ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 736 ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ตอนที่ 9
ตอนที่ 736 ความเกลียดชังทางเชื้อชาติ ตอนที่ 9
ฐานทัพเรือไอร่อนบลัดนั้นถูกสร้างขึ้นบนเกาะเล็กๆในมหาสมุทรแปซิฟิกและมันเป็นเกาะปะการังและมีพื้นที่ไม่ได้ใหญ่มาก อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าหลี่เหว่ยไม่ได้ทำอะไรที่นี่มาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีเช่นนั้นเพราะนอกจากการฝึกซ้อมประจำวันแล้วเขาก็ได้วางแนวป้องกันเกาะปะการังแห่งนี้อย่างแน่นหนา
ด้วยการสนับสนุนของกลุ่มโจรสลัดซาตานแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะท้ายที่สุดกลุ่มโจรสลัดซาตานก็เป็นกลุ่มโจรสลัดผู้มากประสบการณ์ทั้งในแง่ของประสบการณ์การดำรงชีวิตและประสิทธิภาพในการรบนั้นก็ทรงพลังมาก ดังนั้นด้วยการแนะนำของพวกเขาทุกสิ่งทุกอย่างล้วนดำเนินไปอย่างราบรื่น
ความคิดดั้งเดิมของเย่เชียนคือการใช้สถานที่นี้เป็นกำลังสนับสนุนและในกรณีที่ต้องเผชิญหน้ากับรัฐบาลจีนในสักวันหนึ่งและในกรณีที่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าถูกรัฐบาลจีนคุกคาม ซึ่งเห็นได้ชัดว่าความคิดของเย่เชียนนั้นง่ายเกินไปเพราะถึงแม้ว่าฐานทัพเรือไอร่อนบลัดจะเป็นความลับแต่รัฐบาลจีนก็ยังสามารถสืบหารายละเอียดบางอย่างได้และแน่นอนว่านี่คือสิ่งที่เป็นไปได้
หลังจากก่อสร้างฐานทัพเรือมานานกว่าหนึ่งปีองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก็ได้สร้างเกาะปะการังให้เป็นฐานทัพเรือและถึงแม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่าฐานทัพเรือของรัฐบาลแต่ละประเทศก็ตามแต่ความสามารถในการป้องกันก็ไม่ควรมองข้าม ซึ่งแจ็คเองก็ควรจะภาคภูมิใจกับผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สถดที่เขาเคยทำมาเพราะแจ็คได้เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ของกระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐอเมริกาและคัดลอกระบบการวางแนวป้องกันทั้งหมดเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ทางทะเลของพวกเขามา ดังนั้นแน่นอนว่าฐานทัพเรือไอร่อนบลัดจึงถูกสร้างขึ้นมาตามมาตรฐานการป้องกันของกองทัพเรือสหรัฐ แต่แน่นอนว่าสิ่งนี้ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากแต่อย่างน้อยๆก็มันก็มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่จะทำได้
ทางด้านของเรือรบนั้นก็ยังประสบความสำเร็จในการขนส่งมายังฐานทัพเรือผ่านเครือข่ายของคูลอฟส์อังเดร จนหลี่เหว่ยอดใจไม่ไหวที่จะแนะนำกลุ่มโจรสลัดซาตานมาทำธุรกิจกับคูลอฟส์อังเดร เนื่องจากหลี่เหว่ยได้ติดตามกลุ่มโจรสลัดซาตานเพื่อทำกิจกรรมมากมายดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการทำธุรกรรม ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้สำคัญมากนักแต่ก็เป็นความดีความชอบให้กับฐานทัพเรือไอร่อนบลัดในการแนะนำเครือข่ายที่ดีระหว่างองค์กรได้
เรือขนส่งสินค้าที่เย่เชียนโดยสารมาก็หยุดอยู่ที่พิกัดที่กำหนดเอาไว้และจากระยะไกลเย่เชียนก็เห็นเรือรบหลายลำแล่นเข้ามา ซึ่งบนเรือรบมีธงขนาดใหญ่ที่มีพื้นหลังสีแดงเลือดและสัญลักษณ์หัวหมาป่าที่น่าสะพรึงกลัวและเขียนคำขนาดใหญ่สองคำลงบนเรือนั้นว่า ‘ไอร่อนบลัด!’
ฉากนี้ทำให้ลูกเรือบนเรือขนส่งสินค้าหวาดกลัวอย่างมากและเริ่มตื่นตระหนกและทุกคนต่างก็ตะโกนกันว่า “ไม่นะ..พวกโจรสลัดอยู่ที่นี่..พวกโจรสลัดมา!”
