ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 711 ยึดอำนาจ ตอนที่ 9
ตอนที่ 711 ยึดอำนาจ ตอนที่ 9
ความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างคนฉลาดกับคนโง่ก็คือคนโง่มักจะคิดว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขาแต่ท้ายที่สุดแล้วแม้แต่ตัวเองก็ยังถูกหลอก
ดันโซบายาชิเป็นก็คนแบบนั้นเพราะเขาคิดมาเสมอว่านากาซาวะเคโกะเป็นคนรักของเขาและเป็นสายลับที่เขาส่งไปอยู่กับคาเอดะเพื่อรวบรวมข้อมูลและเตรียมแผนการให้เขาทำลายสำนักนินจาอิงะ อย่างไรก็ตามดันโซบายาชิก็ไม่ได้คาดหวังว่านากาซาวะเคโกะจะเป็นสายลับสองหน้าเพราะทั้งหมดที่เธอทำคือการยึดอำนาจสำนักนินจาอิงะทั้งหมดรวมถึงการกับกำจัดตัวเองด้วย
นากาซาวะเคโกะก็หัวเราะเยาะอย่างเย้ยหยันและพูดว่า “ไม่น่าแปลกใจเลยที่ตระกูลดันโซของคุณจะตกต่ำที่สุดในตระกูลนินจาและไม่เคยเทียบได้กับตระกูลฟูมะและตระกูลฮัตโตริเลย..การมีผู้นำตระกูลที่โง่เขลาแบบนี้ช่างเป็นอะไรที่น่าสมเพชจริงๆ..แบบนี้มีแต่จะทำให้ลูกหลานก้าวเข้าไปนอนในโลงศพทีละคนเพราะงั้นคุณคิดว่าฉันจะรักคุณจริงๆงั้นเหรอ?..เว้นแต่ฉันจะตาบอด..ใช่แล้ว!..คุณเป็นหนึ่งในตัวเบี้ยตัวหมากของฉันเพื่อยึดอำนาจสำนักนนินจาอิงะ..หลังจากนี้ไปโลกใบนี้จะไม่มีสำนักอิงะอีกต่อไปและจะมีเพียงชาโด้ซากุระของฉันเท่านั้นที่จะมีตัวตนอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเพียงองค์กรเดียว”
“ชาโด้ซากุระ?..เธอคือคนของชาโด้ซากุระงั้นเหรอ?” ดันโซบายาชิก็ถึงกับตกใจและเขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยเมื่อเขานึกถึงอดีตและสถานการณ์ในปัจจุบันจนดันโซบายาชิก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นเศร้าสร้อยเมื่อเขาคิดว่าเขาสามารถหลอกฟูมะฮายาคุจิกับฮัตโตริชิฮิโระจนสำเร็จได้แต่เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเขาเองก็เป็นเพียงตัวเบี้ยตัวหนึ่งเช่นกัน
ฮัตโตริชิฮิโระก็ถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะเขาเองก็ไม่เคยคิดเลยว่านากาซาวะเคโกะจะเป็นคนขององค์กรชาโด้ซากุระ เพราะในหมู่องค์กรและสำนักนินจาแล้วองค์กรชาโด้ซากุระเป็นองค์กรที่ลึกลับที่สุดและเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ฮัตโตริชิฮิโระเองก็สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรชาโด้ซากุระแต่เขาก็ไม่เคยพบข้อมูลเลยแม้แต่น้อย เขานั้นไม่ได้คาดหวังว่าองค์กรชาโด้ซากุระจะแทรกซึมเข้ามาในสำนักนินจาอิงะด้วยและยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตระกูลนินจาทั้งสามซึ่งมันน่ากลัวจริงๆและเมื่อนึกถึงสิ่งที่นากาซาวะเคโกะพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ฮัตโตริชิฮิโระก็รู้สึกว่าเหล่านินจาในตระกูลของพวกเขาดูเหมือนจะไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง
ฮัตโตริชิฮิโระก็อดไม่ได้ที่จะหันไปหาเย่เชียนเพราะเขารู้สึกว่าเย่เชียนนั้นดูเหมือนจะชัดเจนในทุกสิ่งอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่ในการคำนวณของเย่เชียนและเมื่อเห็นรอยยิ้มที่ดูมั่นใจบนใบหน้าของเย่เชียนแล้วฮัตโตริชิฮิโระก็รู้สึกหนาวสั่นในใจอย่างอธิบายไม่ถูกและรู้สึกเพียงว่าเย่เชียนคนนี้เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งจนฮัตโตริชิฮิโระถึงกับแอบคิดว่าในอนาคตไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็อย่าเป็นศัตรูกับเย่เชียนเลยจะดีกว่าไม่เช่นนั้นเขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
