ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 649 การมาถึงของหมาป่าผี
ตอนที่ 649 การมาถึงของหมาป่าผี
ขณะที่ขับรถกลับเย่เชียนและหลินเฟิงนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรกันสักคำแต่ทั้งคู่กำลังขมวดคิ้วราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างกันอยู่
หลังจากนั้นไม่นานหลินเฟิงก็พูดว่า “น้องเย่นายรู้เรื่องโย่วซวนมากแค่ไหน?”
“หืม..พี่หลินกำลังสงสัยว่าโย่วซวนเป็นสายลับงั้นหรอ” เย่เชียนถาม
หลินเฟิงก็พยักหน้าแล้วว่า “โย่วซวนนั้นน่าสงสัยจริงๆเพราะเขารู้ว่าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีนกำลังจะหลบหนีออกจากประเทศญี่ปุ่นและเหมือนจะรู้อีกว่าผู้คุมเขตจ้าวถูกฆ่าตายทันทีที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น..ฉันน่ะคิดว่ามันมีความเป็นไปได้เพราะโย่วซวนกำลังพยายามปกปิดตัวตนของเขา..เพราะงั้นเขาจึงโยนความผิดให้ผู้คุมเขตจ้าว..ลองคิดดูสิว่าต่อให้แก๊งฝูชิงจะรู้แล้วว่าผู้คุมเขตจ้าวนั้นเป็นสายลับแต่เขาก็ไม่จำเป็นจะต้องมาในเวลานี้เลย..ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่เขาคุยโทรศัพท์กับเซี่ยจือยี่เสร็จเขาก็เดาว่าเราจะมาด้วยดังนั้นเขาจึงทำอย่างนั้นและจุดประสงค์ก็คือไม่ให้เราสงสัยเขา..แต่ทว่าทุกสิ่งกลับทำให้ฉันยิ่งสงสัยเขามากกว่าเดิม”
“พี่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่าผมและรู้จักโย่วซวนดีกว่าผมอีก..ว่าแต่พี่รู้เกี่ยวกับโย่วซวนมากแค่ไหน” เย่เชียนถาม
หลินเฟิงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “เมื่อตอนที่จือยี่กับฉันพบกันตอนนั้นโย่วซวนก็ได้เป็นผู้คุมเขตหลักของแก๊งฝูชิงแล้ว..ต่อมาถึงแม้ว่าฉันจะให้ความสนใจเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวและสิ่งต่างๆของแก๊งฝูชิงก็ตามแต่มันก็ไม่มีอะไรที่น่าสงสัยเกี่ยวกับโย่วซวนเลย..ยิ่งไปกว่านั้นเขาทำเพื่อผลประโยชน์ของแก๊งมาโดยตลอด..อย่างครั้งล่าสุดที่แก๊งอินาดะและแก๊งโยชิคาว่าร่วมกันโจมตีแก๊งฝูชิงนั้นถ้าไม่ใช่เพราะโย่วซวนคนนี้ฉันก็คิดว่าแก๊งฝูชิงคงจะถูกลบออกไปจากประเทศญี่ปุ่นแล้ว..นั่นคือตัวตนของโย่วซวนอย่างที่พวกเรารู้”
“อันที่จริงก่อนหน้านี้รวมถึงครั้งนี้นั้นแก๊งฝูชิงกับเขี้ยวหมาป่าของผมก็เคยร่วมมือกันแค่สามครั้ง” เย่เชียนพูด “ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโย่วซวนคนนี้เลย..แต่ผมได้ยินมาว่าเซี่ยตงไป่เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ดังนั้นโย่วซวนจึงภักดีต่อเซี่ยตงไป่และแก๊งฝูชิงและได้มาทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของแก๊งและคอยให้คำปรึกษาเซี่ยตงไป่..เพราะงั้นผมจึงคิดไม่ออกเลยว่าเขาจะเป็นสายลับได้ยังไง..ซึ่งครั้งที่แล้วที่ผมนำเขี้ยวหมาป่าไปโจมตีผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจินั้นถ้าหากโย่วซวนเป็นสายลับแล้วเขาจะไม่เอาเรื่องต่างๆไปบอกสมาคมมังกรดำได้อย่างไร..อีกอย่างถามเป็นแบบนั้นแก๊งยามากุจิก็จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีของผม..เพราะงั้นผมจึงคิดไม่ออกจริงๆว่าโย่วซวนจะเป็นสายลับได้ยังไง”
