ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 658 การประชุมของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง ตอนที่ 7
ตอนที่ 658 การประชุมของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง ตอนที่ 7
เขาเป็นใคร? เขาเป็นมือขวาของจ้าวไค่ที่จ้าวไค่ไว้ใจมากที่สุดนามว่าหยานคุน อย่างไรก็ตามภายในแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นก็มีอยู่ไม่กี่คนที่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาเพราะเขานั้นเป็นหนึ่งในสายลับที่ถูกส่งมาโดยสมาคมมังกรดำเหมือนกับโย่วซวนนั่นเอง
ซึ่งเดิมทีโย่วซวนนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เขาเลยแต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีทางอื่นแล้วดังนั้นเขาจึงต้องละทิ้งเบี้ยเพื่อปกป้องตัวตนของเขาเอาไว้โดยการใช้หยานคุนเป็นเหยื่อล่อเพื่อตัดสินความผิดของจ้าวไค่และบรรลุเป้าหมายในการกำจัดฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นเพียงละครที่ขมขื่นที่ถูกสร้างขึ้นโดยโย่วซวน
ถ้าเป็นสายลับตัวจริงแล้วหลายสิ่งหลายอย่างก็สามารถทำได้อย่างมีเหตุผลเพราะพวกเขาทั้งหมดได้รับการปลูกฝังโดยสมาคมมังกรดำและถูกล้างสมองโดยสมบูรณ์และในความคิดของพวกเขานั้นพวกเขาจะภักดีต่อสมาคมมังกรดำและยอมสละชีวิตเพื่อองค์กร ดังนั้นในกรณีนี้ก็เช่นกันเพื่อที่จะรักษาตัวตนของโย่วซวนเอาไว้และทำให้ภารกิจบรรลุเป้าหมายเช่นนั้นมันก็ถึงวาระการเสียสละของหยานคุนแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของจ้าวซินแล้วโย่วซวนก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลย อย่างไรก็ตามต้องยอมรับเลยว่าโย่วซวนเตรียมตัวมาพร้อมอย่างเต็มที่โดยการจัดเตรียมเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่เลวร้าย
ในห้องโถงด้านในนั้นสมาชิกแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงสองคนที่คอยดูหยานคุนที่กำลังจ้องมองพวกเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธราวกับต้องการกินเนื้อและเคี้ยวกระดูกของพวกเขาเพราะรอยเป็นบนร่างกายของหยานคุนนั้นเกิดจากทั้งสองคนนี้ เพื่อให้บรรลุผลโย่วซวนก็ไม่ได้หยุดพวกเขาเพราะถ้าหากปัญหาต่างๆได้รับการแก้ไขอย่างราบรื่นล่ะก็โย่วซวนจะสามารถสุ่มหาข้อแก้ตัวได้และสามารถปล่อยหยานคุนไปได้ ซึ่งการแสดงนี้ต้องใช้ความเป็นธรรมชาติอย่างมากเพื่อบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จ
“ถ้าไม่ใช่เพราะหัวหน้าบอกว่าห้ามฆ่าแกล่ะก็ฉันจะเจาะรูสักสองสามรูบนร่างกายของแกเดี๋ยวนี้แหละ” สมาชิกแก๊งฝูชิงคนหนึ่งพูดและเตะหยานคุนอย่างรุนแรง
หยานคุนก็กระอักเลือดออกมาภายใต้ความเจ็บปวดเพราะหลังจากการถูกทรมานอย่างรุนแรงตลอดทั้งคืนหยานคุนก็ได้รับบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรงและเขาก็ไม่สามารถอดทนได้อีก เมื่อโดนเช่นนั้นหยานคุนก็แลบลิ้นเลียคราบเลือดที่มุมปากและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกแกอย่าได้ใจนักเลย”
“แกยังกล้าพูดอยู่อีกเหรอ..อีกไม่นานแกก็ต้องตาย!” ในขณะที่พวกเขาพูดเขาก็ทำร้ายหยานคุนต่อจนสมาชิกแก๊งคนอื่นๆรีบคว้าตัวเขาและเกลี้ยกล่อมเขา “อย่าใจร้อนนักสิ..ถ้าฆ่ามันตอนนี้หัวหน้าจะต้องลงโทษนายอย่างแน่นอน..ไม่ช้าก็เร็วถึงยังไงมันก็ต้องตายอยู่ดีอย่ารีบร้อนไปเลย”
