ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 668 หารือมาตรการตอบโต้ ตอนที่ 1
ตอนที่ 668 หารือมาตรการตอบโต้ ตอนที่ 1
ไอซอลเดแฮมป์ตันในฐานะผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ซึ่งเป็นองค์กรทหารรับจ้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นถ้าหากเขาไม่มีความหยิ่งผยองในศักดิ์ศรีล่ะก็เขาจะยังเป็นผู้นำของนีโอมิลิทารี่ได้อยู่อีกหรือ? ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พอใจและไม่สบอารมณ์กับไป๋ฮวยก็ตามแต่เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นความผิดของเขาเองจริงๆและเขาก็ต้องแบกรับภาระของบุคลากรในองค์กรเพราะในเมื่อผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาทำสิ่งต่างๆโดยที่เขายังไม่ได้อนุญาตเช่นนั้นเขาก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
องค์กรทุกองค์กรต้องมีวินัยและกฎที่เข้มงวดเสมอ ยิ่งไปกว่านั้นคนเป็นผู้นำต้องแยกแยะให้ถูกว่าสิ่งใดควรและไม่ควรและสิ่งสำคัญที่สุดในฐานะผู้นำก็คือคนๆนั้นต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบต่อสิ่งที่ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำและต้องอดทนต่อความผิดพลาดของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างกล้าหาญ ด้วยวิธีนี้คนๆก็จะสามารถเอาชนะใจบุคลากรในองค์กรได้และทำให้คนเหล่านั้นทุ่มเทและภักดีเพื่อองค์กรอย่างมาก
ลูกน้องชาวจีนสองคนนี้ได้รับการช่วยเหลือจากสนามประลองการแข่งขันมวยใต้ดินและในขณะนั้นทั้งสองคนก็ได้เอาชนะจากการแข่งขันมวยใต้ดินและถูกนักพนันรายหนึ่งส่งคนไปไล่ฆ่าพวกเขาเพราะพวกเขานั้นไม่ล้มมวยตามที่ตกลงกันเอาไว้ ซึ่งในเวลานั้นไอซอลเดแฮมป์ตันบังเอิญไปทำภารกิจที่นั่นดังนั้นเขาจึงช่วยพวกเขาโดยนำกลับมาที่สำนักงานใหญ่ของนีโอมิลิทารี่ด้วยและตั้งแต่นั้นมานักสู้ชาวจีนสองคนนี้ก็อยู่เคียงข้างเขาและทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันส่วนตัวที่ซื่อสัตย์และภักดีอย่างมากเสมอมา
ในสังคมสมัยนี้มันเป็นเรื่องยากมากที่จะหาผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์และภักดีเพราะแม้แต่คนที่คอยติดตามและภักดีมาหลายปีหรือหลายสิบปีก็อาจทรยศได้ด้วยผลประโยชน์บางอย่าง ดังนั้นถ้าไอซอลเดแฮมป์ตันไม่ปกป้องพวกเขาแล้วเขาจะยังเป็นเจ้านายของทั้งสองอยู่หรือเปล่า?
เรื่องที่ไป๋ฮวยพูดนั้นก็เป็นความจริง ซึ่งนั่นเป็นเพราะไอซอลเดแฮมป์ตันประเมินตัวเองต่ำเกินไปดังนั้นเขาจึงดึงมีดออกมาจากเอวของเขาโดยไม่ลังเลใดๆ
เมื่อเห็นไอซอลเดแฮมป์ตันดึงมีดออกมาแล้วกำลังจะแทงเข้าไปที่ต้นขาของตัวเองเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจแต่ด้วยไหวพริบที่ยอดเยี่ยมของเขานั้นเย่เชียนก็ได้ใช้มือขวาของเขาปัดไปที่ข้อมือของไอซอลเดแฮมป์ตันอย่างรวดเร็วจากนั้นเย่เชียนก็ทำการสะกดจุดเส้นประสาทที่ข้อมือของไอซอลเดแฮมป์ตันและเขาก็รู้สึกชาไปทั้งแขนจนมีดในมือของเขาตกลงไปบนพื้นทันที
“คุณจะทำอะไร?” เย่เชียนถามแล้วพูดต่อ “มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก” จากนั้นเย่เชียนก็มองไปที่ลูกน้องของไอซอลเดแฮมป์ตันทั้งสองแล้วพูดว่า “พวกคุณออกไปซะ”
