ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 577 มวยจีนปะทะคาราเต้
ตอนที่ 577 มวยจีนปะทะคาราเต้
ไม่เพียงแค่โยชิดะเท่านั้นเพราะแม้แต่เย่เชียนและชิงเฟิงเองก็รู้สึกตกใจกับการกระทำของหมาป่าผีไป๋ฮวยเช่นกัน ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะคิดเรื่องการกำจัดครอบครัวเหรินมานานแล้วก็ตามแต่เขาก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมากกับพฤติกรรมและการกระทำของหมาป่าผีไป๋ฮวย ซึ่งสำหรับหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นการฆ่าก็เป็นเรื่องที่คุ้นเคยและเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วและโดยธรรมชาติแล้วจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเขาและในสายตาของเขาการฆ่าใครสักคนไม่ใช่เรื่องใหญ่และมันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลเลย แต่ทุกๆ ครั้งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยฆ่าใครบางคนมันก็ล้วนมีเหตุผลที่ดีแต่คำพูดของเขานั้นราวกับว่าจะทำให้ตัวเองไร้มนุษยธรรม
“พวกแกเป็นใคร” โยชิดะถึงกับตกตะลึงและถามอย่างระมัดระวังและถึงแม้ว่าเขาจะใส่แค่กางเกงในและมันก็น่าอับอายอย่างมากก็ตามแต่ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะหันไปใส่เสื้อผ้าเพราะถ้าอีกฝ่ายอยากจะจัดการเขาอีกฝ่านก็สามารถใช้โอกาสนี้ได้อย่างง่ายดาย
“แกมันไร้มนุษยธรรม..ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าทำไมนายต้องทำแบบนี้” ชิงเฟิงตะคอกอย่างเย็นชา
“แต่พวกแกเป็นคนฆ่าเธอ..ฉันไม่ได้คิดที่จะทำแบบนั้น..ลองคิดดูว่าใครไร้มนุษยธรรมมากกว่ากัน” โยชิดะพูด
“โยชิดะโยโตะแชมป์คาราเต้สามสมัยของประเทศญี่ปุ่นที่ฝึกวิชานินจาอย่างเคร่งครัดในตระกูลอิงะอันยิ่งใหญ่..แกเคยเป็นคนที่น่าเคารพแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแกจะไร้มนุษยธรรม..ฉันมาฆ่าและฉันก็ไม่อยากจะทำให้มือฉันสกปรก” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ ซึ่งน้ำเสียงของเขาไม่มีความโกรธหรือดูถูกเหยียดหยามเลยแม้แต่น้อยและถึงจะมีความหมายเช่นนั้นแต่น้ำเสียงของเขาก็ดูเรียบง่าย
โยชิดะก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเพราะปรากฏว่าอีกฝ่ายตรวจสอบรายละเอียดของตัวเองมาอย่างชัดเจนและดูเหมือนว่าเขาจะมาหาตัวเองเป็นพิเศษ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้โยชิดะก็อดไม่ได้ที่จะระมัดระวังมากกว่าเดิมเพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นใครแต่อีกฝ่ายกลับรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองและดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะเป็นศัตรูที่ยากจะรับมือ ยิ่งไปกว่านั้นโยชิดะยังเป็นผู้มีความสามารถดังนั้นเขาจึงสัมผัสได้ถึงออร่าอันทรงพลังที่หลั่งออกมาจากคนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้าเขาและเขาก็มั่นใจว่าถ้าทั้งสามโจมตีเขาพร้อมๆ กันล่ะก็เขาจะไม่มีโอกาสแม้แต่หลบหนีเลยด้วยซ้ำ
ซึ่งดูเหมือนว่าคนทั้งสามจะประเมินตัวเขาสูงอย่างมากและยกย่องเขามากเกินไปใช่หรือไม่ที่ถึงกลับต้องมีนักสู้สามคนมารับมือกับเขา?
