ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 701 การเผชิญหน้าอย่างไม่คาดคิด
ตอนที่ 701 การเผชิญหน้าอย่างไม่คาดคิด
สำหรับนากาซาวะเคโกะแล้วเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเย่เชียนจะเป็นตัวแปรสำคัญและเป็นคนที่พลิกผันเรื่องต่างๆ ซึ่งเธอคิดมาเสมอว่าเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับดันโซบายาชินั้นเป็นความลับและไม่สามารถมีใครรู้ได้และเธอก็เชื่ออย่างยิ่งว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอจะไม่ถูกเปิดเผย จากนั้นเธอก็จะสามารถทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าของเธอจนสำเร็จได้อย่างลุล่วง
ในที่สุดนากาซาวะเคโกะก็ออกจากบ้านของดันโซบายาชิไปแล้วขับรถกลับไปยังบ้านของตระกูลฟูมะภายในครึ่งชั่วโมงและเนื่องจากสถานะพิเศษของนากาซาวะเคโกะในนามผู้ช่วยของคาเอดะนั้นเธอจึงสามารถเข้าและออกบ้านของตระกูลฟูมะได้อย่างอิสระ ซึ่งแม้ว่าฟูมะฮายาคุจิจะไม่ค่อยชอบเธอมากนักแต่เธอก็เป็นผู้หญิงของหลานชายของตนดังนั้นฟูมะฮายาคุจิจึงเมินเฉยไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการกระทำของเธอเลยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เมื่อเธอเดินมาถึงห้องนั่งเล่นเธอก็เห็นฟูมะฮายาคุจิและคนอื่นๆนั่งอยู่บนโซฟา ซึ่งแน่นอนว่าเธอนั้นรู้จักซ่งหลันได้อย่างเป็นธรรมชาติและแน่นอนว่าเธอเองก็รู้ว่าคาเอดะนั้นแอบชอบซ่งหลันและอยากที่จะครอบครองเธอ อีกทั้งยังรู้ด้วยว่าฟูมะฮายาคุจิก็โปรดปรานซ่งหลันและอยากให้ซ่งหลันเป็นหลานสะใภ้ของเขา อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอสนใจเพราะเป้าหมายของเธอไม่ใช่เพื่อจะเป็นสะใภ้ของตระกูลฟูมะแต่เป็นการครอบครองสำนักนินจาอิงะทั้งหมดนั่นเอง
แต่เมื่อนากาซาวะเคโกะเห็นเย่เชียนที่อยู่ถัดจากซ่งหลันแล้วนากาซาวะเคโกะก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและคิดอย่างลับๆว่า ‘เป็นเพราะเขางั้นเหรอที่ทำให้คาเอดะต้องเรียกฉันกลับมา?’ แต่คราวนี้เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากเธอจึงก้าวไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวและโค้งคำนับพร้อมกับพูดว่า “สวัสดีค่ะท่านผู้อาวุโส!”
ฟูมะฮายาคุจิก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินคาเอดะบอกว่าคุณเพิ่งจัดการเรื่องธุรกิจในบริษัทใช่ไหม?”