เมื่อชายชาวจีนทั้งสองเห็นสิ่งนี้พวกเขาก็รู้ดีว่าพวกเขาทำผิดพลาดและถึงแม้ว่าจะเป็นการปกป้องไอซอลเดแฮมป์ตันก็ตามแต่ท้ายที่สุดพวกเขาก็คิดน้อยเกินไปและเกือบจะทำร้ายไอซอลเดแฮมป์ตันเสียเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไปเพราะพวกเขารู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดและถ้าหากพวกเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อไปมันก็จะยิ่งทำให้สิ่งต่างๆเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นหลังจากเหตุการณ์นี้จบลงพวกเขาก็จะมาขอโทษไอซอลเดแฮมป์ตันและรับบทลงโทษ
“อย่าลืมสิว่าเย่เชียนขอให้นายมาช่วยเพื่อจัดการกับพวกทหารรับจ้างเรดซัน..ถ้านายบาดเจ็บไปมันก็ไร้ประโยชน์น่ะสิ..ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่านายคิดอะไรอยู่” ไป๋ฮวยพูดอย่างเย้ยหยัน ซึ่งนี่เป็นวิธีการพูดแบบปกติของไป๋ฮวยและมันก็ไม่ใช่ทุกคนที่คุ้นเคยกับมัน เขาเพียงแต่พูดเพื่อเตือนสติของไอซอลเดแฮมป์ตันแต่น้ำเสียงของเขานั้นไม่ค่อยน่าฟังสักเท่าไหร่
“อย่ากังวลไปเลยถึงแม้ว่าฉันจะต้องจนตรอกสักแค่ไหนแต่ฉันก็ไม่มีวันลากน้องเย่ไปเผชิญกับสิ่งที่เลวร้ายหรอก..ต่างจากคนบางคนที่ทรยศและไม่สนใจองค์กรของตัวเอง..คนแบบนี้ยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้มันก็แปลกเนอะ..สวรรค์สร้างเรื่องตลกแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง” ไอซอลเดแฮมป์ตันโต้กลับ
ไป๋ฮวยก็ยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า “สิ่งที่เรียกว่าความจริงใจและซื่อสัตย์มันคืออะไรงั้นเหรอ?..อย่าถือตัวเองสูงเกินไปหน่อยเลย”
เย่เชียนรู้สึกขมขื่นอย่างมากเพราะไป๋ฮวยนั้นไม่ได้มุ่งร้ายใดๆและนี่คือวิธีการพูดแบบปกติของไป๋ฮวยแต่ทว่าหากเป็นคนอื่นได้ฟังคำเหล่านี้แล้วแน่นอนว่าพวกเขาจะต้องไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง หากเป็นคนอื่นพวกเขาจะไปที่ไหน เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะมองหลินเฟิงไปที่ด้วยสายตาขอความช่วยเหลืออีกครั้งและหลินเฟิงก็เข้าใจแล้วพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นหลินเฟิงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาล่ะๆพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่สามารถทำให้โลกทั้งใบจะสั่นคลอนได้เลยเพราะงั้นพวกเราไม่ควรมาเสียเวลากับเรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้..มาเถอะพวกเรายังมีเรื่องต้องคุยกันอีกหลายประเด็น..หากพวกนายยังถกเถียงแบบนี้กันต่อไปมันก็ไม่จบจนกว่าจะถึงวันสิ้นโลก..อย่าลืมสิว่าพวกเรายังมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำเพราะงั้นอย่าเสียเวลากันเลย”
“ใช่!..เลิกไร้สาระกันได้แล้ว” เย่เชียนพูดต่อ “พี่ไป๋สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นความผิดพลาดจากคนของไอซอลเดแฮมป์ตัน..เพราะงั้นผมจะพาพวกเขามาขอโทษพี่ก็แล้วกัน”
“ไม่!..พวกเขาได้รับบทเรียนไปแล้วเพราะงั้นไม่จำเป็นต้องมาขอโทษอีก” ไป๋ฮวยพูด