หลินเฟิงก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ฉันก็คิดแบบนั้นเพราะฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าโย่วซวนจะเป็นสายลับ..อย่างไรก็ตามเรามาตามสืบเขากันเถอะ..แต่ตอนนี้เราอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเพราะงั้นทุกสิ่งทุกอย่างจะอยู่ภายใต้จมูกของแก๊งฝูชิง..ซึ่งถ้าหากโย่วซวนเป็นสายลับล่ะก็พวกเราก็เสี่ยงอย่างมาก”
“นี่เป็นเรื่องปกติอย่างมาก” เย่เชียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “นอกจากนี้ผมก็คิดว่าผมต้องเรียกกำลังเสริมเพื่อมาจัดการกับนินจาเหล่านี้โดยเฉพาะเพราะพวกมันอันตรายอย่างมากเพราะงั้นพวกเราจึงต้องระมัดระวังให้มากกว่าเดิม”
“หลิวเทียนเฉิน..หมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินใช่ไหม?” หลินเฟิงพูด “ฉันเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามนี้มานานแล้วแต่ฉันไม่เคยพบเขาเลยสักครั้ง”
เย่เชียนนั้นไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่หลินเฟิงสามารถรู้ชื่อของหลิวเทียนเฉินได้เพราะหลินเฟิงนั้นรู้ช้อมูลต่างๆขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าอย่างมาก ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่หลินเฟิงจะรู้จักชื่อของสมาชิกเขี้ยวหมาป่า เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์ของหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินทันที
“บอส!..คิดยังไงถึงได้โทรมาหาฉันเนี่ย..ฉันได้ยินมาว่าบอสไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่หรอ..ว่าแต่มีอะไรงั้นหรอ..ตอนนี้ฉันเบื่อมากเพราะวันๆเอาแต่กินและดื่มกับพี่น้องเขี้ยวหมาป่าที่นี่..ฉันคิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปฝีมือในการต่อสู้ของฉันคงจะแย่ลงมาก” ทันทีที่มีการเชื่อมต่อสายแล้วเสียงของหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินก็ดังมาจากอีกด้านหนึ่ง
“โถ่..พี่เก่งซะขนาดนั้นมันจะไปแย่ลงได้ยังไง..พี่จะพูดแบบนี้ไม่ได้นะเพราะในเมื่อฝีมือและทักษะของพี่โดดเด่นซะขนาดนั้น” เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูดว่า “ก็นะ..ผมว่าพี่เทียนเฉินต้องมาที่นี่จริงๆแล้วเพราะมันมีบางสิ่งบางอย่างที่มีแต่พี่เท่านั้นที่สามารถทำได้”
“จริงเหรอ?..ได้เลยเดี๋ยวฉันจะรีบจองตั๋วเครื่องบินและบินไปที่นั่นในวันพรุ่งนี้” หมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินพูดด้วยความตื่นเต้น
“พี่รีบมาที่นี่โดยเร็วที่สุดเลยเพราะนินจาที่นี่เก่งเรื่องการใช้ยาพิษอย่างมาก..ผมเกือบตายเพราะพวกมันแล้ว..เพราะงั้นพี่เทียนเฉินที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ต้องรับมือกับพวกมันได้อย่างแน่นอน..ถ้ามีพี่อยู่ด้วยมันจะดีมาก” เย่เชียนพูด
“ไม่มีปัญหา..ยาพิษของญี่ปุ่นก็เป็นได้แค่ยาของเด็กเล่น..พวกเราชาวจีนน่ะเป็นบรรพบุรุษแห่งยาพิษอยู่แล้วไม่ต้องห่วงไป..บอส!..ฉันรับปากเลยว่าฉันจะฆ่าพวกนินจาเหล่านั้นทั้งหมดให้เอง” หลิวเทียนเฉินพูดอย่างมั่นใจ ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่หมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินโออ้วดเกินจริงแต่อย่างใดเพราะกลวิธีการใช้พิษและสารเคมีของเขานั้นมีความพิเศษเฉพาะตัวอย่างมาก ซึ่งเขาสามารถฆ่าคนโดยไม่ต้องมองและโดยที่อีกฝ่ายยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ชื่อของหมาป่าเขี้ยวพิษนั้นก็มาจากสิ่งนี้เช่นกันเพราะถ้าให้พูดก็คือหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินนั้นเป็นดั่งยมทูตที่คร่าชีวิตผู้คนโดยที่พวกเขาไม่แม้แต่จะรู้เลยว่าตัวเองตายยังไงและถูกฆ่าเมื่อไหร่ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าหวาดผวาอย่างมาก
