ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 644 การมาถึงขององค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ ตอนที่ 1
- Home
- ยอดนักรบจอมราชัน
- ตอนที่ 644 การมาถึงขององค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ ตอนที่ 1
ตอนที่ 644 การมาถึงขององค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ ตอนที่ 1
การเลือกตั้งพรรครัฐบาลของประเทศญี่ปุ่นและมันจะดึงดูดความสนใจจากนานาชาติทั่วโลกและยังเป็นเวลาที่กิจกรรมของสายลับและหน่วยข่าวกรองในประเทศต่างๆจะเกิดขึ้นบ่อยที่สุดนั่นเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้เพราะทุกคนต้องการทราบว่าใครจะเป็นผู้ได้รับเลือกเป็นผู้บริหารประเทศคนต่อและจะนำนโยบายและทัศนคติแบบใดมาใช้กับประเทศนั่นเอง
ประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีนนั้นเริ่มมีความขุ่นเคืองต่อกันมากขึ้นทุกทีๆและความคับข้องใจที่สะสมมานานหลายปีนั้นก็ไม่สามารถแก้ไขได้โดยผู้มีอำนาจที่รักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำเพราะที่สำคัญกว่านั้นคือประเทศญี่ปุ่นเองก็จับตามองประเทศจีนมาเสมอ ดังนั้นในฐานะผู้นำของจีนพวกเขาต้องให้ความสนใจกับกระบวนการและผลการเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่นอย่างเคร่งครัด
เช่นเดียวกับการเลือกตั้งพรรครัฐบาลของประเทศจีนเพราะการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่คนล่าสุดนั้นด้วยวิธีการและความกล้าหาญอันยอดเยี่ยมได้ปลุกเร้าความสนใจของนานาประเทศอย่างมาก ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปในสมัยนั้นนายกรัฐมนตรีเข้ารับตำแหน่งพร้อมโลงศพโดยพูดออกสื่อว่าเขาได้เสียสละชีวิตไปแล้วและชีวิตของเขาได้ตายลงไปเพื่ออุทิศตนให้กับประเทศอย่างแท้จริงและมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆเพราะมาตรการที่เขาใช้หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้ปรับปรุงสถานะระหว่างประเทศของประเทศจีนอย่างมาก นอกจากนี้นโยบายต่างๆของเขาก็ยังส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมากและกลวิธีอันเข้มงวดของเขาก็ได้นำผลประโยชน์มากมายมาสู่ประเทศและประชาชน
ดังนั้นการเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่นจึงก็มีผลกระทบต่อประเทศจีนเช่นกันและในฐานะองค์กรที่สนับสนุนการทหารแล้วรัฐบาลจีนจึงต้องให้ความสนใจสมาคมมังกรดำอย่างมากเพราะถ้าหากสมาคมมังกรดำมีอำนาจที่สามารถควบคุมบรรดาทหารและแข็งข้อกับประเทศจีนล่ะก็มันจะผลเสียอย่างมากต่อประเทศจีน ดังนั้นในฐานะหน่วยงานข่าวกรองที่เชี่ยวชาญที่สุดของจีนอย่างสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่และสายลับไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทั้งหมดนั่นเอง
แน่นอนว่าเย่เชียนไม่ทราบข้อมูลการติดต่อของตัวแทนเหล่านี้แต่เย่เชียนก็เชื่ออย่างยิ่งว่าถึงแม้ว่าหยานฮั่นจะไม่ออกจากประเทศญี่ปุ่นแต่ถึงยังไงเขาก็จะสามารถส่งต่อข้อมูลได้อยู่ดี อย่างไรก็ตามด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่รอด แต่การตายของเขานั้นไม่สำคัญเพราะสิ่งที่สำคัญคือการตายของเขาอาจเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทระหว่างประเทศและอาจส่งผลกระทบต่อการกระทำทั้งหมดของตัวแทนของจีนในประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นหลังจากที่เย่เชียนพูดเช่นนั้นหยานฮั่นจึงไม่ลังเลอีกต่อไป
