ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 643 คำขอโทษ
ตอนที่ 643 คำขอโทษ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหนเย่เชียนก็เพิ่งตระหนักได้ในขณะนี้เพราะการคุยกับนินจาชุดดำเหล่านี้ก็เหมือนคุยกับเป็ดและไก่ ซึ่งไม่มีทางสื่อสารกันได้เลยและนินจาชุดดำก็ไม่รู้ว่าเย่เชียนกำลังพูดถึงอะไรดังนั้นทั้งสองฝ่ายจะเข้าใจกันได้อย่างไร อีกอย่างถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจแต่นินจาชุดดำเหล่านี้ก็จะไม่ยอมอยู่ดีและไม่หันไปรุมชายหนุ่มหรอกใช่ไหม?
เย่เชียนก็จ้องมองไปที่ชายหนุ่มแล้วพูดว่า “มันคงสายไปแล้วสินะที่จะเสียใจตอนนี้” หลังจากนั้นเย่เชียนก็เริ่มการโจมตีราวกับคลื่น ยิ่งไปกว่านั้นกลยุทธ์และทักษะของเย่เชียนนั้นเปลี่ยนไปมากเช่นกันและมันเดาทางได้ยากมาก
ทักษะนี้ไม่ใช่ทักษะดั้งเดิมของเย่เชียนเพราะนี่เป็นสิ่งที่เย่เชียนได้เรียนรู้จากหลินเฟิงเมื่อเขาอยู่ในประเทศรัสเซียครั้งก่อนเมื่อเขาร่วมมือกับองค์กรเซเว่นคิลอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก กล่าวกันว่าเป็นการลอกเลียนแบบทักษะการต่อสู้อย่างสมบูรณ์แบบ
ต้องบอกว่าการเคลื่อนไหวของหลินเฟิงกับนินจาเหล่านี้ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการเคลื่อนไหวของเย่เชียนเพราะดูเหมือนว่าการเคลื่อนไหวของหลินเฟิงนั้นจะถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับนินจาเหล่านี้โดยเฉพาะ ดังนั้นเย่เชียนจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและเขาก็ฉุกคิดว่าอาจเป็นเพราะการที่องค์กรเซเว่นคิลเผชิญหน้ากับตระกูลนินจาอิงะอยู่บ่อยๆหลินเฟิงจึงเข้าใจวิถีของนินจาได้ดีขึ้น ดังนั้นหลินเฟิงจึงสร้างกระบวนการทักษะการเคลื่อนไหวที่ยุ่งยากเช่นนี้ออกมาในการต่อสู้กับศัตรู
หลังจากที่เย่เชียนจัดการนินจาที่อยู่ข้างหน้าเขาเย่เชียนก็เห็นว่าชายหนุ่มก็จัดการคู่ต่อสู้ของเขาแล้วเช่นกันดังนั้นเย่เชียนจึงมองไปที่ชายหนุ่มแล้วขดริมฝีปากเล็กน้อยแล้วพูดว่า “นี่..เรารีบออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ..ขึ้นรถแล้วผมจะไปส่งคุณที่อื่น” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็เดินตรงไปที่รถของเขา
ไม่ว่าชายหนุ่มจะเย่อหยิ่งสักแค่ไหนแต่เขาก็รู้สถานการณ์ปัจจุบันของเขาดีเพราะตอนนี้เขากำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยนินจาเหล่านั้นและพวกนั้นก็จะเปิดเผยตัวออกมาหากเขาไม่ระวังและชีวิตของเขาก็จะจบลงที่นี่ ซึ่งเขาเคยได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับเย่เชียนจากหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและได้รู้ว่าเย่เชียนนั้นมีความสามารถมากเพียงใด เนื่องจากองค์กรทหารปรากฏตัวในประเทศญี่ปุ่นแบบนี้เขาก็เชื่อว่าเย่เชียนจะสามารถส่งตัวเองออกจากประเทศญี่ปุ่นได้อย่างปลอดภัย ดังนั้นเขาจะไม่โง่พอที่จะทำให้เย่เชียนขุ่นเคืองมากนัก ดังนั้นหลังจากฟังคำพูดของเย่เชียนเขาจึงรีบทำตาม
