ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 767 ผู้หญิงที่เหมือนผู้ชาย
ตอนที่ 767 ผู้หญิงที่เหมือนผู้ชาย
ในบ้านพักที่เย่หานหลินอาศัยอยู่เขากับเย่เชียนก็นั่งอยู่บนม้านั่งหินข้างๆกันและเหลือบมองเย่เชียนด้วยความซาบซึ้งและพูดว่า “ขอบคุณ!”
เย่เชียนก็ยิ้มจางๆแล้วพูดว่า “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก..ผมไม่ได้ช่วยอะไรเลยและคุณก็สามารถเอาชนะเย่หานรุ่ยด้วยตัวเอง..มันเป็นผลมาจากการฝึกอันหนักหน่วงของคุณและมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย”
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะพูดแบบนี้แต่เย่หานหลินไม่ได้คิดอย่างนั้นเพราะในความเห็นของเขาถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดของเย่เชียนล่ะก็เขาจะไม่มีวันเอาชนะเย่หานรุ่ยได้เลย หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆเย่หานหลินก็หยุดไปชั่วขณะแล้วพูดว่า “คุณมาจากตระกูลหลักของตระกูลเย่แล้วทำไมคุณถึงเข้าร่วมการแข่งขันการประลองด้วยล่ะ?”
เย่เชียนก็ยักไหล่แล้วพูดว่า “บางคนบอกว่าผมเป็นทายาทของตระกูลเย่แต่บางคนก็บอกว่าไม่ใช่..ส่วนผมเองก็ไม่รู้ว่ามันใช่หรือเปล่า..แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากเข้าร่วมการแข่งขันใดๆเลยเพราะมันไม่มีเหตุผล..ยกตัวอย่างเช่นการที่คุณชนะเย่หานรุ่ยในการแข่งขันการประลองได้คุณคิดว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้มั้ย?”
เย่หานหลินก็พูดว่า “ในตระกูลเย่มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างทายาทตระกูลหลักและทายาทตระกูลสาขา..เป็นเวลาหลายพันปีแล้วที่ทายาทสายตรงได้รับการปฏิบัติอย่างดีที่สุดและได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดและเรียนรู้สิ่งที่ดีที่สุด..แต่ทายาทของตระกูลสาขานั้นเป็นเหมือนทาสรับใช้และนี่คือชะตากรรม..เพราะงั้นผมจึงต้องชนะและดึงดูดความสนใจของตระกูลเย่เพื่อที่ผมจะได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของผม”
“ตั้งแต่คุณยอมรับชะตากรรมของตัวเองแล้วทำไมคุณถึงต้องต่อต้านล่ะ..ชีวิตแบบไหนที่มีความหมายต่อคุณ..ถึงแม้ว่าคุณจะชนะการแข่งขันแต่คุณก็ยังมีสถานะเป็นตระกูลสาขาอยู่ดีและเป็นเหมือนคนรับใช้ของตระกูลหลัก..ในเมื่อคุณต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณแล้วทำไมคุณต้องเปลี่ยนความคิดของคุณด้วยล่ะ” เย่เชียนพูดอย่างช้าๆ “ในเมื่อคุณต้องการต่อต้านชะตากรรมของตัวเองแล้วทำไมคุณไม่ต่อต้านจนถึงที่สุดล่ะ..คุณจะยอมจำนนต่อผู้อื่นไปตลอดงั้นเหรอคุณเต็มใจยอมรับแบบนั้นจริงๆเหรอ..นี่คือกฎของตระกูลเย่และถ้าหากคุณไม่มีความกล้าที่จะเปลี่ยนกฎนี้แล้วทำไมคุณถึงไม่ลองออกไปสู่โลกกว้างล่ะ?..ออกจากบ้านของตระกูลเย่ดูมั้ยล่ะ?”
