ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 684 การตัดสินใจของผู้นำ
ตอนที่ 684 การตัดสินใจของผู้นำ
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นเย่เชียนและหลินเฟิงก็ตื่นแต่เช้าและหลังจากอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแล้วพวกเขาก็แต่งตัวและรีบไปที่สโมสรของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงทันที แน่นอนว่าหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นไม่ได้เข้าร่วมแต่เขาก็ตื่นแต่เช้าเช่นกันและออกจากโรงแรมไปเพียงลำพังและไม่ได้คุยอะไรกับเย่เชียนหรือหลินเฟิงเลย อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าไป๋ฮวยจะไม่ได้พูดอะไรแต่เย่เชียนก็สามารถเดาได้ว่าไป๋ฮวยนั้นออกไปข้างนอกเพื่อรับข้อมูลข่าวกรองต่างๆเพราะเมื่อคืนที่ผ่านมาองค์กรทหารรับจ้างเรดซันถูกทำลายล้าง ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องรู้ทุกย่างก้าวของสมาคมมังกรดำ ซึ่งการกระทำของไป๋ฮวยนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดที่ควรทำเพราะเขารู้เรื่องสมาคมมังกรดำมากที่สุด
หลังจากที่ม่อหลงจับตัวโย่วซวนเมื่อคืนนี้ม่อหลงก็ได้บอกเซี่ยตงไป่เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วแต่ดูเหมือนว่าเซี่ยตงไป่จะไม่ค่อยแปลกใจเลย ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ม่อหลงงุนงงเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะโย่วซวนนั้นเป็นคนในแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงและเขาเองก็เป็นแค่คนนอก อย่างไรก็ตามเซี่ยตงไป่ก็ได้ติดต่อเหล่าผู้นำทั้งหมดของแก๊งในคืนนั้นและขอให้พวกเขามาที่สโมสรของแก๊งเพื่อเข้าร่วมการประชุมในเช้าวันรุ่งขึ้นทันทีและบอกให้ม่อหลงแจ้งเย่เชียนกับหลินเฟิงให้มาเข้าร่วมด้วย
เหล่าผู้นำของแก๊งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเพราะเมื่อไม่นานมานี้ก็เพิ่งจะมีการประชุมภายในครั้งใหญ่เพื่อกำจัดสายลับแล้วทำไมพวกเขาถึงต้องประชุมอีกครั้งด้วย? ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถหยุดสงสัยได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของชานเย่นั้นเพราะจ้าวซินเสียชีวิตในบ้านพักของเขาและเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าทุกอย่างถูกดำเนินการโดยโย่วซวนและโย่วซวนก็อาจจะมีแผนการบางอย่างเพื่อล้มล้างแก๊งฝูชิงของเขาด้วยเรื่องเหล่านี้
ซานเย่นอนอยู่บนเตียงทั้งคืนและนอนไม่หลับและหลังจากตีสองในที่สุดซานเย่ก็สวมเสื้อผ้าและลุกขึ้นจากเตียงแล้วนั่งลงในห้องนั่งเล่น จากนั้นก็หยิบซิก้าออกมาแล้วเริ่มสูบอย่างช้าๆพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น
“หัวหน้าเกิดอะไรขึ้นงั้นหรอครับ..มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” ชายวัยกลางคนที่ดูกำยำแข็งแรงอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นซานเย่นั่งขมวดคิ้ว