“มันเป็นคนทรยศ..กล้าแม้กระทั่งขายพวกพ้อง” สมาชิกแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงก็พูดอย่างโกรธเคือง “ปล่อยฉัน..ฉันจะไม่ฆ่ามัน” ขณะที่เขาพูดสมาชิกแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงอีกคนก็มาช่วยดึงเขาเอาไว้
“ในเมื่อพวกแกอยากจะฆ่าเขานักเดี๋ยวฉันจัดการให้เอง!” ทันทีที่เสียงนั้นจบลงจู่ๆเงาดำก็พุ่งออกมาจากความมืดและแม้กระทั่งสมาชิกของแก๊งฝูชิงสองคนก็ยังไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งหยานคุนมีบาดแผลการถูกเฉือนลึกๆอยู่ที่คอของเขาและเลือดก็พุ่งออกมาราวกับน้ำพุ เมื่อหยานคุนกำลังจะตายดวงตาของหยานคุนก็ยังคงเปิดกว้างและเต็มไปด้วยความกลัว อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้มันไม่ใช่ความกลัวตายเพราะเขาตั้งใจที่จะตายมานานแล้วเพียงแต่ว่าถ้าเขาตายมันก็จะทำลายแผนการของโย่วซวนที่เขากำลังแสดงไปอย่างสิ้นเชิงและมันจะไร้ความหมายกับการตายของเขาอย่างยิ่ง
สิ่งต่างๆมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยิ่งไปกว่านั้นหยานคุนก็ถูกฆ่าตายก่อนที่สมาชิกแก๊งฝูชิงทั้งสองคนจะมีเวลาตอบโต้เสียอีก คนที่ปรากฏตัวออกมานั้นเป็นใคร? ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นหมาป่าผีไป๋ฮวยที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดและทั้งหมดนี้ก็อยู่ในแผนของหมาป่าผีไป๋ฮวยอยู่แล้วเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าโย่วซวนได้จัดเตรียมตัวละครดังกล่าวเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ติดตามเย่เชียนเพื่อเข้าร่วมในการประชุมในฐานะบอดี้การ์ดและเลือกที่จะสังเกตการณ์อยู่ในความมืด
ถ้าโยวซวนล้มเหลวนั่นก็เป็นเพราะการกระทำและการปรากฏตัวของหมาป่าผีไป๋ฮวยซึ่งเป็นตัวละครที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมาอยู่ในการแสดงและแผนการของเขาด้วย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้โย่วซวนสูญเสียอย่างมาก
สมาชิกของแก๊งฝูชิงก็ผงะไปครู่หนึ่งและในที่สุดพวกเขาก็กลับมามีสติอีกครั้งและเริ่มโจมตีหมาป่าผีไป๋ฮวย อย่างไรก็ตามพวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของหมาป่าผีไป๋ฮวยได้ที่ไหน? โดยไม่มีการโต้กลับเลยแม้แต่น้อยหมาป่าผีไป๋ฮวยก็ทำให้สมาชิกแก๊งฝูชิงสองคนตัวสั่นและทำอะไรไม่ได้ในทันที
จากนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เหลือบมองศพของหยานคุนด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็นและหายวับไปในเงามืดทันที
หลังจากนั้นไม่นานสมาชิกแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงที่ถูกโย่วซวนส่งสัญญาณให้เข้ามาในห้องโถงนี้ก็เข้ามาเพื่อพาตัวหยานคุนออกไปแต่ทว่าภาพตรงหน้าก็ต้องทำให้พวกเขาตกตะลึงและงุนงง ซึ่งหลังจากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะผงะแล้วรีบเดินเข้าไปเขย่าตัวเรียกสติของสมาชิกแก๊งทั้งสองที่เผชิญหน้ากับหมาป่าผีไป๋ฮวยก่อนหน้านี้และเมื่อทั้งสองได้สติแล้วพวกเขาก็ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นทำไมหยานคุนถึงตายแบบนี้?”