หยานฮั่นนั้นไม่เคยติดต่อกับเย่เชียนเพราะเขาแค่เคยได้ยินหวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดถึงเย่เชียนเท่านั้นและเขาก็ได้เห็นกองเอกสารของข้อมูลของเย่เชียนในไฟล์ลับสุดยอดของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีน ดังนั้นเขาจะไปรู้นิสัยของเย่เชียนได้อย่างไรแล้วใครจะไปรู้ได้ว่าเย่เชียนจะทำแบบที่เขาพูดจริงๆหรือเปล่า
เย่เชียนก็ไปส่งหยานฮั่นที่แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงและฝากเซี่ยจือยี่จัดการหาที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับหยานฮั่นส่วนเย่เชียนก็จากไป ซึ่งด้วยความช่วยเหลือของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นการส่งหยายฮั่นออกจากประเทศญี่ปุ่นมันก็เป็นเรื่องง่ายอย่างมากและเย่เชียนก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากเกินไป อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมาพบกับหยายฮั่นและที่สำคัญกว่านั้นเรื่องต่างๆทำให้เย่เชียนตกตะลึงยิ่งขึ้น แต่เย่เชียนก็เชื่อว่าเขาจะยังคงอยู่ในความมืดและไม่ถูกนินจาเหล่านั้นจับตามอง ดังนั้นทั้งหมดนี้จะไม่ใช่สิ่งที่ต้องพูดถึงในตอนนี้
เมื่อเขากลับมาที่โรงแรมหลินเฟิงก็กลับมาแล้วและเขาก็ได้รับข้อมูลมากมายจากองค์กรเซเว่นคิล ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่ได้นอนกันคืนเพื่อแยกแยะและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดและชี้แจงคำสั่งให้กระจ่าง
เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าและผ่านไปสามวันในชั่วพริบตา ซึ่งในช่วงสามวันนี้เย่เชียนก็รู้สึกผ่อนคลายมากเพราะทุกๆวันเขาจะไปกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อรับประทานอาหารและพูดคุยกันและแลกเปลี่ยนของสมนาคุณแก่กันและแน่นอนว่างานที่ดูเหมือนง่ายนี้เหนื่อยมากจริงๆเพราะไม่ว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ได้ขัดแย้งกับประเทศจีนโดยตรงแต่พวกเขามักจะมีความอคติต่อคนจีนอยู่ในใจเสมอและเย่เชียนก็เหนื่อยมากที่ต้องรับมือกับพวกเขา
อย่างไรก็ตามเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็มีตำแหน่งที่สูงในโลกแห่งธุรกิจดังนั้นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสามารถพัฒนาประเทศญี่ปุ่นได้อย่างมาก ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วสิ่งต่างๆจึงดำเนินไปอย่างราบรื่นและแน่นอนว่าต้องขอบคุณความช่วยเหลือของซ่งหลัน ไม่เช่นนั้นมันจะไม่เป็นอย่างนั้นเพราะอย่างแรกเย่เชียนนั้นไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นและถ้าหากปราศจากการแปลภาษาของซ่งหลันล่ะก็เย่เชียนก็คิดว่าการสื่อสารจะเป็นปัญหาอย่างมาก อย่างที่สองการที่เย่เชียนเคยสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ของรัฐจากทั่วทุกมุมโลกมามากมายดังนั้นเขาจึงรับมือได้ดีอย่างมาก
เหตุผลที่ติดต่อกับเจ้าหน้าที่รัฐของญี่ปุ่นเหล่านี้ไม่เพียงเพื่อการพัฒนาของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเท่านั้นเพราะที่สำคัญกว่านั้นเย่เชียนแค่ต้องการทราบว่าสมาคมมังกรดำจะดำเนินการใดๆต่อหรือไม่ ซึ่งถ้าหากเกิดปัญหาต่างๆรัฐบาลก็คงจะกดดันสมาคมมังกรดำไม่มากก็น้อยเพราะประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่สถานที่ของสมาคมมังกรดำเพียงฝ่ายเดียวแต่ยังมีมีพรรคการเมืองอื่นๆที่ทรงอำนาจอยู่อีก ดังนั้นเมื่อการเลือกตั้งพรรครัฐบาลมาถึงพวกเขาก็ต้องจัดการกับความสัมพันธ์ต่างๆอย่างระมัดระวัง
