ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 728 ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ตอนที่ 1
ตอนที่ 728 ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ตอนที่ 1
คนอย่างมารุยามะทาโร่นั้นเป็นคนประเภทไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเพราะงั้นถ้าหากเย่เชียนไม่ข่มขู่หรือเอามีดจ่อคอเขาล่ะก็เขาคงจะไม่มีวันอ้อนวอนเป็นแน่
แน่นอนว่าเย่เชียนไม่เชื่อคำพูดของมารุยามะทาโร่เพราะเหตุผลที่เขายอมพูดแบบนี้ก็เพื่อเอาชีวิตรอดเท่านั้น นอกจากนี้เย่เชียนก็ไม่ได้คิดที่จะฆ่ามารุยามะทาโร่เพราะเย่เชียนยังคงตระหนักถึงแผนการที่จะทำให้แก๊งอินาดะขัดแย้งกับสมาคมมังกรดำ ดังนั้นถ้าหากเย่เชียนฆ่ามารุยามะทาโร่ล่ะก็ทุกอย่างก็จะจบสิ้น
หากเย่เชียนสามารถยุยงแก๊งอินาดะได้สำเร็จจนแก๊งอินาดะขัดแย้งกับสมาคมมังกรดำได้ล่ะก็มันจะสามารถสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อสมาคมมังกรดำได้อย่างมาก ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นมันจะช่วยลดความสนใจของสมาคมมังกรดำไปได้อย่างมากและเราจะสามารถมีเวลาวางแผนเพื่อกำจัดสมาคมมังกรดำได้มากยิ่งขึ้น
เย่เชียนก็มองไปที่มารุยามะทาโร่แล้วพูดว่า “จะเป็นหมูเป็นหมางั้นเหรอน่าเสียดายที่คุณไม่มีคุณสมบัติมากพอจะเป็นลูกน้องของผม..ครั้งก่อนผมยอมปล่อยคุณไปแต่ตอนนี้คุณกลับพาพรรคพวกมาหาผม..บอกหน่อยสิว่าถ้าผมไม่ลงโทษคุณแล้วผมจะมีหน้ามีตาในสังคมได้ยังไง?”
มารุยามะทาโร่ก็ถึงกับสั่นเทาไปทั้งตัวแล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า “อย่า!..อย่านะ!..คุณเย่!..ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง..ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
“หืม..ปล่อยคุณไปอีกครั้งงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้แต่ในเมื่อคุณพาพวกมาซะเยอะแบบนี้มันจะไม่ดูน่าอายไปหน่อยเหรอที่จะให้พวกเขากลับไปมือเปล่า?” เมื่อเย่เชียนมองไปที่เหล่าสมาชิกแก๊งยากูซ่าที่กำลังตกตะลึงแล้วเย่เชียนก็พูดว่า “ไม่ต้องตกใจ..พวกคุณแค่กลับไปบอกมารุยามะไทจิว่าลูกชายของเขาอยู่ในกำมือของผมแล้ว..ถ้าเขาต้องการลูกชายกลับไปตัวเป็นๆก็บอกให้เขาไปหาผมที่ร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามของถนน..ผมให้เวลาเขาหนึ่งชั่วโมงและถ้าเขาไม่มาล่ะก็อย่ามาโทษที่ผมหยาบคายก็แล้วกัน”
เหล่าสมาชิกแก๊งยากูซ่าทั้งหลายก็ถึงกับตกตะลึงและสูญเสียอาการกันอย่างมาก เมื่อได้ยินเช่นนั้นมารุยามะทาโร่ก็ตะโกนอย่างร้อนว่า “พวกแกมัวทำอะไรกันอยู่..รีบไปซะสิ!”
ด้วยคำสั่งของมารุยามะทาโร่แล้วคนเหล่านั้นก็ไม่กล้าที่จะลังเลใดๆแล้วรีบส่งคนกลุ่มหนึ่งออกไปในทันที ซึ่งเย่เชียนก็เหลือบมองมารุยามะทาโร่และถอนมีดออกจากคอของมารุยามะทาโร่และกระแทกไหล่เขาแล้วพูดว่า “เอาล่ะมากับผม..อย่าตุกติกไม่งั้นคุณได้ตายแน่”
มารุยามะทาโร่จะกล้าพูดอะไรที่ไหนเขาเพียงพยักหน้าและโค้งคำนับครั้งแล้วครั้งเล่า “ครับ..ครับ!”