หลังจากเข้าไปในรถของเย่เชียนแล้วเย่เชียนก็สตาร์ทรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว “ผมยังไม่รู้ชื่อของคุณเลย..คุณไม่คิดที่จะแนะนำตัวเองบ้างเลยหรอ?” เย่เชียนเหลือบมองชายและพูด
“ผมชื่อหยานฮั่น” ชายหนุ่มพูด
“หยานฮั่น!..ชื่อแปลกดี” เย่เชียนขดปากเล็กน้อยแล้วพูดเพราะเขารู้กฎเกณฑ์ของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีนเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงไม่สอบถามเกี่ยวกับภารกิจของหยานฮั่นและจุดประสงค์ที่เขามาที่ประเทศญี่ปุ่นและเย่เชียนก็ไม่ได้อยากรู้เรื่องเหล่านี้มากนัก ซึ่งถึงแม้ว่าเย่เชียนจะถามไปแต่ถึงยังไงหยานฮั่นก็จะไม่พูดอย่างแน่นอน
“ผมเคยได้ยินหัวหน้าพูดถึงผู้นำองค์กรทหารรับจ้างว่าเขาคือราชาหมาป่าเย่เชียน..ชื่อนี้ฟังดูแปลกๆและมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าของผมมากนักหรอก” หยานฮั่นพูด “หัวหน้าบอกว่าคุณมีเครื่อข่ายมากมายทั่วโลกเพราะงั้นคุณสามารถพาผมหลบหนีออกจากประเทศญี่ปุ่นได้ใช่มั้ย”
เย่เชียนเหลือบมองเขาอย่างแผ่วเบาแล้วพูดว่า “แน่นอน..ผมมีช่องทางมากมาย..แต่ทำไมผมถึงต้องช่วยคุณด้วย..ผมมาช่วยชีวิตคุณแต่คุณกลับพูดแบบนั้น..ตัวตนของคุณน่ะเป็นภัยต่อประเทศญี่ปุ่นมากแล้วคุณไปเหยียบเท้าของพวกมันแล้วเพราะงั้นจึงคิดว่าสนามบินคงจะอยู่ภายใต้การตรวจตราที่เข้มงวดอย่างมาก..การที่คุณต้องการหลบหนีออกนอกประเทศนั้นมันเป็นความคิดที่โง่เขลามาก”
“พวกนั้นมันเป็นนินจาของตระกูลอิงะ..มันยากที่จะรับมืออย่างมาก..แต่คุณก็ควรจะรู้นะว่าภารกิจในฐานะสายลับอย่างผมย่อมเสี่ยงชีวิตอยู่แล้วเพราะงั้นถ้าคุณไม่อยากช่วยมันก็ไม่แห็นจะเป็นอะไร..แต่ผมแค่ประเมินคุณต่ำไปผมไม่คิดว่าคุณจะช่วยในฐานะชาวจีนด้วยกัน” หยานฮั่นพูด
“นี่คุณยังคิดแบบนี้อยู่อีกเหรอให้ตายเถอะ..อะไรจะรักในศักดิ์ศรีขนาดนั้น” เย่เชียนพูดต่อ “ผมรู้ว่าคุณไม่กลัวความตายแต่คุณมาที่ประเทศญี่ปุ่นแบบนี้จุดประสงค์ของคุณคืออะไร..สืบค้นข้อมูลของตระกูลนินจาอิงะงั้นเหรอ?..ผมเชื่อว่าเรื่องแบบนี้คุณน่าจะรู้ดีกว่าผม..ซึ่งถ้าข้อมูลของคุณส่งไปไม่ถึงหวงฟู่ชิงเตี๋ยนล่ะก็สิ่งที่คุณมาทำทั้งหมดก็จะสูญเปล่าไปอย่างไร้ค่า”
หยานฮั่นก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเพราะเขาต้องยอมรับเลยว่าสิ่งที่เย่เชียนพูดออกมานั้นถูกต้องอย่างยิ่ง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นชีวิตของเขาก็จะไร้ค่าอย่างมากเพราะตั้งแต่วินาทีที่เขาเข้าร่วมสำนักงานความมั่นคงแห่งชาตินั้นชีวิตของเขาก็ได้ถูกส่งมอบให้กับประเทศอย่างสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามหากข้อมูลที่เขาได้มาอย่างยากลำบากไม่สามารถส่งไปยังหวงฟู่ชิงเตี๋ยนได้นั้นชีวิตของเขาก็เหมือนไม่มีค่าอะไรเลย
“หืม..เหมือนคุณจะดูถูกคนของสำนักงานความมั่นคงของประเทศและประเมินเราต่ำเกินไปนะ” หยานฮั่นพูด “มันก็มีอยู่หลายวิธีในการส่งข้อมูลและคุณคงไม่ได้คิดน้อยเกินไปว่าผมต้องกลับไปที่จีนเพื่อส่งข้อมูลหรอกใช่ไหม?..คุณคิดว่าผมเป็นเจ้าหน้าที่ข่าวกรองและสายลับเพียงคนเดียวที่เข้ามาแฝงตัวที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างงั้นเหรอ?”
