ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 579 จับกุมกลางทะเล
ตอนที่ 579 จับกุมกลางทะเล
เมื่อได้ยินสิ่งที่หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเห็นได้ชัดว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณอยู่ ซึ่งเย่เชียนก็ถอนหายใจอย่างลับๆ เพราะเมื่อเย่เชียนไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับหลินจินไท่นั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยเองก็ไปฝึกฝนด้วยเช่นกันและตอนนี้หมาป่าผีไป๋ฮวยก็กำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณด้วยตัวเอง ดังนั้นเย่เชียนจึงคิดว่าถ้าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นได้เป็นผู้นำของเขี้ยวหมาป่าล่ะก็เขาจะทำให้การพัฒนาของเขี้ยวหมาป่าเป็นไปอย่างรุ่งโรจน์อย่างแน่นอน
“ไป๋ฮวย..” เย่เชียนหยุดและพูดแต่ก่อนที่เขาจะได้พูดเขาก็ถูกขัดจังหวะโดยหมาป่าผีไป๋ฮวย “อย่าพูดอะไรเลย..นายควรยอมรับในสิ่งที่นายทำสำหรับความจริงที่ว่าการที่เขี้ยวหมาป่าสามารถมีทุกวันนี้ได้นั้นเป็นเพราะนายเป็นผู้นำที่ยอดเยี่ยมและไม่มีใครในเขี้ยวหมาป่าที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำได้มากกว่านายแล้ว..ฉันไม่รู้เลยว่าเขี้ยวหมาป่าจะพัฒนาไปแบบไหนและไม่สามารถทำได้ดีไปกว่านาย” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดเบาๆ ซึ่งคำพูดนั้นจริงใจมากแต่หมาป่าผีไป๋ฮวยมักจะใช้น้ำเสียงแบบเฉยเมย
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างหมดหนทางและไม่พูดอะไรใดๆ อีกเพราะเขารู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะพูด นั่นก็เพราะว่าความตั้งใจของหมาป่าผีไป๋ฮวยไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนอื่นจะเปลี่ยนเขาเว้นแต่เขาจะเปลี่ยนสิ่งที่เขาตัดสินใจเองดังนั้นจึงไม่มีใครเปลี่ยนใจเขาได้ ไม่ว่าเขาจะแน่วแน่หรือหยิ่งยโสถึงยังไงเขาก็เป็นคนแบบนี้เสมอมา
“จำคำพูดของฉันเอาไว้ว่าพวกเราทุกคนล้วนเป็นเด็กกำพร้า..เพราะงั้นอย่าได้คาดหวังว่าจะมีครอบครัวเหมือนคนอื่นๆ เขา” หมาป่าผีไป๋ฮวยเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดอย่างแผ่วเบา หลังจากพูดจบเขาก็ไม่สนใจเย่เชียนและหันหน้าหนีไป ซึ่งหลังจากนั้นร่างของเขาก็หายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
“นี่..ไปหาอะไรกินด้วยกันก่อนไหม” ชิงเฟิงตะโกน
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็ไม่ได้หันกลับมาและหยุดเดินแต่อย่างใดและไม่ได้สนใจชิงเฟิงอีกต่อไป เมื่อเห็นเช่นนั้นชิงเฟิงก็พูดว่า “เขามีนิสัยที่แปลกจริงๆ ผมไม่รู้เลยว่าใครจะทนอยู่กับเขาได้” จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “บอสผมมีวิธีเปลี่ยนนิสัยของหมาป่าผีไป๋ฮวยได้”
“วิธีอะไร? ” เย่เชียนถามด้วยความประหลาดใจ “ชิงเฟิงถ้านายมีวิธีที่จะพาหมาป่าผีไป๋ฮวยกลับเขี้ยวหมาป่าได้จริงๆ ล่ะก็..ฉันคงเป็นหนี้นายมาก”