“เราห้ามประมาทเราจะทำให้เขี้ยวหมาป่าของเราเสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด..ตอนนี้มีอยู่หลายคนที่รอดูการแสดงของพี่อยู่..ผมล่ะอยากรู้จริงๆว่าพี่จะจัดการกับพวกนั้นยังไง” เย่เชียนพูด
ทางด้านของหลินเฟิงนั้นเขาเพียงแค่ยักไหล่แต่ไมได้พูดอะไรใดๆและยังคงขับรถไปโรงแรมต่อไป
“ใครกันที่รอดูการแสดงของฉัน?” หลิวเทียนเฉินถามด้วยความประหลาดใจ
“ผู้นำขององค์กรเซเว่นคิล…ราชาแห่งนักฆ่าลับไร้เงาหลินเฟิงแห่งเซเว่นคิล!” เย่เชียนพูด
“ฉันมีฉายาแบบนั้นตอนไหน..อย่าเอาฉันไปคุยโอ้อวดแบบนั้นสิ” หลินเฟิงเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูด
เมื่อหลิวเทียนเฉินนั้นได้ยินเสียงของหลินเฟิงเขาก็ชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นหลิวเทียนเฉินก็พูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปครับคุณหลิน..ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง..คุณรอชมการแสดงที่ดีได้เลย”
“เอาล่ะ..แค่นี้ก่อนนะ” เย่เชียนก็พยักหน้าและพูด
“ไว้เจอกันบอส..ฉันขอตัวไปเตรียมของก่อนเพราะเมื่อเร็วๆนี้ฉันได้พัฒนาสิ่งที่พิเศษอย่างมากและฉันจะแสดงให้บอสดูเมื่อถึงเวลา” หลังจากที่หลิวเทียนเฉินพูดจบเขาก็วางสายโทรศัพท์ไป ซึ่งถึงหลิวเทียนเฉินจะไม่ได้บอกว่ามันคืออะไรแต่เย่เชียนก็รู้ดีว่าเขากำลังพัฒนาอะไรอยู่เพราะมันต้องเกี่ยวกับยาพิษและสารเคมีอย่างแน่นอนเพราะพี่ชายคนนี้ชอบทำแบบนี้มาโดยตลอด ซึ่งแต่ก่อนตอนที่เขาประจำการอยู่ที่สำนักงานใหญ่ขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นหลี่เหว่ยก็มักจะหยอกล้อหลิวเทียนเฉินว่าในอนาคตหลิวเทียนเฉินคงจะแต่งงานกับงูและแมงป่องเหล่านั้นเพราะเขาอยู่กับสิ่งเหล่านี้ตลอดทั้งวันแล้วจะมีผู้หญิงที่ไหนกล้ามาชอบเขา
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีใครปฏิเสธเลยว่ายาพิษและสารเคมีที่พัฒนาขึ้นโดยหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินนั้นทรงพลังอย่างแท้จริง ซึ่งครั้งหนึ่งชิงเฟิงเคยถามหลิวเทียนเฉินว่ามียาที่เป็นยาโดฟหรือเปล่าแต่ใครจะรู้ว่าหลิวเทียนเฉินนั้นจะสามารถทำมันออกมาได้และมันก็มีผลอย่างมากกับชิงเฟิงและชิงเฟิงยังพูดติดตลกอีกว่าถ้าหากยาของหลิวเทียนเฉินได้รับการผลิตในปริมาณมากมันจะสามารถทำเงินได้มากอย่างแน่นอน อาจพูดได้ว่าหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินนั้นเป็นคนพิเศษราวกับว่าสารพิษต่างๆได้ไหลเวียนอยู่ในเลือดของเขาแต่เพราะพิษแต่ละตัวนั้นมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันมันจึงไม่ฆ่าเขาและนี่คือความสมดุลของสารพิษที่หลิวเทียนเฉินคิดค้นนั่นเอง
“ไม่มีใครในเขี้ยวหมาป่าที่ไม่มีความสามารถพิเศษเฉพาะตนกันเลย..แต่ละคนต่างก็มีความเชี่ยวชาญในทุกด้านที่เป็นของตัวเอง..ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขี้ยวหมาป่าจะยิ่งใหญ่ได้ในทุกวันนี้” หลินเฟิงพึมพำ