แน่นอนว่านี่คือเรือขนส่งสินค้าและเมื่อพวกเขาพบโจรสลัดแล้วแม้ว่ามันจะสายเกินไปที่จะหลบหนีก็ตามแต่เหล่าลูกเรือที่ไม่รู้เรื่องต่างก็วิ่งไปรอบๆด้วยความตื่นตระหนกจนกัปตันเรือพยายามที่จะทำให้อารมณ์และสติของลูกเรือมั่นคงเขาจึงเดินไปที่ด้านข้างของเย่เชียนแล้วพูดว่า “คุณเย่ครับตอนนี้พวกเราควรจะทำยังไงดี?” สีหน้าของกัปตันเรือดูกังวลเล็กน้อยแต่เขาก็รู้ดีถึงตัวตนของเย่เชียนแต่เขาไม่รู้เรื่องพวกนี้ดังนั้นเขาจึงต้องขอคำแนะนำจากเย่เชียน
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “บอกลูกเรือว่าไม่ต้องกังวลไปเพราะคนพวกนี้เป็นพวกเราเอง”
กัปตันเรือก็ถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนั้นและมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจ อะไรคือการมีโจรสลัดเป็นพรรคพวก? สิ่งนี้ทำให้กัปตันงงงวยอย่างมากแต่เนื่องจากเย่เชียนพูดเช่นนี้เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติตามดังนั้นเขาจึงรีบไปประกาศให้เหล่าลูกเรือทราบเพื่อไม่ให้ลูกเรือเหล่านี้ประหม่าและตื่นตระหนก
“ดูเหมือนว่าเจ้าหลี่เหว่ยจะภูมิใจกับสิ่งนี้มาก” ม่อหลงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ
“พี่ก็น่าจะรู้จักเขาดี..ถ้าเกิดเราติดตั้งขีปนาวุธให้เขาล่ะก็เขาก็กล้าที่นำทัพเรือไปที่ประเทศญี่ปุ่นและถล่มมันอย่างแน่นอน” เย่เชียนพูด
ดีห์ราห์ก็มองไปที่กองทัพเรือรบโจรสลัดจากระยะไกลด้วยความสับสนจากนั้นเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เย่เชียนพูดเขาก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นและได้ยินเลยว่ากลุ่มโจรสลัดเหล่านี้จะเป็นลูกน้องของเย่เชียนจริงๆ เมื่อคิดเช่นนี้แล้วเขาก็สงสัยว่าอิทธิพลของเย่เชียนนั้นจะทรงพลังมากแค่ไหน? จากนั้นเขาก็หันไปมองที่เย่เชียนและคิดในใจว่าการตัดสินใจของเขานั้นถูกต้องแล้วว่าเย่เชียนนั้นจะช่วยเขาได้จริงๆ ดังนั้นการติดตามเย่เชียนคนนี้ไปต่อให้เขาไม่ได้แชมป์การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ก็ตามแต่เย่เชียนก็จะทำให้ตัวเขานั้นแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างแน่นอน
“ถึงเรือขนส่งสินค้าข้างหน้าพวกคุณถูกล้อมเอาไว้แล้ว..กรุณาหยุดเรือทันทีไม่เช่นนั้นเราจะใช้มาตรการทางทหาร” เสียงผ่านเครื่องกระจายเสียงของหลี่เหว่ยก็ดังขึ้น ซึ่งพวกเขาตกลงกันเอาไว้อย่างชัดเจนว่าจะพบกันที่พี่กัดนี้แต่หลี่เหว่ยก็ยังแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรและแกล้งพูดออกมาอย่างน่าเกรงขาม
“ถ้านายยังไม่หยุดเล่นอะไรที่มันไร้สาระแบบนี้ฉันขอสาบานเลยว่าฉันจะทำให้นายลิ้มรสความตายที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต!” หลิวเทียนเฉินตะโกนอย่างเสียงดัง อย่างไรก็ตามเสียงของเขานั้นจมลงไปใต้คลื่นที่ซัดเข้ามาและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“พวกเราคือกองทัพเรือไอร่อนบลัดแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก..เรามาเพื่อยึดครองสินค้าไม่ได้มาเพื่อคุกคามชีวิตของพวกคุณทุกคน..ถ้าพวกคุณไม่อยากที่จะจบชีวิตลงกลางทะเลก็หยุดซะ!..ไม่งั้นเราจะจมเรือพวกคุณทันที!” หลี่เหว่ยพูดต่อด้วยคำที่น่าหวาดผวา
กัปตันเรือก็มึนงงเล็กน้อยและไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเลยเพราะเมื่อครู่นี้เย่เชียนพูดเองว่าคนเหล่านี้เป็นพรรคพวกแต่ทำไมพวกเขาถึงได้ข่มขู่เช่นนี้? เมื่อได้ยินเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองเย่เชียนอย่างว่างเปล่า ซึ่งเย่เชียนก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ใช้เครื่องกระจายเสียงบอกพวกนั้นไปว่า..ถ้าไม่หุบปากล่ะก็ได้ว่ายน้ำกลับไปที่ฐานแน่!”
