ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 568 แผนการตลบหลังเหล่ยเจียง
ตอนที่ 568 แผนการตลบหลังเหล่ยเจียง
เย่เชียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความประหลาดใจในสิ่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยทำ หลังจากนั้นเย่เชียนก็พูดว่า “มีข่าวอะไรใช่มั้ย?”
“ใช่!” จื้อจุนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ตามข่าวที่เราได้รับมาเหล่ยเจียงได้ซื้อสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์อาหารจากอเมริกาใต้และตอนนี้สินค้าก็ถูกขนส่งมาที่นี่โดยเรือแล้ว! ”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มเพราะทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นและพัฒนาไปอย่างสมบูรณ์ตามแผนการที่กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า “แล้วคุณจะทำยังไงกับเขา..จะไปจับเขาทันทีเลยหรือเปล่า?” เย่เชียนถาม
“ตอนนี้เหล่ยเจียงไม่ได้มาจัดการด้วยตัวเองเพราะลูกน้องของเขาเป็นคนดูแลทุกอย่าง..ซึ่งเหล่ยเจียงไม่ได้มีส่วนร่วมเพราะงั้นถึงแม้ว่าเราจะจับเขาก็ตามแต่เขาก็จะหลีกเลี่ยงและให้ปากคำว่าเขาไม่ให้รู้อะไรเลย..แต่เดิมเราส่งแม่บ้านไปอยู่กับเขาและเธอก็จะรายงานเราเป็นระยะๆ ..แต่ว่าแม่บ้านกลับเสียชีวิตในบ้านของเหล่ยเจียงโดยไม่มีเหตุผลและหลังจากนั้นเหล่ยเจียงก็จ้างคนใหม่มาดูแลทุกอย่างดังนั้นตอนนี้เราไม่รู้อะไรเลย..ดังนั้นถ้าเราต้องการจับเขาล่ะเราต้องมีหลักฐานมัดตัว..ไม่เช่นนั้นมันก็เปล่าประโยชน์ผมจึงมาหารือกับคุณเย่และปรึกษาว่าเราจะทำยังไงกันต่อ” จื้อจุนพูดอย่างช้าๆ
เรื่องการตายของแม่บ้านนั้นเย่เชียนรู้โดยธรรมชาติเพราะในวันนั้นเขาเห็นหมาป่าผีไป๋ฮวยออกจากบ้านของเหล่ยเจียงไป ซึ่งเย่เชียนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหมาป่าผีไป๋ฮวยถึงทำเช่นนั้นและตอนนี้เมื่อได้ฟังคำพูดของจื้อจุนแล้วเขาก็ยิ่งสับสนและเมื่อรวมกับการลอบสังหารต่อเนื่องแล้วดูเหมือนว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะไม่ได้รับการว่าจ้างจากเหล่ยเจียงให้จัดการกับฮัวซงเจี๋ยไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ฆ่าแม่บ้านของเหล่ยเจียง
เป็นไปได้ไหมที่หมาป่าผีไป๋ฮวยกำลังยุยงให้เกิดความขัดแย้งระหว่างฮัวซงเจี๋ยและเหล่ยเจียง? เย่เชียนคิดอย่างลับๆ แต่เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้วดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เพราะว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เพราะเขาไม่มีความขัดแย้งใดๆ กับฮัวซงเจี๋ยและเหล่ยเจียงเลยแล้วทำไมเขาถึงต้องทำเช่นนี้?
จากนั้นความเป็นไปได้เดียวที่เหลืออยู่ก็คือดั่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเอาไว้ว่าการกวาดล้างเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นหน้าที่ของเขาและไม่มีใครได้รับอนุญาตให้จัดการกับเขี้ยวหมาป่า ซึ่งการทำลายเขี้ยวหมาป่านั้นมีแต่เขาที่ทำได้เท่านั้นดังนั้นเขาจึงจะจัดการกับฮัวซงเจี๋ยและเหล่ยเจียงและช่วยเย่เชียนทางอ้อมในการกำจัดคนเหล่านี้ใช่หรือไม่?