“มาเถอะ..มานั่งคุยกันเถอะ..แผนขั้นต่อไปเราจะจัดการกับพวกทหารรับจ้างเรดซันยังไง?” เย่เชียนพูดแล้วดึงเก้าอี้ออกมาให้ไอซอลเดแฮมป์ตันและให้เขานั่งลงและขยิบตาให้เขาอย่างลับๆพร้อมกับยิ้มอย่างขอโทษ ซึ่งไอซอลเดแฮมป์ตันเองก็สามารถเข้าใจความรู้สึกของเย่เชียนได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ดิ้นรนต่อไปและนั่งลงโดยไม่พูดอะไรใดๆต่อ
หลินเฟิงกับไป๋ฮวยก็นั่งอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามแล้วพูดว่า “งั้นเรามาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า..ฉันไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับองค์กรทหารรับจ้างเรดซัน..เพราะงั้นทุกคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นคนขององค์กรทหารรับจ้างที่มีลักษณะเดียวกัน..ฉันจึงอยากถามทุกคนว่าแต่ละคนคิดยังไงกับเรื่องนี้กันบ้าง”
“อันที่จริงการที่ทหารรับจ้างเรดซันสามารถติดสิบอันดับแรกของโลกแห่งทหารรับจ้างได้นั้นก็เพราะว่าพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากกองทัพญี่ปุ่น..ซึ่งประสิทธิภาพในการรบของพวกทหารรับจ้างเรดซันก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนักและส่วนใหญ่ก็ร่วมมือกับกองทัพญี่ปุ่นและทั้งหมดก็เกี่ยวข้องกับสมาคมมังกรดำทั้งนั้น” ไอซอลเดแฮมป์ตันสูดลมหายใจเข้าลึกๆและระงับความไม่พอใจของเขาที่มีต่อไป๋ฮวยไปแล้วพูดต่อ “จำนวนสมาชิกในองค์กรนั้นมีไม่มากนัก..ซึ่งในยุครุ่งเรืองของพวกเรดซันก็มีสมาชิกอยู่เพียงแค่สี่ร้อยคน..เพราะงั้นฉันเชื่อว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาในการกำจัดพวกนั้น..ตราบใดที่แผนของเราดีพอเราอาจจะจัดการพวกมันได้ในคราวเดียว”
เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ไอซอลเดแฮมป์ตันพูดถูกเพราะจากข้อมูลที่รวบรวมมาโดยหน่วยข่าวกรองของเราแล้วที่สำนักงานใหญ่ขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันในตอนนี้มีเพียงสองร้อยคนเท่านั้น..ส่วนที่เหลืออีกหลายร้อยคนก็ได้รับมอบหมายให้ออกไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ..ส่วนแหล่งกบดานและฐานสำรองต่างๆนั้นผมก็ได้ประสานงานกับทีมของเราทั้งหมดเอาไว้แล้วเพราะงั้นเมื่อเราโจมตีพวกทหารรับจ้างเรดซันล่ะก็เราจะโจมตีพร้อมกันและถอนรากถอนโคนพวกมันซะ”
“มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดการกับพวกเรดซัน..สิ่งที่เราต้องพิจารณาในตอนนี้คือทำยังไงให้สมาคมมังกรดำไม่รู้ตัว..อย่างที่พวกเราทุกคนทราบว่าองค์กรทหารรับจ้างเรดซันนั้นเป็นหนึ่งในเครือข่ายของสมาคมมังกรดำ..ซึ่งที่แห่งนี้คือประเทศญี่ปุ่นที่เป็นเหมือนสนามหลังบ้านของสมาคมมังกรดำ..ดังนั้นถ้าหากมังกรดำจะเข้ามาแทรกแซงล่ะก็เรื่องนี้จะลำบากมากสำหรับเราในการกวาดล้างพวกเรดซันและยิ่งเวลาล่าช้ามากเท่าไหร่มันก็ยิ่งยากมากขึ้นเท่านั้น..แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือการที่สมาคมมังกรดำไปกดดันรัฐบาลญี่ปุ่น..หากเป็นแบบนั้นพวกเราจะต้องเผชิญหน้ากับกองกำลังมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อค้นหาที่อยู่ของพวกเราแล้วกำจัดพวกเราเหมือนไก่ตาแตก” ไป๋ฮวยพูด