“จริงเหรอ? ” ชิงเฟิงพูดอย่างตื่นเต้น “ก็ใช่ไงถ้าพวกเราไม่มาที่นี่แกคงทำไปแล้ว”
“แต่ก็นะมือของฉันเปื้อนเลือดไปแล้วและฉันก็ไม่รู้เลยว่าฉันฆ่าพวกขยะไปแล้วตั้งกี่คนเพราะงั้นฉันก็ไม่สนใจว่าฉันจะต้องฆ่าอีกกี่ครั้ง” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ
“ก็ไม่รู้สินะ” ชิงเฟิงกลอกตาไปมาและพูด
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็มองไปที่โยชิดะและพูดว่า “ฉันจะให้โอกาสแกแต่งตัวก่อน..แล้วถ้าแกสามารถหนีออกจากห้องนี้ไปได้ฉันจะปล่อยแกไปและก็ไม่ต้องกังวลเพราะสองคนนั้นจะไม่เข้ามายุ่ง”
โยชิดะมองไปที่หมาป่าผีไป๋ฮวยและไม่เชื่อว่าพวกเขาจะทำอย่างที่พูด อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าถ้าอีกฝ่ายโกหกตัวเองและลงมือกับตนในขณะที่ตนสวมเสื้อผ้าล่ะ? เห็นได้ชัดว่าทักษะของคู่ต่อสู้นั้นจะไม่ธรรมดาแล้วถ้าหากพวกเขาเริ่มโจมตีล่ะก็ตนจะเสียเปรียบทันที
ในความเป็นจริงหมาป่าผีไป๋ฮวยไม่ได้วางแผนที่จะโจมตีโยชิดะตอนเขาเผลอเพราะถ้าเป็นเช่นนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็สามารถโจมตีทันทีที่เข้าประตูมาแล้วและทำไมถึงต้องรอจนถึงตอนนี้ด้วยล่ะ?
“พวกแกเป็นใคร! ” โยชิดะพูด ซึ่งความคิดของเขาคือเขาต้องหนีออกไปจากที่นี่แล้วรอโอกาสที่จะตอบโต้
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็เฝ้าระวังโยชิดะเอาไว้แล้วและเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าโยชิดะคิดอะไรอยู่ หลังจากนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ยิ้มจางๆ แล้วพูดว่า “ฉันรู้แผนของแกดี..แต่ฉันขอบอกเอาไว้ก่อนนะว่าวันนี้แกจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่และนี่ก็เป็นทางเลือกที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของแกและนั่นคือแกไม่ควรมาที่ประเทศจีน! ..มันน่าเสียดายที่แกจะไม่มีโอกาสได้กลับไปเพราะงั้นเพื่อเห็นแกวิญญาณของแกฉันจะบอกแกว่าแซ่สกุลของฉันคือไป๋..และชื่อของฉันคือไป๋ฮวยและทุกคนต่างก็เรียกฉันว่าหมาป่าผี! ”
“หมาป่าผี! ..แกคือทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่างั้นเหรอ? ” โยชิดะพูดด้วยความสั่นเทาเพราะเขารับใช้สมาคมมังกรดำมาเป็นเวลานานดังนั้นเขาจึงรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับองค์กรหทารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าโดยปริยาย อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่รู้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นได้ถอนตัวออกไปจากเขี้ยวมาป่าตั้งนานแล้ว
“ฉันออกจากเขี้ยวหมาป่าแล้ว..เพราะงั้นฉันไม่ได้เขี้ยวหมาป่าอีกต่อไป..แต่ฉันชอบชื่อหมาป่าผีมาก” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ และหลังจากหยุดไปชั่วขณะเขาก็พูดต่อ “เอาเถอะเรื่องไร้สาระจบมันแล้ว..รีบแต่งตัวซะ! ”
“มันไม่จำเป็น! ..แต่แกก็จำสิ่งที่แกพูดเอาไว้ให้ได้ก็แล้วกัน” โยชิดะพูดอย่างร้อนรนและระวังตัวอย่างมาก
