ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 600 เหยื่อ
ตอนที่ 600 เหยื่อ
หลังจากออกจากไนต์คลับแล้วเย่เชียนก็ยังคงสัมผัสได้ถึงคนที่สะกดรอยตามเขามาได้อย่างชัดเจน แต่เย่เชียนก็ไม่สนใจและขึ้นรถของเขาไปอย่างธรรมชาติ วันเวลาผ่านไปกว่าหนึ่งปีเย่เชียนก็สงบลงและพร้อมที่จะเริ่มต้นอีกครั้งและนอกจากนี้เขายังมั่นใจอย่างมากว่าจะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้อีกต่อไป
เนื่องจากมีคนสะกดรอยตามดังนั้นเย่เชียนจึงไม่สามารถเพิกเฉยไปได้และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามเพราะยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่สมาชิกของเขี้ยวหมาป่าก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเย่เชียนอยู่ในประเทศญี่ปุ่นและถึงแม้ว่าแจ็คจะรู้ก็ตามถึงยังไงเขาก็จะไม่ส่งใครมาติดตามเย่เชียนอย่างลับๆโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเย่เชียนอย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเยือกเย็นของเย่เชียนเสี่ยวเซียวก็ตกตะลึงเล็กน้อยและหันหน้าไปมองดูเขาด้วยความประหลาดใจแล้วพูดว่า “ลุงหัวเราะอะไร..ทำไมต้องหัวเราะโดยไม่มีเหตุผลด้วย..ลุงจะทำให้ฉันตกใจจนหัวใจวายตายใช่มั้ย”
เย่เชียนก็กลอกตาไปมาแล้วพูดว่า “เธอไม่คิดว่าเพื่อนของเธอเป็นพวกตลกบ้างเหรอ..ฉันคิดว่ามันตลกดีเมื่อนึกถึงพวกเขาเมื่อครู่นี้”
“พวกเขาไม่ใช่เพื่อนของฉัน..พวกเขาเป็นแค่อดีตเพื่อนร่วมชั้นและพวกเขาก็บอกว่ามีการรวมรุ่นกันและฉันก็ไม่อยากที่จะปฏิเสธฉันก็เลยไป..ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะบ้ากันถึงขนาดนี้..แล้วลุงล่ะ..ลุงแก่แล้วแต่ลุงยังแข็งแรงและเก่งอีกต่างหาก..สงสัยลุงจะรับมือกับสาวๆได้ทั้งวันเลยสินะ” เสี่ยวเซียวพูดด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ..เรา..เราจะไม่คุยเรื่องนั้นกันเพราะมันเป็นสิ่งที่น่าอายมาก..ถ้าปล่อยให้เรื่องนี้มันวนเวียนอยู่ให้หัวของฉันชีวิตที่ชาญฉลาดของฉันคงจะจบสิ้นกันพอดี “เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มที่น่าอึดอัดใจและหลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็เปลี่ยนเรื่องและพูดว่า “เธอจะไปที่ไหนเดี๋ยวฉันจะไปส่ง..เพราะฉันยังมีธุระที่ต้องทำอยู่”
“จะไปไหนหรอ..ฉันไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน..ฉันไม่มีบ้าน..ไม่มีใครรักเสี่ยวเซียวเลย!” เสี่ยวเซียวพูดขณะขยี้ตาและบีบน้ำตาออกมา
