ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 650 การสูญเสีย
ตอนที่ 650 การสูญเสีย
การปรากฏตัวของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นค่อนข้างเกินความคาดหมายของเย่เชียนมากแต่นี่คือสิ่งที่หลินเฟิงคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วเพราะหลังจากที่หลินเฟิงคุยโทรศัพท์กับหมาป่าผีไป๋ฮวยครั้งก่อนถึงแม้หมาป่าผีไป๋ฮวยจะไม่ได้พูดอะไรก็ตามแต่หลินเฟิงก็ยังรู้สึกได้ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยจะต้องมาอย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินคำพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยแล้วหลินเฟิงก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “ใช่..ยุคสมัยนี้มันอยู่ยากเพราะงั้นฉันก็เลยต้องติดตามเขาและพึ่งพาเขาน่ะ”
เย่เชียนก็แสยะยิ้มและนั่งลงตรงข้ามกับหมาป่าผีไป๋ฮวย
หมาป่าผีไป๋ฮวยก็เหลือบมองเย่เชียนและพูดว่า “แล้วทำไมผู้นำองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ถึงได้ก็กลายเป็นผู้ช่วยของสำนักความมั่นคงแห่งชาติของจีนล่ะ..นายไปช่วยพวกโง่จากสำนักความมั่นคงแห่งชาติทำไม..มันก็มีแต่เสียกับเสียเท่านั้นแหละ”
เย่เชียนนั้นคุ้นเคยกับวิธีการพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยมานานแล้วและนี่ไม่ใช่ว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นหยอกล้อแต่เขาคิดว่าสิ่งที่เย่เชียนกำลังทำอยู่นั้นมันไม่คุ้มค่ากับที่เสียไป เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ว่า “พี่เคยมาที่ประเทศญี่ปุ่นหลายครั้งแล้วเพราะงั้นพี่คิดยังไงกับเรื่องนี้บ้าง..พี่คิดว่าแก๊งฝูชิงมีสายลับแฝงตัวอยู่หรือเปล่า?”
ก่อนที่คำพูดของเย่เชียนจะจบลงหมาป่าผีไป๋ฮวยก็พูดขัดจังหวะว่า “นี่นายยังไม่รู้อะไรอีกเหรอ..นายไม่เหมือนเย่เชียนที่ฉันรู้จักเลย”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่นเป็นเหตุผลที่ผมอยากให้พี่คอยมาช่วยผมเหมือนแต่ก่อนน่ะ..เพราะถ้ามีพี่อยู่ด้วยเวลาผมมีคำถามอะไรที่ผมไม่เข้าใจผมก็สามารถถามพี่ได้ทุกเรื่องใช่ไหมล่ะ”
หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดด้วยรอยยิ้มจางๆว่า “เย่เชียนฉันจะบอกนายให้ชัดเจนนะว่าในสักวันหนึ่งเราก็ต้องต่อสู้กัน..แต่ครั้งนี้เป็นเพราะฉันเห็นแก่หลินเฟิง..นอกจากนี้สมาคมมังกรดำกับฉันก็มีความบาดหมางต่อกันอยู่แล้ว..เพราะงั้นมันไม่ใช่ว่าฉันมาช่วยนาย..จำเอาไว้นะว่าเรื่องระหว่างนายกับฉันมันยังไม่จบและเราก็ต้องสะสางกันไม่ช้าก็เร็ว”
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “ไม่ว่าพี่จะมาด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ถึงยังไงผมก็ต้องขอบคุณพี่..พอพูดถึงเรื่องนี้แล้วพวกเราก็ไม่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมานานแล้ว..ผมมีความสุขมากที่ได้สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่อีกครั้ง”
“เอาล่ะอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องเก่าๆกันในตอนนี้เลย” หลินเฟิงพูด “ไป๋ฮวยนายคิดยังไงกับเรื่องนี้..นายคิดว่าใครคือสายลับที่แฝงตัวอยู่?”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะหมาป่าผีไป๋ฮวยก็พูดว่า “นี่มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอว่าโย่วซวนเป็นสายลับ..เขาน่ะเป็นสายลับของสมาคมมังกรดำที่แฝงตัวอยู่ในแก๊งฝูชิงและจุดประสงค์ก็คือการจับตามองทุกๆการเคลื่อนไหวและการพัฒนาของแก๊งฝูชิง..ส่วนสิ่งที่เขาได้รับนั้นมันเป็นเพียงแค่โบนัสพิเศษของเขา”
