ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 661 การประชุมของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง ตอนที่ 10
ตอนที่ 661 การประชุมของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิง ตอนที่ 10
สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่งหมาป่าผีไป๋ฮวยที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็เห็นฉากดังกล่าวอย่างชัดเจนด้วยสีหน้าที่ดูตกตะลึงเล็กน้อยพร้อมกับเจตนาฆ่าที่รุนแรงอยู่ภายในดวงตาของเขา อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาเช่นนี้เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ไม่เช่นนั้นความพยายามก่อนนี้ของเขาอาจจะต้องสูญเปล่าอย่างแน่นอน
โย่วซวนก็อ่านบันทึกของจ้าวซินอย่างหวาดระแวงและขมวดคิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งบันทึกชุดนี้มีรายละเอียดสิ่งต่างๆของสายลับที่แฝงตัวเข้ามาในแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่างละเอียดทั้งเวลาและสถานที่ ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลเฉพาะบุคคลก็ชัดเจนอย่างมากและที่สำคัญกว่านั้นสายลับทั้งหมดที่บันทึกเอาไว้ข้างต้นก็ล้วนเป็นสายลับที่สมาคมมังกรดำส่งเข้ามาแฝงตัวอยู่ในสมาคมมังกรดำ ที่อยู่ในกลุ่มฝูชิง แน่นอนว่าเหล่าผู้นำต่างก็ตกตะลึงไปกับข้อมูลดังกล่าวเช่นกัน
ตอนนี้โย่วซวนอยู่ในสภาวะตึงเครียดอย่างมากเพราะเขาไม่ได้คาดหวังว่าจ้าวไค่จะมีข้อมูลดังกล่าวมากถึงขนาดนี้และเขาก็โทษตัวเองที่พลาดเกี่ยวกับสิ่งนี้ไปและถึงแม้ว่าเขาต้องการปกป้องคนเหล่านี้ก็ตามแต่เขาก็ไม่สามารถทำได้เลย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีชื่อของโย่วซวนเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนดังนั้นโย่วซวนจึงอดไม่ได้ที่จะกระวนกระวาย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมใบหน้าของเซี่ยงตงไป่ถึงมืดมนอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเมื่ออ่านข้อมูลดังกล่าวไปสักพักแล้วโย่วซวนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะถึงแม้ว่าจะมีบันทึกมากมายเกี่ยวกับตัวเขาแต่มันก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเขาเป็นสายลับเลย แต่สำหรับคนอื่นๆแล้วโย่วซวนไม่สามารถช่วยพวกเขาได้เลย แต่ทว่าตราบใดที่โย่วซวนยังไม่จนตรอกเขาก็จะสามารถช่วยคนเหล่านั้นได้
“เอาไปให้ผู้นำคนอื่นๆดูซะ” โย่วซวนส่งข้อมูลให้สมาชิกแก๊งและสั่งให้เขาส่งบันทึกให้กับผู้นำคนอื่นๆ
เมื่อเหล่าผู้นำของแก๊งได้เห็นข้อมูลดังกล่าวแล้วเห็นได้ชัดว่าพวกเขาตกตะลึงไปกับสิ่งที่เป็นอย่างมาก ซึ่งมีทั้งคนที่ตกใจและบางคนก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัว แน่นอนว่าผู้ที่มีการแสดงออกที่ดูตกใจและหวาดกลัวนั้นเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นสายลับที่ถูกบันทึกเอาไว้ในเอกสารดังกล่าวที่ถูกส่งมาโดยสมาคมมังกรดำ ยิ่งไปกว่านั้นทุกๆคนที่อยู่ในรายชื่อต่างก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับโย่วซวนทั้งนั้น