เย่เชียนก็หัวเราะอย่างเย้ยหยันและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปเพราะเขาก็บอกไปแล้วหนิว่าพวกเราจะไม่เขาไปแทรกแซง..เพราะคนจีนไม่น่าสมเพชเหมือนชาวญี่ปุ่นแบบคุณ”
“ใช่ๆ ..คุณดูท่าทางที่น่าสมเพชของแกสิ..ช่างทุเรศสิ้นดี! ” ชิงเฟิงพูดอย่างเห็นด้วย
“ก็ฉันให้โอกาสแกแต่งตัวแล้ว..แต่แกไม่ต้องการเองเพราะงั้นก็อย่ามาโทษฉันที่ไม่ให้โอกาสก็แล้วกัน” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ และทันทีที่เสียงพูดจบลงหมาป่าผีไป๋ฮวยก็พุ่งออกไปเหมือนลูกศรจากคันธนูพร้อมกับหมัดและเขาก็เคลื่อนไหวเหมือนกระต่ายราวกับการพลังบางอย่างได้ถูกสร้างขึ้นไปทั่วร่างกายและมีพลังอยู่ที่หมัด
หมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้กับหลินจินไท่และความสามารถของเขาและทักษะของเขาก็ดีกว่าเย่เชียนมาก ซึ่งหมัดปาจี๋นี้ที่ถูกใช้โดยหมาป่าผีไป๋ฮวยมันมีอนุภาคมากกว่าของเย่เชียนอย่างมาก
ซึ่งคาราเต้เองก็เป็นทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกับมวยปาจี๋ แต่ทักษะการต่อสู้ประเภทไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน?
เห็นได้ชัดว่าโยชิดะนั้นถึงกับผงะไปกับการเคลื่อนไหวของหมาป่าผีไป๋ฮวยเพราะมันรวดเร็วมากจนเขาไม่มีเวลาตอบสนองและตอบโต้ใดๆ ซึ่งในเวลานั้นโยชิดะก็พยายามรีบออกหมัดเพื่อตอบโต้กลับ
กำปั้นของหมาป่าผีไป๋ฮวยและกำปั้นของโยชิดะนั้นกระแทกเข้าด้วยกันจนมีเสียง “ปัง” ด้วยการที่มวยปาจี๋ของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นมาถึงจุดที่บรรลุแล้วดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งของทั้งร่างกายโยชิดะจะต้านทานได้อย่างไร ซึ่งโยชิดะก็ถูกแรงกระแทกซัดถอยหลังไปหลายก้าวทันทีและแขนทั้งสองข้างของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นอย่างมาก
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้เย่เชียนก็ผงะเล็กน้อยเพราะมวยปาจี๋นี้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีพลังที่ทรงพลังเช่นนี้ ดังนั้นเย่เชียนก็เริ่มนึกถึงศิลปะการต่อสู้โบราณและเขาก็รู้สึกได้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยเองดูเหมือนจะฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณเช่นกัน ซึ่งในตอนนี้เย่เชียนก็สามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนถึงพลังที่มีอยู่ในการโจมตีของหมาป่าผีไป๋ฮวย
เย่เชียนนั้นไรู้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยได้รับวิธีการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณมาจากไหนแต่เขาก็ยังรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยเพราะหมาป่าผีไป๋ฮวยที่แข็งแกร่งขนาดนี้เขาจะไม่รู้สึกกดดันมากเกินไปเมื่อทั้งสองต่อสู้กันในอนาคต เพราะลึกๆ เล่นเย่เชียนนั้นไม่ต้องการให้หมาป่าผีไป๋ฮวยตายด้วยน้ำมือของเขาเองแต่ถึงยังไงเขาก็รู้ชัดเจนว่าวันนั้นมันคงหลีกเลี่ยงไม่ได้