“พี่หลินกับผมก็มีเรื่องที่สงสัยอยู่เหมือนกันเพราะถ้าโย่วซวนเป็นสายลับน่ะตอนที่ผมมาเยือนประเทศญี่ปุ่นเพื่อกวาดล้างแก๊งยามากุจิและองค์กรดาร์คลิลลี่คราวก่อนทำไมสมาคมมังกรดำถึงไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อยล่ะ?” เย่เชียนพูดต่อ “นี่คือประเด็นหลักที่ยังทำให้ผมสับสนอยู่”
“ผู้ก่อตั้งองค์กรดาร์คลิลลี่มารุยามะมิซูกิที่เคยเป็นสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและเป็นถึงหนึ่งในผู้ก่อตั้งนั้นเธอได้เข้าร่วมสมาคมมังกรดำเพื่อที่จะทำลายองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า..แต่ในใจเธอนั้นมีความรู้สึกที่ดีต่อเขี้ยวหมาป่ามาเสมอ..เรื่องนั้นนายคิดว่าเธอจะปล่อยให้ซ่งหลันออกจากองค์กรไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอเพราะหลังจากนั้นไม่นานมารุยามะมิซูกิก็คิดที่จะเดินออกมาจากสมาคมมังกรดำแล้ว..แต่เธอทำไม่ได้เพราะสมาคมมังกรดำคอยควบคุมองค์กรดาร์คลิลลี่อยู่” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดต่อ “ส่วนแก๊งยามากุจินั้นสมาคมมังกรดำก็ตั้งใจที่จะยับยั้งการพัฒนาของแก๊งยามากุจิมาตั้งนานแล้วดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้เข้าไปแทรกแซงแก๊งยามากุจิ..ส่วนแก๊งอินาดะกับแก๊งโยชิคาว่าต่างก็อยู่ภายใต้การควบคุมของสมาคมมังกรดำ..อย่างไรก็ตามเนื่องจากแก๊งยามากุจิพัฒนาเร็วเกินไปและทำลายสมดุลของทั้งสามขั้วอำนาจดังนั้นสมาคมมังกรดำจึงใช้โอกาสนี้คืนสมดุล..ซึ่งหลังจากการตายของผู้นำทั้งสามของแก๊งยามากุจินั้นโย่วซวนเองที่เป็นคนนำสมาคมมังกรดำมาโจมตีแก๊งฝูชิงและทำให้แก๊งฝูชิงเริ่มทำสงครามกับแก๊งยามากุจิจากนั้นก็ปลุกปั่นให้แก๊งอินาดะกับแก๊งโยชิคาว่าร่สมกันโจมตีแก๊งฝูชิงด้วยเพื่อทำให้แก๊งฝูชิงล่าถอยจนเขตปกครองที่แก๊งฝูชิงเคยมีอยู่ทั้งหมดตกอยู่ในมือของแก๊งอินาดะและแก๊งโยชิคาว่า..ด้วยวิธีนี้ไม่เพียงแค่จำกัดอำนาจและอิทธิพลของแก๊งยามากุจิเท่านั้นแต่ยังทำให้พลังของแก๊งฝูชิงอ่อนแอลงด้วย..จึงทำให้สามขั้วอำนาจมีความสมดุล..ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือการยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว..ซึ่งทั้งสามแก๊งนี้ก็เป็นเพียงเครื่องมือของสมาคมมังกรดำเท่านั้น”
คำพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นเป็นเหมือนการตรัสรู้จากสวรรค์และในทันใดนั้นทุกๆสิ่งที่เย่เชียนไม่เข้าใจก็ถูกเปิดเผย อย่างไรก็ตามคำพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นได้ทำให้เย่เชียนรู้สึกกลัวเล็กน้อยเพราะสิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของสมาคมมังกรดำที่สามารถใช้แก๊งยากูซ่าทั้งสามขั้วอำนาจมาเป็นหมากรุกอยู่ในความมืด
