ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 578 ดื่มเลือด
ตอนที่ 578 ดื่มเลือด
เย่เชียนนั้นก็คาดหวังผลลัพธ์เช่นนี้มานานแล้วถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ต่อสู้กับโยชิดะเป็นการส่วนตัวก็ตามแต่เย่เชียนก็รู้เรื่องข้อมูลของเขาเป็นอย่างดีและรู้ว่าโยชิดะนั้นเป็นปรมาจารย์จึงไม่น่าจะจัดการได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้คาดหวังว่าโยชิดะจะอ่อนแอไม่สมกับข่าวลือหรือว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองได้เผชิญหน้ากันเย่เชียนก็ได้เห็นจุดจบของโยชิดะอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงยืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบและไม่คิดที่จะเข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด
สิ่งที่เย่เชียนไม่คาดคิดก็คือศิลปะการต่อสู้ที่หมาป่าผีไป๋ฮวยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในตอนนี้รวมถึงการใช้ความแข็งแกร่งของศิลปะการต่อสู้โบราณซึ่งหมายความว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณอยู่ ด้วยตัวละครของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นหากเขาต้องการทำลายเขี้ยวหมาป่าเพื่อแก้แค้นจริงๆ ละก็ทำไมถึงต้องกังวลกับการเปิดเผยทักษะที่แท้จริงของเขาและศิลปะการต่อสู้โบราณต่อหน้าเย่เชียนด้วย?
ดังนั้นเย่เชียนจึงคิดว่าสาเหตุที่หมาป่าผีไป๋ฮวยฆ่าพ่อบ้านของเหล่ยเจียงและผู้บริหารในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็เพื่อช่วยเย่เชียนจัดการอุปสรรคต่างๆ และในครั้งนี้เย่เชียนก็รู้สึกว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจงใจที่จะสื่อข้อความถึงตัวเองว่าเขากำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณอยู่ ไม่เช่นนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยคงไม่ปรากฏตัวออกมาในตอนนี้เพื่อต่อสู้กับโยชิดะต่อหน้าเย่เชียน
อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่สบอารมณ์และความคิดของเขาก็ยุ่งเหยิงมากขึ้นและเขาก็หวังว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะจัดการกับเขี้ยวหมาป่าและตัวเขาเอง ดังนั้นเมื่อเห็นว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยมีความสามารถเช่นนี้เย่เชียนจึงสามารถต่อสู้กับหมาป่าผีไป๋ฮวยได้อย่างสมศักดิ์ศรี อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้ต้องการเห็นผลลัพธ์เช่นนี้
โยชิดะก็ลุกขึ้นและพิงตู้เสื้อผ้าแล้วเช็ดคราบเลือดที่มุมปากออก ซึ่งการที่เขาเป็นแชมป์คาราเต้ผู้สง่าผ่าเผยแห่งประเทศญี่ปุ่นถึงสามสมัยติดต่อกันและเขาได้รับการฝึกวิชานินจามาอย่างเคร่งครัดแต่เขากลับไม่สามารถเอาชนะทหารรับจ้างได้? เขาไม่อยากจะเชื่อและไม่อยากจะคิดแต่ความจริงก็คือความจริงและความจริงก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้สึกสูญเสียอย่างมากที่เขาก้าวเข้ามาเหยียบประเทศจีนและเสียใจที่รับงานนี้มา ไม่งั้นเขาก็คงกำลังมีความสุขในประเทศญี่ปุ่นแต่ตอนนี้เขากลับต้องมาเผชิญกับความตายและรู้ทั้งรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เขารอดชีวิตไป