เย่เชียนก็ถอนหายใจเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ต้องการให้หมาป่าผีไป๋ฮวยทำเช่นนี้เพราะยิ่งหมาป่าผีไป๋ฮวยทำแบบนี้มากเท่าไหร่มันก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นแข็งแกร่งมากขึ้นซึ่งเย่เชียนไม่ต้องการสิ่งนี้จริงๆ เพราะหลังจากผ่านการต่อสู้โดยมีชีวิตเป็นเดิมพันกับหมาป่าผีไป๋ฮวยในอียิปต์ครั้งนั้นเย่เชียนก็เข้าใจได้แล้วว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นมีความคิดอย่างไรและเขาก็ไม่ต้องการให้หมาป่าผีไป๋ฮวยทำแบบนี้จริงๆ
เมื่อเห็นว่าเย่เชียนไม่ได้พูดมาสักพักและถอนหายใจเป็นครั้งคราวแล้วจื้อจุนจึงถามอย่างว่างเปล่าว่า “มีอะไรหรอครับ?”
เย่เชียนก็ตื่นขึ้นจากห้วงแห่งความคิดด้วยคำพูดของจื้อจุน ดังนั้นเย่เชียนจึงรีบพูดว่า “อ๋อไม่มีอะไร..ผมเพิ่งจำอะไรได้เฉยๆ ” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “แล้วคุณล่ะจะทำยังไง? ”
จื้อจุนก็ตกตะลึงและเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเย่เชียน อย่างไรก็ตามจื้อจุนก็ยังคงชื่นชมเย่เชียนเพราะดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่ดูเหมือนว่าเย่เชียนจะไม่มีปัญหาอะไรใดๆ เสมอ “เอ่อผมอยากจะถามว่าคุณเย่มีแผนอะไรที่จะทำให้เหล่ยเจียงไปรับสินค้าเป็นการส่วนตัวเพื่อให้เราสามารถจับกุมเขาได้พร้อมหลักฐานไม่เช่นนั้นมันจะเป็นการยากที่จะจับเขาและตัดสินคดี” จื้อจุนพูด
“เหล่ยเจียงระมัดระวังตัวมาโดยตลอดและดูเหมือนว่าการตลบหลังเขานั้นจะไม่ง่ายเลย” เย่เชียนขมวดคิ้วและพูด ซึ่งเหล่ยเจียงเป็นอาชญากรที่มี IQ สูงและเขาทำทุกอย่างโดยไม่มีข้อมูลรั่วไหลเลยไม่เช่นนั้นมันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่เขายังคงปลอดภัยและทำสิ่งต่างๆ อย่างลุล่วง ซึ่งอุตสาหกรรมยาเสพติดในประเทศจีนนั้นมีความเสี่ยงสูงกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ เพราะรัฐบาลจีนได้ปราบปรามมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามที่เหล่ยเจียงสามารถอยู่รอดมาได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้มันก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่ไม่ธรรมดา
“เพราะงั้นผมจึงอยากจะถามคุณเย่ว่าคุณมีแผนอะไรบ้าง..ผมคิดว่าคุณเย่จะสามารถหาวิธีจัดการกับเหล่ยเจียงได้ก่อนที่ผู้อำนวยการหวงฟู่จะมาที่เมืองนี้..บอกเราทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่จำเป็นต้องทำแล้วเราจะทำตามแผนของคุณ” จื้อจุนพูด
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่ไา “อย่าหวังสูงเพราะผมไม่ใช่เทพเจ้าที่จะสามารถทำทุกอย่างสามารถได้ดั่งใจนึก..เพราะงั้นตอนนี้พวกคุณคอยเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเหล่ยเจียงต่อไปส่วนผมขอคิดก่อนว่าจะทำยังไง”
“ครับผมจะทำอย่างที่คุณบอก” จื้อจุนพูด “เราจะติดต่อประสานงานกันเป็นระยะๆ ”
“ได้..ผมรับปากกับปู่เอาไว้ว่าต้องทำให้สำเร็จ! ” เย่เชียนยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้และพูด