“หืม..ฉันไม่คิดเลยว่าแก๊งฝูชิงของเราจะมีสายลับแฝงตัวอยู่มากขนาดนี้..ว่าไงล่ะคุณโย่ว..คุณมีอะไรจะพูดอีกไหม?” ซานเย่พูดพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“ผมไม่มีอะไรจะพูด” โย่วซวนพูดเบา ๆ
“งั้นแสดงว่าคุณยอมรับแล้วว่าคุณเป็นสายลับ?..หึ..สุดท้ายก็เป็นแบบนี้จริงๆ..ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงพยายามบ่ายเบี่ยงและยืนกรานอย่างมั่นใจว่าผู้นำเขตจ้าวเป็นสายลับ..ปรากฏว่าคุณแค่ต้องการกำจัดแพะรับบาป..ดูเหมือนว่าเรื่องท่าเรือจะเป็นฝีมือของคุณสินะ..แล้วคุณก็เป็นคนฆ่าผู้นำเขตจ้าวด้วยใช่ไหม?” ชานเย่พูด
“คุณซวน..คุณมีอะไรจะอธิบายอีกหรือเปล่า?” เซี่ยตงไป่พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์อย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะชื่นชอบโย่วซวนก็ตามแต่เขาก็ไม่สามารถอดทนต่อความอัปยศเช่นนี้ได้ ซึ่งเหตุผลที่เขาลำเอียงมาโดยตลอดนั่นก็เพราะว่าโย่วซวนทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงและเป็นมือขวาที่จงรักภักดีของเขา อย่างไรก็ตามในตอนนี้โย่วซวนถูกตีตราว่าเป็นสายลับแฝงตัวดังนั้นเซี่ยตงไป่จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสูญเสียอาการไปอย่างมาก
“อันที่จริงผมก็พูดออกไปในตอนแรกแล้วว่าผมอยากจะหารือเกี่ยวกับสายลับในแก๊งของเรา..เพราะผมเชื่อว่าทุกคนสามารถทำงานร่วมกันเพื่อตรวจสอบได้..แต่ทว่าทุกคนกลับยืนยันที่จะดูหลักฐานต่างๆ..เดิมทีผมแต่ต้องการกำจัดคนที่ไม่เห็นด้วยกับผมเพราะในตอนนี้มันมีสายลับมากมายในแก๊งของเราและพวกเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอะไรจริงหรือเท็จ..สิ่งเหล่านี้ก็สอดคล้องกับคนที่ผมเคยสอบสวนมาก่อน” โย่วซวนพูดและพยายามไม่กระวนกระวาย
“หัวหน้าครับ..ข้อมูลเหล่านี้เป็นของปลอม..มันมีคนที่ต้องการจะใส่ร้ายผม” ผู้นำเขตคนหนึ่งพูดอย่างกระวนกระวาย
“คุณต้องการจะพูดอะไรอีก..ในนี้มีหลักฐานที่ชี้ชัดและละเอียดอย่างมาก..มันไม่มีที่ว่างให้คุณแก้ตัวเลย” เซี่ยตงไป่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “มาเถอะ..พวกคุณทุกคนยอมรับความผิดซะ..ถึงยังไงมันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว..คุณซาน..พวกเราควรทำตามกฎยังไงดี?”
“ตามกฎของแก๊งฝูชิงของเราแล้วใครก็ตามที่ทรยศจะถูกประหารชีวิต!” ซานเย่พูด
“ควบคุมตัวคนที่มีในรายชื่อเอาไว้ก่อน..เดี๋ยวฉันจะคุยและสอบสวนพวกเขาเอง” เซี่ยตงไป่พูด หลังจากคำพูดนั้นจบลงบุคคลที่มีชื่ออยู่ในรายการนั้นก็ถูกนำตัวออกไปจากห้องประชุมซึ่งมีจำนวนมากกว่า 20 คน
“หัวหน้าครับผมขอโทษ..ผมหวังว่าหัวหน้าจะปล่อยครอบครัวของผมไป..เพราะถึงยังไงผมก็ช่วยเหลือแก๊งฝูชิงมานานหลายปี” ผู้นำเขตหัวโล้นพูดด้วยความขมขื่นและสายตาที่มองมานั้นเผยให้เห็นแววตาที่เศร้าโศกยิ่งกว่าความตายเสียอีก
“มันไม่ใช่สิ่งที่ลูกๆและภรรยาของคุณต้องรับผิดชอบ..เพราะงั้นไม่ต้องกังวลไปฉันจะไม่ไปยุ่งกับครอบครัวของคุณ” เซี่ยตงไป่พูด
“ขอบคุณครับหัวหน้า..ขอบคุณจริงๆ” ผู้นำเขตหัวโล้นกล่าวคำขอบคุณเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้วพูดต่อว่า “ผมเสียใจกับพี่น้องของเราทุกคน..ผมไม่มีหน้ามาเผชิญหน้าทกับทุกคนอีกต่อไปแล้ว..หากชาติหน้ามีจริงผมจะเป็นสมาชิกที่จงรักภักดีของแก๊งฝูชิงให้ได้เลย” หลังจากพูดจบเขาก็ชักมีดออกมาแล้วแทงเข้าที่หน้าอกของตัวเองโดยตรงและร่างของเขาก็ค่อยๆล้มลงอย่างช้าๆ