แน่นอนว่าเย่เชียนนั้นไม่รู้เบื้องหลังของนากาซาวะโคโกะเพราะเขาแค่คาดเดาถึงตัวตนของเธอเท่านั้นแต่ก็ไม่ชัดเจนนักว่ามันจริงหรือไม่ ซึ่งเหตุผลที่เขาเป็นผู้ยืนดูสิ่งต่างๆอยู่เสมอและไม่เข้าไปแทรกแซงก็คือการดูว่ามันมีพลังและกองกำลังอะไรที่อยู่เบื้องหลังนากาซาวะโคโกะหรือเปล่าและความจริงก็เป็นไปตามที่หลินเฟิงคาดเดาเอาไว้ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนขององค์กรชาโด้ซากุระและแน่นอนว่าองค์กรชาโด้ซากุระกับสำนักนินจาอิงะและสมาคมมังกรดำดูเหมือนจะขัดแย้งกัน ดังนั้นเย่เชียนจึงครุ่นคิดในใจว่าเขาจะสามารถใช้องค์กรชาโด้ซากุระเพื่อจัดการกับสมาคมมังกรดำได้หรือเปล่า แต่เย่เชียนก็รู้ว่ามันยากมากเพราะเมื่อนึกถึงฮัวหยินที่อยู่กับเซี่ยตงไป่แล้วเย่เชียนก็รู้สึกได้ว่าองค์กรชาโด้ซากุระนั้นมีแผนการใหญ่และพวกเขาก็จะไม่ยอมให้ใครไปขัดขวางแผนการของพวกเขาอย่างแน่นอน
“ใช่!..ชาโด้ซากุระส่งฉันมาหลายสิบปีแล้ว..ประเทศญี่ปุ่นจะไม่ใช่สวนหลังบ้านของสำนักอิงะอีกต่อไปแต่มันเป็นโลกของชาโด้ซากุระของฉัน” นากาซาวะเคโกะพูดอย่างเย้ยหยัน
ดวงตาของดันโซบายาชิก็ลุกเป็นและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ซึ่งถึงแม้ว่าเขาอยากจะยึดอำนาจสำนักนินจาอิงะอย่างสุดใจก็ตามแต่เขาก็ยังเป็นสมาชิกของสำนักนินจาอิงะเสมอ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการให้สำนักนินจาอิงะถูกทำลายโดยผู้อื่นและนอกจากนี้ถ้าหากสำนักนินจาอิงะถูกทำลายไปล่ะก็ความอัปยศอดสูและความอดทนของดันโซบายาชิที่เตรียมสิ่งต่างๆมาตลอด 20 ปีที่ผ่านมานั้นคืออะไร? มันไม่คุ้มค่าและยิ่งกว่านั้นเขารับไม่ได้ที่ถูกผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ร่วมหลับนอนกับเขาบนเตียงเดียวกันทรยศ ดังนั้นไม่ว่าในกรณีใดๆเขาก็ไม่อยากจะยอมรับอยู่ดี
หลังจากนั้นไม่นานสมาชิกทั้งหมดของตระกูลดันโซที่ด้านนอกก็ถูกฆ่าไปทีละคนและหลังจากนั้นก็มีกลุ่มคนวิ่งเข้ามาซึ่งพวกเขาทั้งหมดแต่งกายด้วยชุดพรางตัวสีดำแต่ไม่เหมือนนินจาแค่เหมือนกับทหาร “คุณนากาซาวะครับ..ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว..ให้พวกเราทำอะไรต่อครับ!” ชายหนุ่มผู้นำพูด
นากาซาวะเคโกะพยักหน้าแล้วพูดว่า “เอาล่ะ!..ฆ่าพวกมันให้หมดยกเว้นเขาคนนั้น!” เธอพูดพร้อมกับชี้ไปที่เย่เชียน
ที่มุมมืดๆนั้นเมื่อหลินเฟิงเห็นฉากดังกล่าวเขาก็อดยิ้มไม่ได้แล้วพูดว่า “ไงล่ะไป๋ฮวย..ฉันบอกแล้วว่าไอ้หมอนั่นน่ะโชคดี..นายเห็นไหมว่าแม้แต่พวกชาโด้ซากุระยังไว้เขา”
ไป๋ฮวยนั้นรู้ดีว่าสิ่งที่หลินเฟิงพูดนั้นเป็นเพียงเรื่องตลกขบขันเท่านั้นและเขาก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้หญิงร้อยเล่ห์มารยา”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะหลินเฟิงก็พูดต่อ “ไป๋ฮวย..คนพวกนี้เป็นใครกัน..องค์กรชาโด้ซากุระไม่ใช่ผู้หญิงล้วนหรอกเหรอ?”