จื้อจุนก็วางสายโทรศัพท์ไปส่วนเซียวหวันที่อยู่ด้านข้างก็พูดอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า “พี่จื้อ..พี่จะเลอะเทอะเกินไปไหมพี่คิดว่าไอ้หมอนั่นเป็นพระเจ้าจริงๆ หรอ? ..สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของเราหาทางออกเองก็ได้ไม่ใช่เหรอ..พวกเราเองก็สามารถจัดการกับสิ่งต่างๆได้หนิ”
จื้อจุนก็ยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ทำอะไรไม่ถูกแล้วพูดว่า “เธออย่าอคติกับเย่เชียนให้มากนักถึงแม้ว่าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของเราจะแข็งแกร่งและไม่ว่าจะเป็นในด้านทรัพยากรบุคคลหรือข้อมูลต่างๆ แต่เราจะปฏิเสธความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่เป็นถึงราชาแห่งทหารรับจ้างและยิ่งไปกว่านั้นพัฒนาการของเขี้ยวหมาป่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นก็ชัดเจนสำหรับทุกคนทั้งศักกายภาพการต่อสู้ของเขี้ยวหมาป่านั้นที่เหนือกว่ากองทัพในหลายๆ ประเทศและสมาชิกแต่ละคนก็ยังเต็มไปด้วยความสามารถซึ่งแตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยมากมาย..และที่สำคัญพวกเขาต่างก็ปฏิบัติตามคำสั่งของเย่เชียนด้วยความเต็มใจดังนั้นสิ่งนี้ก็เพียงพอที่จะอธิบายแล้วว่าเย่เชียนนั้นไม่ใช่คนธรรมดา.. การที่คนคนนึงสามารถเป็นผู้นำคนที่มีความสามารถจำนวนมากนั้นมันไม่ง่ายเลย..เพราะงั้นในโลกใบนี้มันมีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของเราไม่สามารถทำได้แต่พวกเขาทำได้และนี่คือเหตุผลที่ผู้อำนวยการให้ความสำคัญในการร่วมมือกับเขี้ยวหมาป่ามาก”
“ไร้สาระพวกคุณจะทำให้ตัวเองเสียศักดิ์ศรี” เซียวหวันพูดอย่างเหยียดหยาม อย่างไรก็ตามความคิดของผู้หญิงคนนี้อาจมีเพียงจื้อจุนที่เป็นเหมือนพี่เลี้ยงและคู่หูมายาวนานที่ทำงานร่วมกับเธอเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้เพราะในแง่ของคนอื่นจะมองว่าเซียวหวันเป็นเหมือนเป็ดที่ตายแล้วเพราะไม่ว่าเธอจะยอมรับและหรือไว้ใจอีกฝ่ายมากแค่ไหนแต่ถึงยังไงเธอก็ยังปฏิเสธที่จะยอมรับความจริงอยู่ดี
“ถ้าอย่างนั้นเรามาพนันกันไหมล่ะว่าเย่เชียนต้องมีวิธีที่จะทำให้เหล่ยเจียงเข้ามาตรวจเช็คการขนส่งด้วยตัวเอง..เชื่อฉันไหมล่ะ?” จื้อจุนยิ้มอย่างมั่นใจและพูด
“ถ้าพี่ไม่เชื่อฉันก็แล้วแต่..ว่าแต่เราจะพนันอะไรกันดี” เซียวหวันพูด
“ใครแพ้พนันจะต้องซักถุงเท้าให้เป็นเวลาหนึ่งเดือน” จื้อจุนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ได้สิ..ยังไงพี่ก็ต้องแพ้” เซียวหวันพูดเสียงแข็ง
เมื่อมองไปที่เย่เชียนที่กำลังขมวดคิ้วชิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะโดยพูดว่า “บอสมีอะไรหรอใครโทรมา”
“จื้อจุนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ” เย่เชียนพูด
“พวกสำนักความมั่นคงแห่งชาติโทรมาคุยเรื่องเหล่ยเจียงหรอ? ” ชิงเฟิงถาม
