ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 601 สองนักสู้ศิลปะการต่อสู้โบราณ
ตอนที่ 601 สองนักสู้ศิลปะการต่อสู้โบราณ
หากเย่เชียนเดาถูกต้องชายหนุ่มที่ดูคล้ายคลึงกับผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาต้องมาจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีน อย่างแน่นอนเพราะนอกจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่สามารถทำแบบนี้ได้เย่เชียนก็ยังนึกถึงใครไม่ออกเลยจริงๆและยิ่งกว่านั้นตอนที่เย่เชียนจากประเทศจีนมาก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้และมีเพียงคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนเท่านั้นที่มีหูมีตาอยู่ทั่วโลก และพวกเขาก็สามารถทราบสิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นก็ไม่อยากที่จะรบกวนเย่เชียนและถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะไม่อยากกำจัดเย่เชียนก็ตามแต่เป็นเพราะรัฐบาลจีนนั้นให้ความสนใจกับเย่เชียนอย่างมากและมอบหมายให้หวงฟู่ชิงเตี๋ยนคอยจับตามองเย่เชียน
อย่างไรก็ตามหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็รู้นิสัยของเย่เชียนเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะทำอะไรมากเกินไปเขาจึงส่งคนมาคอยติดตามเย่เชียนอย่างลับๆ ตราบเท่าที่เขารายงานข่าวของเย่เชียนทุกวันและไม่ว่าเย่เชียนจะสร้างปัญหาหรือยั่วยุผู้อื่นหรืออะไรใดๆพวกเขาก็ไม่ทำอะไรอยู่ดีเพราะพวกเขาต้องการทราบข่าวเพียงเท่านั้น แต่ทว่าเย่เชียนนั้นเจ้าเล่ห์เขาจึงทำเช่นนี้เพื่อล่อชายหนุ่มคนนั้นออกมา
ก่อนหน้านี้เย่เชียนก็ไม่มั่นใจแต่หลังจากการพิจารณาจากการแสดงออกดังกล่าวแล้วเย่เชียนก็ยิ่งแน่ใจมากขึ้นว่าชายหนุ่มคนนี้มาจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนและคนพวกนี้ล้วนเป็นสายลับ ดังนั้นหากพวกเขาถูกส่งตัวไปยังสถานีตำรวจของต่งประเทศล่ะก็เขาจะถูกสืบสวนและสอบปากคำอย่างรหนักหน่วงจากนั้นตัวตนสายลับของพวกเขาจะต้องถูกเปิดเผยและเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้อีก
เมื่อเห็นความเจ้าเล่ห์ของเย่เชียนแล้วชายหนุ่มก็พูดว่า “ผมได้ยินมาว่าราชาหมาป่าเป็นคนตรงไปตรงมาและเคร่งขรึม..แต่แท้ที่จริงแล้วคุณก็เป็นแค่คนเจ้าเล่ห์”
“ราชาหมาป่าเย่เชียน?..โอ้โหเป็นนี่เป็นฉายาของลุงงั้นหรอ..มันเท่มาก!” เสี่ยวเซียวถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและพูดด้วยท่าทางชื่นชม
เย่เชียนก็ขดริมฝีปากของเขาและยักไหล่เบาๆแล้วพูดว่า “คุณไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง..มันไม่มีประโยชน์หรอกและมันก็ไม่สำคัญว่าผมจะเจ้าเล่ห์หรืออะไรเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เห็นได้ชัดเจนว่าคุณเป็นฝ่ายผิด..เพราะงั้นก็จ่ายค่าเสียหายมาแล้วผมจะทำเป็นไม่เห็นอะไร”
“หืม..ในเมื่อคุณพูดแบบนี้มันก็ไม่จำเป็นต้องคุยกันแล้ว” ชายหนุ่มสูดลมหายใจอย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณ..ผมไม่สนใจหรอก”