ในเวลานี้ช่างแต่งหน้าของซ่งหลันที่มาจากเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเอ็นเตอร์เทนเมนท์สาขาการบันเทิงก็มาถึงประเทศญี่ปุ่นกำหนด ซึ่งเย่เชียนก็บอกให้เธอลองแต่งหน้าให้ตัวเองและเย่เชียนก็พึงพอใจอย่างมาก เย่เชียนนั้นชื่นชมช่างแต่งหน้าเหล่านี้อย่างมากเพราะทักษะของพวกเธอนั้นช่างเหนือธรรมชาติจริงๆ ซึ่งพวกเธอนั้นทาหน้าเย่เชียนด้วยเครื่องสำอางต่างๆนาๆและติดเคราปลอมเอาไว้เพื่อปกปิดรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเย่เชียนจนเย่เชียนนั้นดูเปลี่ยนไปอย่างมาก
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดอย่างลับๆและไม่น่าแปลกใจเลยที่ดาราหนังเหล่านั้นในภาพยนตร์ดูสวยมากจอแก้ว ซึ่งนั่นเป็นเพราะช่างแต่งหน้าเหล่านี้นั่นเอง
หลังจากส่องกระจกเป็นเวลานานเย่เชียนก็ชื่นชมช่างแต่งหน้าและแทบจะไม่เชื่อเลยว่าคนในกระจกนั้นจะเป็นตัวเขาเอง ซึ่งเย่เชียนก็เชื่อว่าถ้าใครที่ไม่คุ้นเคยกับเย่เชียนมันก็ยากที่จะจำเขาได้หลังจากการแต่งหน้า เย่เชียนนั้นจัดห้องพักให้ช่างแต่งหน้าอาศัยอยู่และขอเบอร์ติดต่อของเธอเอาไว้เพื่อที่เย่เชียนจะได้ติดต่อเธอได้ตลอดเวลา
ช่างแต่งหน้าก็มีความสุขมากเพราะกลับถูกยกย่องและได้รับสิ่งดีๆมากมายโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะเป็นหัวหน้าช่างแต่งหน้าของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสาขาการบันเทิงแต่เธอก็ไม่เคยพบประธานของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเลยสักครั้งแต่ตอนนี้เธอโชคดีที่ได้ทำงานกับประธานอย่างเย่เชียนโดยตรง นอกจากนี้ถึงแม้ว่าเธอจะมีตำแหน่งที่ดีในฐานะหัวหน้าช่างแต่งหน้าแต่เธอก็ยังอยู่ภายใต้ความกดดันมากมาย แต่ตอนนี้เธอกลับได้แต่งหน้าให้กับเย่เชียนได้ทุกเมื่อตราบใดที่เย่เชียนต้องการเธอจึงมีความสุขมาก
สามวันต่อมาไอซอลเดแฮมป์ตันก็บินมายังประเทศญี่ปุ่นอย่างราบรื่นและสมาชิกคนอื่นๆขององค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ก็เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นได้อย่างราบรื่นเช่นกัน ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะเย่เชียนล่ะก็ไอซอลเดแฮมป์ตันก็จะไม่มาด้วยตัวเองอย่างแน่นอนเพราะเขากำลังสนุกกับชีวิตที่อิสระอย่างมากและถ้าไม่ใช่เพราะเย่เชียนขอให้ช่วยล่ะก็เขาจะไม่เข้ามามีส่วนร่วมในสิ่งที่อันตรายเหล่านี้เลยจริงๆ ซึ่งถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างเรดซันจะไม่ได้ทรงพลังมากนักเมื่อเทียบกับองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ก็ตาม แต่นี่ก็เป็นประเทศญี่ปุ่นที่เป็นถึงถิ่นขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันและยังมีสมาคมมังกรดำที่คอยสนับสนุนองค์กรทหารรับจ้างเรดซันอยู่อีก ดังนั้นการที่องค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่จะทำลายองค์กรทหารรับจ้างเรดซันได้นั้นมันจึงไม่ง่ายและห้ามประมาทโดยเด็ดขาดไม่งั้นก็เท่ากับว่าพวกเขาเอาชีวิตมาทิ้งขว้างที่นี่นั่นเอง
อย่างไรก็ตามเย่เชียนนั้นเป็นเพื่อนที่สำคัญที่สุดของไอซอลเดแฮมป์ตันมาโดยตลอดและเขาก็รู้สึกว่าเขาควรจะมาช่วยเพื่อนคนนี้ ยิ่งกว่านั้นเขาไม่ได้พบเย่เชียนมานานหลายปีแล้วดังนั้นเขาจึงอยากพบเย่เชียนอย่างมาก
