ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 678 เปิดเผยตัวตน
ตอนที่ 678 เปิดเผยตัวตน
ชิบะโชโกะก็อดไม่ได้ที่ส่ายหัวเมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียน หลังจากนั้นเธอก็พูดว่า “ผู้นำองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าผู้สง่าผ่าเผยพูดจาแบบนี้จริงๆหรอ?..เอาเถอะในเมื่อฉันแพ้คุณแล้วคุณจะทำอะไรก็ทำ”
“คุณชิบะโชโกะดูเหมือนจะลืมสิ่งที่คุณพูดไปก่อนหน้านี้ไปแล้วนะ” เย่เชียนพูด “ข้อตกลงของการเดิมพันของเราผมก็พูดเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าถ้าคุณแพ้ทหารรับจ้างเรดซันจะต้องจะยอมจำนนและบอกผมทุกอย่างเกี่ยวกับสมาคมมังกรดำ”
“หืม..คุณต้องการให้ฉันหักหลังองค์กรงั้นเหรอ?” ชิบะโชโกะพูด “ฉันบอกคุณไปแล้วว่าคราวนี้สมาคมมังกรดำจะไม่ปล่อยพวกคุณไปง่ายๆ..ตอนนี้คุณรู้ตัวตนของฉันแล้วเพราะงั้นคุณควรจะฆ่าฉันซะ..ไม่งั้นอย่าว่าแต่หมาป่าฝูงเล็กๆของคุณเลยเพราะไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นองค์กรที่ใหญ่แค่ไหนถึงยังไงสมาคมมังกรดำก็จะกำจัดทิ้งอยู่ดี”
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “ผมรู้ว่าคุณจะไม่รักษาสัญญาเพราะคนญี่ปุ่นไร้สัจจะแต่มันก็ไม่สำคัญเพราะคราวนี้องค์กรทหารรับจ้างเรดซันของคุณจะต้องหายออกไปจากโลกใบนี้..เพราะที่นี่ไม่ได้มีแค่เขี้ยวหมาป่าของผม..ผมจะแนะนำให้รู้จักเขา..หลินเฟิง..ผู้นำขององค์กรเซเว่นคิลที่มีชื่อเสียงก้องโลก!..เขาเป็นหนึ่งในกองกำลังที่จะมากวาดล้างองค์กรทหารรับจ้างเรดซันในครั้งนี้ด้วย..นอกจากนี้ผมเชื่อว่าคุณน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับหมาป่าผีไป๋ฮวยและองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ของไอซอลเดแฮมป์ตันสินะ..เพราะงั้นภายใต้พันธมิตรที่แข็งแกร่งแบบนี้องค์กรทหารรับจ้างเรดซันก็ต้องถูกทำลายไปอย่างสมบูรณ์แบบ”
ชิบะโชโกะก็อดไม่ได้ที่จะตกใจและเธอก็คาดไม่ถึงจริงๆว่าคราวนี้จะมีกองกำลังที่ทรงพลังมากมายมาจัดการกับองค์กรทหารรับจ้างเรดซันของเธอ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็ฝืนหัวเราะอย่างเย้ยหยันแล้วพูดว่า “อย่าโอหังเกินไปหน่อยเลยถึงแม้ว่าคุณจะรวมพันธมิตรมาสักแค่ไหนแต่พวกคุณก็ไม่สามารถเป็นศัตรูของสมาคมมังกรดำได้หรอก..ฉันขอแนะนำให้พวกคุณหนีไปซะแล้วทิ้งฉันเอาไว้ที่นี่..ไม่งั้นสมาคมมังกรดำจะตามล่าพวกคุณและผลลัพธ์มันคงจะเลวร้ายอย่างที่พวกคุณไม่เคยคาดคิดมาก่อน”
“บอสให้ผมจัดการที่เหลือเอง” ทันทีที่เสียงจบลงชายหนุ่มคนหนึ่งก็กระโดดลงจากยอดตึกและมายืนข้างๆเย่เชียนจากนั้นเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “บอสผมมาช้าไปหรือเปล่า?”