“ฉันได้รับโทรศัพท์จากเซี่ยตงไป่เมื่อตอนเย็นว่าจะมีการจัดประชุมภายในครั้งใหญ่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้..การประชุมภายในเพิ่งจะจัดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเกี่ยวกับสายลับภายในของแก๊ง..แต่วันนี้กลับมีประชุมใหญ่อีกครั้ง..นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซานเย่พูดอย่างช้าๆ “นายคิดยังไงกับเรื่องนี้”
ชายวัยกลางคนก็ครุ่นคิดสักพักแล้วพูดว่า “คุณก็น่าจะรู้เรื่องการมาถึงของแก๊งฉ่างหลีจากสหรัฐอเมริกา,หวังหูจากประเทศจีนเพื่อหารือเกี่ยวกับการกวาดล้างแก๊งยามากุจิไม่ใช่หรือ?..อาจเป็นการประชุมร่วมกับพวกเขาก็ได้เพราะงั้นหัวหน้าเซี่ยจึงเรียกประชุมด่วน”
ซานเย่ก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “มันเป็นไปไม่ได้เพราะฉันให้คนไปตรวจสอบแล้วตอนนี้แก๊งฉ่างหลีหรือหวังหูยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้นและทั้งสองฝ่ายก็ยังมาไม่ถึง..นอกจากนี้ฉันยังถามหัวหน้าเขตคนอื่นๆและพวกเขาก็บอกเหมือนกันว่าพวกเขาได้รับโทรศัพท์จากเซี่ยตงไป่ว่าให้พวกเขาไปประชุมด่วนในวันพรุ่งนี้” ซ่านเย่นั้นเป็นสมาชิกรุ่นบุกเบิกของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงและมีความอาวุโสมากกว่าเซี่ยตงไป่ดังนั้นเขาจึงเรียกเซี่ยตงไปห้วนๆแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นๆแล้วเขาก็ต้องให้เกียรติเซี่ยตงไป่ในฐานะผู้นำของแก๊ง
ย้อนกลับไปในสมัยก่อนการที่เซี่ยตงไป่สามารถขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำได้ก็ต้องขอบคุณซานเย่ที่คอยสนับสนุนเขา อย่างไรก็ตาม หลายๆคนรวมทั้งเซี่ยตงไป่นั้นก็มองว่าซานเย่นั้นได้ทุ่มเทและอุทิศตนให้กับแก๊งอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงเคารพซานเย่และให้เขาเป็นผู้อาวุโส อันที่จริงซานเย่นั้นเห็นว่าเซี่ยตงไป่มีความอุตสาหะมากกว่าคนอื่นๆในการรับตำแหน่งผู้นำดังนั้นเขาจึงสนับสนุนเซี่ยตงไป่และนี่ก็เป็นเหตุผลที่เซี่ยตงไป่เคารพและไว้หน้าซานเย่มาเสมอ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาดูเหมือนว่าซานเย่จะไม่เคยถามเรื่องภายในของแก๊งเลยเพราะซานเย่นั้นไม่เคยกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆของแก๊งแต่ทว่าในเวลานี้แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงกับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดหลายอย่างดังนั้นซานเย่จึงไม่สามารถผ่อนคลายได้อีกต่อไป
“นี่อาจเป็นแผนการของโย่วซวนอีกหรือเปล่า?” ฟู่คุนก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “การประชุมภายในของแก๊งครั้งล่าสุดนั้นไม่ได้เป็นไปตามแผนของโย่วซวนเพราะงั้นเขาจึงส่งคนมาฆ่าจ้าวซินถึงถิ่นของเพื่อระบายความโกรธของเขา..เพราะงั้นคราวนี้โย่วซวนจึงคิดแผนการบางอย่างเพื่อใส่ร้ายหัวหน้าแบบนั้นใช่ไหม?”
“เจ้าเด็กน้อยนั่นมันต้องการกำจัดฉันออกไปจากแก๊ง..เพราะถ้าเขาต้องการที่จะครอบครองแก๊งฝูชิงเขาก็ต้องกำจัดฉันก่อน..แต่ฉันคิดว่าโย่วซวนไม่ได้ทำคนเดียวอย่างแน่นอนเพราะถ้าเป็นโย่วซวนคนเดียวมันคงไม่กล้าทำแบบนี้เป็นแน่..สิ่งต่างๆมันคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” ชานเย่อย่างพูดช้าๆ
“เป็นไปได้ไหมที่การกระทำของโย่วซวนนั้นหัวหน้าเซี่ยเป็นคนสั่งเอง?” ฟู่คุนพูด ตัวเขาเองก็รู้สึกหวาดกลัวกับความคิดที่กล้าหาญของเขาและเขาไม่อยากเชื่อเลยว่ามันจะเป็นแบบนั้น