เซี่ยตงไป่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆแล้วส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็เคยเป็นพี่น้องที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ดังนั้นแน่นอนว่าเซี่ยตงไป่จะต้องรู้สึกโศกเศร้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนเซี่ยจือยี่ที่ด้านข้างเห็นผู้นำเขตจำนวนมากถูกควบคุมตัวเอาไว้เธอก็ต้องการพูดที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่เธอถูกม่อหลงห้ามเอาไว้และส่ายหัวให้เธอ ซึ่งเธอก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันมีกฎของแก๊งเพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเธอจะทนไม่ได้แต่เธอก็ไม่มีทางที่จะรักษาคนเหล่านี้เอาไว้ในแก๊งได้อีกต่อไป
เมื่อมองไปที่โย่วซวนแล้วเซี่ยตงไป่ก็พูดว่า “คุณซวน..คุณอยู่กับฉันมานานกว่าสิบปีและได้ทำสิ่งต่างๆมากมายเพื่อแก๊งฝูชิงของเรา..คุณได้แบ่งปันเรื่องต่างๆและประสบการณ์มากมาย..โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาถ้าไม่มีคุณล่ะก็แก๊งฝูชิงก็คงจะพังทลายไปแล้ว..ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะเป็นสายลับ..แต่ทว่าในตอนนี้ความจริงก็อยู่ตรงหน้าแล้วคุณมีอะไรจะพูดอีกไหม?”
“ผมรู้สึกซาบซึ้งมากที่คุณเซี่ยไว้วางใจในตัวผมมาโดยตลอด..ถ้าไม่มีคุณเซี่ยผมคงเดินมาถึงจุดนี้ไม่ได้เหมือนกัน..คุณเป็นผู้ให้โอกาสผมได้แสดงความสามารถที่ผมมี” โย่วซวนพูด “คุณก็น่าจะเห็นสิ่งที่ผมทำเพื่อแก๊งฝูชิงมานานหลายปีและผมก็รู้ตัวว่าผมคู่ควรกับตำแหน่งผู้นำ..เพราะถ้าคุณไม่มั่นใจในตัวของผมล่ะก็ผมคงจะไม่มีตำแหน่งและยืนอยู่ในจุดนี้ได้หรอก..คุณก็น่าจะเห็นข้อมูลนั้นแล้วใช่ไหม..ถึงแม้ว่ามันจะบันทึกมากมายเกี่ยวกับตัวผมที่เป็นข้อมูลชี้ชัดในสิ่งต่างๆแต่มันก็ไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่าผมเป็นสายลับไม่มช่เหรอ..เพราะงั้นคุณช่วยตรวจสอบให้มากกว่านี้หน่อยจะได้ไหมและตราบใดที่มีคนสามารถพิสูจน์ได้ว่าผมเป็นสายลับล่ะก็ผมจะยอมรับโทษโดยที่ไม่โต้แย้งใดๆ”
“ความตายอยู่ตรงหน้าคุณแท้ๆแต่คุณยังอยากที่จะแสดงละครตบตาอยู่อีกเหรอ?” จ้าวซินพูดอย่างเกรี้ยวกราด “คุณลุงเซี่ย..คุณอา..คุณอย่าไปฟังคำพูดของเขาเลย..เขามันก็แค่ตัวตลกเพราะข้อมูลในนั้นมันก็บ่งบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าโย่วซวนเป็นสายลับและเป็นแกนนำของคนทรยศทั้งหมด”
“จ้าวซิน!” เซี่ยตงไป๋ตะโกนเสียงดังและแววตาที่โกรธเกรี้ยวก็ส่องประกายภายในดวงตาของเขา “ใครให้เอ็งพูด?”
“ผม…” จ้าวซินกำลังจะพูดแต่ขณะที่เขากำลังจะพูดซานเย่ก็รีบขยิบตาให้เขาและบอกให้เขาหุบปากในทันที ซึ่งซานเย่นั้นเป็นจิ้งจอกเฒ่าที่เดินบนถนนสายนี้มาเนิ่นนานดังนั้นเขาจึงรู้อะไรหลายๆอย่างและข้อมูลที่เกี่ยวกับโย่วซวนนั้นมันก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโย่วซวนเป็นสายลับจริงๆ ซึ่งในความเห็นของเขาแล้วจ้าวซินก็ไม่ควรที่จะพูดอะไรในตอนนี้ใช่ไหม?