“ฉัน..ไม่รู้..จู่ๆก็มีชายชุดดำบุกเข้ามาฆ่าหยานคุนจนพวกเราตั้งตัวไม่ทัน” สมาชิกแก๊งฝูชิงก็ยังคงตัวสั่นและสับสนขณะพูด
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์!” สมาชิกแก๊งฝูชิงที่เพิ่งจะเข้ามาพูดอย่างโกรธเกรี้ยวและรีบเข้าไปตรวจอาการบาดเจ็บของหยานคุนแล้วรีบเดินออกไป หลังจากเดินไปถึงโย่วซวนพวกเขาก็กระซิบสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องโถงด้านในให้โย่วซวนฟังจนโย่วซวนตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์
แผนของโย่วซวนที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อจัดเตรียมมันเอาไว้เพื่อวันนี้ได้พังทลายลงต่อหน้าของเขาเพราะเขาไม่ลังเลใดๆเลยที่จะเสียสละสายลับคนหนึ่งแต่กลับถูกใครบางคนฆ่าตายอย่างลึกลับ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขาสูญเสียอย่างมากและเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนทำ ทั้งการปรากฏตัวของจ้าวซินประกอบกับการลอบสังหารหยานคุนแบบนี้เมื่อทั้งสองสิ่งรวมกันมันก็ทำให้โย่วซวนสงสัยว่ามันจะต้องมีคนรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา อย่างไรก็ตามอีกฝ่ายก็ยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขาจนถึงตอนนี้ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นอะไรอยู่กันแน่? ประเด็นหลักๆก็คือเขานึกไม่ออกเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครไปได้?
เซี่ยจือยี่? เห็นได้ชัดว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะถ้าเป็นเธอล่ะก็เธอคงไม่พูดอะไรออกมาตอนนี้หรอกหรืออาจจะเป็นเย่เชียน? เมื่อคิดเช่นนั้นโย่วซวนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เชียนแต่เย่เชียนนั้นดูปกติมากและไม่มีความผิดปกติในการแสดงออกของเย่เชียนเลยและนอกจากนี้ในมุมมองของโย่วซวนนั้นถ้าหากเย่เชียนรู้จักตัวตนของเขาเย่เชียนก็คงจะไม่มานั่งอยู่ที่นี่และทนฟังเขาหรอกใช่ไหม? ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแน่นอนว่าเย่เชียนจะต้องออกมาประจานตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว
ตัวตนของอีกฝ่ายทำให้โย่วซวนอยากรู้อยากเห็นอย่างมากเพราะไม่เขาสามารถเข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่ายได้เลย อย่างไรก็ตามในเวลานี้เขาก็ไม่สามารถกังวลหรือครุ่นคิดเรื่องอื่นได้อีกเพราะการตายของหยานคุนทำให้แผนการที่เตรียมมาทั้งหมดของโย่วซวนพังทลายไป ดังนั้นเขาจึงกระซิบบอกสมาชิกแก๊งฝูชิงว่าให้ไปบอกสมาชิกทั้งหมดข้างนอกให้ปิดล้อมสโมสรแห่งนี้เอาไว้และตามหาคนที่ฆ่าหยานคุน จากนั้นโย่วซวนก็โบกมือให้เขาออกไป
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วโย่วซวนด็พูดว่า “ทุกๆท่านครับ..ในตอนนี้มันเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นที่ห้องโถงชั้นใน..เพราะสายลับที่พวกเราควบคุมตัวเอาไว้ถูกฆ่าตายแล้ว”
ทันทีที่คำพูดของโย่วซวนดังออกมาจากปากในทันใดนั้นเหล่าผู้นำต่างก็พูดคุยกันจนภายในห้องประชุมมีเสียงดังมาก ซึ่งเย่เชียนกับหลินเฟิงเองก็ตกตะลึงเช่นกันเพราะหมาป่าผีไป๋ฮวยไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้กับพวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาและทำเพียงแค่ฟังการสนทนาของเหล่าผู้นำอย่างเงียบๆ
เซี่ยตงไป่ก็ขมวดคิ้วและพูดเบาๆว่า “คุณซวนมันเกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?”