***********************************************
การต่อสู้นั้นถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน การต่อสู้กับองค์กรทหารรับจ้างเรดซันที่กำลังโหมกระหน่ำที่นี่และแตกต่างจากท่าเรือที่เงียบงัน ซึ่งเซี่ยจือยี่กับม่อหลงขับรถไปที่ท่าเรือโดยมีโย่วซวนที่รออยู่ที่นั่นและเตรียมการต่างๆเอาไว้แล้ว
เมื่อเห็นเช่นนั้นโย่วซวนก็เดินไปเปิดประตูรถให้เซี่ยจือยี่แล้วพูดว่า “คุณหนู..คุณม่อหลง..ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว..คุณสามารถส่งตัวเขาขึ้นเรือได้ทุกเมื่อ”
“หัวหน้าโย่วสวัสดีครับ” ม่อหลงพยักหน้าแล้วทักทายเขาจากนั้นก็พูดต่อ “ไม่มีอะไรผิดปกติใช่ไหมครับ”
“ไม่มีครับ..คุณวางใจได้เลยผมจัดเตรียมสิ่งต่างๆเอาไว้แล้ว..ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดผมคิดว่าเขาจะไปถึงน่านน้ำของประเทศจีนในเช้าวันรุ่งขึ้น” โย่วซวนพูด
“คุณหยานขึ้นเรือได้เลยครับ” ม่อหลงหันหน้าไปมองหยานฮั่นแล้วพูด
สายตาของหยานฮั่นก็มองกวาดออกไปรอบๆเพราะครั้งสุดท้ายที่เขามาที่นี่นั้นเกือบจะทำให้เขาตายอย่างน่าอนาถ ดังนั้นเขาจึงต้องระวังตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งแผนเหยื่อล่อของเย่เชียนนั้นแน่นอนว่าหยานฮั่นไม่รู้ตัวเพราะงั้นเมื่อได้ยินคำพูดของม่อหลงแล้วหยานฮั่นจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ฝากบอกคุณเย่ทีว่าผมขอบคุณและเป็นหนี้บุญคุณเขา..สักวันผมจะตอบแทนเขาในอนาคตอย่างแน่นอน”
“ครับ” ม่อหลงพูด “บอสของเราสั่งเอาไว้แล้ว..ถึงยังไงคุณก็เป็นคนจีนและเป็นคนของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเพราะงั้นมีอะไรเราก็ต้องช่วยกันเป็นธรรมดา..คุณรีบไปขึ้นเรือเถอะครับ” ม่อหลงพูดในขณะที่สังเกตการณ์เคลื่อนไหวรอบๆและทุกอย่างก็ผ่านไปตามปกติ สิ่งนี้ทำให้ม่อหลงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจและแอบคิดว่า ‘โย่วซวนไม่ได้แจ้งสมาคมมังกรดำหรอกเหรอ?..หรือโย่วซวนจะเป็นสายลับ?’ เว้นแต่ว่าโย่วซวนจะไม่ใช่สายลับเพราะเขาจะไม่พลาดที่จะรายงานสิ่งต่างๆให้สมาคมมังกรดำเป็นแน่ ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ของหยานฮั่นที่มาประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้จะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดก็ตามแต่เขาต้องมุ่งเป้าไปที่สมาคมมังกรดำอยู่ดี ที่สำคัญสมาคมมังกรดำจะไม่ยอมให้หยานฮันออกจากประเทศญี่ปุ่นไปอย่างราบรื่นและจะไม่ยอมให้หยานฮั่นนำข้อมูลใดๆออกจากประเทศญี่ปุ่นเด็ดขาด
“รีบเลยครับ..ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้ว” โย่วซวนพูด
ม่อหลงพยักหน้าแล้วเหลือบมองไปที่หยานฮั่น เพราะมันเป็นการดีถ้าไม่มีคนจากสมาคมมังกรดำมาสร้างปัญหา ซึ่งตราบใดที่หยานฮั่นถูกส่งออกจากประเทศญี่ปุ่นไปอย่างปลอดภัยหยานฮั่นก็จะสามารถส่งข้อมูลต่างๆของสมาคมมังกรดำให้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติได้ ดังนั้นม่อหลงจึงหวังว่าจะไม่มีใครโผล่มาสร้างปัญหาอีก
ตั้งแต่ต้นจนจบเซี่ยจือยี่ไม่ได้พูดอะไรใดๆและการแสดงออกของเธอก็ดูเป็นธรรมชาติอย่างมากเพราะเพื่อความปลอดภัยของเซี่ยจือยี่แล้วม่อหลงก็ได้บอกเซี่ยจือยี่เกี่ยวกับจุดประสงค์ของแผนต่างๆในคืนนี้ อย่างไรก็ตามแผนของเย่เชียนคือการจับกุมโย่วซวนในคืนนี้ ซึ่งถ้าหากไม่บอกเซี่ยจือยี่เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่ะก็ม่อหลงก็กลัวว่าเซี่ยจือยี่จะไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้และเมื่อเธอพบคนจากสมาคมมังกรดำเธอก็อาจจะถูกทำร้ายได้ ในความเป็นจริงคนของสมาคมมังกรดำคงไม่มีเวลามาสนใจเซี่ยจือยี่เพราะสถานการณ์ในปัจจุบันนั้นวุ่นวายอย่างมาก ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะบอกให้เธอรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆก่อนที่มันจะเกิดขึ้น
มุมปากเซี่ยจือยี่ก็กระตุกสองสามครั้งและในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามอย่างจริงจังว่า “คุณซวนคะ..คุณจะลงมือตอนไหนกันแน่?”