“ถ้าคุณคิดว่ามีวิธีของคุณก็ไปซะสิ..คุณลองไปถามหวงฟู่ชิงเตี๋ยนดูสิว่าผมใจดีขนาดนั้นเลยหรอ?” เย่เชียนพูดต่อ “เชื่อไหมว่าผมสามารถจับคุณไปส่งให้พวกนินจาอิงะได้?”
หยานฮั่นก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาตกตะลึงไปกับคำพูดของเย่เชียน “คุณคงไม่ได้พูดจริงหรอกใช่มั้ย?” หยานฮั่นจ้องไปที่เย่เชียนอย่างว่างเปล่าและพูด
“ผมจะทำอย่างที่ผมพูด” เย่เชียนพูด
“บ้าจริง..คุณไม่กลัวคนอื่นเรียกคุณว่ากบฏของชาติเหรอ” หยานฮั่นพูด
“คุณคิดว่าคุณเป็นใครกันเนี่ย..อย่าคิดว่าการเป็นคนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติแล้วคุณจะเหนือคนอื่นนะ..คุณจะพูดอะไรผมก็ไม่สนใจหรอก..ผมหน้าด้านเหมือนหมูที่ตายแล้วไม่กลัวน้ำเดือดๆ..ใครจะด่าจะว่าผมก็เชิญเพราะผมมีความสุขที่โดนด่า” เย่เชียนแสยะยิ้มแล้วพูด
หยานฮั่นก็เงยหน้าขึ้นมองเย่เชียนและเขาก็ไม่แน่ใจจริงๆว่าสิ่งที่เย่เชียนพูดนั้นจริงจังหรือแค่หยอกล้อเล่นเท่านั้น ซึ่งเมื่อครู่นี้เขาได้เห็นทักษะการต่อสู้ของเย่เชียนแล้วและเย่เชียนก็แข็งแกร่งกว่าตัวเขาเองอย่างมาก ยิ่งกว่านั้นถึงแม้ว่าทักษะของเย่เชียนจะไม่ดีเท่าเขาก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ยังไม่กล้าทำอะไรกับเย่เชียนอยู่ดีเพราะหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเคยออกคำสั่งให้บุคลากรทั้งหมดของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติปฏิบัติต่อองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าด้วยความสุภาพและเคารพและอย่าไปรุกรานและคุกคามพวกเขาเพราะการแก้แค้นขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นยิ่งใหญ่ ดังนั้นถ้าเขาทำให้องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าขุ่นเคืองล่ะก็เขาก็จะกลายเป็นกบฏเสียเอง
“ให้ตายเถอะ!” หยานฮั่นลังเลอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “เมื่อกี้นี้ผมผิดเอง..ผมต้องขอโทษด้วย”
“ห๊ะ..คุณพูดว่าอะไร..ผมไม่ได้ยิน” เย่เชียนพูดด้วยท่าทางมึนงง
หยานฮั่นจ้องมองไปที่เย่เชียนอย่างหดหู่จากนั้นก็พูดว่า “ผมขอโทษ”
“อะไรนะ..ผมเจ็บหูระหว่างการต่อสู้เมื่อกี้ผมก็เลยได้ยินไม่ค่อยชัด..ช่วยพูดให้ดังๆกว่านี้หน่อยจะได้มั้ย?” เย่เชียนพูด
“พอเถอะเลิกล้อเล่นได้แล้ว” หยานฮั่นพูด
เย่เชียนก็ยักไหล่เล็กน้อยแล้วพูดว่า “โถ่คุณนี่ไม่มีอารมณ์ขันเอาซะเลย..ผมถามหน่อยว่าคนที่ปู่รับเข้ามาในหน่วยเนี่ยเป็นแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่า?”