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็เดินไปหาโยชิดะอย่างช้าๆ พร้อมกับพูดเบาๆ ว่า “แชมป์คาราเต้เหรอ..ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าขยะ..ฉันล่ะผิดหวังจริงๆ”
มุมปากของโยชิดะก็กระตุกตลอดเวลาเพราะเขาไม่เคยถูกเย้ยหยันแบบนี้มาก่อนแต่ตอนนี้ความจริงก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้วและเขาไม่สามารถอดทนได้กับสิ่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดจริงๆ แต่เขาก็พ่ายแพ้อย่างน่าสังเวช แน่นอนว่าเขาต้องการที่จะตอบโต้แต่ตอนนี้เขาขยับไม่ได้เลยเพราะซี่โครงหักและมันอาจจะทิ่มไปแทงอวัยวะภายในและถ้าหากเป็นเช่นนั้นแม้แต่เทพเจ้าก็ไม่สามารถช่วยเขาได้
“หึๆ ..โทษทีนะเพราะวันนี้แกจะไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ และหลังจากพูดจบหมาป่าผีไป๋ฮวยก็กระทืบข้อเท้าของโยชิดะอย่างรุนแรงจนโยชิดะส่งเสียงกรีดร้องเหมือนหมูและเขาก็หมดสติไป
ดังที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเอาไว้ว่าเขามีกฎของตัวเองและโยชิดะก็ได้ละเมิดกฎของเขาดังนั้นโยชิดะก็ควรจะถูกลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นนักฆ่าหรือทหารรับจ้างหรือนักเลงธรรมดาต่างก็ต้องมีสิ่งหนึ่งที่ควรงดเว้นและนั่นก็คือเรื่องศีลธรรมกับผู้หญิง ดังนั้นการฆ่าก็แค่ต้องฆ่าและไม่มีอะไรมากไปกว่าฆ่าแต่โยชิดะกลับคิดที่จะทำสิ่งที่ชั่วร้าย
หลังจากนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ชักดาบปีศาจมุรามาสะออกจากเอวของเขาและค่อยๆ เฉือนลงไปที่คอของโยชิดะทันทีแต่มันไม่เพียงพอที่จะทำให้คอของโยชิดะนั้นขาดแต่มันเพียงพอที่จะทำให้เลือดของโยชิดะไหลออกมาเพื่อให้ และตายเพียงเพื่อให้ดาบมุรามาสะดื่มเลือด อย่างไรก็ตามในขณะที่หมาป่าผีชักดาบปีศาจมุรามาสะออกมาเย่เชียนก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีดคลื่นโลหิตหมาป่าของเขาดูเหมือนมีบางอย่างกระตุ้นมันและมีแสงสีแดงเริ่มสว่างขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อผ่านทะลุเสื้อผ้าของเย่เชียนออกมาอย่างปริศนา
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เย่เชียนพบกับสถานการณ์เช่นนี้ ซึ่งนี่เป็นคำเตือนจากมีดคลื่นโลหิตเพราะมันสัมผัสได้ถึงอันตรายและดาบปีศาจมุรามาสะเองก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวของมีดคลื่นโลหิตเช่นกันจนแสงที่คมดาบของมันเริ่มส่องแสงสว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติเพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ดาบมุรามาสะดื่มเลือดมันก็จะมีปรากฏการณ์เช่นนี้และคราวนี้เขาก็คิดว่ามันเป็นเหมือนทุกครั้ง
