ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 581 ปะทะ
ตอนที่ 581 ปะทะ
สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไปและบรรยากาศทั้งหมดก็เริ่มตีงเครียดจนฮัวซงเจี๋ยไปตื่นตระหนกอย่างมากและคำพูดของเขาก็ตะกุกตะกักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“หึเข้าใจผิดเหรอ..นี่คุณกำลังล้อผมเล่นอยู่งั้นเหรอ” ซากาโมโต้ตะคอก “ฮัวซงเจี๋ยถ้าคุณไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คุณก็ไม่ต้องเข้ามายุ่งจะดีกว่า..ไม่งั้นก็อย่ามาโทษผมเลย..คุณก็น่าจะชัดเจนนะว่าแก๊งยามากุจิของเราสามารถตัดคุณทิ้งได้ทุกเมื่อ”
“คือว่า..” การแสดงออกของฮัวซงเจี๋ยกลายเป็นความละอายใจอย่างมากเพราะตอนนี้เขาก็เป็นคนที่มีฐานะและสถานะที่สูงแต่กลับถูกซากาโมโต้ตะคอกใส่เหมือนสุนัขรับใช้ซึ่งทำให้เขาละอายใจจริงๆ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังตระหนักถึงความเป็นจริงได้เพราะการที่เขาสามารถพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นต้องขอบคุณความช่วยเหลือที่ดีของแก๊งยามากุจิและถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะมีอิทธิพลมากมายก็ตามแต่ถ้าเขาสู้กับแก๊งยากูซ่ายามากุจิจริงๆ ล่ะก็เขาจะต้องพบกับความตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย หลังจากคิดเช่นนั้นฮัวซงเจี๋ยก็ตกตะลึงอยู่ตรงนั้นและสูญเสียอาการอย่างมาก
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “คุณฮัวคุณทำให้ผมผิดหวังมาก” เย่เชียนนั้นรู้รูปแบบการกระทำของแก๊งยามากุจิเป็นอย่างดี เพราะปีศาจบนเกาะเหล่านั้นเกลียดคนที่หักหลังและกระทำผิดอย่างมากและเหตุผลที่พวกเขาร่วมมือกับฮัวซงเจี๋ยนั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการใช้ฮัวซงเจี๋ยดึงดูดความสนใจของรัฐบาลทุกประเทศในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อที่แก๊งยามากุจิจะสามารถเข้ามาแทรกแซงธุรกิจต่างๆ ได้
เย่เชียนก็หันหน้าไปมองซากาโมโต้และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีเพียงคนเดียวที่จะเดินออกไปจากที่นี่ได้สินะ”
“หึ..ต้องเป็นฉันที่ได้ออกไปจากที่นี่ในวันนี้เพราะฉันจะไปล้างแค้นให้กับแก๊งยามากุจิของฉัน! ..การที่ราชาหมาป่าเย่เชียนตายโดยฝีมือของฉันเนี่ยถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่กระจายออกไปล่ะก็มันจะไม่มีใครกล้าท้าทายความยิ่งใหญ่ของแก๊งยามากุจิในอนาคตอีกต่อไป” ซากาโมโต้พูดอย่างมั่นใจ
เย่เชียนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าซากาโมโต้เคนตะคนนี้มีความมั่นใจขนาดนี้ได้อย่างไร ซึ่งเขามีลูกน้องเพียงสี่คนแถมยังดูอายุน้อยอีกด้วยแล้วทำไมเขาถึงยังมั่นใจมากว่าคนเหล่านั้นจะปกป้องตัวเองได้? มันเป็นเรื่องที่น่าขันเกินไปเพราะชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ดูเหมือนจะมีความภาคภูมิใจในตนเองสูงมากโดยคิดว่าพวกเขาเป็นบุตรชายของเทพเจ้า
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ผมคิดว่าคุณซากาโมโต้ต้องผิดหวังนะ” เมื่อเสียงของเย่เชียนจบลงร่างกายของเขาก็ขยับทันทีโดยใช้มือยันโต๊ะกาแฟเอาไว้แล้วตีลังกาพร้อมกับใช้เท้าเตะเข้าไปที่คอของสมาชิกแก๊งยามากุจิอย่ารวดเร็ว ซึ่งคราวนี้เย่เชียนไม่ได้ยั้งมือเลยและใช้กำลังทั้งหมดจนกระดูกคอของชายคนนั้นแหละละเอียดในพริบตาและร่างทั้งร่างก็ล้มลงกับพื้นทันที