“ไม่หรอกมันเป็นไปไม่ได้!” ซานเย่พูด “เซี่ยตงไป่น่ะเขาเข้าร่วมแก๊งฝูชิงเมื่ออายุได้เก้าขวบ..และความปรารถนาในอำนาจของเขานั้นก็ยิ่งใหญ่มาก..นอกจากนี้ฉันเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอะไรแบบนั้นเพราะนิสัยอย่างเขาจะไม่มีวันทำให้แก๊งฝูชิงต้องแปดเปื้อนอย่างแน่นอน..แต่ฉันคิดว่าอาจเป็นเพราะเซี่ยตงไป่นั้นใจอ่อนและไม่อยากที่จะให้แก๊งฝูชิงพังทลายไปมากกว่านี้ดังนั้นเขาจึงไม่อยากที่จะยอมรับว่าโย่วซวนนั้นเป็นสายแต่เพราะงั้นเขาจึงอยากที่จะลดอำนาจและขอบเขตการตัดสินใจของโย่วซวนลงก็เท่านั้นเอง”
“จริงหรอครับ..ถ้าหากเป็นในกรณีนั้นเขาจะปล่อยให้เหล่าหัวหน้าเขตถูกเปิดเผยตัวตนในระหว่างการประชุมภายในของได้ยังไง?..เท่าที่ผมรู้เหล่าผูนำเขตและผู้นำเหล่านั้นล้วนเกี่ยวข้องและสนิทกับโย่วซวน..เพราะงั้นผมคิดมันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้อย่างแน่นอน” ฟู่คุนพูดด้วยความประหลาดใจ
“ใช่..ฉันคิดว่ามันมีเพียงสองเหตุผล..ซึ่งหนึ่งคือโย่วซวนนั้นอยู่เหนือการควบคุมของเซี่ยตงไป่แล้ว..ดังนั้นเขาจึงต้องการลดอำนาจและการตัดสินใจของโย่วซวนลง..อย่างที่สองเซี่ยตงไป่นั้นไม่ต้องการให้แก๊งของเราวุ่นวายไปมากกว่านี้ดังนั้นเขาจึงต้องการปกปิดเรื่องทั้งหมดและเบี่ยงไปเข้าประเด็นอื่น” ซานเย่พูด “แต่ความจริงก็คือความจริงเพราะถึงแม้ว่าเซี่ยตงไป่ต้องการที่จะปกป้องโย่วซวนก็ตามแต่ถ้าหากมันมีหลักฐานชี้ชัดล่ะก็เซี่ยตงไป่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้วโย่วซวนในฐานะสายลับก็จะจบสิ้น”
“ถ้าเป็นกรณีนี้มันก็เสี่ยงมากเลยน่ะสิครับ” ฟู่คุนพูด “หัวหน้าเพื่อความปลอดภัยของคุณเองคุณอย่าไปเข้าร่วมประชุมในวันพรุ่งนี้เถอะครับ”
“ถ้าฉันไม่ไปมันก็เข้าทางแผนการของโย่วซวนน่ะสิ!” ซานเย่พูด “นอกจากนี้ฉันเองก็อยากจะเห็นจริงๆว่าโย่วซวนจะเล่นละครอะไรอีก..หืม..ฉันเข้าร่วมแก๊งฝูชิงตั้งแต่ฉันอายุสิบสองปีและต่อสู้มาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง..มันมีตั้งกี่ครั้งที่ฉันรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด..ทั้งบุกน้ำลุยไฟต่อสู้กับแก๊งใหญ่ๆมาแล้วตั้งกี่ครั้ง..เพราะงั้นฉันไม่กลัวเขาหรอก”
“หัวหน้าซานครับถ้าอย่างนั้นผมจะเตรียมคนของเราเอาไว้และเตรียมตัวเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดล่วงหน้า..ถ้ามีอะไรอะไรเกิดขึ้นคนของเราจะได้เข้าไปช่วยหัวหน้าได้ทัน” ฟู่คุนพูด
“ไปบอกพี่น้องทุกคนให้เตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ในวันพรุ่งนี้เอาไว้ด้วย..มันถึงเวลาของฉันแล้วที่จะแสดงให้เด็กๆให้เห็น..หึ!” ซานเย่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกและหลังจากพูดไปเขาก็สูบซิก้าจนควันเต็มห้องนั่งเล่น
รอยยิ้มที่ดูตื่นเต้นก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของฟู่คุนและเขาก็รีบตอบว่า “ได้ครับ..ผมจะจัดเตรียมทันที” หลังจากนั้นฟู่คุนก็รีบออกไปแต่ซานเย่นั้นไม่ได้สังเกตว่าฟู่คุนกำลังยิ้มอย่างชั่วร้ายอยู่