หลังจากพูดจบชายหนุ่มก็มองเย่เชียนด้วยความจองหองจากนั้นเขาก็หันกลับเดินไปที่รถของเขาจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะชะงักไปครู่หนึ่งเพราะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าชายหนุ่มคนนี้จะหยิ่งผยองไปกว่าตัวเขาเอง ซึ่งเย่เชียนนั้นคิดว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นสมาชิกของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนดังนั้นชายหนุ่มคนนี้จะต้องถูกหวงฟู่ชิงเตี๋ยนตำหนิ ซึ่งถ้าหากเย่เชียนสั่งสอนเขาและถึงแม้ว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนจะรู้เรื่องนี้ในอนาคตเขาก็จะไม่ขุ่นเคืองอย่างแน่นอน
“เอาล่ะถ้างั้นผมขอดูหน่อยก็แล้วกันว่าสายลับของจีนจะฝีมือดีแค่ไหน” เมื่อเสียงของเย่เชียนจบลงเขาก็พุ่งเข้าไปต่อยชายหนุ่มคนนั้นอย่างแรง ซึ่งถ้าหากฝึกฝนเป็นอย่างดีมันก็สามารถทำลายต้นไม้จนกทำลายเสาคอนกรีตได้ภายในการโจมตีครั้งเดียวเลย ดังนั้นถ้าหากคนธรรมดาโดนหมัดปาจี๋เข้าไปคนคนนั้นจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสและอาจถึงตายเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม เย่เชียนก็ไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งเพียงใด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้พลังแฝงของศิลปะการต่อสู้โบราณเพราะถ้าหากเย่เชียนใช้พลังแฝงล่ะก็ชายหนุ่มจะไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย
ซึ่งเย่เชียนก็ถึงกับผงะเพราะหมัดของเขานั้นถูกชายหนุ่มสกัดกั้นเอาไว้และเขาก็กระเด็นถอยไปแต่เขากลับไม่เป็นอะไรเลย ที่สำคัญกว่านั้นเย่เชียนกลับรู้สึกมีบางอย่างวูบวาบเข้าไปในร่างกายของเขาและเขาก็อดรู้สึกชาไม่ได้ โชคดีที่เย่เชียนนั้นเป็นผู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณและหลังจากฝึกฝนมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีจึงทำให้ทักษะศิลปะของเขาก้าวหน้าอย่างมาก ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะไปถึงจุดสูงสุดแล้วแต่วิญญาณชั่วร้ายที่เขาผนึกเอาไว้นั้นแตกต่างไปจากสิ่งทั่วไป ดังนั้นเย่เชียนจึงมีความเร็วกว่ามากและพลังทำลายล้างก็แข็งแกร่งกว่าเช่นกัน
จิตใจของเย่เชียนก็กระตือรือร้นทันทีและเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดราวกับว่าในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนนั้นมีผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณและดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะถูกเรียกว่ามังกรซ่อนดูเหมือนว่าชายผู้อ่อนโยนที่อยู่ข้างหน้าเขาคือบุคคลในมังกรที่ซ่อนเขี้ยว ซึ่งเย่เชียนก็แอบดีใจเพราะเดิมทีเขานั้นอยากจะรู้ถึงความแข็งแกร่งของมังกรซ่อนเขี้ยวอย่างมากและตอนนี้มังกรซ่อนเขี้ยวเหล่านั้นก็บังเอิญมาหาเย่เชียนถึงที่ สำหรับความคิดของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นเขารู้ดีว่าถ้าหากเขาส่งสายลับธรรมดามาเย่เชียนจะต้องจับได้ดังนั้นเขาจึงส่งมังกรซ่อนเขี้ยวมาแต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณเช่นกัน