หลินเฟิงนั้นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและเขาก็หันไปเหลือบมองเย่เชียนและพบว่าใบหน้าของเย่เชียนครุ่นคิดจนน่าเกลียด ซึ่งขนาดแก๊งยากูซ่าที่เป็นองค์กรใหญ่ๆยังถูกหลอกใช้นับประสาอะไรกับเย่เชียน? “น้องเย่..ถึงแม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นแผนของสมาคมมังกรดำแต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเหมือนกันเพราะภายในสมาคมมังกรดำนั้นจริงๆแล้วมันไม่เสถียรและมีความวุ่นวายอย่างมาก..นอกจากนี้องค์กรดาร์คลิลลี่ก็ถูกทำลายไปแล้วและผู้นำทั้งสามที่เคยยืนหยัดในแก๊งยามากุจิก็ถูกฆ่าตายไปแล้วเพราะงั้นนี่ก็เป็นการอ่อนกำลังของสมาคมมังกรดำใช่ไหมล่ะ?..ยิ่งไปกว่านั้นการที่ทั้งสามแก๊งขั้วอำนาจต่างก็เป็นแค่หมากรุกเพราะงั้นมันก็ไม่น่าจะเกินกว่าที่เขี้ยวหมาป่าจะรับมือไม่ใช่เหรอ?” หลินเฟิงพูดอย่างสบายใจ อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาพูดนั้นก็เป็นความจริงเพราะถึงแม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามันจะเป็นแผนการของสมาคมมังกรดำก็ตามแต่มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรแต่ตรงกันข้ามเย่เชียนกลับได้กำไรมากมายจากสิ่งนี้เลยด้วยซ้ำ
“ผมไม่สนใจหรอก..ผมเกลียดตัวเองเพราะผมคิดมาเสมอว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของผมแต่ผมไม่ได้คาดหวังว่าผมจะตกอยู่ในแผนการของคนอื่น..ถ้าพี่ไป๋ไม่บอกผมคงจะต้องโง่อยู่แบบนี้ไปตลอด..ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ช้าก็เร็วเขี้ยวหมาป่าคงจะถูกทำลายอย่างแน่นอน” เย่เชียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆแล้วพูด
“มันไม่ง่ายเลยที่เขี้ยวหมาป่าจะมีทุกวันนี้ได้..เชื่อเถอะว่าแม้แต่กัปตันเทียนเฟิงเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันและทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะนายและถ้าไม่ใช่นายมันก็ไม่มีใครที่คู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้แล้ว” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดต่อ “เย่เชียนที่ฉันรู้จักจะไม่ตัดพ้อตัวเองแบบนี้เพราะเย่เชียนที่ฉันรู้จักนั้นเต็มไปด้วยความแน่วแน่..ถ้านายเป็นแบบนี้ฉันก็ผิดหวังจริงๆ”
คำปลอบโยนของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นแตกต่างจากคนทั่วไปเสมอแต่มันกลับมีผลอย่างมากต่อเย่เชียน ซึ่งคำพูดเหล่านี้มีประโยชน์มากสำหรับเย่เชียนเสมอเพราะจากคำพูดเหล่านี้ของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงมิตรภาพที่หมาป่าผีไป๋ฮวยมีต่อเขานั่นเอง
หลังจากหยุดไปชั่วขณะหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เปลี่ยนเรื่องพูดว่า “วันก่อนฉันไปหาอาจารย์มา”
“อาจารย์หรอ..ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง?” เย่เชียนถาม ซึ่งหลังจากที่กล่าวคำอำลาอาจารย์ในครั้งนั้นเย่เชียนก็ไม่ได้พบเขามาเป็นเวลานานและนอกจากนี้ยังมีหลานชายของอาจารย์ที่ชื่อหลินฟานซึ่งค่อนข้างมีอนาคตที่ดีและเย่เชียนก็ตั้งใจที่จะฝึกฝนเขาเช่นกัน
“อาจารย์เสียแล้ว” น้ำเสียงของหมาป่าผีไป๋ฮวยดูปกติมากราวกับว่าเขาไม่มีความสัมพันธ์อะไรที่เกี่ยวข้องกับหลินจินไท่เลยแต่เย่เชียนนั้นสามารถรับรู้ได้ถึงความเศร้าที่มองไม่เห็นในดวงตาของเขาเพราะหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นเป็นคนที่ซ่อนความคิดและความรู้สึกของตัวเองได้ดีมาก ซึ่งถ้าหากใครที่ไม่รู้จักเขาก็คงจะคิดว่าเขาเป็นสัตว์เลือดเย็นที่โหดเหี้ยมแต่ความจริงไม่ใช่เพราะหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นให้ความสำคัญกับผู้มีพระคุณมากกว่าใครๆ ไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่เป็นแบบนี้เหมือนในตอนนี้เป็นแน่
คำพูดของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นเป็นเหมือนสายฟ้าจากท้องฟ้าสีครามและเย่เชียนที่ตกตะลึงก็ไม่สามารถฟื้นตัวได้เป็นเวลานาน เพราะคราวที่แล้วเขาไปพบอาจารย์แต่ตอนนั้นร่างกายของหลินจินไท่ก็ยังแข็งแรงดีแล้วจู่ๆเขาจะตายได้อย่างไรภายในเวลาสองปีสั้นๆ จนถึงตอนนี้เย่เชียนกลับต้องสูญเสียญาติผู้ใหญ่ไปทีละคนๆจึงทำให้ความเศร้าโศกในใจของเขานั้นไม่สามารถจินตนาการได้เลย
หลังจากที่เย่เชียนสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเย่เชียนก็ระงับความเศร้าในใจและถามว่า “อาจารย์เสียได้ยังไง”
“อันที่จริงสุขภาพของอาจารย์ไม่ดีมาตั้งนานแล้ว..เขานั้นได้รับบาดเจ็บภายในมากมายเมื่อตอนที่เขายังเด็กและหลายปีที่ผ่านมาเขาได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้โบราณเพื่อปกป้องและบรรเทาอาการเจ็บป่วยของตัวเอง..แต่คราวนี้อาการบาดเจ็บของเขาก็กำเริบและเขาก็เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดต่อ “ฉันไปเคารพศพอาจารย์มาแล้ว..เพราะงั้นถ้านายมีเวลานายก็ไปเคารพศพอาจารย์บ้าง”
“อาจารย์ได้บอกอะไรก่อนที่เขาจะเสียบ้างไหม?” เย่เชียนถาม
“อาจารย์เสียไปแล้วเพราะงั้นสิ่งที่เขาพูดก่อนที่เขาจะตายนั้นมันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป..ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าฉันไม่ควรสู้กับนายก็เถอะแต่มันก็เป็นไปไม่ได้..นายกับฉันต่างก็รู้ดีว่าระหว่างเรามันมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถอยู่รอดได้..ส่วนอีกคนควรจะไปหาอาจารย์บนสวรรค์” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูด
เย่เชียนถอนหายใจเบาๆเพราะเขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยคำพูดของอาจารย์เพราะความคิดที่แน่วแน่ของหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นไม่มีใครสามารถทำลายได้ ซึ่งเย่เชียนก็รู้ดีว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นเป็นคนแบบไหนและพูดได้ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ฟังและไม่เคยยอมใคร “แล้วหลานชายของอาจารย์ล่ะ..เด็กคนนั้นชื่อหลินฟาน..ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างเขาอยู่ที่ไหนหรอ” เย่เชียนถาม ซึ่งนั่นเป็นเพียงสมาชิกในครอบครัวเพียงคนเดียวของอาจารย์และเนื่องจากอาจารย์ได้จากโลกนี้ไปแล้วเย่เชียนก็รู้สึกว่าเขาต้องดูแลเด็กคนนั้นแทนอาจารย์
“เด็กคนนั้นดื้อรั้นมากเขาไม่ยอมตามฉันมา..เขาบอกว่าเขาต้องการจะรักษาสิ่งที่ปู่ของเขารักษามาเป็นเวลาหลายปีและเขาจะต้องอยู่ที่นั่นอีกสามปีเพราะงั้นฉันจึงปล่อยเขาไป” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูด
เย่เชียนนั้นแอบดุด่าว่าหลินฟานนั้นเป็นเด็กโง่ เพราะถ้าเขาติดตามหมาป่าผีไป๋ฮวยล่ะก็มันจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาของหลินฟานในอนาคต อย่างไรก็ตามเด็กคนนี้ต้องการรักษาสิ่งที่ปู่ของเขาสร้างมาเป็นเวลาหลายปีและเขาก็เป็นผู้ชายที่มีความรักและความชอบธรรมอย่างเต็มตัวแล้ว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้อีก 3 ปีและเมื่อใดที่เย่เชียนแก้ไขปัญหาต่างๆเสร็จเย่เชียนก็จะไปรับเด็กคนนั้นมาและดูแลเขานั่นเอง
.
.
.
.
.
.
.
.