“เนื่องจากงานเปิดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้จึงทำให้หุ้นของธุรกิจของบริษัทค่อนข้างวุ่นวายเมื่อเร็วๆนี้เพราะงั้นฉันจึงต้องจับตาดูอยู่ตลอดเวลาและไม่สามารถทำอะไรผิดพลาดได้เลย..ฉันกลับมาช้าไปสักหน่อยหวังว่าท่านผู้อาวุโสจะยกโทษให้ฉัน” นากาซาวะเคโกะยังคงถ่อมตัวมาก
“จริงเหรอ?” ฟูมะฮายาคุจิพูดอย่างเย็นชาว่า “แต่ฉันได้กลิ่นคาวๆบนร่างกายของคุณ..อย่าคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลย..ฉันจะให้โอกาสคุณพูดใหม่อีกครั้ง..เมื่อกี้คุณไปไหนมา?” ในประโยคสุดท้ายฟูมะฮายาคุจิตะโกนอย่างเคร่งเครียด
อย่างไรก็ตามความจริงแล้วฟูมะฮายาคุจิไม่รู้อะไรเลยแต่เขาแค่อยากจะหลอกนากาซาวะเคโกะเท่านั้น เมื่อได้ยินเช่นนั้นนากาซาวะก็ขมวดคิ้วแต่สีหน้าของเธอยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปและถึงแม้ว่าเธอจะมองไม่ออกว่าฟูมะฮายาคุจิกำลังหลอกเธออยู่แต่เรื่องแบบนี้มันก็ไม่สามารถยอมรับออกมาตรงๆได้ไม่เช่นนั้นทุกอย่างก็จะพังทลายและผลที่ได้ก็จะน่าสลดใจมากกว่าการไม่พูดอะไรเสียอีก จากนั้นเธอจึงมองไปที่คาเอดะเพื่อพยายามส่งสัญญาณให้คาเอดะช่วยพูดให้เธอนั่นเอง
“ท่านปู่..คุณไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทของเราในตอนนี้เพราะการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ได้เปิดตัวขึ้นแล้วและธุรกิจของบริษัทก็ยุ่งวุ่นวายมาก..ด้วยเหตุนี้คุณจะไปสงสัยเธอได้ยังไง..ตลอดหลายปีที่ผ่านมานากาซาวะเคโกะก็ได้ทำเพื่อตระกูลของเรามามากมาย..ท่านปู่ก็น่าจะเห็นเพราะงั้นผมเชื่อว่านากาซาวะเคโกะไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นอย่างแน่นอน” คาเอดะพูด
“ฉันจะดูจากความจริงเท่านั้น..ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครก็ตามที่กล้าทรยศสำนักอิงะของเราไป” ฟูมะฮายาคุจิพูดและขณะที่เขาพูดเขาก็หันไปมองฮัตโตริชิฮิโระ เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการบอกนัยๆ ซึ่งฮัตโตริชิฮิโระสังเกตเห็นการแสดงออกของฟูมะฮายาคุจิได้อย่างชัดเจนแต่เขาก็หันหน้าหนีไปราวกับว่าเขาไม่สนใจอะไรเลย
“ได้โปรดยกโทษให้นากาซาวะเคโกะคนนี้ที่ทำตัวงี่เง่าด้วยค่ะ..แต่ฉันไม่เข้าใจว่าผู้อาวุโสฟูมะหมายถึงอะไร?..ฉันทำอะไรให้สำนักอิงะของเราต้องเสียหายหรือเปล่าคะ?” นากาซาวะเคโกะพูด
“เอาล่ะในเมื่อคุณมาแล้วถ้างั้นเราก็มาเข้าเรื่องกันเถอะ..ฉันรู้ว่าคุณเคยเรียนที่ประเทศจีนมาเพราะงั้นคุณก็น่าจะรู้ภาษาจีน..เอาเป็นว่าจากนี้ไปเราใช้ภาษาจีนคุยกันเถอะ” ฟูมะฮายาคุจิพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะเขาก็พูดต่อ “คุณนากาซาวะเคโกะคุณรู้เรื่องที่คาเอดะถูกลอบสังหารที่ร้านอาหารย่านไชน่าทาวน์ใช่ไหม?”
หัวใจของนากาซาวะเคโกะก็เต้นรัวทันทีที่ฟูมะฮายาคุจิหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา ยิ่งไปกว่านั้นฮัตโตริชิฮิโระก็อยู่ที่นี่และเป็นไปได้ไหมว่าฟูมะฮายาคุจิเชิญชวนฮายาคุจิมาให้เป็นพยานกับเขา? นากาซาวะเคโกะก็อดไม่ได้ที่จะคิดอย่างลับๆ
เมื่อเห็นนากาซาวะเคโกะไม่ได้พูดมาสักพักฟูมะฮายาคุจิก็ขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชาว่า “เกิดอะไรขึ้น..ทำไมคุณไม่ตอบเมื่อฉันถามคุณ?”