กัปตันก็ถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่งและนึกไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนนี้กันแน่ เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็หันไปมองกัปตันแล้วพูดว่า “คุณมัวทำอะไรอยู่..รีบพูดออกไปตามที่ผมบอกสิ”
“ได้ครับ..ได้ครับ!” กัปตันตอบหลายครั้งและรีบวิ่งไปที่แผงควบคุมเรือและเปิดเครื่องขยายเสียงแล้วพูดว่า “โปรดฟัง..เหล่าโจรสลัดที่อยู่ข้างหน้า..คุณเย่เชียนอยู่บนเรือนี้ด้วย..เขาบอกว่าถ้าคุณยังไม่หุบปากเขาจะให้พวกคุณว่ายน้ำกลับไปยังฐานทัพ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้หลี่เหว่ยก็ถึงกับตัวสั่นเพราะเย่เชียนนั้นสามารถสั่งตามที่เขาพูดได้จริงๆดังนั้นหลี่เหว่ยจึงไม่กล้าที่จะท้าทายความเด็ดขาดและอารมณ์ของเย่เชียนจริงๆ จากนั้นหลี่เหว่ยก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “สวัสดีครับบอส!..ผมแค่ล้อเล่นน่ะอย่าคิดมากสิ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้กัปตันก็รู้สึกโล่งใจในที่สุด
หลังจากนั้นไม่นานกองทัพเรือรบของกองทัพเรือไอร่อนบลัดก็เข้ามาใกล้ ซึ่งสมาชิกของกองทัพเรือไอร่อนบลัดบางคนก็ได้รับคัดเลือกใหม่และบางคนก็เป็นสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าและบุคลากรจากบริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัด ดังนั้นยกเว้นสมาชิกใหม่แล้วพวกเขาทุกคนต่างก็รู้จักเย่เชียนโดยธรรมชาติ ทันทีที่เรือแล่นเข้ามาใกล้หลี่เหว่ยกับเหล่าสมาชิกทั้งหมดบนเรือรบทุกลำก็ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือและหลี่เหว่ยยิ้มให้กับเย่เชียนแล้วพูดว่า “สวัสดีครับบอส!” จากนั้นเขาก็หันไปเหลือบมองสมาชิกคนอื่นๆของกองทัพเรือไอร่อนบลัดแล้วพูดว่า “ทุกคนฟัง!..นี่คือพี่น้องเขี้ยวหมาป่าของพวกเรา..ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพเรือไอร่อนบลัด..ราชาหมาป่าเย่เชียน..เขาคือผู้นำของเรานับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป!”
“ครับบอส!” ทุกคนตะโกนพร้อมกันและเสียงก็ดังกึกก้องทะลุท้องฟ้าและแม้แต่เสียงของคลื่นยักษ์ก็ไม่สามารถกลับมันไปได้
เย่เชียนก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “ขอบคุณพี่น้องที่ทำงานหนัก..ผมจะไม่พูดอะไรมากแต่หลังจากที่เรากลับไปที่ฐานทัพเราจะมาทำความรู้จักกันละคน”
เมื่อมองไปที่ม่อหลงกับหลิวเทียนเฉินแล้วหลี่เหว่ยยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” จากนั้นก็หันไปมองดีห์ราห์ข้างๆแล้วก็ตกตะลึงเล็กน้อยแล้วเขาก็กลับไปเป็นปกติ ถึงแม้ว่าหลี่เหว่ยจะไม่รู้จักดีห์ราห์ก็ตามแต่เขาก็เดาได้ว่าคนๆนี้ต้องเป็นผู้ติดตามคนใหม่ของเย่เชียนอย่างแน่นอน
จากนั้นหลิวเทียนเฉินก็พูดขึ้นว่า “นายไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง?” ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องตลกแต่เป็นเพราะการแสดงออกของหลิวเทียนเฉินนั้นแข็งทื่อมากจนดูเหมือนว่าเขาจริงจังกับมันแต่โชคดีที่หลี่เหว่ยนั้นคุ้นเคยกับการแสดงออกเช่นนี้ดี ไม่เช่นนั้นคนอื่นๆคงจะคิดว่าหลิวเทียนเฉินนั้นกำลังโกรธเกรี้ยวอยู่จริงๆ อย่างไรก็ตามหลี่เหว่ยก็เกรงกลัวหลิวเทียนเฉินเล็กน้อยเพราะอารมณ์ของหลิวเทียนเฉินเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้และคนๆเดียวที่หลี่เหว่ยไม่กล้าเข้าไปยุ่งวุ่นวายก็คือหมาป่าพิษหลิวเทียนเฉินคนนี้ ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะถูกบางอย่างกัดตอนกลางคืนระหว่างนอนก็เป็นได้