“มีอยู่วิธีนึงแต่มันค่อนข้างยากที่จะทำเพราะกุญแจสำคัญคืออารมณ์ที่ไม่แน่นอนของเขา..แต่มันก็มีอยู่ไม่กี่คนที่สามารถทนเขาได้” ชิงเฟิงฉีกยิ้มและพูด
“พูดมาเร็วๆ สิ..ไหนลองว่ามา” เย่เชียนกระตือรือร้นอย่างมากและเมื่อเห็นชิงเฟิงทำให้สงสัยแบบนี้เย่เชียนก็อยากจะเตะเขาเลยตอนนี้
“พระเอกมักจะตายเพราะนางเอก” ชิงเฟิงยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “บอสรู้ไหมว่าผมหมายถึงอะไร”
“นี่นายกำลังพูดถึงการใช้ผู้หญิงมาหลอกล่อไป๋ฮวยเหรอ?” เย่เชียนถามด้วยความประหลาดใจ “ถึงวิธีนี้จะไม่ใช่วิธีที่ดีแต่ที่สำคัญที่สุดคือเราจะหาผู้หญิงแบบนั้นได้ที่ไหนและนอกจากนั้นผู้หญิงคนนั้นจะต้องชอบและหลงรักไป๋ฮวยจริงๆ ..เพราะผมไม่สามารถทำให้ผู้หญิงคนนั้นหลอกไป๋ฮวยได้เพราะไป๋ฮวยไม่ได้โง่..เพราะงั้นการที่เราจะหาผู้หญิงแบบนั้นมาให้ได้มันยากมาก”
“เพราะงั้นผมถึงบอกว่ามันยาก” ชิงเฟิงพูด “อันที่จริงสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือเราไม่สามารถหาที่อยู่ของไป๋ฮวย..ไม่งั้นเราก็สามารถจัดฉากให้เขาพบกับผู้หญิงคนนั้นและจากนั้น…รู้มั้ยผู้หญิงแบบนั้นน่ะหาได้ไม่ง่ายเลยเพราะถึงแม้ว่าจะมีการนัดบอดที่เป็นที่นิยมกันในทุกวันนี้ก็ตามแต่ผมก็ไม่คิดว่าผู้หญิงประเภทนี้จะเหมาะสมกับไป๋ฮวยเลย”
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “มันไม่คุ้มที่จะมาเสียเวลาคุยกันหรอก..ลืมมันไปเถอะเพราะเรื่องแบบนี้อยู่เหนือการควบคุมของเรา..เพราะงั้นปล่อยให้มันเกิดขึ้นตามโชคชะตา..แต่ถ้าหากมีผู้หญิงคนหนึ่งที่สามารถเดินเข้าไปได้จริงๆ ล่ะก็ชีวิตของไป๋ฮวยก็จะเปลี่ยนไป..เพราะงั้นเราไม่สามารถจัดฉากและเตรียมแผนโดยเจตนาได้”
ชิงเฟิงเบะปากแล้วพูดว่า “ก็บอกต้องการให้ผมพูดเอง”
“เรามีประชาธิปไตยที่ซึมซับจากเขี้ยวหมาป่ามาโดยตลอดเพราะงั้นฉันไม่สามารถที่จะเป็นเผด็จการได้..เพราะงั้นเมื่อกี้นี้ฉันไม่ได้ห้ามนายพูดใช่มั้ย? ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“โถ่บอส..ถ้าบอสห้ามผมมันก็เป็นการกดขี่ข่มเหงน่ะสิ” ชิงเฟิงกลอกตาของเขาไปมาและพูด
“เอาล่ะอย่าไร้สาระไปกันเถอะ..เรายังมีสิ่งที่ต้องทำอยู่” เย่เชียนตบไหล่ชิงเฟิงเบาๆ และเดินไปที่รถของเขา
หลังจากขึ้นรถแล้วเย่เชียนก็บอกชิงเฟิงให้ขับรถไปที่บ้านของฮัวซงเจี๋ย ซึ่งไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเหล่ยเจียงเพราะเย่เชียนได้รับโทรศัพท์จากหลี่เหว่ยเมื่อสองวันก่อนว่าทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดีเพราะเหล่ยเจียงต้องคุมสินค้าเพื่อนำกลับมายังประเทศจีนด้วยตัวเองและถึงแม้ว่าเหล่ยเจียงจะเดินทางออกไปในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่แต่เขาก็กลัวอย่างมากเพราะตราบใดที่เรือบรรทุกสินค้าของเขาแล่นเข้าสู่น่านน้ำของประเทศจีนทางรัฐบาลก็สามารถใช้กองทัพเรือหยุดเรือบรรทุกสินค้าได้ จากนั้นสินค้าที่ถูกลักลอบเข้ามาจะถูกนำไปรวมกันและจะไม่สามารถนำออกไปได้ ซึ่งสินค้าจำนวนมากเช่นนี้ที่ลักลอบเข้ามามันเพียงพอที่จะฆ่าเหล่ยเจียงได้หลายร้อยครั้งเลย