“ใช่! ” เย่เชียนพยักหน้าและพูดว่า “สินค้าของเหล่ยเจียงถูกส่งมาจากอเมริกาใต้แล้วและพวกมันกำลังอยู่บนเรือขนส่งและจะมาถึงท่าเรือมณฑลเหอหนานในอีกไม่กี่วันนี้..ซึ่งเหล่ยเจียงมักจะระมัดระวังในการทำงานตั้งแต่ต้นจบจบเพราะท้ายที่สุดเขาเป็นคนเบื้องหลังที่คอยควบคุมทุกอย่างดังนั้นหน้างานเขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้เลย..เพราะงั้นถึงแม้ว่าคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจะสกัดกั้นการขนส่งได้ก็ตามแต่มันก็ไม่มีทางที่จะจับกุมเหล่ยเจียงได้เลย..ด้วยเหตุนี้จื้อจุนจึงโทรมาและขอให้ฉันช่วยคิดว่าจะทำยังไงเหล่ยเจียงถึงจะมามีส่วนร่วมในการรับสินค้านี้เป็นการส่วนตัวเพื่อที่พวกเขาจะได้มีหลักฐาน”
“ก็ผมบอกไปแล้วว่าทำไมเราถึงต้องทำเรื่องให้มันยุ่งยากขนาดนี้..แค่ฆ่าเหล่ยเจียงทิ้งไปเรื่องมันจะได้จบๆ ..บอสพวกเราเป็นทหารรับจ้างไม่ใช่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติทำไมเราต้องมีวิธีการมากมายเพราะสิ่งที่เราต้องการคือการก็การกำจัดเหล่ยเจียงอยู่ดี” ชิงเฟิงพูด
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “นายรู้อะไรไหมว่าการฆ่าน่ะมันเป็นเรื่องง่ายแต่เราไม่สามารถทำอะไรอย่างโจ่งแจ้งได้..ตอนนี้สิ่งต่างๆ มันมีความละเอียดอ่อนมากกับรัฐบาลจีน..ถึงเวลานั้นเราอาจจะถูกรัฐบาลกำจัดเพราะแข็งแกร่งเกินไปก็ได้..ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือการสุ่มเงียบและสร้างความประทับใจที่ดีต่อประเทศจีนและเรายังสามารถพัฒนาความแข็งแกร่งของเราเองได้..แต่ก็นะเรื่องนี้มันอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเพราะงั้นทำไมเราถึงต้องทำเองล่ะ”
ชิงเฟิงเบะปากแล้วพูดว่า “แล้วบอสจะทำอะไร..ตอนนี้การกำจัดเหล่ยเจียงด้วยวิธีทางการมันไม่ง่ายเลย”
“แน่นอนฉันรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายไม่งั้นฉันคงไม่ต้องมานั่งคิดแบบนี้หรอก” เย่เชียนพูด “ชิงเฟิงนายมีแผนอะไรดีๆ บ้างไหม? ..นายมักจะมีความคิดดีๆหนิ? ”
“อันที่จริงผมก็มีความคิดดีๆ อยู่แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า” ชิงเฟิงพูด
“ไหนลองบอกมาสิว่านายมีความคิดอะไร” เย่เชียนถามอย่างไม่อดทนเพราะเย่เชียนรู้ดีว่าแม้บางครั้งชิงเฟิงอาจดูเหมือนคนงี่เง่าแต่ในความเป็นจริงเด็กคนนี้มีความคิดที่น่ากลัวและเล่ห์เหลี่ยมมากมายและมันมักจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดเสมอ
ชิงเฟิงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “บอสดูเหมือนบอสจะลืมไปแล้วนะว่าเรามีอาวุธวิเศษของเขี้ยวหมาป่าอยู่และตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่จะให้พวกเขาออกมาทำสิ่งต่างๆ ..ผมบอกได้เลยว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด”
“หืม? ..อาวุธอะไร?” เย่เชียนถามอย่างงุนงง ซึ่งเย่เชียนรู้สึกประหลาดใจไปกับคำพูดของชิงเฟิงและเขาก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่
.
.
.
.
.
.
.