“หืม?” ชายหนุ่มก็ถึงผงะไป ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณด้วย ซึ่งจากข้อมูลที่เขาได้รับเกี่ยวกับเย่เชียนนั้นในรายงานระบุได้อย่างชัดเจนว่าเย่เชียนไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้โบราณและเป็นเพียงทหารและนักสู้ธรรมดาที่เก่งและมีฝีมือเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะใช้พลังในการต่อต้านมากเกินไปเพราะมันจะแข็งแกร่งจนคนธรรมดาที่โจมตีเขาจะสามารถบาดเจ็บได้แต่เย่เชียนนั้นกลับไม่ได้รับผลกระทบใดๆเลย ซึ่งเขานั้นสัมผัสได้ว่าเย่เชียนไม่ใช่แค่คนที่รู้ศิลปะการต่อสู้โบราณแต่เย่เชียนนั้นแตกต่างไปจากผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณคนอื่นๆอย่างสิ้นเชิงเพราะมันมีบางอย่างที่ชั่วร้ายครอบงำเย่เชียนอยู่ในตัวของเย่เชียนและมันก็ถูกเย่เชียนกลืนกินไปอย่างรวดเร็ว
ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณของจีนนั้นมีกฎเหล็กที่ไม่ได้เขียนเอาไว้อยู่ ซึ่งนั่นคือพวกเขาจะต้องไม่ใช้ศิลปะการต่อสู้โบราณกับผู้คนธรรมดาทั่วไปยกเว้นเมื่อชีวิตของพวกเขาถูกคุกคาม ยิ่งไปกว่านั้นการที่พวกเขาคือหน่วยมังกรซ่อนเขี้ยวของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนและเป็นตัวแทนของประเทศและทำหน้าที่ในนามของประเทศนั้นพวกเขาจึงได้รับสิทธิพิเศษมากมาย
อย่างไรก็ตามกฎเหล็กเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งไร้สาระในสายตาของเย่เชียน เพราะในสายตาของเย่เชียนนั้นโลกใบนี้เป็นโลกที่ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้ที่อ่อนแอกว่าและมีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆมาหยุดยั้งได้ ตราบใดที่เรามีความแข็งแกร่ง กฎทั้งหมดก็เป็นแค่เรื่องเหลวไหล ดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ลังเลใจที่จะสอนศิลปะการต่อสู้โบราณให้แก่สมาชิกทั้งหมดของเขี้ยวหมาป่าโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับเขี้ยวหมาป่านั่นเอง
“อาจารย์!..เอาเลยอาจารย์..จัดการเขาเลย!” เสี่ยวเซียวตะโกนอย่างตื่นเต้นจากด้านข้าง แต่เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนี้เย่เชียนกำลังตกตะลึงแต่เธอกลับคิดว่าเย่เชียนนั้นกำลังได้เปรียบ
เย่เชียนก็มองเธออย่างหมดหนทางและไม่สนใจที่จะคุยกับเธอในตอนนี้เขาจึงหันไปมองที่ชายหนุ่มพร้อมรอยยิ้มจางๆจากนั้นก็พูดว่า “ผมประเมินคุณต่ำไปหน่อย”
“ผมเองก็เหมือนกัน..เพราะงั้นผมจะไม่แสดงความเมตตาอีกต่อไป” ชายหนุ่มพูด
ปากของเย่เชียนฉีกโค้งขึ้นเป็นยิ้มที่ชั่วร้ายและก้าวไปข้างหน้าและง้างหมัดใส่ชายหนุ่มซึ่งชายหนุ่มก็ประหลาดใจเกี่ยวกับการกระทำของเย่เชียนและเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็ใช้มือซ้ายของเขารับหมัดของเย่เชียนเอาไว้
ในการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์นั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการประเมินศัตรูและการประเมินศัตรูต่ำไปถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรงอย่างยิ่งและมักจะส่งผลทำให้ตัวเองไปสู่ความพ่ายแพ้ได้ ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะสามารถใช้ทักษะการต่อสู้โบราณได้และยังแข็งแกร่งเช่นนี้อีก