การแสดงออกของเย่หานหลินก็หยุดนิ่งไปและครุ่งคิดอยู่พักหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลานานที่เขาต้องการเปลี่ยนชีวิตของเขาเพียงแต่เขาต้องการดึงดูดความสนใจจากตระกูลหลักเสียก่อน แต่ท้ายที่สุดดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย? ท้ายที่สุดเขาก็เป็นได้แค่สุนัขรับใช้ของคนอื่น เวลาผ่านไปสักพักและมีแต่ความเงียบงันและในทันใดนั้นเย่หานหลินก็คุกเข่าลงพร้อมกับเสียงดัง “ตุ้บ”
ฉากนี้ทำให้เย่เชียนตกใจและเขาก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆเพียงแค่มองไปที่เย่หานหลินด้วยความสงสัยอย่างยิ่งและไม่ได้พูดอะไร
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณในวันนี้ผมคงไม่สามารถเอาชนะเย่หานรุ่ยได้เลย..อันที่จริงผมก็รู้อยู่แก่ใจว่าถึงแม้ว่าผมจะชนะการแข่งขันแต่ผมก็เป็นได้แค่สุนัขรับใช้ของตระกูลเท่านั้นและผมต้องทนรับคำสั่งจากลูกหลานของตระกูลเย่อีก..ยิ่งไปกว่านั้นการที่ผมเอาชนะเย่หานรุ่ยในการแข่งขันการประลองศิลปะการต่อสู้ในวันนี้ผมเกรงว่าเขาจะโกรธและผมก็กลัวว่าชีวิตในอนาคตคงจะเลวร้ายยิ่งกว่าในตอนนี้มาก..ให้ผมติดตามคุณในอนาคตเถอะผมจะทำทุกอย่างเพราะผมเชื่อว่าคุณจะสามารถทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นได้” เย่หานรุ่ยพูดอย่างหนักแน่น
เย่เชียนก็ยิ้มจางๆแล้วพูดว่า “แล้วคุณไม่กลัวว่าผมจะเป็นเหมือนตระกูลเย่หรอ?”
“ไม่ต้องกังวลไป” เย่หานหลิน “ถ้าเป็นกรณีนี้นั่นก็หมายความว่านี่คงเป็นชะตากรรมของผมแล้วและผมก็ต้องยอมรับมันให้ได้”
ด้วยรอยยิ้มที่ยินดีเย่เชียนก็ยื่นมือออกไปเพื่อจับมือกับเย่หานหลินแล้วพูดว่า “เอาล่ะ..ในเมื่อคุณตั้งใจอย่างแน่วแน่แบบนี้ผมเย่เชียนคนนี้ขอรับปากเลยว่าถึงแม้ว่าผมจะให้พลังและอำนาจแก่คุณไม่ได้ก็ตามแต่คุณจะเป็นพี่น้องของผมตลอดไปและตราบใดที่ผมยังอยู่มันจะไม่มีใครมาทำร้ายคุณได้..หากมีโอกาสผมจะเปลี่ยนแปลงตระกูลอย่างแน่นอนและทำให้ลูกหลานของตระกูลสาขาได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับทายาทตระกูลหลักและพวกเขาก็จะได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแน่นอน”
“เช่นกันเพราะตราบใดที่ผมเย่หานหลินคนนี้ยังมีชีวิตอยู่มันจะไม่มีใครดูหมิ่นคุณได้และถ้าหากมีใครต้องการทำร้ายคุณทางเดียวที่สามารถทำได้ก็คือเขาต้องข้ามศพของผมไปก่อน” เย่หานหลินพูดอย่างหนักแน่น
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกเพราะในมุมมองของผมเราเป็นพี่น้องกันและเนื่องจากเราเป็นพี่น้องกันเราก็ควรจะสนับสนุนซึ่งกันและกันใช่มั้ยล่ะ”
“ช่างเป็นมิตรภาพที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!” หลังจากที่ทั้งสองจับมือกันหยานซื่อฉุยก็เดินเข้ามาจากประตูและเผยให้เห็นเจตนาฆ่าที่รุนแรงและความเป็นสตรีจากทั่วร่างกายของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เจียอู๋พูดว่าหยานซื่อฉุยคนนี้เป็นผู้หญิงล่ะก็เย่เชียนคงคิดว่าเธอเป็นผู้ชายประเภทที่คล้ายๆผู้หญิงเพราะเย่เชียนไม่เห็นว่าเธอดูเหมือนผู้หญิงตรงไหนดลย ถึงแม้ว่าหน้าตาจะดีแต่ร่างกายของเธอก็ดูแบนราบเหมือนสนามบินไปหน่อยไม่ใช่หรือ?