เมื่อเขามาถึงร้านกาแฟเย่เชียนก็สุ่มหาที่นั่งส่วนดีห์ราห์ก็ยืนอยู่ข้างๆเย่เชียนอย่างเป็นธรรมชาติและไม่มีความคิดที่จะนั่งลง ส่วนมารุยามะทาโร่ก็อย่างให้เกียรติเหมือนสุนัขรับใช้เพราะเขากลัวว่าจะทำร้ายเขาอีกซึ่งมันไม่คุ้มค่าเลยเพราะคนของเขากำลังไปแจ้งข่าวถึงพ่อของเขาแล้ว ดังนั้นเขาก็เชื่อว่าพ่อของเขาควรจะมาที่นี่เร็วๆนี้และเมื่อพ่อของเขามาถึงเขาก็จะปลอดภัยและบางทีเขาอาจจะแก้แค้นเย่เชียนได้อย่างสมใจ ซึ่งในตอนนี้เขามีคนจำนวนมากกว่าแต่มันกลับไร้ประโยชน์จนทำให้เขารู้สึกขมขื่นอย่างมาก
เย่เชียนก็หันไปมองดีห์ราห์แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นั่งลงสิ..เราไม่มีความแตกต่างระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง..นายไม่จำเป็นต้องเกรงใจ..ต่อหน้าฉันก็ทำตัวสบายๆซะ”
ดีห์ราห์ก็ถึงกับตกตะลึงเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้คัดค้านใดๆและเขานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเย่เชียน ซึ่งเขาไม่รู้ตัวเลยว่าเขาจะเข้ามามีบทบาทและทำให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นลูกน้องของเย่เชียน เมื่อเห็นปฏิกิริยาของดีห์ราห์แล้วเย่เชียนก็ฉีกยิ้มเพราะถ้าหากดีห์ราห์ไม่สนใจอะไรล่ะก็เขาคงจะนั่งก่อนที่เย่เชียนจะพูดอะไรไปแล้ว
เมื่อเห็นดีห์ราห์นั่งลงแล้วมะรุยามะทาโร่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเพราะเมื่อนึกถึงตัวเองที่ไม่เคยโดนดูถูกแบบนี้มาก่อนแล้วเขาก็รู้สึกขมขื่นอย่างมาก
เย่เชียนก็สั่งกาแฟมาสองถ้วยสำหรับตัวเองและดีห์ราห์ แน่นอนว่ามันไม่มีส่วนของมารุยามะทาโร่อย่างแน่นอน ส่วนดีห์ราห์ก็รู้สึกแปลกๆเพราะตั้งแต่เกิดมาเขาเคยแค่เฝ้าดูคนอื่นดื่มกาแฟในร้านกาแฟและไม่เคยดื่มด้วยตัวเองเลย อย่างไรก็ตามดีห์ราห์ก็มีความเกลียดชังต่อแก๊งอินาดะอย่างมาก ดังนั้นเขาจะไม่เห็นใจมารุยามะท่าโร่แต่อย่างใดและยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้เขาก็กำลังติดตามเย่เชียนอยู่เพราะงั้นสิ่งที่เขาต้องทำก็คือการปิดหูและหลับตานั่นเอง
เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อนๆเย่เชียนก็ไม่ได้รีบร้อนและหลังจากดื่มกาแฟไปหนึ่งถ้วยเย่เชียนก็มองดูเวลาแล้วพบว่ามันผ่านไปสิบกว่านาทีเองเขาจึงสั่งกาแฟมาอีกถ้วย
ในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้นแล้วเย่เชียนก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะกดรับสาย จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของชิงเฟิงที่ร้อนรนและความวุ่นวายจากฝั่งตรงข้าม เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็พูดว่า “ไอ้บ้านี่ใจเย็นๆก่อนสิ..ช่วยพูดให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยจะได้มั้ย?..ฉันฟังไม่ถนัด”
ชิงเฟิงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดสั้นๆ ซึ่งหลังจากฟังคำพูดของชิงเฟิงแล้วใบหน้าของเย่เชียนก็เปลี่ยนไปเคร่งเครียดในทันทีและเจตนาฆ่าก็พุ่งออกมาราวกับพายุทะเลทราย เมื่อมารุยามะทาโร่เห็นเช่นนี้เขาก็ตัวสั่นอย่างอธิบายไม่ได้และเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและอดไม่ได้ที่จะแอบสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติกับพ่อของเขาหรือเปล่า
ทางด้านของดีห์ราห์เองก็ตัวสั่นโดยไม่มีเหตุผลเช่นกันและความหนาวเย็นในใจของเขาก็ลึกลงไปถึงกระดูกและเขาก็มองไปที่เย่เชียนด้วยความสยดสยอง ซึ่งดีห์ราห์รู้สึกเพียงว่าเจตนาฆ่าของเย่เชียนนั้นรุนแรงเกินไปจนทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนยืนอยู่ในนรก
“มันเกิดขึ้นเมื่อไหร่?..มีใครเป็นอะไรมั้ย?” เย่เชียนพูดอย่างเดือดดาลและเจตนาฆ่าก็แผ่ออกมาเหมือนลมหนาว
“เมื่อคืนนี้วิดีโอถูกอัพโหลดลงบนอินเทอร์เน็ตแต่ก็มีเพียงบางเว็บไซต์ของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น..ส่วนวิดีโอบนเว็บไซต์ของทางประเทศจีนก็ถูกลบไปหมดแล้ว..แต่มีผู้บริสุทธิ์ตายในที่เกิดเหตุด้วย..เดี๋ยวผมจะส่งวิดีโอให้ทันทีและบอสลองดู..คนพวกนี้เป็นชาวญี่ปุ่น..บอส!..เราไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้นะ” ชิงเฟิงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“เอาล่ะ..รีบส่งวิดีโอมาให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย..หลังจากที่ฉันดูแล้วฉันจะตัดสินใจอีกที” เย่เชียนพูด “มีปฏิกิริยาอะไรจากทางรัฐบาลจีนบ้างมั้ย?”
“ยังไม่มี..พวกเขาแค่รีบไล่ลบวิดีโอทั้งหมดบนเว็บไซต์และผมก็เชื่อว่าจะมีแถลงการณ์ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอนและประชาชนจะมีปฏิกิริยายังไงกับเรื่องนี้..อย่างมากที่สุดผมก็คิดว่ามันจะเป็นการประณามหรือประท้วงอย่างรุนแรง” ชิงเฟิงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
เย่เชียนก็พยัคหน้าแล้วพูดว่า “แจ้งแจ็คกับหลี่เหว่ยโดยด่วน..สั่งให้พวกเขาเตรียมตัวก่อนเพราะหลังจากที่ฉันดูวิดีโอจบแล้วฉันจะติดต่อกลับไป” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็วางสาย ผ่านไปครู่หนึ่งชิงเฟิงก็ส่งวิดีโอมาให้ ด้วยเสียงข้อความแจ้งเตือนเย่เชียนก็เหลือบมองมารุยามะทาโร่ที่กำลังตัวสั่นเทาอยู่ข้างๆด้วยความหวาดกลัวและรีบถอยออกไป จากนั้นเย่เชียนก็เปิดวิดีโอและดูอย่างระมัดระวัง ซึ่งเมื่อเย่เชียนเห็นวิดีโอแล้วเขาก็โกรธขึ้นมาในทันที
เมื่อเห็นใบหน้าของเย่เชียนแล้วดีห์ราห์ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อรู้ว่ามีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้น ส่วนมารุยามะทาโร่นั้นเขาก็กำลังอธิษฐานและขอพรจากปู่ย่าตายายและภาวนาให้เย่เชียนไม่ระเบิดโทสะและมาระบากับตน อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณต้องการให้เกิดขึ้นน้อยลงเท่าใดโอกาสที่จะเกิดขึ้นมันก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้ทำให้แผนของเย่เชียนได้รับผลกระทบเล็กน้อยแต่มันก็เป็นสิ่งที่พอรับได้เพราะการเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่นก็กำลังจะถึงกำหนดการณ์ดังนั้นพรรคการเมืองใหญ่ๆก็จะต้องแสดงพฤติกรรมที่ดีมากมายเพื่อที่จะชนะใจผู้คนและพวกเขาก็ไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่สำคัญสำหรับเย่เชียนเพราะไม่สนใจว่าใครจะอยู่เบื้องหลังเพราะคราวนี้เหตุการณ์มุ่งเป้าไปที่ประเทศจีนทั้งประเทศดังนั้นการแก้แค้นของเย่เชียนก็จะมุ่งเป้าไปที่ประเทศญี่ปุ่นทั้งประเทศเช่นกัน
เย่เชียนนั้นไม่พึงพอใจที่แผนการของเขาเริ่มช้าเกินไปไม่อย่างนั้นมันจะไม่นำไปสู่เรื่องแบบนี้อย่างแน่นอน หากแผนดังกล่าวเริ่มดำเนินการเร็วกว่านี้ล่ะก็พรรคการเมืองของประเทศญี่ปุ่นก็จะยุ่งเกินกว่าจะดูแลและควบคุมสิ่งต่างๆได้และแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่สามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้วมันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะกังวล นอกจากนี้เย่เชียนจะไม่ตำหนิใครสำหรับเหตุการณ์นี้เพราะไม่ใช่คนประเภทที่โยนสิ่งต่างๆให้คนอื่นแต่เลือกที่จะแก้ไขไปด้วยกันแทน
หลังจากปิดวิดีโอเย่เชียนก็จ้องมองไปที่มารุยามะทาโร่ที่อยู่ข้างๆอย่างช้าๆ เมื่อเห็นเช่นนั้นมารุยามะทาโร่ที่กำลังหวาดกลัวไปด้วยเจตนาฆ่าก็ถึงกับตัวสั่นอย่าไม่หยุดยั้งและรีบคุกเข่าลงและอ้อนวอนว่า “คุณเย่ครับๆ..เรื่องนั้นมันไม่เกี่ยวอะไรกับผม..ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย..อย่าฆ่าผมได้โปรดอย่าฆ่าผม!”
เย่เชียนก็ถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์แล้วพูดว่า “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยแต่ตอนนี้ผมโกรธมากและผมต้องการหาคนระบายความโกรธ..โทษทีนะตอนนี้คุณโชคไม่ดีเอาซะเลย” ทันทีที่เสียงจบลงเย่เชียนก็ลุกขึ้นและใช้เท้าเตะออกไปอย่างรุนแรงที่ร่างของมารุยามะทาโร่จนมารุยามะทาโร่ก็ถอยกลับไปสองสามก้าวและเย่เชียนก็ใช้หมัดต่อยไปที่หน้าของมารุยามะทาโร่อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งถึงแม้ว่าเย่เชียนจะโกรธมากแต่เขาก็ยังไม่สูญเสียสติและเหตุผลไปเพราะเขายังมีความรู้สึกนึกคิดและเขาจะไม่ฆ่ามารุยามะทาโร่อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามการทำให้มารุยามะทาโร่นอนอยู่ในโรงพยาบาลสักหนึ่งหรือสองเดือนก็น่าจะสมเหตุสมผล เมื่อผ่านไปสักพักหน้าของมารุยามะทาโร่ก็บวมขึ้นเหมือนหัวหมูจนผู้จัดการและพนักงานเสิร์ฟและลูกค้าคนอื่นๆในร้านกาแฟเห็นสิ่งนี้พวกเขาก็ไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่าเย่เชียนจะหันมาทำร้ายพวกเขา
เมื่อเห็นว่าอารมณ์ของเขาเริ่มเย็นลงแล้วเย่เชียนก็ยืดตัวขึ้นอย่างช้าๆและเหลือบมองไปที่ดีห์ราห์แล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ!” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็วางเงินลงบนโต๊ะแล้วเดินตรงไปที่ด้านนอกของร้านกาแฟ ส่วนดีห์ราห์ก็ตกตะลึงและรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
.