ทุกอย่างต่างก็มีจิตวิญญาณและอาวุธเหล่านี้ที่ทำจากวัสดุพิเศษในตำนานดูเหมือนว่าพวกมันจะมีจิตวิญญาณอย่างแรงกล้า อาจเป็นได้ว่าทั้งมีดคลื่นโลหิตหมาป่าและดาบปีศาจมุรามาสะต่างก็รู้สึกได้ว่าในตอนนี้มันไม่มีภัยคุกคามใดๆ ดังนั้นแสงจึงค่อยๆ จางหายไป ทันใดนั้นเย่เชียนก็มีความคิดแปลกๆ ในเวลานี้และนั่นก็คือถ้าดาบปีศาจมุรามาสะกับมีดคลื่นโลหิตหมาป่าเผชิญหน้ากันล่ะก็เย่เชียนก็ไม่รู้ว่าเลยอะไรจะแข็งแกร่งกว่ากัน อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการคิดเท่านั้นเพราะเย่เชียนไม่คิดที่จะทำเช่นนี่นจริงๆ แต่ถ้าหากดาบปีศาจมุรามาสะเล่มนี้อยู่ในมือของหมาป่าผีไป๋ฮวยล่ะก็ไม่ช้าก็เร็วมันจะมีวันนั้น
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็เช็ดคราบเลือดจากดาบปีศาจมุรามาสะและเก็บเข้าฝักดาบจากนั้นก็เตะโยชิดะเบาๆ เพื่อปลุกเขา หลังจากที่โยชิดะตื่นขึ้นมาร่างกายส่วนล่างของเขาก็ยังคงเจ็บปวดและใบหน้าของโยชิดะก็บิดเบี้ยวและหยาดเหงื่อก็ไหลลงมาที่หน้าผากของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อเห็นเช่นนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “เป็นยังไงบ้าง? ”
“ถ้าแกจะฆ่าก็ฆ่าซะรออะไรอยู่! ” โยชิดะพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“ฉันแค่จะใช้วิธีที่จะจัดการกับคนอย่างแก..แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะถึงยังไงฉันก็จะฆ่าแกอยู่ดี” หมาป่าผีไป๋ฮวยกฌฉีกยิ้มและเดินไปกระชากหัวของโยชิดะขึ้นมาและมัดมือของโยชิดะด้วยเชือกและแขวนเขาเอาไว้
“ฉันจะให้ของขวัญแก” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นยะเยือกและหลังจากพูดจบหมาป่าผีไป๋ฮวยหยิบกระบอกไม้ไผ่ออกมาจากเสื้อคลุมของเขาและเขย่ามันเบาๆ ซึ่งปลายกนะบอกไม้ไผ่ด้านหนึ่งถูกตัดออกไปและดูเหมือนว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะเตรียมเอาไว้ก่อนที่เขาจะมาที่นี่
เย่เชียนเห็นหมาป่าผีไป๋ฮวยหยิบกระบอกไม้ไผ่ออกมาเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและแน่นอนว่าเขารู้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยกำลังจะทำอะไรแต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหมาป่าผีไป๋ฮวยถึงได้เตรียมกระบอกไม้ไผ่อันนั้นเอาไว้ก่อนที่หมาป่าผีไป๋ฮวยจะมา ดูเหมือนว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยไม่เพียงแค่จะบอกตนว่าเขากำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณแต่ยังดูเหมือนว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะเกลียดแก๊งยามากุจิมากกว่าตนด้วย
อันที่จริงนี่เป็นสิ่งที่เย่เชียนไม่รู้เพราะหลังจากที่หมาป่าผีไป๋ฮวยออกจากเขี้ยวหมาป่าหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ถูกไล่ล่าโดยแก๊งยามากุจิและถึงแม้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะหลบหนีไปด้วยทักษะและสติปัญญาที่ยอดเยี่ยมของเขาได้ทุกครั้งแต่เขาก็เหนื่อยล้าอย่างมาก ดังนั้นการที่หมาป่าผีไป๋ฮวยจะเกลียดแก๊งยามากุจิจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
