ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 682 ทำลายองค์กรทหารรับจ้างเรดซัน ตอนที่ 2
ตอนที่ 682 ทำลายองค์กรทหารรับจ้างเรดซัน ตอนที่ 2
ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพการรบและการต่อสู้ของเหล่าทหารรับจ้างเรดซันจะไม่ได้อ่อนนักแต่จากการต่อสู้โดยรวมแล้วไป๋ฮวยก็สามารถเห็นได้ว่าทักษะของพวกเขานั้นไม่ได้ดีเท่าไหร่ นอกจากนี้เย่เชียนเองก็ยังมีรากฐานของศิลปะการต่อสู้โบราณขั้นสูงอีกดังนั้นมันจึงไม่ง่ายเลยสำหรับเหล่าสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันที่จะเอาชนะเย่เชียนได้
ดูเหมือนว่าไป๋ฮวยจะกระตุ้นความกระตือรือร้นของเย่เชียนแต่จริงๆแล้วมันเป็นการสร้างแรงกดดันทางจิตใจต่อศัตรูอย่างองค์กรทหารรับจ้างเรดซัน ซึ่งเมื่อเย่เชียนเห็นไป๋ฮวยทำเช่นนั้นแล้วเย่เชียนก็ไม่มีอะไรจะคัดค้าน
ถึงแม้ว่าเหล่าสมาชิกของทหารรับจ้างเรดซันจะไม่ใช่ระดับปรมาจารย์แต่พวกเขาก็ล้วนเป็นสมาชิกระดับแนวหน้าขององค์กรทหารรับจ้างเรดซันและไม่ว่าจะเป็นไหวพริบหรือการวางกลยุทธ์หรือจะเป็นทักษะความแม่นปืนรวมไปถึงการต่อสู้แบบประชิดตัวแล้วพวกเขาล้วนเป็นระดับสูงทั้งหมด ซึ่งเย่เชียนในฐานะผู้นำองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าแล้วในแง่ของการต่อสู้แบบไร้อาวุธมันก็ใช่ว่าเขาจะได้เปรียบเสมอไป ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการกับสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันทั้งสี่คนพร้อมๆกัน
อย่างไรก็ตามเย่เชียนจะประมาทไม่ได้ไม่เช่นนั้นมันจะไม่ใช่แค่ศักดิ์ศรีของเขาเองเท่านั้นที่จะต้องสูญเสียแต่เป็นชื่อเสียงขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดอีกด้วย ซึ่งนี่คือจุดที่ผู้หญิงไม่เคยเข้าใจในตัวของผู้ชายว่าทำไมผู้ชายถึงตายได้แต่เสียศักดิ์ศรีไม่ได้ ซึ่งสำหรับผู้ชายแล้วเกียรติยศและศักดิ์ศรีนั้นสำคัญกว่าชีวิตเสมอ
ทางด้านของชิบะโชโกะนั้นก็ได้เห็นแล้วว่าหมาป่าเขี้ยวพิษหลิวเทียนเฉินนั้นแข็งแกร่งเพียงใด เธอรู้ว่ามันยากมากสำหรับเธอที่จะหลบหนีไปได้และมันก็ยากสำหรับเธอที่จะหาโอกาสลอบโจมตีเขาเพราะพ่อต่อหน้าหมาป่าเขี้ยวพิษคนนี้แล้วเธอก็เป็นเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังเล่นอยู่ในโคลน อย่างไรก็ตามเนื่องจากเย่เชียนไม่ได้ฆ่าเธอในทันทีนั่นก็หมายความว่าเธอยังคงมีประโยชน์สำหรับเย่เชียนและตราบใดที่ยังมีประโยชน์มันก็จะมีการต่อรองและมีโอกาสที่จะหลบหนีได้อีก ดังนั้นชิบะโชโกะจึงพยายามใจเย็นและสงบสติอารมณ์และทำเพียงแค่คอยดูสถานการณ์โดยรวมอย่างเงียบๆ ชิบะโชโกะนั้นได้เผชิญหน้ากับเย่เชียนมาก่อนหน้านี้ดังนั้นเธอกูรู้ดีว่าลูกน้องของเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เชียนเลย ดังนั้นเธอจึงไม่คาดหวังหรือหวังอะไรมากเพราะตั้งแต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอทั้งสี่คนก้าวออกมาเธอก็รู้ผลแพ้ชนะแล้ว ซึ่งเมื่อเธอได้เห็นฟูชิตะเธอก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวอย่างมากแต่เธอไม่สามารถไปตำหนิเขาได้ในตอนนี้เพราะไม่ว่าในกรณีใดก็ตามทักษะการต่อสู้ของฟูจิตะนั้นย่อมดีกว่าสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันคนอื่นๆอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเขาก้าวออกมาโอกาสในการชนะมันจะไม่สูงขึ้นกว่าเดิมหรอกหรือ? ดังนั้นชิบะโชโกะจึงมองว่าตำแหน่งรองผู้บัญชาการของฟูจิตะนั้นช่างไร้ประโยชน์จริงๆ
หลินเฟิงยกข้อมือขึ้นเพื่อตรวจสอบเวลาบนนาฬิกาแล้วพูดว่า “เย่เชียนจะทำอะไรก็รีบๆหน่อย”
เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วเหลือบมองไปที่เหล่าทหารรับจ้างเรดซันทั้งสี่คนที่เดินออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “มาเถอะ..มาตัดสินกันเลยดีกว่า!” เย่เชียนนั้นเคยได้ยินเกี่ยวกับวิธีการต่อสู้ของเหล่าทหารรับจ้างเรดซันว่าพวกเขาชอบต่อสู้ด้วยมือเหล่า ดังนั้นเย่เชียนจึงอยากใช้โอกาสนี้เพื่อให้พวกเขาได้ลิ้มรสและสัมผัสด้วยตาของพวกเขาเองว่าการต่อสู้ที่แท้จริงนั้นคืออะไร
สมาชิกทหารรับจ้างเรดซันทั้งสี่ต่างก็มองหน้ากันและกันและในที่สุดพวกเขาก็รวบรวมความกล้าแล้วพุ่งเข้าหาเย่เชียน เนื่องจากการต่อสู้จะต้องตัดสินภายในสี่นาทีดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เย่เชียนจะยั้งมือ ซึ่งการพยายามอย่างเต็มที่เพื่อโค่นล้มศัตรูด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั้นจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ในบรรดาศิลปะการต่อสู้ทั้งหมดที่เย่เชียนฝึกฝนมานั้นทักษะที่มีพลังโจมตีที่ทรงพลังที่สุดคือมวยปาจี๋ อย่างไรก็ตามในการต่อสู้และการผ่านสงครามมามากมายนั้นเย่เชียนก็ได้รวมทักษะการต่อสู้ที่เขาฝึกฝนมาทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วผสมผสานในแบบของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่มวยปาจี๋อีกต่อไปแล้วแต่มันกลับทรงพลังมากกว่าเดิมอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าเย่เชียนย่อตัวลงและในทันใดนั้นร่างคนทั้งร่างก็พุ่งออกไปเหมือนกับลูกศรจากคันธนูแล้วใช้มือข้างหนึ่งสับเข้าไปที่คอของสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันคนหนึ่งทันทีและทหารรับจ้างเรดซันคนนั้นก็ไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ได้เลย ซึ่งคอของทหารรับจ้างเรดซันคนนั้นก็บิดเบี้ยวแล้วล้มลงไปกับพื้นทันที
“ถึงฉันจะเคยได้เห็นทักษะการต่อสู้ของเย่เชียนมาบ้างแล้วก็เถอะแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะเก่งขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก..ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขี้ยวหมาป่าสามารถยืนหยัดอยู่บนจุดสุดยอดของโลกแห่งทหารรับจ้างได้..เพราะแค่ความสามารถในการต่อสู้ด้วยมือเปล่าเพียงอย่างเดียวนั้นคนธรรมดาๆอย่างพวกเราก็เทียบไม่ได้แล้ว..ยิ่งไปกว่านั้นทักษะการต่อสู้ของเย่เชียนในตอนนี้ยอดเยี่ยมกว่าที่ฉันเคยเห็นเมื่อสองปีก่อนหลายเท่าเลย!” ไอซอลเดแฮมป์ตันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
จากนั้นเย่เชียนก็ได้หมุนตัวไปอยู่ข้างหลังของสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันอีกคนและใช้ฝ่ามือกระแทกเข้าไปที่กระดูกสันหลังของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนอีกฝ่ายล้มลงไปกับพื้นทันที ซึ่งภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีเย่เชียนก็ได้กำจัดสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันไปถึงสองคน ซึ่งทำให้อีกคนสองคนที่เหลือสูญเสียความตั้งใจและสมาธิในการต่อสู้และความหวังที่ริบหรี่ของพวกเขาก็ดับสูญไปอย่างสมบูรณ์แบบ จนตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นชิ้นเนื้อบนเขียงที่พร้อมจะถูกเย่เชียนบดขยี้ได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ
ที่ด้านข้างเมื่อฟูจิตะเห็นฉากดังกล่าวเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีใจที่เขาไม่ได้ก้าวออกไป ไม่เช่นนั้นเขาคงจะต้องตายไปเหมือนกับผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองที่นอนกองอยู่กับพื้นในตอนนี้เป็นแน่ อย่างไรก็ตามเขาก็รู้ดีว่าโอกาสรอดของเขานั้นมีน้อยมากเพราะเย่เชียนจะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปและจุดประสงค์ของเย่เชียนในการทำแบบนี้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการหัวเราะเยาะและดูถูกองค์กรทหารรับจ้างเรดซันของเขา แต่ทว่าในขณะนี้ฟูจิตะก็ไม่สนใจว่าเย่เชียนกำลังเยาะเย้ยหรือดูถูกเพราะเขาแค่คิดเพียงว่าเขาจะต้องหนีออกไปจากที่นี่และคิดหาวิธีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในตอนนี้ดวงตาของเขาก็ยังคงกวาดสายตามองออกไปรอบๆเพื่อหาโอกาสเหล่านั้น
ทั้งหมดนี้เห็นได้ชัดว่าหลินเฟิงที่อยู่ด้านข้างนั้นไม่ค่อยสบอารมณ์มากนักเพราะเขาไม่อยากให้เย่เชียนเสียเวลากับสิ่งเหล่านี้ แต่เนื่องจากเย่เชียนได้เลือกที่จะทำเช่นนี้แล้วหลินเฟิงก็ต้องทำหน้าที่ของเขาโดยการติดตามสถานการณ์ทั้งหมดโดยรอบเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาในเวลานี้ล่ะก็มันคงจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างมาก
“การที่เขี้ยวหมาป่าสามารถยืนอยู่ในจุดสูงสุดของโลกทหารรับจ้างนั้นไม่ใช่เพราะพวกเขามีกำลังรบที่ทรงพลังเพียงอย่างเดียวแต่เป็นเพราะความสามัคคีของเหล่าสมาชิกด้วย!” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดสวนคำพูดของไอซอลเดแฮมป์ตัน
“จริงเหรอ?..แต่น่าเสียดายนะที่ครั้งหนึ่งเขี้ยวหมาป่าเคยมีคนทรยศพี่น้อง” ไอซอลเดแฮมป์ตันตอกกลับ
ไป๋ฮวยก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม ซึ่งเขาไม่สนใจแม้แต่คำพูดของพี่น้องในเขี้ยวหมาป่าดังนั้นไป๋ฮวยจะไปสนใจคำพูดของไอซอลเดแฮมป์ตันได้อย่างไร? ซึ่งไม่ว่าความเห็นของไอซอลเดแฮมป์ตันเกี่ยวกับตัวเขาจะเป็นอย่างไรเขาก็ไม่สนใจเพราะเขาใช้ชีวิตเพื่อตัวเองและเขาไม่จำเป็นต้องสนใจว่าคนอื่นจะมองเขาอย่างไรหรือคนอื่นจะคิดอย่างไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย
เนื่องจากไป๋ฮวยหยุดพูดแล้วดังนั้นไอซอลเดแฮมป์ตันเองก็ไม่คิดที่จะไร้สาระเช่นกันแล้วเขาก็ปิดปากอย่างไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ ณ จุดนี้ เย่เชียนก็กำจัดสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันไปแล้วสองคนและยังเหลืออยู่อีกสองคนแต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานเย่เชียนก็สามารถโค่นล้มคู่ต่อสู้ทั้งหมดได้ภายในเวลาไม่ถึงสองนาที ขนาดชิบะโชโกะที่เคยเผชิญหน้ากับทักษะการต่อสู้ของเย่เชียนมาก่อนหน้านี้ก็ยังอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเพราะถ้าหากเย่เชียนไม่คิดที่จะไว้ชีวิตเธอตั้งแต่แรกล่ะก็เธอคงจะตายด้วยน้ำมือของเย่เชียนภายในเสี้ยววินาทีเป็นแน่
ในทันใดนั้นดจู่ๆก็มีเสียง “ปัง!” จากด้านข้างสนามนั้นหน้าผากของฟูจิตะก็เป็นรูด้วยการยิงของหลินเฟิงและเลือดก็ไหลออกมาและดวงตาของฟูจิตะก็ยังคงเผยให้เห็นร่องรอยของความตื่นตระหนกที่ไม่สามารถบรรยายได้และเขาก็ล้มลงไปอย่างช้าๆ ซึ่งเมื่อเย่เชียนกำจัดสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันคนสุดท้ายได้ฟูจิตะก็กำลังจะใช้ประโยชน์สถานการณ์ที่วุ่นวายนี้หยิบปืนสั้นที่เขาซ่อนเอาไว้ในร่างกายเพื่อจะยิงเย่เชียนแต่ก็เขาไม่ได้คาดหวังว่าหลินเฟิงจะสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้แล้วฆ่าเขาในทันที
เย่เชียนก็หันไปมองหลินเฟิงอย่างซาบซึ้งจากนั้นก็หันไปมองเหล่าสมาชิกทหารรับจ้างเรดซันแล้วยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์และพูดว่า “ในเมื่อพวกคุณทำผิดกฎเพราะงั้นก็อย่ามาโทษที่ผมโหดร้ายล่ะ..ฆ่าพวกมันซะ!”