เมื่อเห็นฟู่คุนจากไปซานเย่ก็สูบซิก้าต่อไปและพ่นควันออกมา ซึ่งเซี่ยตงไป่นั้นเป็นผู้นำแก๊งมาเกือบสิบปีแล้วและซานเย่ก็รู้สึกว่ามันน่าจะเพียงพอสำหรับเซี่ยตงไป่แล้ว
แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงนั้นไม่ได้เปลี่ยนและเลือกผู้นำคนใหม่มาสามสมัยติดต่อกันแล้ว ดังนั้นเซี่ยตงไป่จึงมีความสุขมาหลายปีและอื่มเอมไปกับอำนาจและอิทธิพลจนซายเย่รู้สึกว่ามันถึงวาระแล้วที่เซี่ยตงไป่ต้องก้าวลงจากตำแหน่ง
ครั้งล่าสุดที่แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงทำการกวาดล้างสายลับนั้นซานเย่ก็ดีใจอย่างมากและเขาก็คิดว่าเขาสามารถใช้เหตุการณ์นั้นเพื่อกำจัดโย่วซวนคนสนิทของเซี่ยตงไป่ อย่างไรก็ตามมันกลับไม่สำเร็จเขาจึงคิดว่าสิ่งต่างๆอาจจะต้องรอเวลาสักระยะหนึ่งแต่ตามสถานการณ์ปัจจุบันแล้วถ้าหากเขาไม่ทำอะไรล่ะก็เขาคิดว่าเซี่ยตงไป่อาจจะถูกโย่วซวนใช้เป็นหุ่นเชิดและถ้าหากเป็นเช่นนั้นแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงของเขาก็จะพังทลายไปอย่างสมบูรณ์แบบ
ซึ่งเหตุผลเดียวที่ซานเย่ไม่อยากที่จะปลดเซี่ยตงไป่ลงสู่ตำแหน่งผู้นำก็เพราะว่าเซี่ยตงไป่นั้นมีสัมพันธไมตรีที่ดีกับองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเพราะเขารู้จักพลังการและอิทธิพลด้านกำลังรบและความสามารถของเขี้ยวหมาป่าเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงเสียผลประโยชนนี้ไป ดังนั้นเขาจึงไม่อยากที่จะกำจัดเซี่ยตงไป่นั่นเอง
ในขณะที่ซานเย่กำลังครุ่นคิดจู่ๆหญิงสาวในชุดนอนก็เดินลงบันไดมาอย่างช้าๆภายใต้ชุดนอนนั้นมีชุดชั้นในที่เย้ายวนใจที่เผยต้นขาอันเรียวสวยและผิวที่เรียบเนียนพร้อมกับใบหน้าที่เย้ายวนใจล้วนมีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชายอย่างยิ่ง
หญิงสาวที่กำลังสะลึมสะลือดวงตาพร่ามัวและเต็มไปด้วยความยั่วยวนหาที่เปรียบมิได้ เธอก็ค่อยๆเดินลงไปที่ด้านหน้าของซานเย่อย่างช้าๆและนั่งบนตักของซานเย่แล้สใช้มือของเธอที่คล้องคอของซานเย่เอาไว้แล้วพูดว่า “คุณซาน..ทำไมคุณถึงตื่นไวจัง..มีอะไรหรอคะ?”
เมื่อเห็นเธอซานเย่ก็ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “ฉันนอนไม่หลับ..ฉันกำลังคิดถึงเรื่องต่างๆ..ฉันทำคุณตื่นหรือเปล่าที่รัก?”
ซานเย่นั้นก็อายุมากแล้วแต่เขาก็ยังสามารถพิชิตสาวงามที่มีเสน่ห์บนเตียงได้ ซึ่งทำให้ซานเย่มีความสุขและยิ่งไปกว่านั้นหญิงสาวคนนี้เต็มก็ไปด้วยความยั่วยวนอันแรงกล้าซึ่งหลายปีผ่านไปทุกๆครั้งที่ซานเย่เห็นเธอเขาก็รู้สึกมีพลังเสมอ
“ใช่ฉันไม่เห็นคุณตอนฉันลืมตาตื่นขึ้นมา..ฉันเลยสงสัยว่าคุณไปไหน” หญิงสาวเม้มปากแล้วพูดว่า “คุณซาน..อะไรที่ทำให้คุณเป็นกังวลหรอ..เล่าให้ฉันฟังด้วยสิ..ฉันอาจจะมีคำตอบที่ดีก็ได้นะ”
มีไหวพริบและอ่อนโยนและทรงเสน่ห์นี่คือสิ่งที่ซานเย่หลงใหลในตัวเธอและไม่เพียงแต่หลงใหลในร่างกายของเธอเท่านั้นแต่ยังหลงใหลในทัศนคติของเธอด้วยเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมาผู้หญิงคนนี้สามารถช่วยเขาแก้ไข้ปัญหาได้เสมอ ซึ่งเธอค่อนข้างที่จะพึ่งพาได้ การที่เขาอายุมากขนาดนี้แต่เขาก็ยังสามารถมีผู้หญิงคนหนึ่งที่รักเขาเพราะงั้นเรื่องนี้จึงทำให้ซานเย่รู้สึกภูมิใจอย่างมาก
.
.
.
.
.
.
.