หลี่เหว่ยก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ดูที่พี่พูดสิ..ความสัมพันธ์ระหว่างเราคืออะไร..โถ่เราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ..เอาเถอะๆมาล่องทะเลด้วยกันสิ..มันทำให้รู้สึกดีจริงๆ”
“อย่าพูดมัวแต่พูดเรื่องเหลวไหลกันเลยเพราะเรายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ” ม่อหลงพูด จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่เชียนและเย่เชียนก็พยักหน้าแล้วหันไปมองกัปตันเรือจากนั้นก็พูดว่า “คุณไปกำชับลูกเรือทุกคนให้ลืมไปซะว่ามันเกิดอะไรขึ้นในวันนี้และผมต้องการให้พวกเขาทุกคนคิดซะว่าพวกเขาไม่เคยมาที่นี่..ซึ่งหลังจากการขนส่งเที่ยวนี้สิ้นสุดลงคุณก็ไปหาฝ่ายการเงินเพื่อรับเงินโบนัส..เรื่องการแบ่งสัดส่วนเงินโบนัสคุณจัดการเองได้เลย”
ให้ทั้งความเชื่อใจและน้ำใจนั้นถึงแม้ว่านี่จะเป็นวิธีที่ล้าสมัยแต่มันก็ไม่เคยจางหายไปและมักจะมีประโยชน์เสมอ ดังนั้นกัปตันจึงพยักหน้ากับคำพูดของเย่เชียนอย่างเป็นธรรมชาติครั้งแล้วครั้งเล่าเพราะเขารู้ดีว่าทรัพยากรทางการเงินของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปนั้นมีมากแค่ไหนและเย่เชียนก็ทำได้เหมือนที่เขาพูดอย่างแน่นอน
เย่เชียนก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและเดินข้ามไปที่เรือรบ ซึ่งหลังจากที่เย่เชียนและคนอื่นๆขึ้นเรือรบแล้วเรือรบก็แล่นไปยังฐานทัพเรือไอร่อนบลัด ซึ่งเย่เชียนนั้นยังไม่เคยเห็นฐานทัพแห่งนี้ดังนั้นเขาจึงมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างมากแต่ต่อหน้าพี่น้องจำนวนมากและบางคนก็เพิ่งจะมาเข้าร่วมกองทัพดังนั้นเย่เชียนต้องขจัดความอยากรู้ของเขาออกไปและทำให้ตัวเองดูสงบเสงี่ยม ซึ่งหากปราศจากความรอบคอบเช่นนี้เย่เชียนคงจะไม่สามารถเป็นผู้นำได้จนถึงทุกวันนี้เป็นแน่
เย่เชียนก็เหลือบมองไปที่หลี่เหว่ยและชี้ไปที่ดีห์ราห์จากนั้นก็แนะนำว่า “หลี่เหว่ย!..นี่คือน้องชายคนใหม่ของเรา..ดีห์ราห์..เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการต่อสู้ผสมผสานโยคะ..จากนี้ไปพวกเราทุกคนจะเป็นพี่น้องกัน..มีอะไรต้องช่วยกันและกัน”
“ผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะ?..มันเป็นศิลปะการต่อสู้ประเภทไหนเหรอที่ทำให้บอสสนใจได้?” หลี่เหว่ยอุทาน “ไอบ้าเอ๊ยนี่มันเหลือเชื่อมาก!..ดีห์ราห์ในอนาคตนายต้องสอนฉันด้วย..นี่ต้องเป็นทักษะที่ดีเพราะงั้นฉันต้องเรียนรู้มันให้ได้” ใบหน้าของหลี่เหว่ยดูตื่นเต้นอย่างมากและมือของเขาก็ไปจับมือของดีห์ราห์และเขย่าอย่างกระตือรือร้น
เมื่อได้ยินประโยคคำพูดของหลี่เหว่ยแล้วดีห์ราห์ก็ขมวดคิ้วแน่นเพราะเขาคิดว่าหลี่เหว่ยกำลังดูถูกโยคะ อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูตื่นเต้นของหลี่เหว่ยแล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น ดังนั้นดีห์ราห์จึงระงับความโกรธในใจเอาไว้แล้วพูดว่า “ยินดีครับถ้ามีโอกาสในอนาคต”
.