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฮัวซงเจี๋ยเห็นเพราะที่เย่เชียนต่อสู้ครั้งล่าสุดในไซต์ก่อสร้างของโครงการเมืองแอนิเมชั่นที่ชายวัยกลางคนหัวโล้นยกพวกมาสร้างปัญหาในครั้งนั้นฮัวซงเจี๋ยก็ได้เห็นความแข็งเกร่งของเย่เชียนแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่เขาเห็นเขาก็ยังประหลาดใจมากอยู่ดีเพราะการเตะคนเข้าที่คอด้วยการเตะเพียงครั้งเดียวอย่างแม่นยำและรุนแรงนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้ ซึ่งในตอนนี้ฮัวซงเจี๋ยก็ลำบากใจอย่างมากเพราะไม่รู้ว่าเขาควรจะเลือกฝ่ายไหนดีและเขาก็รู้ดีว่าถ้าซากาโมโต้เคนตะตายในประเทศจีนล่ะก็เขาก็กลัวว่าแก๊งยามากุจิจะจะโยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาที่เขาและเมื่อถึงตอนนั้นแม้ว่าเขาจะกระโดดลงไปในแม่น้ำแต่เขาก็ไม่สามารถหนีความตายไปได้
ในเวลาเดียวกันกับที่เย่เชียนเคลื่อนไหวนั้นชิงเฟิงเองก็ไม่ลังเลใดๆ โดยใช้ถ้วยชาในมือของเขาขว้างออกไปใส่หัวสมาชิกแก๊งยามากุจิโดยตรง จากนั้นชิงเฟิงก็กระโดดตามออกไปและใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างตบขมับของชายคนนั้นอย่างแรงและในทันใดนั้นชายคนนั้นก็รู้สึกวิงเวียนและวูบไปก่อนที่จะล้มลง ซึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหันราวกับว่าชิงเฟิงยังคงดื่มชาอยู่และภายในหนึ่งวินาทีเขาก็ได้ฆ่าคู่ต่อสู้ลงในวินาทีถัดไปด้วยความเร็วและความโหดร้ายเช่นนี้นั้นทำให้ผู้คนต่างก็สั่นสะท้าน
ความแข็งแกร่งของเย่เชียนและชิงเฟิงนั้นเกินความคาดหมายของซากาโมโต้เคนตะอย่างมากเพราะลูกน้องฝีมือดีที่เขาพามาด้วยในครั้งนี้ล้วนเป็นยอดฝีมือในองค์กรและถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เก่งกาจเท่าโยชิดะก็ตามแต่พวกเขาก็ยังคงเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ระดับสูงแต่เย่เชียนและชิงเฟิงกลับจัดการพวกเขาภายในพริบตาเดียวและไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้เลย ซึ่งสิ่งนี้จะไม่ทำให้ซากาโมโต้เคนตะแปลกใจได้อย่างไร?
“ฮัวซงเจี๋ย! ..คุณไม่คิดที่จะทำอะไรเลยเหรอ..คุณจะทรยศหักหลังแก๊งยามากูจิใช่มั้ย? ” เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีซากาโมโต้จึงพูดอย่างร้อนรน
“เอ่อคือ…” ฮัวซงเจี๋ยตื่นตระหนกอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะยังไงก็ตามเขาจะไม่มีทางปล่อยให้ซากาโมโต้เคนตะเป็นอะไรในบ้านของเขาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอนาคตของเขาจะต้องจบลงและถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ฆ่าเย่เชียนก็ตามแต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้เย่เชียนฆ่าซาคาโมโต้เคนตะอย่างแน่นอน “เร็วเข้า! ..หยุดพวกเขา! ” ฮัวซงเจี๋ยรีบสั่งคนของเขาทันที
