีๆ ” เย่เชียนพูด “ฝากดูแลพี่หลันด้วยล่ะเดี๋ยวฉันจะไปประเทศญี่ปุ่นหลังจากจัดการเรื่องที่นี่แล้ว..ถ้านายมีเวลาก็ติดต่อหน่วยหมาป่าเพชฌฆาตด้วยและบอกให้เขารายงานสถานการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นรวมไปถึงสมาคมมังกรดำด้วย”
“รับทราบครับ..ผมรู้แล้วว่าต้องทำอะไร” อู๋หวนเฟิงตอบ
เย่เชียนตอบรับและวางสายโทรศัพท์ไปและเขาเองก็อยากโทรหาซ่งหลันทันทีแต่เมื่อเขาตระหนักถึงเรื่องนี้แล้วตอนนี้เธอน่าจะเสียใจอยู่และโกรธมากภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เย่เชียนคิดว่าซ่งหลันคงจะไม่ฟังสิ่งที่เขาพูดและหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเย่เชียนก็เปิดคอมพิวเตอร์และเปิดกล่องส่งจดหมายออนไลน์จากนั้นก็ส่งเมลให้เธอ
หลังจากนั้นไม่นานจดหมายของเย่เชียนก็ถูกส่งไปและหลังจากนั้นเย่เชียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และปิดคอมพิวเตอร์ไปแล้วสงบสติอารมณ์ของเขาใหม่
เมื่อเดินออกจากห้องชิงเฟิงก็เหลือบมองเขาจากหางตาและแลบลิ้นแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
เมื่อเดินไปที่ด้านข้างของชิงเฟิงแล้วเย่เชียนก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้างนายคิดว่ามันจะมีบางอย่างผิดปกติในการฝึกบ้างหรือเปล่า? ”
“อืม..ผมคิดว่ามี” ชิงเฟิงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “อ่านั่น..ตอนนี้ทั้งตัวผมมีแต่กลิ่นเหงื่อถ้างั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วผมจะบอกเรื่องนี้ทีหลัง” หลังจากนั้นโดยไม่รอคำตอบของเย่เชียนเขาก็รีบลุกขึ้นและวิ่งไปที่ห้องน้ำซึ่งชิงเฟิงนั้นไม่ได้โง่เพราเขาได้ยินเย่เชียนตะโกนอย่างเสียงดังในห้องและตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์ไม่ดีดังนั้นชิงเฟิงจึงไม่เต็มใจที่จะยั่วยุเย่เชียนในตอนนี้
เมื่อเห็นการกระทำของชิงเฟิงแล้วเย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และแน่นอนว่าเขาเข้าใจว่าเขาคิดอย่างไรกับเด็กคนนี้ และหลังจากนั่งลงบนโซฟาแล้วเย่เชียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและโทรออกไปยังเบอร์ของหลินเฟิง ซึ่งเรื่องของซ่งหลันก็ต้องปล่อยทิ้งไว้กาอนเพราะในตอนนี้ยังมีสิ่งสำคัญอีกมากมายที่ต้องทำและขณะนี้สถานการณ์ในมณฑลเหอหนานก็เริ่มเข้าสู่สภาวะตึงเครียดและเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างฮัวซงเจี๋ยและเหล่ยเจียงจะส่งผลโดยตรงต่อสถานการณ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
กำลังพลในปัจจุบันของเย่เชียนก็ค่อนข้างไม่เพียงพอดังนั้นเขาจึงยังต้องการองค์กรเซเว่นคิลเพื่อช่วยจัดการกับหลายๆ อย่าง และยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็ยังหวังที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างและองค์กรเซเว่นคิลและกระชับความสัมพันธ์ของเขากับหลินเฟิง ซึ่งเมื่อเห็นเย่เชียนโทรมาหลินเฟิงก็ตกตะลึงไปชั่วขณะหลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “มีอะไรให้ฉันทำหรอ..แต่ครั้งนี้ไม่มีส่วนลดนะ”
