ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 719 แผนการใหญ่
ตอนที่ 719 แผนการใหญ่
อย่างที่เย่เชียนว่าบางครั้งผู้หญิงก็ไม่เข้าใจความคิดระหว่างผู้ชายว่าทำไมพวกเขาถึงเสียสละเพื่อพรรคพวกและพี่น้องได้และไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงสู้กันเพื่อศักดิ์ศรีหรือทำไมพวกเขาถึงหมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้และไม่สามารถละทิ้งงานหรือภารกิจเพื่อคนที่รักได้
ทัศนคติและความคิดหรืออารมณ์ของผู้ชายนั้นไม่ได้มีความละเอียดอ่อนเท่ากับของผู้หญิง แต่ทว่ามิตรภาพระหว่างเย่เชียนกับไป๋ฮวยนั้นมีความละเอียดอ่อนมากและไม่เพียงแค่ซ่งหลันเท่านั้นที่ไม่เข้าใจเพราะหลายๆ คนก็ไม่เข้าใจพวกเขา บางทีอาจมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้
เมื่อได้ยินคำถามของซ่งหลันแล้วเย่เชียนก็ยิ้มอย่างแผ่วเบาและหันมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยแววตาที่ลังเลและหมดหนทาง ซึ่งเย่เชียนไม่ค่อยแสดงท่าทางเช่นนี้มากนักและถึงแม้ว่าเขาจะแสดงออกแต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นตอนที่ไม่มีใครอยู่ด้วยเท่านั้น เพราะต่อหน้าคนนอกแล้วเขามักจะมีความมั่นใจเสมอและมั่นคงแน่วแน่อย่างมาก ใครบ้างในโลกใบนี้ที่ไม่มีความขมขื่นหรือความโศกเศร้าในใจเลย?
สำหรับเย่เชียนนั้นไป๋ฮวยก็เหมือนก้างปลาที่ติดคออยู่และเขาก็ไม่สามารถกลืนหรือคายออกได้ ซึ่งทำให้เย่เชียนเจ็บปวดมากจริงๆ หากเป็นไปได้เย่เชียนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเขาจะไม่กังวลและลืมสิ่งที่ไป๋ฮวยทำลงไปแต่มันเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากเขาเป็นผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้ตามที่ซ่งหลันพูดและเขาต้องแบกรับชีวิตของพี่น้องคนอื่นๆ และอนาคตของสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาอีก ดังนั้นผู้ที่ยืนอยู่ในจุดนี้บางครั้งก็ไม่สามารถทำในสิ่งที่ตนอยากจะทำได้เสมอไปและบางครั้งเขาก็ต้องทำตามความจำเป็น
เมื่อเห็นการแสดงออกของเย่เชียนเช่นนี้ซ่งหลันก็ตกตะลึงเล็กน้อยและในสายตาของเธอเย่เชียนเป็นคนที่ไม่เคยกังวลกับสิ่งใดมาก่อน แต่ตอนนี้เมื่อต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องไป๋ฮวยแล้วเย่เชียนใบหน้าของเย่เชียนก็แสดงให้เห็นถึงความยุ่งเหยิงและความเศร้าโศกอย่างไม่คาดคิดซึ่งทำให้ซ่งหลันรู้สึกว่าเย่เชียนนั้นน่าสงสารเล็กน้อย
อันที่จริงซ่งหลันเองก็รู้เรื่องระหว่างเย่เชียนกับไป๋ฮวยเล็กน้อย ซึ่งเธอรู้ว่าไป๋ฮวยเคยช่วยชีวิตเย่เชียนเอาไว้และไปฝึกฝนศิลปะการต่อสู้กับอาจารย์คนเดียวกัน อย่างไรก็ตามเนื่องจากไป๋ฮวยได้ทรยศต่อเขี้ยวหมาป่าดังนั้นซ่งหลันก็จึงหวังว่าเย่เชียนจะได้สติในสักวันหนึ่งและตระหนักถึงพี่น้องเขี้ยวหมาป่าที่ยังอยู่เคียงข้างเขา อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นการแสดงออกของเย่เชียนแล้วซ่งหลันก็ลำบากใจที่จะพูดอะไรออกไปอีก
ผู้หญิงที่ฉลาดควรรู้ว่าจะพูดหรือปิดปากเมื่อไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่เธอรักแล้วไม่ใช่ว่าเธอจะสามารถรักษาหัวใจของเขาด้วยการถามหรือพูดเท่านั้นแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรู้จักสถานการณ์และความเหมาะสมและถึงแม้ว่ามันจะเป็นการสนับสนุนอย่างเงียบๆ ก็ตามแต่บางครั้งมันก็อาจจะเป็นกำลังใจที่ทรงพลังที่สุดก็เป็นได้