ตามคำสั่งของเย่เชียนเสียงปืนก็ดังขึ้นและเหล่าสมาชิกของทหารรับจ้างเรดซันก็กรีดร้องด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวจากนั้นพวกเขาก็ล้มลงไปทีละคน ถึงแม้ว่าชิบะโชโกะจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นอะไรกับพวกเขาก็ตามแต่คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเธอและล้วนเป็นคนของสมาคมมังกรดำ ดังนั้นหัวใจของเธอก็ต้องความเจ็บปวดอยู่บ้างและเธอก็ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “เย่เชียน!..นี่เหรอผู้นำที่สง่าผ่าเผยของเขี้ยวหมาป่า..การฆ่าคนที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้แบบนี้มันเรียกว่าศักดิ์ศรีงั้นเหรอ?”
เย่เชียนก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “คนของคุณเป็นฝ่ายทำผิดกฎก่อนเพราะงั้นคุณไม่สามารถตำหนิผมได้..นอกจากนี้ผมก็ไม่ใช่คนดีและผมก็เป็นวายร้ายตัวเป็นๆ..อีกอย่างไม่ว่าพวกเขาจะต่อสู้ได้หรือไม่ได้นั้นถึงยังไงพวกเขาก็ล้วนแต่เป็นศัตรูของผม..และมันก็ไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้นต่อศัตรู!”
“หืม..เย่เชียน!..สิ่งที่แกทำในวันนี้แกคิดว่าสมาคมมังกรดำจะปล่อยไปงั้นเหรอ?” ชิบะโชโกะตะโกนด้วยความโกรธ
“แล้วไง?..เพราะถึงยังไงผมก็จะไม่ปล่อยพวกเขาไปเหมือนกัน..ว่าแต่คุณควรจะทำใจตั้งแต่ตอนนี้ซะนะ” เย่เชียนแสยะยิ้มแล้วพูด จากนั้นเขาก็หันไปมองไอซอลเดแฮมป์ตันแล้วพูดว่า “คุณไอซอลเดช่วยเคลียร์พื้นที่ให้ผมด้วย..นับการสูญเสียและนำศพของพี่น้องเรากลับไปอย่างสมเกียรติ..พวกเขาทุกคนจะต้องถูกนำไปฝังที่บ้านเกิด..ผมจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง”
ไอซอลเดแฮมป์ตันก็ไม่ได้ปฏิเสธและเขาก็พยักหน้าเบาๆจากนั้นก็สั่งให้เหล่าสมาชิกของทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่เริ่มเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดทันที สิ่งที่เรียกว่าเคลียร์พื้นที่นั้นไม่ใช่การนำอาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านั้นออกไปแต่เป็นการนับความสูญเสียของฝ่ายตนเองและนำร่างอันไร้วิญญาณของพี่น้องกลับไปด้วยนั่นเอง
เย่เชียนก็หันไปมองหลินเฟิงกับไป๋ฮวยแล้วพูดว่า “พวกเรากลับกันก่อนเถอะ..ผมเชื่อว่าทางด้านของม่อหลงเองก็เรียบร้อยเช่นกัน..พรุ่งนี้ผมจะไปที่แก๊งฝูชิงตั้งแต่เช้า” จากนั้นเขาก็มองไปที่หลินเทียนเฉินแล้วพูดว่า “พี่เทียนเฉินพี่พาเธอกลับไปด้วยแล้วช่วยดูแลเธอด้วยนะ..เมื่อเรื่องต่างๆของแก๊งฝูชิงได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้วผมจะขอสอบปากคำเธอเป็นการส่วนตัวเอง..จำเอาไว้นะว่าอย่าปล่อยให้เธอตาย..ไม่งั้นสิ่งที่พวกเราทำกันมาทั้งหมดมันจะสูญเปล่า”
“ไม่ต้องกังวลไปบอส…ตราบใดที่ฉันไม่อนุญาตให้เธอตายเธอก็จะไม่สามารถตายได้!” หลิวเทียนเฉินพูด
ชิบะโชโกะก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอก..ฉันจะไม่ฆ่าตัวตายเด็ดขาดเพราะฉันยังต้องอยู่ดูพวกแกถูกสมาคมมังกรดำไล่ล่าก่อน!”
.
.
.
.
.
.
.