“มันเป็นความประมาทของผมเอง..ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนแอบเข้ามาภายใต้การคุ้มกันของสมาชิกแก๊งของเราจำนวนมากและสามารถมาฆ่าสายลับได้” โย่วซวนพูด “ขอโทษครับหัวหน้า..เป็นเพราะผมทำงานได้ไม่ดีเอง”
เซี่ยตงไป่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆแล้วพูดว่า “ถึงยังไงมันก็เกิดขึ้นแล้วเพราะงั้นมันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรอีก..แล้วคุณจะแก้ปัญหานี้ยังไง?”
“ผมได้สั่งให้คนของเราไปหาคนที่ฆ่าหยานคุนแล้ว” โย่วซวนพูดต่อ “อย่างไรก็ตามเขาสามารถเข้ามาได้โดยที่พวกเราไม่รู้ตัว..เพราะงั้นผมจึดคิดว่าเขาก็ควรจะออกไปได้อย่างง่ายเช่นกัน”
เซี่ยตงไป่ก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วโบกมือขึ้นจากนั้นก็พูดว่า “ทุกๆคนช่วยเงียบๆหน่อย”
ในไม่ช้าเสียงในห้องประชุมก็เงียบลงและเซี่ยตงไป่ก็ว่า “พวกเรามาคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเถอะ”
“เดี๋ยวก่อนครับ!” จ้าวซินพูด “แต่คุณโย่วเพิ่งจะบอกว่าเขาจะแสดงหลักฐานให้เราเห็นเพราะงั้นผมอยากรู้ว่าหลักฐานอยู่ที่ไหน..พวกคุณคงไม่ผิดคำพูดหรอกใช่ไหม?”
“จ้าวซิน..ฉันคิดว่าคุณควรจะรู้ตัวนะว่าอะไรควรหรือไม่ควร” เซี่ยตงไป่ขมวดคิ้วแล้วพูดต่อ “สถานการณ์ในตอนนี้มันใช่สิ่งที่คุณควรจะพูดเหรอ..ถ้าไม่ใช่เพราะฉันเห็นแก่พ่อของคุณล่ะก็ฉันคงไล่คุณออกไปแล้ว!” คำพูดของจ้าวซินทำให้เซี่ยตงไป่ลำบากใจอย่างมาก
ถึงแม้ว่าคำพูดของเซี่ยตงไป่จะค่อนข้างลำเอียงต่อโย่วซวนก็ตามแต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นหัวหน้าแก๊งและคำพูดของจ้าวซินก็ดูรุนแรงมากเกินไปจนเหล่าผู้นำเริ่มจะไม่พอใจ ซึ่งชายร่างอ้วนชื่อซานเย่ก็เหลือบมองไปที่จ้าวซินเพื่อส่งสัญญาณให้เขาสงบลงและจ้าวซินก็พยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรใดๆต่อ
เซี่ยตงไป่ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจและพูดว่า “คุณซวนเชิญได้เลย”
โย่วซวนก็พยักหน้าเบาๆแล้วพูด “นำศพเขามา” เมื่อคำพูดนั้นจบลงสมาชิกของแก๊งฝูชิงสองคนในห้องโถงชั้นในก็ได้ลากศพของหยานคุนออกมาจากนั้นเหล่าผู้นำต่างก็พูดคุยกันอีกครั้งอย่างไม่หยุดยั้ง ส่วนเย่เชียนและหลินเฟิงต่างก็มองดูศพและขดริมฝีปากเล็กน้อยเพราะเขาไม่เข้าใจว่าโย่วซวนนั้นต้องการเล่นอะไรอีก
จ้าวซินนั้นรู้จักหยานคุนเป็นอย่างดีเพราะเขาเป็นดั่งมือขวาที่ภาคภูมิใจของจ้าวไค่พ่อของตนและเขามักจะเข้าและออกจากบ้านของตนเสมอ อย่างไรก็ตามจ้าวซินนั้นก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่โย่วซวนทำโดยการนำร่างอันไร้วิญญาณของหยานคุนออกมาเช่นนี้ หรือหยานคุนจะเป็นสายลับอย่างงั้นเหรอ? หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือโย่วซวนนั้นจะใช้หยานคุนเพื่อใส่ร้ายพ่อของตน?
.
.
.
.
.
.
.