เย่หานหลินก็ขมวดคิ้วราวกับรู้สึกถึงอันตรายที่ร่างกายของหยานซื่อฉุยและเขาก็เดินมาข้างหน้าของเย่เชียน ซึ่งเย่เชียนก็พึงพอใจไปกับปฏิกิริยาของเย่หานหลินมาก จากนั้นเย่เชียนก็ลุกขึ้นและตบไหล่ของเย่หานหลินเบาๆแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร” จากนั้นก็หันไปเหลือบมองหยานซื่อฉุยแล้วพูดว่า “โอ้..คุณน่าจะเป็นผู้นำของสำนักม่อจื๊อใช่มั้ย?..คุณผู้หญิงหยานซื่อฉุย”
“ฉันชอบให้คนอื่นเรียกฉันว่าคุณหยานมากกว่า” หยานซื่อฉุยพูดอย่างแผ่วเบา “เมื่อไหร่กันที่ตระกูลเย่มีสมาชิกที่มีพรสวรรค์โดดเด่นเช่นนี้..ฉันไม่เคยสังเกตเลยมันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ของฉันจริงๆ..ว่าแต่ทำไมคุณถึงเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงล่ะ?”
สีหน้าของเย่หานหลินแน่นิ่งไปอย่างเห็นได้ชัดและแน่นอนว่าเขาถึงกับผงะไปเพราะเย่เชียนเรียกหยานซื่อฉุยแบบนั้น นั่นเป็นเพราะเขามองไม่ออกเลยว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาแท้ที่จริงแล้วจะเป็นผู้หญิง เมื่อได้ยินคำพูดของหยานซื่อฉุยแล้วเย่เชียนก็ขนลุกโดยไม่มีเหตุผลเพราะเมื่อลองนึกภาพผู้หญิงที่ดูเหมือนผู้ชายและพูดกับคุณด้วยน้ำเสียงที่ฟังแล้วน่าอึดอัดคุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร? เกรงว่าเขาคงไม่ได้กำลังจะเผชิญหน้ากับพวกวิปริตทางเพศใช่ไหม?
“ผมเย่เชียนที่แปลว่าอ่อนน้อมถ่อมตน” เย่เชียนพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “เอ่อผมควรจะเรียกว่าคุณหยานสินะ..ฟังจากคำพูดของคุณหยานแล้วดูเหมือนว่าคุณจะสนใจตระกูลเย่มาโดยตลอด..ว่าแต่สำนักม่อจื๊อพยายามทำอะไรกับตระกูลเย่งั้นหรอ?”
“แล้วคุณล่ะกำลังคิดอะไรอยู่งั้นเหรอฉันไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการได้หรอก..คุณเย่ต้องฉันงั้นเหรอ?” หยานซื่อฉุยพูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมมีภรรยาแล้วเพราะงั้นทำไมผมถึงต้องการคุณด้วยล่ะ?..นอกจากนี้ผมไม่ได้สนใจในตัวคุณเลยผมแค่สงสัยว่าทำไมผู้นำของสำนักม่อจื๊อผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นเลสเบี้ยนน่ะ”
“โลกใบนี้มีแต่ผู้ชายเลวๆเพราะพวกผู้ชายมีความคิดสกปรกๆอยู่ในหัวตลอดทั้งวันที่คิดถึงแต่ร่างกายส่วนล่างเพื่อจุดประสงค์ที่น่ารังเกียจ..มันทุเรศสิ้นดี!” หยานซื่อฉุยพูด
“อย่าพูดแบบนั้นเลยเพราะในสมัยนี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ..ผู้หญิงสมัยนี้น่ะบ้ายิ่งกว่าผู้ชายอีก..ความคิดของคุณค่อนข้างสุดโต่งไปหน่อยนะผมขอแนะนำให้คุณไปพบจิตแพทย์สักครั้ง..สำหรับผู้หญิงสวยๆอย่างคุณมันช่างน่าเสียดายจริงๆ” เย่เชียนพูดพร้อมกับขดปากเล็กน้อย