มีการเคลื่อนไหวที่ด้านนอกห้องนั่งเล่นเนื่องจากลูกน้องที่อยู่ข้างนอกต่างก็ได้ยินฮัวซงเจี๋ยแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาแค่ไม่ได้รับสั่งจากฮัวซงเจี๋ยโดยตรงดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรแต่ในเมื่อฮัวซงเจี๋ยออกคำสั่งแล้วพวกเขาก็ไม่ลังเลอีกต่อไปพวกเขาจึงรีบเข้าไปหาเย่เชียนและชิงเฟิงทันที
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ได้ยินอย่างชัดเจนว่าฮัวซงเจี๋ยสั่งให้พวกเขาหยุดเย่เชียนและชิงเฟิงเอาไว้แต่ไม่อนุญาตให้ฆ่าพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าทำอะไรมากเกินไป ซึ่งทางด้านของเย่เชียนและชิงเฟิงนั้นไม่ได้สนใจอะไรใดๆ เพราะพวกเขาไม่คิดที่จะปล่อยฮัวซงเจี๋ยให้รอดไปในวันนี้ ดังนั้นเมื่อเย่เชียนและชิงเฟิงกำจัดสมาชิกแก๊งยามากุจิคนอื่นๆ ไดแล้วเขาก็มุ่งไปที่ซากาโมโต้เคนตะทันทีราวกับคันศรจากธนู
เย่เชียนก็ดึงมีดคลื่นโลหิตออกมาจนมีสีแดงวาบปรากฏออกมาจากเสื้อของเขา ซากาโมโต้เคนตะก็รู้ดีว่าต่อให้เขาจะเก่งแค่ไหนแต่เขาก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เชียนได้และไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเย่เชียนได้เลย เขาเห็นเพียงเย่เชียนที่พุ่งเข้ามาเหมือนนกอินทรีพร้อมกับมีดสีแดงชาดและหลังจากนั้นมันก็เจาะทะลุเสื้อผ้าของเขาและเจาะไหล่ของเขาอย่างดุเดือด ในเวลาเดียวกันร่างกายของเย่เชียนก็หมุนไปอยู่ข้างหลังซากาโมโต้เคนตะอย่างรวดเร็วด
ซากาโมโต้เคนตะนั้นไม่เคยเจ็บปวดมาก่อนดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าและทั้งใบหน้าของเขาก็บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด ซึ่งเมื่อฮัวซงเจี๋ยเห็นว่าสถานการณ์มันเริ่มเลวร้ายและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาก็รีบพูดว่า “คุณเย่อย่า..เรามาคุยกันเถอะปล่อยคุณซากาโมโต้ไป”
สิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและผู้ใต้บังคับบัญชาของฮัวซงเจี๋ยก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรอีกต่อไปและหยุดเคลื่อนไหวทีละคน แต่ในเวลานี้ลูกน้องของฮัวซงเจี๋ยก็ลงไปนอนอยู่บนพื้นแล้ว 7-8 คน เพราะนอกจากสมาชิกแก๊งยามากุจิสี่คนของซากาโมโต้แล้วก็ยังมีคนของฮัวซงเจี๋ยอีกหลายคน
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานฮัวดูเหมือนว่าคุณจะอยู่ฝ่ายเขาสินะ? ”
“ไม่..ไม่! ” ฮัวซงเจี๋ยพูดอย่างร้อนรน “เพราะถ้าคุณซากาโมโต้เป็นอะไรไปผมก็ไม่รู้จะอธิบายกับแก๊งยามากุจิยังไง..ผมคงจะต้องตกศัตรูหมายเลขหนึ่งของแก๊งยามากุจิในตอนนั้น”
“ฮัวซงเจี๋ย! ..รออะไรอยู่ทำไมถึงไม่รีบช่วยผม..ถ้าผมเป็นอะไรไปล่ะก็แก๊งยามากุจิจะฆ่าล้างบางตระกูลของคุณ” ใบหน้าของซากาโมโต้เคนตะถูกปกคลุมไปด้วยหยาดเหงื่อและตะโกนอย่างโกรธเคือง
เย่เชียนก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าคุณไม่รู้จะอธิบายยังไงก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายหนิ” ทันทีที่พูดจบเย่เชียนก็ดึงมีดที่อยู่บนไหล่ของซากาโมโต้เคนตะออกจนซากาโมโต้เคนตะส่งเสียงกรีดร้องราวกับหมูและเลือดก็ไหลออกมาราวกับน้ำพุ
“อย่า…” ฮัวซงเจี๋ยก็ตะโกนอย่างร้อนรนเมื่อเห็น แต่มันก็สายเกินไปเพราะเย่เชียนควงมัดคลื่นโลหิตจนเกิดแสงสีแดงอันงดงามและตัดผ่านลำคอของซากาโมโต้เคนตะและเขาก็ใช้มือทั้งสองข้างกระกบคอของเขาเอาไว้แล้วค่อยๆ ก้มลง