“ความสำเร็จของเขี้ยวหมาป่านั้นอาจพูดได้ว่ามันเกิดขึ้นมาจากความพยายามของสมาชิกทุกคนในเขี้ยวหมาป่า..ผมน่ะไม่ได้มีบทบาทสำคัญอะไรในเรื่องนี้เลย” เย่เชียนพูด “ต่อให้ผมจะหายไปจากเขี้ยวหมาป่าก็เถอะถึงยังไงมันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการพัฒนาอย่างแน่นอน”
“นั่นเป็นเพราะน้องเย่ถ่อมตัว..ก็เหมือนกับเหตุผลที่หลิวปังสามารถเป็นจักรพรรดิได้นั้นไม่ได้อาศัยสติปัญญาและทักษะของเขาเองแต่เป็นหัวใจที่รวมเป็นหนึ่งของเหล่าทัพและความคิดที่กว้างไกลของเขา..นี่เป็นบทบาทที่คนทั่วไปไม่สามารถเทียบได้เลย..ความสามารถในการชี้นำคนที่ทรงพลังมากมายมารวมกันให้เป็นหนึ่งเพราะงั้นเขี้ยวหมาป่าน่ะขาดน้องเย่ไปไม่ได้หรอก..เพราะถ้าเขี้ยวหมาป่าขาดผู้นำอย่างนายไปนั่นก็เท่ากับการล่มสลายแล้ว..เพราะงั้นเสือที่ไม่มีสมองและถึงแม้จะมีกรงเล็บที่แหลมคมนั้นมันก็สู้ไม่ได้อยู่ดี” หลินเฟิงพูด “จำเอาไว้ว่าราชาหมาป่าเย่เชียนน่ะไม่ใช่แค่ชื่อแต่มันคือตำนานที่ยังคงอยู่และเป็นความจริง..นายน่ะเป็นราชาหมาป่าที่คอยบัญชาฝูงหมาป่าและสั่งให้ฝูงโจมตีอย่างยิ่งใหญ่เพราะงั้นหากปราศจากราชาหมาป่าแล้วไม่ว่าฝูงหมาป่าจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่มันก็เป็นได้แค่ฝูงพลัดถิ่นเท่านั้น”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถึงแม้ว่าคำพูดของพี่หลินจะพูดเกินจริงไปหน่อยก็เถอะแต่ผมก็ชอบนะถ้าใครมาสรรเสริญเยินยอผมแบบนี้..ก็ถ้าพี่หลินไม่ว่าอะไรหากมีโอกาสในอนาคตก็ช่วยชมผมเกินจริงแบบนี้อีกนะฮ่าๆ”
หลินเฟิงก็เหลือบมองเย่เชียนแล้วยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และไม่พูดอะไรใดๆต่อ
ไม่นานนักรถก็มาจอดที่หน้าประตูทางเข้าโรงแรมและทั้งสองเดินเข้าไปที่โรงแรมและเมื่อไปถึงห้องพักเย่เชียนก็ผลักประตูเปิดเข้าไปและเย่เชียนก็ต้องตกใจไปกับฉากตรงหน้าเขาและแม้แต่หลินเฟิงเองก็ตกใจ อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นเช่นนั้นรอยยิ้มจางๆก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของพวกเขาและเป็นรอยยิ้มที่น่าพึงพอใจและมีความสุขอย่างมาก
อะไรที่ทำให้เย่เชียนและหลินเฟิงแสดงออกเช่นนั้นกัน? นั่นก็คือการปรากฏตัวของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั่นเองเพราะเมื่อเย่เชียนเปิดประตูห้องเข้าไปเขาเห็นหมาป่าผีไป๋ฮวยนั่งพิงโซฟาพร้อมกับจิบชาร้อนๆอยู่อย่างสบายใจเฉิบ ซึ่งเมื่อหมาป่าผีไป๋ฮวยเห็นเย่เชียนและหลินเฟิงเข้ามาหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เหลือบมองพวกเขาแต่ไม่ได้พูดและยังคงดื่มชาของตัวเองต่อไป
“พี่ไป๋ฮวย!” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มและเดินเข้าไป
ส่วนหลินเฟิงก็หัวเราะคิกคักและเดินไปนั่งลงข้างๆหมาป่าผีไป๋ฮวยแล้วพูดว่า “ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องมา..ฉันนี่เดาอะไรไม่เคยผิดเลย”
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็เหลือบมองหลินเฟิงแล้วพูดว่า “หลินเฟิง..ผู้นำแห่งองค์กรเซเว่นคิลในตำนานกลายเป็นผู้ติดตามของเย่เชียนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?..นี่เป็นข่าวใหญ่จริงๆถ้าฉันเอาเรื่องนี้ไปพูดคงไม่มีใครเชื่อหรอกจริงมั้ย?”
.
.
.
.
.
.
.