เนื่องจากแก๊งยามากุจิรู้ดีกว่าพลังของเขี้ยวหมาป่านั้นเป็นอย่างไรเพราะครั้งหนึ่งเย่เชียนกับหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นได้ฆ่าหัวหน้าแก๊งและผู้นำของพวกเขาในครั้งนั้นจนพวกเขาไร้ผู้นำและไม่กล้าที่จะไปยังตะวันออกกลางเพื่อบุกโจมตีเขี้ยวหมาป่า ซึ่งครั้งนั้นเป็นภารกิจร่วมมือระหว่างเย่เชียนและหมาป่าผีไป่ฮวยและองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่ได้บุกเข้าไปในเขตของแก๊งยามากุจิและไปที่บ้านของหัวหน้าแก๊งยามากุจิและได้ทำการฆ่าหัวหน้าแก๊งและล้างบางสมาชิกระดับสูง 50 คนของแก๊งยามากุจิ ดังนั้นพวกเขาจึงเคียดแค้นอย่างมากและต่อมาในที่สุดหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ได้ออกจากองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า ดังนั้นแก๊งยามากุจิจึงไม่กังวลที่จะไล่ล่าหมาป่าผีไป๋ฮวยที่อยู่เพียงลำพัง
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็ฉีกยิ้มด้วยความเย้ยหยันและหยิบกระบอกไม้ไผ่ขึ้นมาแล้วแทงเข้าไปที่ต้นขาของโยชิดะและในทันใดนั้นโยชิดะก็ส่งเสียงกรีดร้องและร่างกายของเขาก็สั่นสะท้านและเหงื่อที่หน้าผากของเขาก็ตกลงมาราวกับสายฝน ซึ่งนี่เป็นวิธีการฆ่าคนที่ชื่นชอบของหมาป่าผีไป๋ฮวยและเขาก็ชอบมองดูเลือดไหลนองออกจากร่างกายทีละนิดและรอดูความตายที่คืบคลานเข้ามาใกล้ทีละนิด
โยชิดะเองก็เฝ้าดูเลือดของเขาที่ไหลออกมาจากร่างกายของเขาที่ไหลออกมาจากกระบอกไม้ไผ่ทีละนิดราวกับว่าเขารู้สึกว่าชีวิตของเขากำลังหมดไปอย่างช้าๆ และความหวาดกลัวและความสิ้นหวังก็กัดกินจิตใจของเขา “ฆ่าฉันซะ! ..ถ้าแกเป็นลูกผู้ชายพอก็ฆ่าเลยสิวะ! ” โยชิดะตะโกนอย่างลุกลี้ลุกลน
หมาป่าผีไป๋ฮวยชำเลืองมองเขาด้วยความดูถูกเหยียดหยามและพูดอย่างเลือดเย็นว่า “มันไม่สำคัญหรอกว่าแกจะคิดยังไง..แต่แกจะได้เห็นความตายของตัวเองอย่างช้าๆ ” หลังจากพูดจบหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ไม่ได้มองเขาอีกเลยและเดินจากไปในทันที
เย่เชียนและชิงเฟิงก็มองหน้ากันและยักไหล่เล็กน้อยและเดินตามออกไป ส่วนโยชิดะนั้นแน่นอนว่าเขาไม่สามารถหนีออกไปได้เลยและสิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือการดูเลือดของเขาที่ไหลออกมาทีละน้อยจากนั้นก็หมดสติไปจนกระทั่งเขาตาย
หลังจากออกจากบ้านของเหรินชุนไป่แล้วหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดเบาๆ ว่า “ฉันรู้ว่านายต้องการจะพูดอะไร..เพราะงั้นก็อย่าถาม..เพราะฉันจะไม่ตอบนาย”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เพราะแท้ที่จริงแล้วเขาก็แค่อยากถามหมาป่าผีไป๋ฮวยว่าเขาฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณหรือเปล่า อย่างไรก็ตามคำพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นได้ตัดบทเย่เชียนโดยตรงและทำให้เย่เชียนไม่สามารถถามอะไรได้อีก ดังนั้นเย่เชียนจึงถามเปลี่ยนเรื่องว่า “แล้วพี่จะไปที่ไหนต่อ?”
“ฉันจะไปที่ไหนมันก็เรื่องของฉัน” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ หลังจากหยุดไปชั่วขณะหมาป่าผีไป๋ฮวยก็มองไปที่เย่เชียนขึ้นและลงจากหัวจรดเท้าอีกครั้งและพูดว่า “นายน่ะทำตัวสบายใจเฉิบมากเกินไป..ดูเหมือนว่านายจะอ่อนแอลงนะ..ฉันหวังว่าเมื่อเราได้เผชิญหน้ากันในครั้งต่อไปนายจะเก่งกว่านี้นะ..ที่นายเป็นอยู่ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย”
.
.
.
.
.
.
.
.