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เพราะเขาไม่ได้โง่ ซึ่งเธอจะไม่มีบ้านได้อย่างไรในเมื่อเธอมีรถ BMW ได้?หรือเด็กคนนี้จะทะเลาะกับพ่อแม่และหนีออกจากบ้านมา? อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ยังคงมีสิ่งที่ต้องทำและไม่สามารถเสียเวลาไปกับสาวน้อยคนนี้ได้จริงๆ “แต่ฉันยังมีธุระที่ต้องทำ..เธอตามฉันไปไม่ได้หรอก” เย่เชียนพูด
“ก็ไปสิ..เพราะลุงตกลงเป็นอาจารย์ของฉันแล้วเพราะงั้นฉันก็ต้องติดตามลุงเป็นลูกศิษย์ไม่ใช่เหรอ” เสี่ยวเซียวพูด “อาจารย์คะ!” เธอพูดอย่างไพเราะและจับแขนเย่เชียนเอาไว้อย่างอ้อนวอน
“อย่าดึงสิฉันกำลังขับรถอยู่!” เย่เชียนพูดอย่างเร่งรีบและเหงามานานกว่าหนึ่งปีแต่ตอนนี้เด็กสาวคนนี้กลับมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปของเย่เชียนจนเขาไม่อาจปฏิเสธได้ “ก็ได้ๆ..ฉันจะพาเธอไปแต่ตอนนี้เธอช่วยปล่อยมือออกก่อนเถอะเถิด..ถ้าเธอทำแบบนี้ฉันคงไม่มีสมาธิแล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มันคงจะแย่แน่ๆ..เธอกับชีวิตของเธอน่ะไร้ค่าแต่ถ้ารถสุดล้ำค่าของฉันเป็นอะไรไปล่ะก็ฉันคงจะร้องไห้ไปจนตาย”
เย่เชียนก็เขายิ้มอย่างมีความสุขแต่จู่ๆเสี่ยวเซียวก็โน้มตัวเข้าไปจูบแก้มของเย่เชียนแล้วพูดว่า “เย่..อาจารย์ใจดีที่สุด..ไปกันเถอะเราไปต่อสู้เพื่อทวงความยุติธรรมกัน..ลุงคือวีรบุรุษผู้ปล้นคนรวยและช่วยคนจน..ส่วนฉันเป็นเหมือนนางเอกในนวนิยาย”
เย่เชียนก็ยิ้มแหยงๆและพูดว่า “เธอน่ารำคาญเหมือนแมลง..เธอช่วยพูดภาษาจีนได้มั้ย..เวลาฉันพูดภาษาอังกฤษมันรู้สึกอึดอัดน่ะ..เธอบอกว่าแม่ของเธอเป็นคนจีนไม่ใช่เหรอ..แม่เธอก็น่าจะสอนภาษาจีนให้เธอใช่ไหมล่ะ?”
“พูดได้นิดหน่อย” เสี่ยวเซียวพูด “แต่ลุงต้องพูดช้าๆล่ะไม่งั้นฉันจะไม่เข้าใจ”
เย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆแล้วพูดว่า “การเป็นลูกศิษย์ของฉันเธอจะต้องเรียนภาษาจีนให้ดี..แล้วก็อย่ามาบอกว่าเธอพูดภาษาจีนไม่ได้..เพราะฉันจะไม่รับเธอเป็นศิษย์”
“ก็ได้ๆ..ไม่มีปัญหา..เดี๋ยวเมื่อไหร่ที่ฉันกลับบ้านฉันจะบอกให้พ่อจ้างครูสอนภาษาจีนมาสอนฉัน..ฉันสัญญาเลยว่าฉันจะไม่ทำให้อาจารย์เสียหน้า” เสี่ยวเซียวพูดอย่างตื่นเต้น
เย่เชียนก็ชำเลืองมองเธอแล้วพูดว่า “เมื่อกี้เธอไม่ได้บอกว่าเธอไม่มีที่ไปหรอกเหรอ?”