“คะ?” นากาซาวะเคโกะสะดุ้งจากความคิดและรีบพูดว่า “ใช่ค่ะ..คุณคาเอดะถูกลอบสังหารที่ร้านอาหารย่านไชน่าทาวน์ในวันนั้น..หลังจากนั้นฉันก็รับสายจากคุณคาเอดะเพื่อช่วยจัดการกับตำรวจท้องถิ่น..ฉันได้ตรวจสอบนินจาที่มาลอบสังหารแล้วถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีตราสัญลักษณ์ของตระกูลฮัตโตริอยู่ก็ตามแต่ฉันก็ไม่เชื่อว่ามันจะเป็นอย่างที่เราเห็นจริงๆ”
“แล้วความจริงคืออะไร” คาเอดะพูด
ซึ่งนากาซาวะเคโกะก็รู้สึกว่าฟูมะฮายาคุจิกำลังต้องการให้เธอโยนทุกสิ่งให้ฮัตโตริชิฮิโระและเมื่อนึกถึงสิ่งนี้นากาซาวะเคโกะก็มีความสุขมากและสิ่งที่เธอคาดหวังก็คือผลลัพธ์นี้และเนื่องจากเธอคิดว่าฟูมะฮายาคุจิต้องการแบบนี้เธอจึงคิดที่จะเริ่มแผนการของเธอที่เธอเตรียมเอาไว้มานานโดยการทำทั้งสองตระกูลในสำนักนินจาอิงะขัดแย้งกันนั่นเอง
นากาซาวะเคโกะก็เสแสร้งทำหน้าตาลำบากใจแล้วพูดเบาๆว่า “เอ่อ..คือ…คือ…”
“นากาซาวะเคโกะถ้าเธอมีอะไรก็พูดออกมาได้เลยเพราะผู้อาวุโสฮัตโตริก็อยู่ที่นี่ด้วย..ถ้างั้นก็มาเปิดเผยแผนการสมรู้ร่วมคิดของเขากันตอนนี้เลย” คาเอดะพูด
“คุณไม่ต้องกลัวเพราะฉันอยู่ที่นี่ด้วย..ตราบใดที่คุณพูดความจริงล่ะก็มันจะไม่มีใครเข้ามาทำอะไรคุณได้” ฟูมะฮายาคุจิพูดต่อ “อย่างไรก็ตามคุณต้องพูดตามความจริงเท่านั้น..ไม่อย่างงั้นก็อย่ามาโทษฉันที่โหดร้ายก็แล้วกัน”
“ค่ะท่านผู้อาวุโส” นากาซาวะเคโกะพูด “หลักฐานทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ทุกชี้ไปที่ตระกูลฮัตโตริแต่หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วมันกลับไม่เป็นเช่นนั้น..ลองนึกภาพว่าถ้าเป็นนินจาของตระกูลฮัตโตริจริงๆพวกเขาก็ต้องส่งคนมามากกว่านี้แต่ถ้าหากเป็นนินจาของตระกูลดันโซล่ะก็พวกเขาก็ต้องส่งคนที่มีความสามารถมากกว่านี้มา..เพราะฉะนั้นฉันจึงสืบค้นข้อมูลต่างๆลึกเข้าไปแล้วพบว่าผู้อาวุโสฮัตโตริเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดโดยการใช้แผนซ้อนแผนเพื่อเบี่ยงไปทางตระกูลดันโซว่าตระกูลดันโซนั้นปลอมตัวเป็นตระกูลฮัตโตริเพื่อมาลอบสังหารคุณคาเอดะจากนั้นก็ทำให้ตระกูลฟูมะของเราขัดแย้งกับตระกูลดันโซ..แต่ทว่าความจริงก็คือเรื่องทั้งหมดเป็นแผนการของตระกูลฮัตโตริจริง..ซึ่งเมื่อทั้งสองตระกูลขัดแย้งกันจากนั้นเขาก็จะสามารถยึดอำนาจของสำนักนินจาอิงพไปท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย”
“นี่คือข้อมูลที่คุณสืบค้นมาอย่างงั้นเหรอ?” ฮัตโตริชิฮิโระพูดต่อ “ใครจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณนากาซาวะเคโกะพูดนั้นคือความจริง..พวกคุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าเธอจะไม่ใส่ร้ายป้ายสีผมแล้วใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้?”