หยายฮั่นก็ถึงกับตกตะลึงและกำลังจะเปิดปากของเขาเพื่ออยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ในที่สุดเขาก็ต้องกลืนมันลงไปเพราะเขาไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของเย่เชียนและตอนนี้เขาก็ไม่ต้องการที่จะยั่วยุให้เกิดความผิดพลาดใดๆเพราะคำพูดของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะหุบปากไปอย่างชาญฉลาด
“เอาเถอะผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรขนาดนั้น..ในเมื่อคุณขอโทษผมแล้วผมก็จะปล่อยคุณไป” เย่เชียนฉีกยิ้มอย่างมีความสุขและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาเซี่ยตงไป่ ซึ่งหลังจากพูดคุยกันได้ไม่นานเซี่ยตงไป่ก็เห็นด้วย แน่นอนว่าเย่เชียนจะไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของหยานฮั่นเพราะมันไม่มีความจำเป็นเลย ดังนั้นเย่เชียนจึงขอให้เซี่ยตงไป่จัดหาคนพาหยานฮั่นหลบหนีออกจากประเทศญี่ปุ่น
แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นถือเป็นงูเจ้าถิ่นของประเทศญี่ปุ่นเช่นกันดังนั้นสำหรับพวกเขาแล้วการลักลอบหรือหลบหนีออกจากประเทศแบบนี้จึงเป็นเรื่องปกติที่ธรรมดามากและนอกจากนี้นี่คือสิ่งที่เย่เชียนขอดังนั้นเซี่ยตงไป่จึงไม่จำเป็นต้องสอบถามรายละเอียดต่างๆอย่างรอบคอบเลยแม้แต่น้อย
หลังจากวางสายแล้วเย่เชียนก็เหลือบมองไปที่หยานฮั่นแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ได้รับการจัดการแล้วและคุณก็น่าจะได้ออกไปจากญี่ปุ่นในวันหรือสองวันนี้..ผมจะส่งคุณไปที่แก๊งฝูชิงเพื่อกบดาน..ไม่ต้องกังวลไปเพราะที่นั่นปลอดภัยคุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าตราบใดที่คุณอยู่ที่นี่พวกนินจาอิงะจะไม่กล้าทำอะไรคุณ”
“ครั้งนี้ผมเป็นหนี้คุณจริงๆ..ผมจะตอบแทนคุณอย่างแน่นอนหากมีโอกาส” หยานฮั่นพูด “คราวนี้คุณได้ทำให้พวกนินจาอิงะขุ่นเคืองเพราะมาช่วยผม..พวกนั้นต้องจับตามองคุณอย่างแน่นอนคนเหล่านั้นไม่ง่ายที่จะจัดการเลยเพราะพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากสมาคมมังกรดำ..เพราะงั้นในประเทศญี่ปุ่นนี้ถ้าหากคุณไม่ระวังคุณก็อาจจะตายได้ทุกเมื่อ..คุณต้องระวังหากมีอะไรผิดพลาดก็อย่ามาบอกว่าผมไม่ได้เตือนคุณก็แล้วกัน”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วและเหลือบมองหยานฮั่นและคิดอย่างลับๆว่า ‘ดูเหมือนว่าฉันจะคิดถูก..การที่หยานฮั่นมาที่นี่ก็เพื่อสืบค้นข้อมูลของพวกสมาคมมังกรดำ’ ตอนนี้การเลือกตั้งพรรครัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นก็กำลังจะมาถึงแล้วดังนั้นแน่นอนว่าสมาคมมังกรดำก็จะเริ่มเคลื่อนไหวในฐานะผู้สนับสนุนแวดวงทหาร ซึ่งประเทศจีนนั้นไม่ต้องการให้สมาคมมังกรดำมีอำนาจดังนั้นพวกเขาจึงส่งเจ้าหน้าที่ข่าวกรองและสายลับจากสำนักความมั่นคงแห่งชาติมาจับตามองการเคลื่อนไหวของสมาคมมังกรดำ
หยานฮั่นนั้นพยายามอย่างเต็มที่กว่าจะพูดสิ่งเหล่านี้ออกมาได้เพราะในฐานะเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองและสายลับแล้วเขาจะไม่มีวันเปิดเผยข้อมูลของสมาคมมังกรดำแก่ผู้อื่นอย่างเด็ดขาด แต่ทว่าเย่เชียนก็ถือได้ว่าเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาและเป็นผู้มีพระคุณกับเขาและไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดถึงยังไงเย่เชียนกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนหัวหน้าของเขานั้นก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันดังนั้นเขาจึงสามารถพูดออกมาได้
.
.
.
.
.
.
.