ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 607 จุดชนวนสงครามกับองค์กรใต้ดินประเทศญี่ปุ่น
ตอนที่ 607 จุดชนวนสงครามกับองค์กรใต้ดินประเทศญี่ปุ่น
คนชั่วย่อมมีความชั่วและความเลวอยู่ในตัวเอง!
คนในแก๊งยามากุจิได้ทำสิ่งที่เลวร้ายมาโดยตลอดและเย่เชียนก็เป็นศัตรูของพวกเขาดังนั้นการได้พบกับเย่เชียนจึงเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่น่าเศร้าและเลวร้ายของพวกเขานั่นเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องอื่นแต่มันเกี่ยวกับศีลธรรมซึ่งเย่เชียนเชื่อมาเสมอว่าต่อให้เขาจะเป็นนักฆ่าหรือทหารรับจ้างแต่ถึงยังไงมันก็มีข้อดีอยู่บ้างและมีบางสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ และถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะไม่มีกฎเหล็กที่เข้มงวดเหมือนกับองค์กรเซเว่นคิลก็ตามแต่เหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าต่างก็ปฏิบัติตามกฎที่กำหนดเอาไว้ในใจและไม่มีใครที่คิดจะก้าวข้ามมันเลย
ถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะไม่ใช่องค์กรใต้ดินเต็มตัวและไม่ใช่กองกำลังทหารประจำชาติก็ตามแต่ก็มีบางสิ่งที่พวกเขาทำได้แต่องค์กรทางการทำไม่ได้
ความบาดหมางระหว่างเย่เชียนและแก๊งยามากุจินั้นต้องย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อน ซึ่งในเวลานั้นเย่เชียนยังไม่ใช่ผู้นำของเขี้ยวหมาป่าและตอนนั้นเขากำลังติดตามกัปตันเทียนเฟิงในภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่นแต่พวกเขาถูกไล่ล่าและปิดล้อมโดยแก๊งยามากุจิจนเกือบตายและตั้งแต่นั้นมาเย่เชียนจึงต้องการกำจัดแก๊งยามากุจิแต่เย่เชียนนั้นรู้ดีว่าแก๊งยามากุจินั้นทรงพลังและไม่ว่าจะในประเทศญี่ปุ่นเองหรือในประเทศอื่นๆทั่วโลกต่างก็มีแก๊งยามากุจิผสมปนเปกันอยู่ในธุรกิจใต้ดินทั้งนั้น ซึ่งในเวลานั้นองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ายังไม่ใช่องค์ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งของโลกและตอนนั้นก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องระมัดระวังเพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เขี้ยวหมาป่าถูกทำลายได้ ยิ่งไปกว่านั้นกัปตันเทียนเฟิงเองก็เกลียดแก๊งยามากุจิอย่างมากเช่นกันแต่เขาก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆเพราะยังมีสิ่งที่สำคัญกว่าที่ต้องทำ
จนกระทั่งต่อมาหลังจากที่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ากำจัดองค์กรทหารรับจ้างเสือดาวหิมะและกลายเป็นผู้นำแห่งโลกของทหารรับจ้าง หลังจากนั้นเย่เชียนก็ไปที่ประเทศญี่ปุ่นและทำการโจมตีแก๊งยามากุจิครั้งใหญ่และนั่นคือการลอบสังหารหัวหน้าแก๊งยามากูจิในขณะนั้นและถึงแม้ว่าแก๊งยามากุจิจะโกรธในตอนนั้นแต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะบุกทวีปตะวันออกกลางที่เป็นเหมือนสนามหลังบ้านขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและไม่กล้าที่จะเข้าไปในถ้ำหมาป่าเพื่อหาตัวเย่เชียนเพื่อแก้แค้น เพราะพวกเขารู้ดีว่าถึงแม้พลังของพวกเขาจะแข็งแกร่งแต่พวกเขาก็เป็นได้แค่หนอนในทวีปตะวันออกกลางเท่านั้นและเป็นหนอนที่น่าสังเวชที่ถูกเขี้ยวหมาป่ากลืนกินได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตามแก๊งยามากุจิก็ไม่ได้ล้มเลิกการแก้แค้นองค์กรทหารับจ้างเขี้ยวหมาป่าเมื่อองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าออกจากทวีปตะวันออกกลางและปรากฏตัวในที่อื่น ซึ่งพวกเขาก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อฆ่าพวกของเย่เชียน อย่างไรก็ตามมันน่าเสียดายที่แก๊งยามากุจิไม่มีโอกาสทำสำเร็จเลยเพราะข้อมูลที่พวกเขาได้รับไม่เพียงแต่ไม่มีความถูกต้องเท่านั้นแต่พวกเขายังไม่สามารถกำจัดสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าได้เลย