“ดูท่าทางการเดินและการเคลื่อนไหวของพวกเขาแล้วพวกเขาดูเหมือนทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดและพวกเขามีวินัยทางทหารอย่างชัดเจน..ถ้าฉันเดาไม่ผิดพวกเขาน่าจะเป็นสมาชิกของกองทัพแห่งชาติ” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดอย่างช้าๆ
“คนของกองทัพ?” หลินเฟิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เป็นไปได้หรือเปล่าที่องค์กรชาโด้ซากุระจะขึ้นตรงต่อกองทัพแห่งชาติญี่ปุ่น?..และแผนการทั้งหมดเหล่านี้กองทัพญี่ปุ่นคือผู้อยู่เบื้องหลัง?”
“ตอนนี้ฉันไม่รู้อะไรเลย..แต่ฉันก็คิดว่ามันเป็นไปได้เพราะพวกกองทัพญี่ปุ่นน่ะไม่เคยยอมแพ้ก้มหัวให้ใคร..พวกเขายังคงแค้นฝังหุ่นจากสงครามโลกครั้งที่สองมาโดยตลอด” ไป๋ฮวยพูด
หลินเฟิงก็ขมวดคิ้วแน่นแล้วถามว่า “เราควรออกไปตอนนี้เลยมั้ย?”
“เดี๋ยวก่อนมันยังมีการแสดงดีๆรออยู่” ไป๋ฮวยพูดเบาๆ
หลินเฟิงก็ถึงผงะไปครู่หนึ่งและหลังจากนั้นจึงหันกลับไปมองสถานการณ์โดยรอบและไม่พูดอะไรใดๆอีก
“คุณนากาซาวะคุณใจดีมาก..ถ้าผมไม่มีภรรยาล่ะก็ผมคงจะขอคุณแต่งงานไปแล้ว” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
นากาซาวะก็เหลือบไปมองเย่เชียนและพูดว่า “คุณเย่อย่าพูดเล่นสิคะ..เพราะถ้าคุณสามารถตกลงตามเงื่อนไขของฉันและให้สินสอดทองหมั้นแก่ฉันมากพอฉันก็จะเก็บไปพิจารณานะ”
“น่าเสียดายที่คุณไม่บริสุทธิ์แล้วเพราะสิ่งที่ผมให้ความสนใจคือความบริสุทธิ์..ลืมมันไปซะเถอะถือว่าผมพูดเล่นก็แล้วกัน” เย่เชียนพูดต่อ “นอกจากนี้ผมก็ไม่มีสินสอดที่ว่าหรอก..เพราะผมต้องดูแลพี่น้องของผมตั้งหลายชีวิตน่ะ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“หืม!” นากาซาวะเคโกะก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆแล้วหันไปมองเหล่าชายหนุ่มแล้วพูดว่า “ทำตามที่ฉันสั่งซะสิ!”