โยชิดะนั้นก็ประหลาดใจอย่างมากเพราะเมื่อเขาต่อสู้กับหมาป่าผีไป๋ฮวยเขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงแรงอันมหาศาลที่มาจากหมัดของหมาป่าผีไป๋ฮวยและที่สำคัญดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกได้ถึงพลังบางอย่างที่ไหลออกมาจากมือของหมาป่าผีไป๋ฮวยที่พุ่งเข้าไปในแขนของเขาทำให้แขนของเขาชาและอ่อนแรงลง ซึ่งตัวเขาที่ได้รับการฝึกวิชานินจามาอย่างเข้มงวดในตระกูลอิงะอันสูงส่งและได้สัมผัสกับการใช้พลังแฝงมาโดยตลอดและเขาก็รู้จักกังฟูและศิลปะการต่อสู้ที่แพร่กระจายในประเทศจีนเป็นอย่างดีแต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาจะมีพลังมากถึงขนาดนี้
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้โยชิดะก็อดไม่ได้ที่จะกระตือรือร้นและรีบระงับอารมณ์และสติของเขาให้คงที่ เพราะเขารู้ดีว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้อย่างหมาป่าผีไป๋ฮวยเขาก็คิดแล้วว่ามันจะต้องเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะออกไปจากห้องนี้ เว้นแต่เขาจะเอาชนะอีกฝ่ายได้และฆ่าอีกฝ่ายเท่านั้น
“หมาป่าผีไป๋ฮวยเหรอ..ช่างสมคำร่ำลือจริงๆ” โยชิดะพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ..ฉันจะไม่เมตตาแก” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ และเมื่อคำพูดจบลงหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง และคราวนี้หมาป่าผีไป๋ฮวยก็หมุนตัวเตะไปที่คอของโยชิดะอย่างรวดเร็ว
เย่เชียนและชิงเฟิงก็ยืนอยู่ที่ทางเข้าอย่างเฉยเมยและไม่คิดที่จะเข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด ซึ่งจากการปะทะก่อนหน้านี้เห็นได้ชัดว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นเก่งกว่าโยชิดะและยิ่งไปกว่านั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็มีประสบการณ์การต่อสู้มากกว่าโยชิดะ ดังนั้นเย่เชียนและชิงเฟิงจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเลย
เมื่อเวลาผ่านไปการโจมตีของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นไม่ได้ช้าลงเลยแต่มันยังทวีความรุนแรงมากขึ้นจนโยชิดะแทบจะสามารถต้านทานมันได้และร่างกายของเขาก็หมดเรี่ยวแรงไปทีละน้อย ซึ่งในความเป็นจริงทักษะการต่อสู้ของโยชิดะนั้นไม่ได้เลวร้ายเลยแต่เนื่องจากเขาใช้ชีวิตที่สะดวกสบายมากเกินไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจึงทำให้ทักษะการต่อสู้ของเขาลดลงจากเมื่อก่อนมาก
ด้วยเสียง “ปัง” หมัดของหมาป่าผีไป๋ฮวยก็กระแทกเข้าไปที่หน้าอกของโยชิดะอย่างรุนแรงเพียงได้ยินเสียง “กรึก” ของกระดูกที่แตกหักและโยชิดะก็กระเด็นออกไปและกระแทกเข้ากับตู้เสื้อผ้าจากนั้นก็ล้มลงไปที่พื้นอย่างแรง
“เฮือก” โยชิดะก็สำลักเลือดออกมาเต็มปากและใบหน้าของเขาซีดลงในทันทีเพราะกระดูกซี่โครงหักหลายซี่และโยชิดะก็สูญเสียกำลังในการต่อสู้ไปหมดแล้ว ซึ่งการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้กระดูกซี่โครงแทงทะลุอวัยวะภายในได้ควบคู่ไปกับการที่หมัดของหมาป่าผีไป๋ฮวยกระแทกเข้าที่ปอดของโยชิดะอย่างรุนแรงจึงทำให้เขารู้สึกหายใจไม่ออก
.
.
.
.
.
.
.
.