เมื่อรถขับผ่านไปได้ครึ่งทางโทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้นและเขาหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและปรากฏว่าคนที่โทรเข้ามาคือจื้อจุน ดังนั้นเย่เชียนจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเพราะดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวจะจบลงแล้ว ซึ่งหลังจากรับสายเย่เชียนก็ถามว่า “เป็นยังไงบ้าง? ”
จื้อจุนก็พยักหน้าและพูดว่า “เมื่อสองวันก่อนผมได้ติดต่อไปยังกองทัพเรือเพื่อแจ้งว่าจะมีเรือบรรทุกสินค้าผิดกฎหมายแล่นเข้ามาในน่านน้ำประเทศจีนและเรือบรรทุกสินค้าของเหล่ยจียงนั้นก็มาถึงน่านน้ำของจีนหลังจากนั้นกองทัพเรือก็ได้ทำการจับกุมได้สำเร็จ..ซึ่งครั้งนี้เขาไม่มีทางรอดออกไปได้เพราะผมได้ติดต่อผู้อำนวยการหวงฟู่แล้วเพราะงั้นเซียวหวันกับผมจะนำตัวเหล่ยเจียงกลับไปที่ปักกิ่งโดยตรงและสอบสวนเขาเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ”
ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนของเย่เชียนแต่เย่เชียนก็ยังคงกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเพราะตอนนี้ทุกอย่างสงบลงอย่างมากเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะโล่งใจอย่างลับๆ หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดว่า “ครับ..ช่วยทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จและฝากทักทายปู่ให้ผมด้วยนะ..ไปบอกเขาว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณผมและผมจะไปขอให้เขาตอบแทน”
“ได้ครับ” จื้อจุนพูด “ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือของคุณในครั้งนี้..ขอบคุณครับ! ”
“ครับ..ผมมีธุระที่ต้องทำ..เอาไว้เจอกัน! ” หลังจากพูดจบแล้วเย่เชียนก็วางสายโทรศัพท์ไป
ถ้าต้องการบอกว่าคนที่อยากเห็นผลลัพธ์นี้น้อยที่สุดนอกเหนือจากเหล่ยเจียงนั้นก็เป็นเซียวหวันเพราะเธอมีข้อตกลงการพนันกับจื้อจุนและปรากฏว่าตอนนี้เธอต้องช่วยจื้อจุนซักถุงเท้าเหม็นๆ ของจื้อจุนเป็นเวลาหนึ่งเดือน ที่สำคัญคือจื้อจุนดูวุ่นอย่างมากในช่วงนี้เขาจึงสะสมถุงเท้าเอาไว้หลายสิบคู่โดยไม่ได้ซักและถุงเท้าทุกคู่มันก็สกปรกอย่างมาก
ไม่ใช่ว่าเซียวหวันไม่เชื่อในตัวเย่เชียนแต่บางทีอาจเป็นอย่างที่จื้อจุนพูดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนดื้อรั้นเธอก็มีความรู้สึกที่ดีกับเย่เชียนแต่ทุกๆ ครั้งที่เธอเห็นเย่เชียนเธอก็อดไม่ได้ที่จะไม่สบอารมณ์ ซึ่งบางทีเธออาจต้องการให้เย่เชียนหันมาใส่ใจเธอในทางอื่น ดังนั้นอารมณ์ของสาวๆ มักจะเข้าใจยากอย่างยิ่ง
หลังจากวางสายแล้วชิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัยว่า “ใครโทรมาหรอ..ดูเหมือนบอสจะมีความสุขมาก..มันมีเหตุการณ์ที่น่ายินดีหรือเปล่า? ”
“จื้อจุนโทรมาว่าเหล่ยเจียงถูกจับกุมแล้ว” เย่เชียนพูด