เย่เชียนนั้นไม่ได้ไปรับพวกเขาที่สนามบินโดยตรงเพราะตัวตนปัจจุบันของเย่เชียนนั้นชัดเจนมากและเขาไม่ต้องการให้ไอซอลเดแฮมป์ตันต้องตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเขาจึงให้อู๋หวนเฟิงไปรับพวกเขาที่สนามบินเพราะตัวตนของอู๋หวนเฟิงนั้นสำหรับคนนอกแล้วส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่าอู๋หวนเฟิงเป็นเพียงบอดี้การ์ดของซ่งหลันเท่านั้นและสิ่งนี้จะเบี่ยงเบนความสนใจไปอย่างมาก นอกจากนี้ทักษะการสะกดรอยตามและการเอาตัวรอดของอู๋หวนเฟิงนั้นก็เป็นถึงอันดับสองรองจากหลี่เหว่ย ดังนั้นอู๋หวนเฟิงจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะรับหน้าที่ไปต้อนรับไอซอลเดแฮมป์ตันที่สนามบินนั่นเอง
สถานที่นัดพบถูกจัดอยู่ในบ้านพักอาศัยธรรมดาในย่านไชน่าทาวน์เพราะท้ายที่สุดที่แห่งนี้มันก็อยู่ในเขตของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง ดังนั้นมันจึงปลอดภัยกว่าที่อื่นๆมากและละสายตาไปจากกองกำลังต่างฝ่ายของประเทศญี่ปุ่นได้ ดังนั้นมันจึงทำให้ความปลอดภัยของไอซอลเดแฮมป์ตันมากขึ้นไปด้วย ซึ่งเย่เชียนก็ได้ขอให้เซี่ยตงไป่มาหาเขาที่นี่โดยเฉพาะเช่นกัน
เย่เชียนก็รออยู่ที่นั่นแล้วกับหลินเฟิงส่วนเซี่ยตงไป่กับโย่วซวนก็เพิ่งจะมาถึง ท้ายที่สุดแล้วที่แห่งนี้มันก็อยู่ในประเทศญี่ปุ่นและองค์กรทหารรับจ้างเรดซันก็เป็นงูเจ้าถิ่นของประเทศญี่ปุ่นดังนั้นหากต้องการทำลายองค์กรทหารรับจ้างเรดซันที่นี่ล่ะก็เย่เชียนจะต้องได้รับความร่วมมือจากแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงอยู่แล้วและถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมในสงครามก็ตามแต่ปืนและกระสุนทั้งเส้นทางหลบหนีต่างๆทั้งหมดนี้ก็ต้องได้รับการจัดเตรียมจากแก๊งพ่อฝูชิง
ไม่นานหลังจากนั้นภายใต้การนำทางของอู๋หวนเฟิงก็ตามมาด้วยไอซอลเดแฮมป์ตันและชายหนุ่มอีกสองคนเดินเข้ามาจากด้านนอก ซึ่งเมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็รีบลุกขึ้นและทักทายไอซอลเดแฮมป์ตันและเมื่อไอซอลเดแฮมป์ตันเห็นเย่เชียนแล้วรอยยิ้มที่ดูมีความสุขก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและเขาก็โอบกอดเย่เชียนแล้วพูดว่า “เราไม่ได้เจอกันนานเลยนะ..นายดูเปลี่ยนไปเยอะมาก” ไอซอลเดแฮมป์ตันพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่นายยังดูสง่าผ่าเผยไม่เคยเปลี่ยนเลย”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณมาก..ผมไม่คิดว่าคุณจะมาที่นี่ด้วยตัวเองเลย..ผมขอบคุณจริงๆ”
“หืม..เราจำเป็นต้องพูดแบบนี้กันเหรอ..ถ้านายอยากจะขอบคุณฉันจริงๆนายก็พาฉันไปดื่มสิ..ฉันชอบเหล้าของจีนมากฮ่าๆ!” ไอซอลเดแฮมป์ตันพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่มีปัญหา..พวกเราจะดื่มมากเท่าที่คุณต้องการเลย” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “มานั่งก่อนสิ..ผมจะแนะนำให้คุณรู้จักกับผู้ทรงอิทธิพลเอง” ขณะพูดเย่เชียนก็พาไอซอลเดแฮมป์ตันมานั่งที่เก้าอี้และระหว่างนั้นเย่เชียนก็หันหน้าไปเหลือบมองอู๋หวนเฟิงแล้วอู๋หวนเฟิงก็หยักหน้าแล้วเดินออกไป
ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีคนของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงอยู่รอบนอกเพื่อดูแลความปลอดภัยก็ตามแต่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายใดๆแบบนั้นเย่เชียนจึงต้องสั่งให้คนจากหน่วยกรงเล็กหมาป่าคอยสอดส่องทุกอย่างอย่างลับๆอยู่ที่ด้านนอก ยิ่งไปกว่านั้นการที่ไอซอลเดแฮมป์ตันมาที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อมาช่วยตนเช่นนี้เย่เชียนก็ไม่ต้องการให้ไอซอลเดแฮมป์ตันเป็นอะไรไปแม้แต่น้อยไม่เช่นนั้นเขาคงจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน
.
.
.
.
.
.
.