การรู้จักตัวเองและศัตรูเป็นทางเดียวที่จะอยู่รอดในสงครามแห่งการต่อสู้ นี่คือความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอดทุกยุคทุกสมัย ดังนั้นการที่สมาชิกแก๊งยามากุจิไม่ค่อยรู้เรื่องขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าแต่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ากลับรู้การเคลื่อนไหวและแหล่งกบดานของแก๊งยามากุจิจึงทำให้เขี้ยวหมาป่าได้เปรียบอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นในฐานข้อมูลของเขี้ยวหมาป่านั้นมีข้อมูลของแก๊งยามากุจิโดยละเอียดทั้งข้อมูลที่เกี่ยวกับสมาชิกของแก๊งยามากุจิจากผู้นำยันผู้ใต้บังคับบัญชายกเว้นลูกน้องตัวเล็กๆ ซึ่งเกือบจะทั้งหมดล้วนมีรายละเอียดข้อมูลรวมถึงประวัติการใช้ชีวิตและตำแหน่งของแต่ละคนอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามโครงสร้างองค์กรของแก๊งยามากุจินั้นใหญ่มากและมีผู้บุคลากรนับหมื่นในประเทศญี่ปุ่นและจำนวนสมาชิกในประเทศต่างๆทั่วโลกก็มีไม่ต่ำกว่า 100,000 คน ด้วยจำนวนที่มหาศาลเช่นนี้เย่เชียนจึงไม่สามารถกวาดล้างสมาชิกทั้งหมดได้แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นเหมือนจะตระหนักถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของแก๊งยามากุจิดังนั้นรัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้ทำการปราบปรามครั้งใหญ่และถึงแม้ว่าผลกระทบจะไม่ชัดเจนนักก็ตามแต่มันก็เสียหายไม่น้อยจนการเติบโตของแก๊งยามากุจิในไม่กี่ปี่ที่ผ่านมาชะลอตัวลง
นั่นเป็นเพราะเย่เชียนไม่เคยตระหนักว่ามีกองกำลังขนาดใหญ่กว่าอยู่เบื้องหลังแก๊งยามากุจิและนั่นคือสมาคมมังกรดำ ซึ่งเย่เชียนไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพลังและอำนาจของสมาคมมังกรดำเลยแต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาได้เรียนรู้จากข่าวบางอย่างว่าสมาคมมังกรดำเป็นผู้บงการเบื้องหลังแก๊งยามากุจิและองค์กรทหารรับจ้างเรดซันและยังแทรกซึมรัฐบาลญี่ปุ่นอีกด้วย ดังนั้นหากต้องการทำลายแก๊งยามากุจิให้สมบูรณ์แบบก็ต้องทำลายสมาคมมังกรดำเสียก่อน
ประวัติความเป็นมาของสมาคมมังกรดำในประเทศญี่ปุ่นนั้นสามารถสืบย้อนไปได้ถึงยุคโชกุนและยุคเซ็งโงกุ ซึ่งเดิมทีสมาคมมังกรดำเป็นกองกำลังทหารเอกของโชกุนจนกระทั่งต่อมาสมาคมมังกรดำค่อยๆพัฒนาไปเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาและสีดำทุกประเภทและเมื่อสิ้นสุดยุคสมัยเซ็งโงกุนั้นสมาคมมังกรดำก็สนับสนุนการปฏิวัติกับประเทศจีนและภายหลังสมาคมมังกรดำก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับกองกำลังทหารและค่อยๆกลายเป็นกองกำลังบุกเบิกในการรุกรานประเทศจีนในฐานะผู้บุกเบิกยุคใหม่ในรูปแบบของการปฏิวัติและเผด็จการ
ถึงแม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะจบลงด้วยความพ่ายแพ้ก็ตามแต่สมาคมมังกรดำก็ไม่ได้สลายหายไปด้วยแต่กลับใช้โอกาสนี้ในการบุกรุกวงการทหารและการเมืองและธุรกิจของประเทศญี่ปุ่นเกือบจะทั้งหมด ดังนั้นการก่อตัวของแก๊งยามากุจิในปัจจุบันของประเทศญี่ปุ่นและแก๊งอินาดพและแก๊งโยชิคาว่าที่โด่งดังในญี่ปุ่นทั้งหมดล้วนถูกก่อตั้งโดยเหล่าผู้นำของสมาคมมังกรดำ ดังนั้นทั้งสามองค์กรจึงเป็นองค์กรย่อยของสมาคมมังกรดำและยังคงถูกควบคุมโดยสมาคมมังกรดำอย่างสมบูรณ์