“โถ่ผมคิดว่าจะมีอะไรซะอีก..เพราะตั้งแต่ที่ผมคิดแผนนี้ออกมามันก็ถึงวาระจุดจบของเหล่ยเจียงแล้ว..นอกจากนี้ครั้งนี้สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็ยังส่งกองทัพเรือออกไปด้วย..เพราะงั้นเหล่ยเจียงจะไม่มีทางหลบหนีไปได้..ผมว่านะผมคงจะมีความเป็นผู้นำอย่างมาก” ชิงเฟิงพูดอย่างมีความสุขอย่างมีชัย
เย่เชียนก็พูดว่า “ไปกันเถอะ..ไม่ต้องกังเวลไปฉันจะให้ความดีความชอบกับนายในครั้งนี้”
ชิงเฟิงก็หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “อันที่จริงผมก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากหรอก..เพราะแผนการในครั้งนี้เราไม่ได้เสียเงินไปกับมันเลย”
“ไอ้บ้านี่..ครั้งที่แล้วนายได้เงินจากหลัวป้อและฮัวซงเจี๋ยไปตั้งกี่ล้าน..อย่าบอกนะว่ามันหมดแล้ว?” เย่เชียนพูดด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
“นั่นคือเงินขององค์กรผมจะไปกล้าใช้ได้ยังไง..เอาหน่าผมขอแค่หนึ่งหรือสองล้านก็พอ..บอสรู้ไหมว่าผมไม่ใช่อย่างที่ผมเคยเป็น อีกต่อไปแล้ว..เอาเถอะถ้าบอสไม่มีเงินก็ไม่เป็นไรเพราะตอนนี้บอสต้องดูแลแม่และน้องสาว..ยิ่งไปกว่านั้นบอสจะต้องเก็บเงินเอาไว้เลี้ยงลูกในอนาคตอีก..มันคงไม่ดีถ้าบอสไม่มีเงินเก็บเอาไว้..ในอนาคตบอสก็น่าจะรู้ว่านมผงมันแพงมาก” ชิงเฟิงบ่นอย่างขมขื่น
“ให้เด็กกินนมผงมันไม่ดี..นายก็ให้นากาจิมะชินนะ…ฮ่าๆ! ” เย่เชียนพูดแล้วหัวเราะ
“บอสหมายถึงอะไร? ” ชิงเฟิงกลอกตาของเขาไปมาและพูดว่า “ไม่ใช่ว่าผมต้องการให้ลูกกินนมผง..แต่มันเป็นของผม..เดี๋ยวมันจะดูไม่ดีในอนาคตผมรู้ดี”
“เหอะๆ …” เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาประมาณว่าเรื่องเหล่านี้มีเพียงชิงเฟิงเท่านั้นที่สามารถพูดได้ แต่เย่เชียนไม่รู้ว่าชิงเฟิงจะคิดอย่างไรหลังจากได้ยินคำว่านากาจิมะชินนะ หลังจากอดกลั้นรอยยิ้มของตัวเองได้ในที่สุดเย่เชียนก็พูดว่า “เอาล่ะ..เดี๋ยวฉันจะโทรไปหาแจ็คและบอกให้เขาโอนเงินโบนัสให้นาย..อย่าคิดว่าฉันไม่มีเงินสิฉันแค่ไม่ต้องการให้นายใช้อย่างฟุ่มเฟือย..ฉันเป็นผู้นำของเขี้ยวหมาป่านะเพราะงั้นเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรสำหรับฉัน”
ชิงเฟิงก็ยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอบคุณบอสล่วงหน้าเลยก็แล้วกัน..ผมไม่ได้ต้องการมากเกินไป..ผมขอแค่ไม่กี่ล้านก็พอ”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มและไม่สนใจชิงเฟิงอีกต่อไป ซึ่งเย่เชียนพูดเหมือนว่าเขามีธนาคารเป็นของตัวเองและเมื่อไหร่ที่ไม่มีเงินก็แค่ต้องใช้เครื่องพิมพ์ธนบัตรแล้วพิมพ์มันออกมาใช่ไหม? ซึ่งมันดูเกินจริงเกินไป
ในขณะที่พูดคุยกันอยู่พวกเขาก็มาถึงหน้าบ้านของฮัวซงเจี๋ยโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจากระยะไกลสามารถมองเห็นแสงไฟสว่างจ้ามาจากข้างในบ้าน ในเมื่อเหล่ยเจียงถูกจับกุมแล้วดังนั้นฮัวซงเจี๋ยก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ ซึ่งเย่เชียนและชิงเฟิงก็มองหน้ากันและอดไม่ได้ที่จะยิ้ม
.
.
.
.
.
.
.