เมื่อเสียงของนากาซาวะเคโกะจบลงชายหนุ่มเหล่านั้นก็เริ่มล้อมพวกเขาเอาไว้ทีละคน เมื่อเห็นเช่นนั้นดันโซบายาชิก็ตะโกนว่า “ฝันไปเถอะ!..ฉันจะฆ่าพวกแกก่อน!” ทันทีที่เสียงจบลงดันโซบายาชิก็ชักดาบออกจากฝักอย่างรวดเร็วและพุ่งไปที่นากาซาวะเคโกะ ซึ่งสมาชิกและเหล่านินจาของตระกูลดันโซที่เขาพามาทั้งหมดถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาของเขาดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเขาเองก็คงจะหนีไม่พ้นในวันนี้และแทนที่จะรอความตายอยู่เฉยๆยอมสู้จนกว่าจะถึงที่สุดเสียยังดีกว่า เห็นได้ชัดว่านากาซาวะเคโกะเป็นผู้นำของคนกลุ่มนี้และตราบใดที่นากาซาวะเคโกะถูกกำจัดไปเขาก็อาจจะสามารถมีชีวิตรอดออกไปได้
“ฮัตโตริชิฮิโระ..เย่เชียน!..พวกคุณมัวทำอะไรกันอยู่..ถ้าพวกคุณไม่อยากตายก็มาสู้พร้อมกับผมสิ!” ดันโซบายาชิพูดขณะที่เขาโจมตีด้วยดาบในมือของเขา
ชายหนุ่มผู้นำก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าและรีบวิ่งไปที่ดันโซบายาชิเพราะเขาได้รับคำสั่งจากเบื้องบนมาอย่างเข้มงวดให้ปฏิบัติตามคำสั่งของนากาซาวะเคโกะและเขาต้องคุ้มกันนากาซาวะเคโกะให้ดีและห้ามปล่อยให้ผมของเธอร่วงแม้แต่เส้นเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบนินจาเหล่านี้มากนักแต่เขาก็ยังต้องเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเพื่อช่วยนากาซาวะเคโกะให้บรรลุการยึดอำนาจของสำนักนินจาอิงะ
เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็รับการโจมตีของศัตรูเพราะเนื่องจากนากาซาวะเคโกะได้ออกคำสั่งแล้วพวกเขาจึงไม่สามารถทำอะไรเย่เชียนได้ ดังนั้นจึงคนเหล่านั้นจึงอดไม่ได้ที่จะประหม่า
ส่วนซ่งหลันนั้นก็เคยเป็นถึงสุดยอดนักฆ่าอันดับหนึ่งขององค์กรดาร์คลิลลี่และถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ใช้ฝีมือและทักษะของเธอมานานหลายปีแล้วก็ตามแต่ความชำนาญของเธอก็ไม่ได้ลดลงเลย ซึ่งถึงแม้ว่าทักษะการต่อสู้ของคนเหล่านี้จะดีแต่ก็ไม่ยุ่งยากและแปลกประหลาดเหมือนที่เหล่านินจาใช้และพวกมันก็เหมือนทักษะการต่อสู้ในกองทัพ ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้แน่นอนว่าซ่งหลันย่อมมีความได้เปรียบอย่างมาก อย่างไรก็ตามด้วยศัตรูที่มากกว่ามันก็ยากที่จะรีบมือโดยมือเปล่าและถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ซ่งหลันก็อาจจะทนไม่ไหว
สมาชิกขององค์กรชาโด้ซากุระนั้นมีมากกว่าเสน่ห์และแน่นอนว่านากาซาวะเคโกะเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาเพียงแค่การที่เธอเอาชนะคาเอดะได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวนั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทักษะการต่อสู้ของเธอนั้นไม่ได้อ่อนแอ ถึงแม้ว่าคาเอดะจะได้รับบาดเจ็บสาหัสมาจากเย่เชียนก่อนหน้านั้นก็ตามแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะเขาได้ในครั้งเดียว ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของดันโซบายาชิแล้วนากาซาวะเคโกะจึงไม่มีความกังวลหรือตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นว่าทหารของเธอกำลังมาช่วยเธอนากาซาวะเคโกะจึงพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “ไปจัดการผู้หญิงคนนั้นซะ!”
นากาซาวะเคโกะนั้นรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเย่เชียนกับซ่งหลัน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเย่เชียนกำลังปกป้องฮัตโตริชิฮิโระอยู่และไม่สามารถฆ่าเย่เชียนได้ดังนั้นเธอจึงทำได้แค่การจับตัวซ่งหลันเอาไว้เพื่อเป็นเครื่องต่อรองและข่มขู่เย่เชียนและหลังจากนั้นมันจะง่ายกว่ามากที่จะรับมือกับเย่เชียนในเวลานั้น
.
.
.
.
.
.
.