ความสัมพันธ์ระหว่างสามองค์กรอย่างแก๊งยามากุจิ,แก๊งอินาดะและแก๊งโยชิคาว่านั้นก็เหมือนกับเกราะป้องกันของสมาคมมังกรดำการตีความ ซึ่งทัศนคติที่สมาคมมังกรดำมีอยู่นั้นเป็นทัศนคติที่ตึงเครียดที่ทำให้พวกเขาต้องต่อสู้กันเองได้แต่จำกัดการพัฒนาของพวกเขาเอาไว้และไม่ยอมให้พวกเขาครอบงำ ซึ่งความหมายของสิ่งนี้ย่อมชัดเจนโดยธรรมชาติและไม่มีอะไรมากไปกว่าการวัดความสามารถของบุคลากรในแขนงต่างๆเพื่อชั่งน้ำหนักอำนาจและอิทธิพลเพราะถ้าหากหนึ่งในนั้นได้รับอนุญาตให้ครอบครองในตำแหน่งที่สูงในประเทศมันก็จะควบคุมได้ยาก อย่างไรก็ตามทั้งสามองค์กรเหล่านี้ในปัจจุบันสามารถช่วยให้สมาคมมังกรดำทำทุกอย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อควบคุมองค์กรขนาดใหญ่กว่าจนไปถึงการครอบครองประเทศ
เป็นเพราะการมีอยู่ของสมาคมมังกรดำจึงทำให้เย่เชียนยังไม่สามารถกวาดล้างแก๊งยามากุจิได้อย่างสมบูรณ์เพราะเมื่อเขาลอบสังหารหัวหน้าแก๊งยามากุจิถึงสองครั้งสมาคมมังกรดำก็ก้าวเข้ามาจัดการและยึดอำนาจไปด้วยผู้นำคนใหม่แทน เช่นเดียวกับลัทธิม่อจื๊อที่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีอำนาจมหาศาลแต่พวกเขาก็เป็นองค์กรที่ค่อนข้างอิสระ ดังนั้น หลังจากที่ปู่ของม่อหลงไปเสียชีวิตไปผู้สืบทอดทั้งสอบจึงต่อสู้กันและนำไปสู่ความแตกแยก แต่เนื่องจากแก๊งยามากุติได้รับการสนับสนุนจากสมาคมมังกรดำเช่นนั้นจึงมีผู้นำคนใหม่โผล่ออกมาทันทีเมื่อผู้นำของพวกเขาเสียชีวิตไปและไม่เพียงแค่ยับยั้งการพังทลายของแก๊งยามากุจิโดยแก๊งอินาดะและแก๊งโยชิคาว่าเท่านั้นแต่พวกเขายังสั่งให้แก๊งอินาดะและแก๊งโยชิคาว่าร่วมมือกันเพื่อบุกรุกแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง
เมื่อเย่เชียนลอบสังหารผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจินั้นเซี่ยตงไป๋แห่งแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงก็ได้จัดกองกำลังเพื่อบุกโจมตีแก๊งยามากุจิอย่างดุเดือดโดยพยายามใช้ประโยชน์จากความโกลาหลของแก๊งยามากุจิเพื่อขยายอาณาเขตของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง อย่างไรก็ตามผลสุดท้ายคือการสูญเสียอย่างหนักเพราะเมื่อพวกเขาเผชิญกับการโจมตีร่วมกันของแก๊งอินาดะและแก๊งโยชิคาว่าแล้วหากไม่ใช่เพราะไหวพริบของโจ่วซวนล่ะก็แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงคงจะถูกกำจัดไปอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงก็ต้องประสบกับความสูญเสียอย่างหนักและเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะเห็นได้ว่าสถานะของสมาคมมังกรดำในประเทศญี่ปุ่นและอำนาจสูงสุดในหมู่กองกำลังใต้ดินของประเทศญี่ปุ่นนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน ดังนั้นถ้าหากต้องการกำจัดแก๊งยามากุจิหรือแม้แต่กองกำลังใต้ดินอื่นๆในประเทศญี่ปุ่นก็ต้องกำจัดสมาคมมังกรดำเสียก่อน ไม่เช่นนั้นมันก็จะทำได้แค่เพียงรอยขีดข่วนและไม่มีประโยชน์อะไร
ไม่ใช่ว่าเย่เชียนไม่ได้ทำอะไรเลยเป็นเวลากว่าหนึ่งปี ซึ่งอย่างน้อยๆเขาก็มีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับกองกำลังใต้ดินของประเทศที่ญี่ปุ่นและเขาก็ยังเข้าใจอย่างชัดเจนในเรื่องทั้งหมดข้างต้น ดังนั้นหากเย่เชียนเริ่มโจมตีอีกครั้งเขาก็จะพร้อมสำหรับการต่อสู้และแน่นอนว่ามันจะทำให้เกิดพายุลูกใหญ่ขึ้นแต่มันจะไม่ง่ายเท่ากับการลอบสังหารหัวหน้าแก๊งยามากุจิเหมือนเมื่อก่อนอย่างแน่นอน
“อย่านะอาจารย์..ฉันยังดูไม่จบเลย..ดูสิพวกเขาถึงจุดสุดยอดอีกครั้งแล้ว..ว้าว..กลายเป็นว่าพวกเขาชอบแบบนี้กันเหรอเนี่ย” เสี่ยวเซียวตะโกน
“นี่เธอสมองผิดปกติอะไรหรือเปล่า..เธอดูมันตั้งกี่รอบแล้ว!” เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูด
“อาจารย์พูดแบบนี้กับฉันได้ยังไงในเมื่ออาจารย์เป็นคนสั่งให้พวกเขาทำแบบนี้..เพราะงั้นอาจารย์จะพูดว่าฉันผิดปกติได้ยังไง..หึ” เสี่ยวเซียวโต้กลับอย่างขุ่นเคือง
“เอาเถอะ..ฉันมีน้ำอยู่ในสมองมาตั้งนานแล้ว” เย่เชียนพูดว่า “พี่หลิน..พี่จัดการต่อได้เลย”
.
.
.
.
.
.
.