โย่วซวนก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะแล้วมองกลับมาที่เซี่ยจือยี่ด้วยความประหลาดใจแล้วพูดว่า “คุณหนู..คุณกำลังพูดถึงอะไรหรือ?..ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณหนูพูดถึงเลย”
หัวใจของม่อหลงก็สั่นสะท้านและมันก็สายเกินไปที่จะหยุดเซี่ยจือยี่แล้ว ดังนั้นม่อหลงจึงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอย่างขมขื่น
“คุณยังจะเสแสร้งแกล้งทำอยู่อีกเหรอ..คุณเป็นสายลับของสมาคมมังกรดำที่แฝงตัวอยู่ในแก๊งฝูชิงของเราใช่ไหม?..คุณรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ท่าเทียบเรือครั้งก่อนใช่ไหม?” เซี่ยจือยี่พูด “คุณซวน..พ่อของฉันเชื่อใจคุณมากจนเขาอำนาจและการตัดสินใจเกือบจะทั้งหมดของแก๊งฝูชิงให้กับคุณ..ฉันน่ะไม่เคยคิดเลยว่าคุณจะเป็นคนทรยศ..คุณมีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม?”
โย่วซวนก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อรู้ว่าตัวตนของเขาถูกเปิดเผยแล้วเขาจึงขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ถ้าอย่างนั้นหัวหน้าเซี่ยก็รู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหม?”
“ไม่!..ฉันยังไม่ได้บอกพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้..ฉันแค่อยากรู้ว่าทำไมคุณถึงทรยศแก๊งฝูชิงของเรา?” เซี่ยจือยี่พูด เมื่อเห็นเช่นนี่ม่อหลงก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และคิดอย่างลับๆว่าผู้หญิงคนนี้แย่จริงๆ อันที่จริงคำพูดของโย่วซวนก็ชัดเจนอยู่แล้วเพราะเขาแค่อยากรู้ว่าใครอีกนอกจากตนและเซี่ยจือยี่ที่รู้ว่าเขาคือสายลับเพื่อที่เขาจะได้ตัดสินใจในขั้นตอนต่อไปว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งถ้าหากไม่มีบุคคลภายนอกที่รู้เรื่องนี้อีกยกเว้นสามที่อยู่ในที่นี้นั้นตราบใดที่ทั้งสามคนนี้ถูกกำจัดไปเขาก็จะสามารถกลับไปทีแก๊งฝูชิงในฐานะสายลับต่อได้และรายงานข้อมูลต่างๆให้สมาคมมังกรดำต่อไป ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นเขาจะต้องรีบกลับไปแล้วเรียกการประชุมกับสมาชิกของสมาคมมังกรดำโดยเร็วที่สุด
โย่วซนก็อดไม่ได้ที่จะมีรอยยิ้มที่เย้ยหยันปรากฏขึ้นแล้วเขาก็พูดว่า “ในเมื่อพวกคุณรู้อยู่แล้วผมก็ไม่คิดที่จะปิดบังอีกต่อไป..ใช่ผมเป็นสายลับที่เข้ามาแฝงตัวในแก๊งฝูชิง..แต่ผมไม่ใช่คนทรยศเพราะผมไม่ใช่คนของแก๊งฝูชิงตั้งแต่แรก..ผมเป็นคนของสมาคมมังกรดำ..ซึ่งจุดประสงค์ของการแฝงตัวเข้ามาก็คือการตรวจสอบและรายงานทุกย่างก้าวของแก๊งฝูชิง!”