เสี่ยวเซียวก็ผงะไปครู่หนึ่งจากนั้นเธอก็หัวเราะแล้วพูดว่า “ก็บ้านหลังนั้นไม่ใช่บ้านของฉันอีกต่อไปเพราะพ่อของฉันพาแม่เลี้ยงมาอยู่ด้วยแต่ฉันไม่ชอบเธอ..แม่เลี้ยงก็เหมือนแม่เลี้ยงของสโนว์ไวท์พวกเธอใจร้ายมาก..หื้อๆ!” เมื่อเสี่ยวเซียวพูดจบเธอก็ร้องไห้อีกครั้ง
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “เอาล่ะอย่าร้องไห้ๆ..ฉันก็สัญญาแล้วไงว่าจะพาเธอด้วยน่ะ..แต่จำเอาไว้นะว่ากฎของฉันคือหลั่งเลือดได้แต่ห้ามหลั่งน้ำตา!..คนเป็นลูกศิษย์ของฉันจะร้องไห้ไม่ได้”
เสียวเซียวก็ปาดน้ำตาจากหางตาด้วยความตื่นเต้นและพูดว่า “ได้ค่ะอาจารย์..ฉันจะจำเอาไว้”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เพราะคนที่แข็งแกร่งอย่างเข้าต้องมาพ่ายแพ้ต่อเด็กสาวตัวเล็กๆเช่นนี้ ในขณะนี้เมื่อเย่เชียนมองไปที่กระจกมองหลังเขาก็ยังเห็นคนที่สะกดรอยตามเขาและเขาก็ยังคงเฝ้าดูรถที่วิ่งตามหลังเขามาโดยรักษาระยะห่างเอาไว้
“นั่งลงดีๆ..ฉันจะเร่งเครื่อง!” เย่เชียนก็เม้มปากจากนั้นเขาก็เหยียบคันเร่งจนเสี่ยวเซียวตกใจและรีบคว้าราวจับบนประตูรถ คนข้างหลังที่ติดตามเย่เชียนมาก็เห็นเย่เชียนเร่งความเร็วเขาจึงเร่งความเร็วเพื่อให้ตามเย่เชียนทัน
ทักษะการขับรถของเย่เชียนนั้นดีเยี่ยมแต่เนื่องจากรถคลาสสิกของเขาเป็นรถโบราณดังนั้นถึงแม้จะเหยียบคันเร่งไปจนสุดแต่มันก็ไม่สามารถวิ่งได้เร็วมากนัก อย่างไรก็ตามเย่เชียนยังคงอาศัยทักษะการขับรถของเขาเพื่อสลับไปทางเลนซ้ายและเลนขวาซึ่งค่อนข้างสะดุดตาจนคนที่สะกดรอยตามมาไม่กล้าที่จะประมาทและขับตามเขาไปอย่างใกล้ชิด
เมื่อรถของคนที่สะกดรอยตามเข้ามาใกล้เย่เชียนจึงเหยียบเบรกอย่างกะทันหันจนหัวของเสี่ยวเซียวกระแทกคอนโซลหน้ารถแล้วเธอก็ถูหน้าผากของเธอแล้วพูดว่า “อาจารย์ไปเรียนขับรถที่ไหนมาเนี่ย..ลุงจะรีบไปไหน..ลุงควรไปขับยานอวกาศ”
ทันทีที่เสียงของเสี่ยวเซียวจบลงจู่ๆก็มีเสียงเบรกกะทันหันและรถด้านหลังก็ชนเข้ากับรถคลาสสิกของเย่เชียนจนหัวของเสี่ยวเซียวกระแทกเข้ากับคอนโซลหน้ารถอีกครั้ง แต่เย่เชียนนั้นเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วเขาจึงนั่งเกร็งอยู่ตรงนั้น “ไม่นะอาจารย์..รถคลาสสิคแสนรักของอาจารย์!” เสี่ยวเซียวร้องออกมา
เย่เชียนก็เปิดประตูรถและเดินลงไปและเขามองไปที่ท้ายรถและเห็นว่าท้ายรถของเขาบุบ ซึ่งนี่คือรถคลาสสิคแล้วมันจะทนแรงปะทะขนาดนี้ได้ยังไง “แม่งเอ๊ยรถคลาสสิคของฉัน” เย่เชียนตะโกนและเดินไปที่รถคันที่มาชนและเคาะกระจกรถจากนั้นก็พูดว่า “ออกมาเดี๋ยวนี้”
ภายในรถนั้นเป็นชายหนุ่มชาวจีนที่ติดตามเย่เชียนมาและเมื่อเห็นฉากดังกล่าวชายหนุ่มจึงเข้าใจว่าสิ่งนี้ถูกวางแผนเอาไว้โดยเย่เชียนอย่างสมบูรณ์ เห็นได้ชัดว่าเย่เชียนรู้ตัวมานานแล้วดังนั้นเขาจึงจงใจล่อให้ตัวเองให้ชนเขาและนี่ก็เป็นจุดสิ้นสุดของเรื่องนี้ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวจากเย่เชียนอีกต่อไป เมื่อคิดเช่นนั้นชายหนุ่มก็เปิดประตูรถออกไปและเย่เชียนก็มองเขาจากหัวจรดเท้าซึ่งชายหนุ่มคนนี้อายุประมาณ 25 ปีและมีหน้าตาที่หล่อเหลาและผิวขาวซึ่งค่อนข้างคล้ายกับหลินเฟิงมากเพราะเขาดูมีความเป็นผู้หญิงเมื่อมองเผินๆ