“ฉันน่ะเหรอใส่ร้ายคุณ?..ผู้อาวุโสฮัตโตริเราจะเริ่มจากตรงไหนกันดี..ฉันจะไปยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตระกูลฟูมะกับตระกูลฮัตโตริได้ยังไง” นากาซาวะเคโกะพูด
“คุณรู้จักคุณเย่ใช่ไหม?” ฟูมะฮายาคุจิมองไปที่เย่เชียนข้างๆเขาแล้วพูด
“แน่นอนนี่คือคุณเย่..ผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า..ราชาหมาป่าเย่เชียน..ใครๆต่างก็รู้จักเขา” นากาซาวะเคโกะพูด
“คุณเย่เป็นคนบอกว่าคุณอยู่เบื้องหลังทุกอย่างและมีส่วนร่วมกับการลอบสังหารคาเอดะและมีวัตถุประสงค์เพื่อใส่ร้ายป้ายสีผู้อาวุโสฮัตโตริและเพื่อกระตุ้นความขัดแย้งระหว่างตระกูลฟูมะกับตระกูลฮัตโตริ” ฟูมะฮายาคุจิพูด
นากาซาวะเคโกะก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นจากนั้นเธอก็หันไปมองเย่เชียนแล้วรีบพูดว่า “คุณเย่..คุณกับฉันไม่ได้มีความคับข้องใจต่อกันเพราะงั้นฉันจึงไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมคุณเย่ถึงได้ใส่ร้ายฉันแบบนั้น..ทำไมคุณเย่ถึงบอกว่าฉันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้ล่ะคะ?..ทำไมฉันต้องไปทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลฟูมะกับตระกูลฮัตโตริแตกแยกด้วยล่ะ?”
เย่เชียนก็ยักไหล่แล้วพูดว่า “คุณนากาซาวะเคโกะผมไม่ได้จะใส่ร้ายคุณ..คุณก็น่าจะชัดเจนใช่ไหม?..ทำไมคุณถึงทำอย่างนั้น ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้ดีกว่าผมนะครับ”
“ฉันไม่เข้าใจว่าคุณเย่พูดถึงอะไร” นากาซาว่ากล่าว “คุณเย่เป็นคนที่มีเกียรติยศและศักดิ์ศรีและคุณก็ต้องรับผิดชอบชีวิตของผู้คนนับไม่ถ้วนในองค์กรของคุณเพราะงั้นคุณก็ไม่น่าจะพูดอะไรโดยไม่มีหลักฐานและใส่ร้ายคนอื่นใช่ไหมคะ?”
ฟูมะฮายาคุจิก็ขมวดคิ้วแน่นและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจกับทัศนคติของเย่เชียน ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะฮัตโตริชิฮิโระอยู่ที่นี่ด้วยเขาก็คงจะไม่เชื่อคำพูดของเย่เชียนและคงจะไม่เรียกนากาซาวะเคโกะกลับมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าเขาจะไม่ชอบนากาซาวะเคโกะมากแค่ไหนแต่จากที่เขาเห็นนากาซาวะเคโกะนั้นไม่เคยทำให้ตระกูลของเขาเสื่อมเสียเลย ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เย่เชียนกลับพูดอย่างคลุมเครือและไม่ชัดเจนจนทำให้ฟูมะฮายาคุจิรู้สึกว่าเย่เชียนกำลังสร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผลและสร้างความบาดหมางระหว่างภายใน
สำหรับฮัตโตริชิฮิโระนั้นเขาเชื่อในคำพูดของเย่เชียนและถึงแม้ว่าเขากับเย่เชียนจะไม่เคยพบกันมาก่อนก็ตามแต่เขาก็ยังเชื่อในบุคลิกของเย่เชียนเพราะถ้าเย่เชียนไม่รู้ความจริงเย่เชียนก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรใดๆเพื่อฆ่าตัวตายอย่างไร้เหตุผลเป็นแน่
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างแผ่วเบาและพูดว่า “ผมหวังว่าผู้อาวุโสฟูมะจะเข้าใจ..ผมไม่จำเป็นต้องบอกว่ามันจริงหรือไม่จริงเพราะคุณควรจะถามเธอเอง..อีกอย่างคุณไม่ควรมองผมด้วยสายตาแบบนั้นเพราะถึงแม้ว่าสถานะของคุณจะสูงส่งสักแค่ไหนในสำนักนินจาแต่ผมก็ไม่ได้อยู่ภายใต้คำสั่งของคุณ!”
ฟูมะฮายาคุจิก็ขมวดคิ้วแน่นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจอย่างมากและเมื่อเขากำลังจะพูดจู่ๆคาเอดะก็ยืนขึ้นแล้วก้าวออกมาข้างหน้าและพูดอย่างฉุนเฉียวว่า “เย่เชียน!..วันนี้คุณจงใจมาสร้างปัญหาใช่มั้ย!..ช่างเสียเวลาจริงๆที่ชวนคุณมาที่นี่..คุณไม่รู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร!”
.
.
.
.
.
.
.