ผู้ชายนั้นชอบให้ผู้หญิงสนใจมากกว่าการสนับสนุนอย่างเงียบๆ ซึ่งมันไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีนัก ก็เหมือนกับการที่ผู้ชายชอบเวลาที่ผู้หญิงถามว่าทำงานเหนื่อยหรือเปล่าแทนที่จะถามว่าเงินเดือนเท่าไหร่ เพราะผู้ชายก็มีหัวใจและมุมที่อ่อนโยนเช่นกันดังนั้นเวลาที่พวกเขาอ่อนแอพวกเขาก็ยังหวังว่าจะได้รับคำปลอบโยนจากผู้หญิงเมื่อรู้สึกท้อแท้และลำบากใจ
เย่เชียนก็ไปส่งซ่งหลันที่โรงแรมและซ่งหลันก็ชงชาให้เย่เชียนซึ่งนี่เป็นรสนิยมและนิสัยของเย่เชียนมานานแล้ว เพราะเมื่อใดก็ตามที่มีอะไรให้คิดเขาก็มักจะดื่มชาและต้องเป็นชาที่เข้มข้นเพราะการได้ลิ้มรสความขมในชาจะทำให้เย่เชียนมีสติมากขึ้นและเมื่อใดซ่งหลันอยู่เคียงข้างเขาแล้วเธอก็มักจะชงชาให้เขาทุกๆ ครั้ง จากนั้นจึงคอยเฝ้าดูเย่เชียนครุ่นคิดอย่างเงียบๆ
อันที่จริงซ่งหลันเองก็รู้ดีว่าเย่เชียนนั้นมีพรสวรรค์ที่หายากและถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดการธุรกิจของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเลยก็ตามแต่เขามักจะให้คำแนะนำที่ดีแก่ซ่งหลันเสมอ บางทีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของเย่เชียนอาจไม่ดีเท่าซ่งหลันแต่สำหรับการแก้ปัญหาแล้วเย่เชียนนั้นจะมีวิธีแก้ไขที่ดีเสมอ ซึ่งซ่งหลันนั้นอยู่ในวงการธุรกิจมานานหลายปีดังนั้นถ้าหากเย่เชียนได้ยืนอยู่ในจุดเดียวกับเธอบางทีเย่เชียนอาจจะทำได้ดีกว่าตัวเธอเองอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามในฐานะผู้หญิงและเป็นผู้หญิงที่รักเย่เชียนอย่างสุดซึ้งแล้วสิ่งเดียวที่ซ่งหลันทำได้ก็คือการยึดมั่นในความรักและทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยคนที่เธอรักให้ยิ่งใหญ่
เย่เชียนก็จุดบุหรี่และสูบมันอย่างช้าๆโดยมีกลิ่นไอร้อนออกมาจากถ้วยน้ำชาตรงหน้าเขาและกระดาษเปล่าตรงหน้าเขาก็เต็มไปด้วยภาพวาดและข้อมูลภายในเวลาเพียงชั่วขณะ นั่นคือแผนผังความสัมพันธ์ของกองกำลังต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นผสมกับการวิเคราะห์รายละเอียดเกี่ยวกับกองกำลังเหล่านี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากเพราะสถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่นนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและบางส่วนก็เกินความคาดหมายก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงพิจารณาและถึงแม้ว่าพวกเขาจะหารือถึงวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้กับไป๋ฮวยและหลินเฟิงแล้วก็ตามแต่ถึงยังไงเย่เชียนก็ต้องพิจารณาถึงวิธีการลดความสูญเสีย ซึ่งถึงแม้ว่าพวกเขาจะเชี่ยวชาญและเดินบนเส้นทางนี้มานานก็ตามแต่มันก็อาจจะพลาดพลั้งได้ทุกเมื่อ ด้วยเหตุนี้เย่เชียนจึงไม่สามารถปล่อยให้เหล่าพี่น้องของเขาต้องตายไปอย่างเปล่าประโยชน์ แน่นอนว่ามันจะต้องมีผู้เสียชีวิตในสงครามแต่กุญแจสำคัญก็คือวิธีลดอัตราการสูญเสียนั่นเอง