“คุณตาบอดเหรอ?..รถคันตั้งใหญ่แล้วคุณไม่เห็นมันจอดอยู่หรือไง” เย่เชียนพูดอย่างโกรธเคือง เดิมทีเขาสนใจที่จะหาเรื่องแล้วดังนั้นเขาจึงไม่สุภาพเพราะเย่เชียนโกรธมากที่ชายหนุ่มคนนี้แอบสะกดรอยตามเขามานาน
“ใช่!..คุณชนรถคลาสสิคสุดหรูของอาจารย์เพราะงั้นอย่างน้อยๆคุณต้องจ่ายมาอย่างน้อยๆสิบล้านหยวน” เสี่ยวเซียวตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดและค่อนข้างฉลาดแกมโกง
เย่เชียนก็ถึงกับตกตะลึงไปกับการเปิดตัวของสิงโตสาวคนนี้และเขาก็ชื่นชมการกระทำของเธอไม่น้อยเลยและแอบยกนิ้วโป้งให้เธออย่างเงียบๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นเสี่ยวเซียวก็ดีใจและยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ชายหนุ่มเหลือบมองเย่เชียนและยิ้มอย่างเย็นชาจากนั้นก็พูดว่า “ใครบอกว่าผมตาบอด..คุณนั่นแหละเบรกทำไม?”
“หือ?” เย่เชียนก็แปลกใจอย่างมากเพราะเขาไม่นึกเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะพูดจาก้าวร้าวถึงขนาดนี้ ซึ่งเดิมทีเย่เชียนคิดว่าเด็กคนนี้สะกดรอยตามเขามาเป็นเวลานานแต่ก็ไม่ได้กระทำการใดๆมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงคิดว่าเขาไม่ควรกำจัดชายหนุ่มคนนี้ แต่ตอนนี้ไม่เพียงแค่เขาไม่พยายามหลีกเลี่ยงแต่เขากลับท้าทายโดยไม่เกรงกลัวอะไรใดๆและดูเหมือนว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะเริ่มน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“ปากแข็งจริงๆ..แต่มันก็เห็นๆกันอยู่ว่าคุณชนรถของผม..รถคันนี้มีมูลค่าอย่างที่เธอพูดนั่นแหละและอย่างน้อยๆก็สิบล้านหยวน..แต่ก็นะเราคนกันเองเพราะงั้นผมจะให้ส่วนลดคุณ..ผมคิดแค่เก้าล้านหยวนพอ” เย่เชียนพูด
“บ้าจริง!..นี่มันปล้นกันชัดๆ” ชายหนุ่มพูดอย่างขมขื่นเพราะเงินเก้าล้านหยวนนั้นมันมากเกินไปซึ่งเงินเดือนของเขาเพียง 40,000 หยวนเท่านั้นและต้องก็ใช้เวลามากกว่า 20 ปีในการซื้อรถคันนี้โดยไม่กินหรือดื่มเลย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นภารกิจก็ตามแต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าภารกิจดังกล่าวได้ล้มเหลวแล้วและมันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะใช้เงินกองทุนสาธารณะขององค์กร
“อะไรของคุณ..นี่มันไม่ใช่การปล้นซะหน่อย” เย่เชียนพูด “ยังไงก็เถอะถ้าคุณไม่จ่ายผมจะโทรหาตำรวจ..ผมคิดว่าคุณไม่ต้องการแบบนั้นอย่างแน่นอน..การไปเยือนสถานีตำรวจน่ะ?”
ชายหนุ่มก็สะท้านไปทั้งตัวเพราะแท้จริงแล้วตัวตนของเขานั้นถือเป็นความลับดังนั้นถ้าหากเขาถูกดำเนินคดีหรือเข้าสถานีตำรวจล่ะก็มันก็ยากที่จะออกไปอีก “เก้าล้านมันเยอะเกินไปอย่าใจร้ายนักสิ..เรามาคุยกันและหาทางออกอื่นเถอะ” ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด
“วิธีอื่นอะไรอีก..เอาเถอะถ้าคุณไม่จ่ายก็ไปเจอกันที่สถานีตำรวจก็แล้วกัน” เย่เชียนส่ายหัวและพูดอย่างหนักแน่น
.
.
.
.
.
.
.