“วันนี้ผมอารมณ์ไม่ดีและผมก็ไม่อยากฟังเรื่องตลก” เย่เชียนพูด
“มาเถอะ..อย่าทำให้ฉันตกใจเรื่องที่นายอารมณ์ไม่ดี..เอาล่ะว่ามาคราวนี้มีอะไรหรอ?” หลินเฟิงพูด
“แน่นอนว่ามันเป็นธุรกิจ..ผมจะให้คุณช่วยฆ่าคนสักสองสามคน” เย่เชียนพูด
“ฉันไม่เข้าใจเลย..พวกเขี้ยวหมาป่าของนายก็มีความสามารถเต็มที่ในการทำสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ..ทำไมนายถึงต้องเสียเงินจ้างฉันด้วยล่ะ?” หลินเฟิงพูด
“อย่างแรกตอนนี้ผมมีกำลังคนไม่เพียงพอและอย่างที่สองผมไม่ต้องเสียเงินในครั้งนี้” เย่เชียนฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “เพราะการลอบสังหารแบบนี้พวกผมไม่ถนัดแต่ถ้าหากพวกพี่มีอะไรให้พวกผมช่วยพวกผมก็เต็มใตและไม่ต้องกังวลไปเพราะพวกเราต่างก็ถนัดกันคนละแบบใช่ไหมล่ะ”
“พูดตามตรงเถอะฉันเองก็ไม่สามารถให้คนของฉันมาได้เพราะเมื่อเร็วๆ นี้คนเกือบทั้งหมดในองค์กรถูกส่งออกไปปฏิบัติภารกิจ..ดังนั้นน้องเย่ฉันเกรงว่าครั้งนี้ฉันคงช่วยนายไม่ได้เช่นกัน” หลินเฟิงพูด
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเข้าหากันและอันที่จริงเย่เชียนก็ตั้งใจจะใช้องค์กรเซเว่นคิลเพื่อลอบสังหารผู้บริหารทั้งหมดของฮัวซงเจี๋ยในภูมิภาคต่างๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อที่เขาจะได้ใช้พวกมาเฟียคูลอฟส์ให้เป็นประโยชน์มากขึ้นโดยเร็วที่สุดและครอบครองการพนันในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามตอนนี้หลินเฟิงไม่สามารถหากำลังคนได้ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหาทางอื่น
แน่นอนว่าเย่เชียนสามารถบอกได้จากน้ำเสียงของหลินเฟิงว่าเขาไม่ได้โกหกและเขาก็ไม่สามารถรับมือได้จริงๆ และถ้าเขาไม่เชื่อใจหลินเฟิงแล้วพวกเขาจะเป็นเพื่อนสนิทกันได้อย่างไร?
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดว่า “ในกรณีผมก็คิดวิธีอื่นเอาไว้แล้วเหมือนกัน..ว่าแต่ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนอย่าลืมว่าอย่าฝืนมากเกินไปและรอจนกว่าผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จแล้วเราค่อยไปลุยประเทศญี่ปุ่นด้วยกัน”
“ได้สิ..นายก็แจ้งให้ฉันทราบล่วงหน้าด้วยก็แล้วกันถ้าถึงเวลา..เอาล่ะตอนนี้ฉันต้องไปทำอะไรบางอย่างเอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง” หลินเฟิงพูดจบแล้ววางสายโทรศัพท์ไป
เมื่อได้ยินเสียงตัดสายโทรศัพท์ไปเย่เชียนก็แสยะยิ้มและเมื่อฟังน้ำเสียงของหลินเฟิงเมื่อครู่นี้แล้วเย่เชียนก็รู้ดีว่าหลินเฟิงกำลังทำภารกิจอยู่แต่หลินเฟิงก็ยังคงรับสายตนในขณะที่ทำภารกิจอยู่ซึ่งทำให้เย่เชียนประหลาดใจอย่างมาก
เมื่อวางสายโทรศัพท์ไปจู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้นอีกครั้งแต่เย่เชียนก็ไม่ได้มองเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเย่เชียนจึงรับโทรศัพท์ทันที “คุณเย่ผมมาถึงสนามบินเมืองเจิ้งโจวแล้ว! ”
.
.
.
.
.
.
.