เมื่อเห็นว่าเย่เชียนดื่มชาในถ้วยเสร็จแล้วซ่งหลันก็ลุกขึ้นและชงชาอีกถ้วยจากนั้นก็วางมันเอาไว้ข้างหน้าเขา ด้วยวิธีนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อเย่เชียนดื่มชาถ้วยที่สี่เสร็จคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันแน่น จากนั้นเย่เชียนก็ยืดตัวตรงแล้วมองซ่งหลันอย่างซาบซึ้งและมองดูกระดาษที่วาดอย่างละเอียดบนโต๊ะอย่างเคร่งครัด ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานเขาก็เผามันทั้งหมดด้วยไฟ
แผนการของไป๋ฮวยนั้นแยบยลและน่ากลัวมากเพราะจำนวนคนที่คาดว่าจะต้องสูญเสียนั้นมีมหาศาลอย่างมาก แน่นอนว่าทั้งคนของตัวเองและศัตรูและคนที่ไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย อย่างไรก็ตามสิ่งที่ไป๋ฮวยพูดนั้นก็เป็นความจริงว่าการทำการใหญ่ใจต้องนิ่งและจะต้องไม่ยึดติดกับเรื่องอื่นๆ ที่เล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่เย่เชียนแบกรับไม่ใช่แค่ชีวิตของเขาเองแต่ยังรวมถึงอนาคตและโชคชะตาของเหล่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดด้วย เช่นเดียวกับความหวังที่เฉินฟู่เฉิงมอบให้กับเขาในตอนนั้น ซึ่งมันเป็นภาระอันใหญ่หลวงและจำเป็นต้องทำงานหนักอย่างต่อเนื่องและพยายามอย่างให้ทุกอย่างก้าวหน้าและทำทุกอย่างเพื่อทำให้องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ารุ่งโรจน์และมั่นคงจนไม่มีใครกล้าที่จะคุกคามพวกเขา
เย่เชียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรไปหาคูลอฟส์อังเดรและอธิบายแผนสั้นๆ ถึงแผนการอีกครั้งและขอให้เขาคอยสนับสนุนตน ซึ่งคูลอฟส์อังเดรก็ไม่ได้ปฏิเสธและเห็นด้วยกับเย่เชียนโดยไม่ลังเลใดๆ แต่เมื่อเขาได้ยินเย่เชียนพูดถึงแผนการโดยรวมแล้วคูลอฟส์อังเดรก็รู้สึกหนาวสั่นเล็กน้อยเพราะเมื่อนึกถึงพฤติกรรมที่กล้าหาญต่างๆ ของเย่เชียนแล้วมันก็สมเหตุสมผลที่จะทำแบบนั้นและนอกจากนี้แผนการครั้งนี้ก็เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน นอกจากนี้คูลอฟส์อังเดรก็ตระหนักดีว่าถ้าหากไม่มีเย่เชียนล่ะก็เขาก็คงจะไม่มีวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้นหากเย่เชียนล้มเหลวล่ะก็เส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์ในอนาคตของตระกูลคูลอฟส์ก็จะยากขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน ดังนั้นคูลอฟส์อังเดรจึงเชื่อว่าหากเขากับเย่เชียนสามารถร่วมมือกันได้ตลอดไปเขาก็จะสามารถสร้างตระกูลมาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้อย่างแน่นอนและจะไม่มีใครทำให้พันธมิตรนี้สั่นคลอนได้เลย
หลังจากวางสายไปเย่เชียนก็โทรไปหาหวังหู,หม่าซานเหอและเล้งยี่ทีละคนและออกคำสั่ง เดิมทีเย่เชียนต้องการติดต่อไอซอลเดแฮมป์ตันด้วยแต่เย่เชียนคิดว่าพวกเขาเพิ่งจะสร้างความปั่นป่วนครั้งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นไปดังนั้นเย่เชียนจึงล้มเลิกความคิดนี้เพราะถ้าหากองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่มาเยือนประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งพวกเขาจะดึงดูดความสนใจของกองกำลังหลักในประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้ว่าเหล่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะรู้ดีว่าองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่เป็นฝ่ายโจมตีองค์กรทหารรับจ้างเรดซันก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่ได้สิ้นคิดจนยกกองทัพไปที่แอฟริกาใต้เพื่อล้างแค้นอย่างแน่นอนเว้นแต่พวกเขาจะเบื่อชีวิตแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหากองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่มาเหยียบประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งล่ะก็กองกำลังต่างๆ ก็จะตื่นตัวและวางมาตรการป้องกันจนทำให้แผนการของเย่เชียนต้องพังทลายลงอย่างแน่นอน