“หัวหน้าเซี่ยครับ..ปล่อยให้จ้าวซินพูดในสิ่งที่เขาอยากจะพูดเถอะ..ดูเหมือนว่าเขาอยากจะให้ผมเป็นสายลับจริงๆ” โย่วซวนพูด “ผมจะยืนหยัดอย่างมั่นคงและถึงแม้ว่าจะถูกกล่าวหาแค่ไหนถึงยังไงผมก็จะยืนกรานว่าผมไม่ใช่สายลับ!..คุณจ้าวผมรู้ว่าคุณเกลียดผมและเกลียดที่ผมปฏิบัติต่อพ่อของคุณในฐานะสายลับ..เรื่องนั้นผมต้องขอโทษที่ผมตัดสินผิด..ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะผมทุ่มเทให้กับความถูกต้องของแก๊ง..ผมรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในบันทึกมันคือความจริงแต่มันก็ไม่สามารถบอกได้ว่าผมเป็นสายลับไม่ใช่เหรอ?..เพียงเพราะผมมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสายลับพวกนั้นน่ะเหรอคุณจึงตีตราผมว่าเป็นสายลับไปด้วย?..ถ้าผมเป็นสายลับจริงๆล่ะก็หลายปีที่ผ่านมาผมจะช่วยและทุ่มเทให้กับแก๊งฝูชิงถึงขนาดนี้เหรอ?..เพื่อการพัฒนาของแก๊งผมจึงมีเหตุผลที่ต้องมีสัมพันธไมตรีที่ดีกับคนเหล่านั้น..นอกจากนี้ผมยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะเป็นสายลับ..ถ้าคุณไม่เชื่อคุณก็ลองตรวจสอบดูสิ..ถ้าคุณมีหลักฐานว่าผมเป็นสายลับจริงๆผมก็ยินดีที่จะรับโทษ!”
เซี่ยตงไป่ก็เห็นแล้วว่าสิ่งที่บันทึกเอาไว้ข้างต้นนั้นมันไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโย่วซวนเป็นสายลับและเมื่อจ้าวซินนำข้อมูลออกมาในตอนแรกเซี่ยตงไป่ก็เห็นแล้วว่ามันมีสายลับมากมายในแก๊งฝูชิงของเขาจนแทบจะไม่เหลือผู้นำเลย ดังนั้นไม่ว่าเขาจะไตร่ตรองอย่างรอบคอบเพียงใด เขาก็ยังเลือกที่จะเชื่อในตัวโย่วซวนอยู่ดี
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเซี่ยตงไป่ก็พูดว่า “คุณซาน..คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้?”
“ถ้างั้นเราก็ต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนและหาข้อมูลมายืนยันสิ่งต่างๆ?..ผมคิดว่าคุณโย่วเองก็ต้องการแบบนั้นใช่ไหม?” ซานเย่พูด
“ใช่!” โย่วซวนพูด “ผมยังยืนยันเช่นเดิม..แต่สิ่งต่างๆต้องชัดเจนอย่างมากและถ้าหากพวกคุณไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผมเป็นสายลับนั่นก็หมายความว่าจ้าวซินกำลังหมิ่นประมาทผม..เพราะงั้นผมก็เชื่อว่าหัวหน้าเซี่ยคงจะมอบความยุติธรรมแก่ผมได้..และกฎของแก๊งฝูชิงนั้นผมเชื่อว่าหัวหน้าโย่วน่าจะรู้ดีกว่าใคร..เพราะงั้นช่วยลงโทษเขาถึงที่สุดด้วย”
ใบหน้าของจ้าวซินก็เปลี่ยนไปอย่างมากและหัวใจของเขาก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ซึ่งแน่นอนว่าเขารู้ดีว่าทุกอย่างเกี่ยวกับโย่วซวนนั้นจะต้องย้อนกลับมาหาตัวเขาอย่างแน่นอน เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเซี่ยตงไป่จะเชื่อใจโย่วซวนและลำเอียงถึงขนาดนี้? ยิ่งไปกว่านั้นจ้าวซินก็ยังเป็นแค่เด็กหนุ่มแล้วเขาจะเอาชนะโย่วซวนได้อย่างไร? ซึ่งถ้าหากไม่มีคนคอยสนับสนุนเขาล่ะก็เขาคงจะตายไปนานแล้ว
.
.
.
.
.
.
.