“อะไรนะ!..คุณเย่สนใจในตัวฉันงั้นเหรอ..ถ้าคุณเย่ต้องการฉันจะเก็บไปพิจารณาก็แล้วกัน” หยานซื่อฉุยพูดอย่างเย้ยหยัน
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านและพูดว่า “อย่าทำให้ผมกลัวสิผมไม่กล้าคิดแบบนี้หรอก..ผมกลัวว่าคุณจะทำอะไรผมในขณะที่ผมหลับน่ะสิ..นอกจากนี้การเป็นผู้หญิงของผมมันก็ไม่ง่ายเลยเพราะผมมักจะต้องตรวจร่างกายของพวกเธอก่อนเพื่อดูว่าพวกเธอได้มาตรฐานหรือเปล่า..เห็นคุณหยานเป็นแบบนี้แล้วผมก็อยากรู้จริงๆว่าผู้หญิงสองคนเล่นสนุกด้วยกันยังไง”
“โอกาสหน้าฉันจะพาคุณเย่ไปดูเอง” หยานซื่อฉุยไม่ได้โกรธเพราะคำพูดของเย่เชียนราวกับว่าเธอไม่สนใจคำเย้ยหยันและหลังจากหยุดไปชั่วขณะหยานซื่อฉุยก็พูดว่า “ฉันรู้สึกประทับใจมากที่ได้เห็นการต่อสู้ของคุณเย่บนเวทีการประลอง..ตอนนี้ฉันอดไม่ได้ที่จะเรียนรู้จากคุณเย่..ฉันไม่รู้ว่าคุณเย่พอจะมีเวลาว่างมาสอนฉันบ้างหรือเปล่า?”
“หะ!” เย่เชียนพูดด้วยความประหลาดใจ “คุณอยากใช้โอกาสนี้ฆ่าผมหรอ..ถ้าเป็นแบบนั้นก็ลืมไปซะเพราะผมยังหนุ่มยังแน่นและยังไม่อยากตาย”
หยานซื่อฉุยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยกับวิธีการพูดที่เหมือนอันธพาลของเย่เชียน หากเป็นคนอื่นภายใต้สถานการณ์นี้ล่ะก็มันก็ไม่มีเหตุผลที่เธอจะปล่อยไปอย่างแน่นอนแต่ช่วงเวลาแบบนี้เธอไม่ได้เสียหายเพียงคนเดียวแต่เป็นทั้งตระกูลและสำนักและการหลบหนีไปมันก็เหมือรกับการทำให้สำนักและตระกูลต้องเสื่อมเสียใช่ไหม? เมื่อคิดเช่นนั้นหยานซื่อฉุยก็พูดว่า “เป็นเพราะเราอยู่ในบ้านของตระกูลเย่หรอกเพราะงั้นถึงแม้ว่าฉันจะต้องการฆ่าคุณแต่ฉันจะไม่ทำในสถานที่แบบนี้เป็นแน่..เพราะถ้าฉันฆ่าคุณที่นี่ฉันคงจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้”
เย่เชียนก็ยักไหล่เล็กน้อยแล้วพูดว่า “ในเมื่อคุณไม่ได้มีเจตนาที่จะฆ่าแล้วทำไมผมถึงต้องต่อสู้กับคุณด้วยล่ะ?..แบบนั้นผมยอมให้คุณกระทำอยู่ฝ่ายเดียวเสียยังดีกว่า..ว่าแต่คุณไม่คิดหรอว่าการต่อสู้แบบนี้มันค่อนข้างจะแปลกประหลาดน่ะ”
“คุณเย่ต้องการต่อสู้แบบไหนล่ะ?” หยานซื่อฉุยถามอย่างสงสัย
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “การสู้กับผู้หญิงที่แต่งตัวเหมือนผู้ชายผมมักจะรู้สึกแปลกๆอยู่เสมอ..ถ้าคุณอยากจะสู้กับผมจริงๆคุณก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดผู้หญิงสิ..ถ้าคุณไม่ทำต่อให้คุณจะทำอะไรผมล่ะก็ผมสัญญาว่าผมจะไม่สู้กลับเป็นอันขาด”
.
.