“ไอ้คนเลว..พ่อของฉันเชื่อใจคุณมาก..ทำไมคุณถึงทำแบบนี้..วันนี้ฉันจะฆ่าคุณให้ได้” เซี่ยจือยี่ตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว
“คุณหนูอย่าพูดแบบนั้นสิ..เราแค่มีจุดยืนที่แตกต่างกันก็เท่านั้นเอง” โย่วซวนพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะโย่วซวนก็เย้ยหยันว่า “ผมรู้ว่าคุณต้องการฆ่าผม..แต่คุณคงไม่มีโอกาสและจะไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นสายลับได้อีก..หลังจากนั้นผมก็สามารถกลับไปเป็นที่ปรึกษาของแก๊งฝูชิงได้เหมือนเดิม..หลังจากส่งคุณหนูไปลงนรกผมก็จะส่งหัวหน้าเซี่ยตามไปไม่ช้าก็เร็ว”
ทันทีที่เสียงของโย่วซวนจบลงเหล่าคนชุดดำจำนวนมากก็ปรากฏออกมารอบๆตัวเขาและมีไม่น้อยกว่ายี่สิบคน ซึ่งดูเหมือนว่าคราวนี้สมาคมมังกรดำตั้งใจที่จะกำจัดหยานฮั่นจริงๆเพราะครั้งก่อนพวกเขาส่งนินจามา 7 ถึง 8 คนแต่พวกเขากลับทำไม่สำเร็จและคราวนี้พวกเขาจึงส่งคนมามากกว่าเดิม
หยานฮั่นก็ถึงกับผงะและขมวดคิ้วแน่นและพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อ ส่วนม่อหลงมองออกไปรอบๆและแสยะยิ้มอย่างแผ่วเบาแล้วพูดว่า “หัวหน้าโย่ว..คุณคิดน้อยเกินไปนะ..ถึงคุณฆ่าพวกเราได้แล้วยังไงต่อ?..ถึงแม้ว่าหัวหน้าเซี่ยจะไม่รู้ว่าคุณเป็นสายลับแต่บอสของพวกเราน่ะรู้ทุกอย่าง”
โย่วซวนก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและขมวดคิ้วแน่น ซึ่งเขาก็ตระหนักได้แล้วว่ามันมีบางอย่างผิดปกติไปดังนั้นเขาจึงพูดว่า “การส่งตัวคุณหยานกลับประเทศจีนคือแผนลวงงั้นเหรอ?”
“กว่าคุณจะรู้มันก็สายเกินไปแล้ว” ม่อหลงพูด “นี่เป็นสถานการณ์จำลองเพื่อหลอกล่อให้คุณเข้ามาติดกับดัก..ผมคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วสินะ”
โย่วซวนก็ประหลาดใจแล้วถามว่า “คุณหมายความว่าไง”
“รอเดี๋ยว!” หยานฮั่นรีบขัดจังหวะเพื่อหยุดการสนทนาและเหลือบมองม่อหลงแล้วถามว่า “คุณม่อหลง..คุณรู้ว่าเขาเป็นสายลับงั้นหรอ?”
ม่อหลงก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่..คืนนี้บอสจัดเตรียมแผนหลอกล่อเอาไว้..เพื่อล่อให้เขามาติดกับเหมือนคนโง่”
“คือว่า..คุณเย่ใช้ผมเป็นเหยื่อล่องั้นหรอ..ใช้ผมเพื่อดึงดูดความสนใจของศัตรูแบบนั้นใช่มั้ย?” คิ้วของหยานฮั่นก็ขมวดเข้าหากันแน่นและมีสีหน้าที่ดูไม่สบอารมณ์อย่างยิ่งบนใบหน้าของเขาและมีน้ำเสียงที่ดูเย็นชาอย่างมาก
.
.
.
.
.
.
.