เย่เชียนกับหลินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างขมขื่นเมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของไป๋ฮวยเพราะคำคุณศัพท์ของชายหนุ่มคนนี้นั้นดูจริงจังอย่างมากและเมื่อเป็นเรื่องเหล่านี้น้ำเสียงของไป๋ฮวยก็เหมือนกับกำลังพูดสุนทรพจน์ให้เหล่านักศึกษาฟัง แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ส่วนไอซอลเดแฮมป์ตันนั้นเขาไม่เข้าใจคำสุดท้ายที่ว่า ‘ไก่ตาแตก’ นั้นหมายถึงอะไรและถึงแม้ว่าเขาจะมีความสงสัยอยู่ในใจแต่เขาก็ไม่ได้เจาะลึกเรื่องนี้
หลังจากหยุดไปชั่วขณะไป๋ฮวยก็พูดต่อ “ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เย่เชียนนำตัวอาซูกะนากาจิมะผู้นำของพวกเรดซันคนก่อนให้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีน..หลังจากนั้นมาสมาคมมังกรดำก็ได้เข้ามาแทรกแซงองค์กรทหารรับจ้างเรดซันอย่างเป็นทางการและได้แต่งตั้งผู้นำคนใหม่ซึ่งคนๆนี้ไม่ธรรมดาไม่ว่าจะในด้านของทักษะการต่อสู้หรือกลยุทธ์ในการรบก็ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าอาซูกะนากาจิมะมาก..ที่สำคัญเธอมีอีกตัวตนหนึ่งและพ่อของเธอชิบะชิเงโอะก็เป็นถึงหนึ่งในผู้นำของสมาคมมังกรดำ..เกี่ยวกับเรื่องนี้ถ้าหากสมาคมมังกรดำรู้ว่าพวกเรากำลังจะทำการกวาดล้างพวกทหารรับจ้างเรดซันล่ะก็พวกเขาจะตอบสนองยังไง?..แน่นอนว่าชิบะชิเงโอะจะไม่ยอมเห็นลูกสาวของตัวเองถูกฆ่าตายอยู่แล้วและเขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยองค์กรทหารรับจ้างเรดซัน..เพราะงั้นถ้าหากเราไม่สามารถทำลายองค์กรทหารรับจ้างเรดซันได้ในคราวเดียวล่ะก็พวกเราเองที่จะต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก..นอกจากนี้การถอนตัวและถอนกำลังก็เป็นปัญหาใหญ่มากเพราะถ้าหากเราไม่สามารถทำให้เหล่าสมาชิกนีโอมิลิทารี่ถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นได้ทันเวลาล่ะก็ฉันคิดว่าสุดท้ายแล้วก็อาจจะไม่มีใครรอดกลับไปได้เลย”
การวิเคราะห์ของไป๋ฮวยนั้นสมเหตุสมผลมากจนเย่เชียนนั้นเห็นด้วยอย่างมากเพราะปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเผชิญในตอนนี้คือการที่โย่วซวนเป็นสายลับ ดังนั้นพวกเขาต้องหลอกใช้โย่วซวนเพื่อสร้างภาพลวงตาให้กับสมาคมมังกรดำและพวกเขาต้องใช้แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงเพื่อจัดเส้นทางหลบหนีและทั้งหมดนี้ต้องเป็นแผนของโย่วซวนเท่านั้นและห้ามมีส่วนใดส่วนหนึ่งแผนผิดพลาดโดยเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นมันอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขได้เลย
“ชิบะ..ชิเงโอะ?..จากข้อมูลที่ผมรวบรวมมาได้นั้นผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันคือทาเคชิ..ฟูจิตะไม่ใช่เหรอ?..เขาเป็นผู้ชายแล้วมันจะเป็นลูกสาวของชิบะชิเงโอะได้ยังไง?” เย่เชียนพูด
“ทาเคชิฟูจิตะเป็นเพียงฉากบังหน้าขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันเท่านั้น..เขาเป็นแต่ตัวหมากรุกที่ชิบะชิเงโอใช้เพื่อสร้างความสับสนให้กับคนนอก..ซึ่งเธอคนนั้นเป็นคนที่บัญชาการเหล่าทหารรับจ้างเรดซันจริงๆ..ยิ่งไปกว่านั้นเธอถูกส่งไปยังสำนักนินจาตั้งแต่ยังเด็กเพื่อศึกษาเล่าเรียนวิชานินจา..ผู้หญิงคนนี้น่ะไม่ธรรมดาเธอเป็นเหมือนแม่ม่ายดำเพราะงั้นทุกคนควรจะระมัดระวังให้ดี..เธอสามารถกินคนได้โดยไม่ต้องคายกระดูกออกมาเลย” ไป๋ฮวยพูดอย่างเคร่งขรึม
.
.
.
.
.
.
.