ที่หวังหูสามารถมีได้ในวันนี้นั้นก็เป็นเพราะเย่เชียนดังนั้นเขาจึงไม่มีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับคำสั่งของเย่เชียนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหวังหูก็ยังเป็นชายหนุ่มที่ไฟแรงและมีหัวใจที่ร้อนรุ่มในการแสวงหาความท้าทายอีกด้วย อย่างไรก็ตามเย่เชียนยังคงบอกเขาอย่างชัดเจนว่าแผนการในครั้งนี้มีความสำคัญมากและไม่สามารถรั่วไหลออกมาได้เลยแม้แต่น้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาห้ามติดต่อหรือบอกอะไรกับแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงเป็นอันขาด ซึ่งถึงแม้ว่าหวังหูจะไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาก็ไม่ได้ถามเพราะตราบใดที่เป็นคำพูดของเย่เชียนล่ะก็หวังหูก็จะเชื่อฟังอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น
สำหรับหม่าซานเหอนั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดต่อกับเย่เชียนมาเป็นเวลานานแล้วแต่เขาก็ยังชัดเจนมากเกี่ยวกับสิ่งที่เย่เชียนทำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและเขาชื่นชมความกล้าหาญและความสามารถของผู้นำคนนี้อย่างมาก ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่มีส่วนร่วมในงานบริหารในเมืองหนานจิงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ตามแต่เย่เชียนก็ได้ช่วยจัดการปัญหาใหญ่ๆ มากมายทั้งภายในและภายนอก ดังนั้นธุรกิจทั้งหมดจึงเติบโตได้เร็วมากดังนั้นพวกเขาจึงสามารถบริหารสิ่งต่างๆ ได้อย่างสะดวกและท้ายที่สุดแล้วพวกเขาต่างก็อยู่บนเส้นทางแห่งธุรกิจมานาน ดังนั้นหม่าซานเหอจะไม่ปฏิเสธเย่เชียนอย่างแน่นอนและนอกจากนี้นี่ก็เป็นคำสั่งของเย่เชียนโดยตรงอีกดังนั้นเขาจึงเห็นด้วยโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
สำหรับเล้งยี่แล้วเขาก็เป็นถึงสมาชิกชุดหลักของเขี้ยวหมาป่าดังนั้นเขาจึงไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยเกี่ยวกับคำสั่งของเย่เชียนและแน่นอนว่าเขาก็จะไม่ลังเลที่จะดำเนินการตามคำสั่งเหล่านั้นเลย
คำสั่งที่เย่เชียนมอบให้พวกเขาทั้งหมดนั้นอยู่ในสถานที่ที่แต่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงและจุดประสงค์ของการทำเช่นนี้ก็คือเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสมาคมมังกรดำและรัฐบาลและแม้แต่กองทัพแห่งชาติญี่ปุ่น นอกจากนี้หากผู้คนจำนวนมากมุ่งความสนใจไปที่จุดใดจุดหนึ่งมันก็จะเด่นชัดจนเกินไปดังนั้นเย่เชียนจึงแบ่งปฏิบัติการออกเป็นส่วนๆ ในพื้นที่แตกต่างกัน ส่วนวิธีการปฏิบัติและแผนการดำเนินการหรือวิธีล่าถอยนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาเองในแต่ละกลุ่มเพื่อความคล่องแคล่วและความถนัดเฉพาะกลุ่ม ส่วนพื้นที่เขตเมืองโตเกียวนั้นหมาป่าผีไป๋ฮวยจะรับหน้าที่ดำเนินการเอง
.
.
.
.
.
.
.
……………………………………………………