ฮัวซงเจี๋ยก็รู้สึกตกตะลึงอย่างมากเมื่อเห็นซากาโมโต้นอนชักกระตุกอยู่บนพื้นจนเขาสูญเสียอาการและในหัวของเขาก็ว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออก ซึ่งถ้าเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาก็ไม่คิดที่จะให้เย่เชียนและซากาโมโต้เคนตะพบกันตั้งแต่แรก ซึ่งในความเป็นจริงเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเย่เชียนมีจุดประสงค์เช่นนี้
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งฮัวซงเจี๋ยก็เหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “คุณเย่คุณไม่น่าทำแบบนี้เลย..ผมต้องนำตัวคุณไปให้แก๊งยามากุจิ..ไม่งั้นแก๊งยามากุจิคงจะไม่ปล่อยผมไปแน่ๆ” “สิ่งต่างๆ ได้พัฒนาไปถึงขึ้นนี้และเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นเพราะซากาโมโต้เคนตะตายในบ้านของเขาเอง เพราะงั้นถ้าเขาไม่ส่งเย่เชียนไปให้แก๊งยามากุจิล่ะก็เขาก็จะถูกไล่ล่าและยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเย่เชียนที่เป็นคนลอบสังหารหัวหน้าแก๊งยามากุจิดังนั้นถ้าเขาสามารถจับเย่เชียนได้และส่งมอบให้กับแก๊งยามากุจิล่ะก็บางทีแก๊งยามากุจิอาจจะไม่โทษตัวเขาสำหรับการตายของซากาโมโต้เคนตะแต่จะให้รางวัลกับตัวเองเป็นแทน
เย่เชียนยิ้มอย่างแผ่วเบาและพูดว่า “ประธานฮัว..คุณรู้ไหมว่าผมเกลียดคนแบบไหนมากที่สุด” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดว่า “คนที่ผมเกลียดที่สุดก็คือคนที่โลภและโอหัง..เพราะงั้นการที่คุณส่งคนมาคุกคามผมที่สนามบินเมืองเซี่ยงไฮ้ที่เป็นถึงถิ่นของผมเพราะงั้นตั้งแต่นั้นมาคุณก็อยู่ในรายชื่อศัตรูของผมแล้ว..และสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดในชีวิตคือแก๊งยามากุจิแต่คุณกลับเลือกที่จะร่วมมือกับเขา..ด้วยเหตุนี้ผมจึงปล่อยคุณไปไม่ได้..เพราะงั้นผมจะบอกคุณให้ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดถูกผมจัดฉากขึ้นรวมไปถึงเหล่ยเจียง..ซึ่งคืนนี้มันถึงคราวของคุณแล้วแต่น่าเสียดายที่คุณต้องนำเหล่ยเจียงไปก่อนหนึ่งก้าว”
ฮัวซงเจี๋ยก็ถึงสั่นสะท้านไปทั่วและมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อเลย หากสิ่งที่เย่เชียนพูดเป็นความจริงเย่เชียนก็เป็นปีศาจที่สวมหน้ากากเทวดามาโดยตลอด “เย่เชียน! ..แกมั่นใจในตัวเองเกินไปแล้ว..ถ้าแกพูดแบบนี้งั้นก็ไม่ต้องมีชีวิตรอดกลับไป” ฮัวซงเจี๋ยพูดอย่างเกรี้ยวกราด
จากนั้นเขาก็เหลือบมองไปที่ลูกน้องของเขาและฮัวซงเจี๋ยก็ตะโกนว่า “รออะไรล่ะ..จัดการมันซะ”
เมื่อคำพูดนั้นจบลงผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านั้นก็ไม่กล้าที่จะลังเลและรีบวิ่งเข้าหาเย่เชียนและชิงเฟิงพร้อมๆ กัน เนื่องจากเมื่อครู่นี้พวกเขาได้เห็นทักษะของเย่เชียนและชิงเฟิงแล้วพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะประมาทอีกต่อไป อย่างไรก็ตามฮัวซงเจี๋ยก็ได้ออกคำสั่งมาแล้วดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะต้องตายหรือไม่ถึงยังไงพวกเขาก็ต้องทำ
เมื่อสถานการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ฮัวซงเจี๋ยก็รีบหลบหนีและรีบเดินไปที่ห้องชั้นบน
.
.
.
.
.
.
.