เมื่อชายหนุ่มยื่นมือออกเพื่อป้องกันการโจมตีจากหมัดขวาของเย่เชียนมันก็ไม่ทันเสียแล้วเพราะหมักของเย่เชียนได้กระแทกหน้าอกของเขาจนเขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและมันก็สายเกินไปแล้วเมื่อเขาต้องการจะหลบเขาก็ได้ยินเพียงแค่เสียง “ปัง” หมัดของเย่เชียนก็กระแทกหมัดเข้าไปที่หน้าอกของชายหนุ่มแต่คราวนี้เย่เชียนไม่ยั้งมือและเขาก็ใช้กำลังกายและจิตวิญญาณที่ชั่วร้ายของเขาอีกด้วยมันจึงทำให้หมัดนั้นรุนแรงราวกับค้อนจนชายหนุ่มถึงกับหายใจไม่ออก
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆเพียงสองวินาทีแต่สำหรับปรมาจารย์แล้วเพียงสองวินาทีก็สามารถตัดสินใจอะไรได้หลายอย่างเพราะเย่เชียนนั้นฉวยโอกาสสองวินาทีนั้นในการเตะเข้าไปอีกครั้งและใช้มืออีกข้างสับคอของชายหนุ่มอย่างรวดเร็วจนชายหนุ่มล้มลงไปกับพื้นด้วยความเจ็บปวด ซึ่งการกระทำทั้งหมดของเย่เชียนรวดเร็วอย่างมากและเหมือนกับว่าเย่เชียนกำลังจะฆ่าอีกฝ่าย
อันที่จริงฝีมือของชายหนุ่มก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นเพราะถ้าหากเขาสู้กับเย่เชียนจริงๆและถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะเย่เชียนได้ก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็จะไม่แพ้อย่างแน่นอน ซึ่งการที่เขาพ่ายแพ้เย่เชียนนั่นก็เพราะว่าเขาประเมินเย่เชียนต่ำไปและเป็นเพราะเขาประมาท ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะคิดได้แต่มันก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปเพราะเขาแพ้แล้วและไม่มีเหตุผลที่จะสู้กับเย่เชียนอย่างโจ่งแจ้งอีกต่อไปเพราะเขารู้ดีว่าถ้าการเตะครั้งนี้ไม่ใช่เพราะความเมตตาของเย่เชียนล่ะก็เขาอาจจะต้องตายในทันที ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะหยิ่งผยองแค่ไหนแต่ถึงยังไงคนแพ้คือแพ้และไม่มีเหตุผลที่ต้องดิ้นรถอีกต่อไป
“โอ้โห!..อาจารย์ยอดเยี่ยมมาก..อาจารย์เก่งที่สุดในโลก!” เสี่ยวเซียวอุทานด้วยความตื่นเต้นจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเพราะเขารู้สึกเหมือนเขาอยู่กับวายร้ายเพราะเด็กสาวคนนี้นิสัยเหมือนชิงเฟิงที่อยากจะทำให้โลกวุ่นวายอย่างชัดเจน ซึ่งเย่เชียนก็จินตนาการว่าหากสาวคนนี้ติดตามเขาในอนาคตเขาจะต้องเดือดร้อนขนาดไหน เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทา และพยายามคิดหาวิธีที่จะหลุดพ้นผู้หญิงคนนี้ให้เร็วที่สุดเพื่อที่ไม่ให้เธอตามเขาไป
“เอาล่ะ..คุณจะทำยังไงต่อ?” เย่เชียนเหลือบมองที่ชายหนุ่มคนนั้นและยักไหล่แล้วพูด
“อยากได้เงินงั้นเหรอ?..ส่งผมไปที่โรงพักซะยังดีกว่า” ชายหนุ่มพูดอย่างดื้อรั้น
“ไอ้บ้าเอ๊ย..คุณนี่นิสัยเหมือนปู่คนนั้นจริงๆ..ฆ่าคุณไปมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับผมหรอก..ผมก็แค่ต้องการเงิน..เงินผมมันไม่พอใช้น่ะ..ก็ได้..ถ้าคุณไม่ให้สงสัยผมคงต้องไปขอจากปู่สินะ”
.
.
.
.
.
.
.