ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 789 บ้านพักเขตทหาร
ตอนที่ 789 บ้านพักเขตทหาร
บ้านของหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็อยู่ในเขตพื้นที่ทหาร ซึ่งพ่อของหวงฟู่เส้าเจี๋ยอย่างฟวงฟู่ถิงเตี๋ยนก็เป็นถึงเสนาธิการบัญชาการเขตทหารหนานจิง เมื่อหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแนะนำหวงฟู่เส้าเจี๋ยให้กับเย่เชียนนั้นหวงฟู่ถิงเตี๋ยนก็กังวลและไม่เต็มใจเสมอมาเพราะในสายตาของเขาเย่เชียนนั้นเป็นเพียงอาชญากรข้ามชาติที่ยังห่างไกลและไม่สามารถเปรียบเทียบกับตัวเขาได้ ดังนั้นการมอบหวงฟู่เส้าเจี๋ยไปอยู่ในความดูแลของเย่เชียนเขาก็ไม่สามารถเดาได้เลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้างและกลัวว่าเย่เชียนจะทำลายต้นกล้าเพียงต้นเดียวในตระกูลหวงฟู่
อย่างไรก็ตามหวงฟู่ถิงเตี๋ยนก็สัญญาเอาไว้ว่าเขาไม่มีอะไรจะพูดมาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงรอดูการเปลี่ยนแปลงและข้อเท็จจริงก็ได้พิสูจน์แล้วว่าแนวทางและวิสัยทัศน์ของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนนั้นไม่ผิดเพราะถึงแม้ว่าหวงฟู่เส้าเจี๋ยที่ถูกส่งให้เย่เชียนฝึกฝนจะสร้างปัญหาในบางครั้งแต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหวงฟู่เส้าเจี๋ยได้เติบโตในกองทัพดั่งที่ควรจะเป็น เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของหวงฟู่เส้าเจี๋ยเช่นนี้หวงฟู่ถิงเตี๋ยนก็มีความสุขมากและรู้สึกสบายใจ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกขอบคุณเย่เชียนอย่างใจจริงและเขาก็ต้องการเชิญเย่เชียนมาที่บ้าน แต่น่าเสียดายที่เย่เชียนนั่นมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำจนไม่มีเวลาว่างเลย ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่รบกวนเย่เชียน
ในที่สุดโอกาสนี้ก็มาถึงแล้วหวงฟู่ถิงเตี๋ยนก็ต้องเตรียมตัวให้ดีเพราะหลังจากได้รับโทรศัพท์จากหวงฟู่เส้าเจี๋ยและรู้ว่าเย่เชียนกำลังจะไปเป็นแขกที่บ้านเขาก็ไม่กล้าที่จะละเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นเขาจึงรีบขอให้ภรรยาเตรียมไวน์และอาหารชั้นเลิศเอาไว้
หลังจากวางสายหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ส่งยิ้มให้เย่เชียนและพูดว่า “อาจารย์เราไปกันเลยมั้ย?”
เย่เชียนนั้นไม่ใช่คนที่ชอบเข้าสังคมมากนักแต่หวงฟู่เส้าเจี๋ยกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็เป็นลุงกับหลานกันดังนั้นเขาคงต้องให้เกียรติไม่มากก็น้อยใช่มั้ย? ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นการเสียมารยาทไม่ใช่หรอกหรือ นี่เป็นเรื่องปกติที่จะเข้าไปหาผู้หลักผู้ใหญ่เพื่อทำการเคารพและสำหรับเย่เชียนที่มักจะเผชิญกับโลกกว้างตลอดทั้งปีนี่คือสิ่งที่เขาควรจะต้องทำ
ทัศนคติของหวงฟู่เส้าเจี๋ยนั้นดีขึ้นอย่างมากเพราะในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบุคลิกภาพของเขาก็เปลี่ยนไปเช่นกันและในสายตาของคนอื่นเย่เชียนอาจเป็นแค่นักเลงหัวไม้แต่สำหรับหวงฟู่เส้าเจี๋ยแล้วเย่เชียนคือคนที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไป หากไม่มีเย่เชียนบางทีเขาอาจจะยังคงเป็นเหมือนทหารคนอื่นๆที่เที่ยวเล่นอยู่นอกค่ายทหารทั้งวันตามอำเภอใจและเพลิดเพลินกับสวัสดิการของประเทศ ในอดีตหวงฟู่เส้าเจี๋ยอาจคิดว่าชีวิตแบบนี้มีความสุขมากแต่ตอนนี้เขารู้สึกว่ามันเป็นการเสียเวลาและความท้าทายวัยหนุ่มสาวไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่างที่เย่เชียนกล่าวเอาไว้เมื่อคุณแก่เมื่อมองย้อนกลับไปคุณจะพบว่าคุณไม่มีความทรงจำที่น่าภาคภูมิใจและมันจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากที่สุดในชีวิต
หลังจากออกจากตัวอาคารหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาขับรถจี๊ปของเขาให้ ถึงแม้ว่ารถคันนี้จะไม่เท่เหมือนรถสปอร์ตรุ่นก่อนๆแต่นี่ก็เป็นอีกความรู้สึกหนึ่ง ในสนามลู่วิ่งเย่หานรุ่ย,เย่หานห่าว,เย่หานซวนก็ยังคงวิ่งอยู่ ซึ่งเย่หานซวนก็ดูสงบนิ่งไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าเพราะเขาสังกัดกองทัพมานานดังนั้นการฝึกง่ายๆแบบนี้มันจึงไม่สามารถทำให้เขาเหนื่อยล้าได้เลย แต่ทว่าเย่หานรุ่ยกับเย่หานห่าวนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเห็นได้ชัดว่าพวกเขาหายใจไม่ออกและเหนื่อยเกินกว่าที่จะวิ่งต่อได้
หวงฟู่เส้าเจี๋ยก็เหลือบมองโดยไม่ได้ตั้งใจและเขาก็ตกตะลึงเล็กน้อยและถามด้วยความสงสัยว่า “อาจารย์..เขานั้นดูเหมือนจะค่อนข้างแข็งแรงเลยนี่..เขาแตกต่างจากสองคนนั้นมาก” เขาชี้ไปทางเย่หานซวน
“แน่นอน” เย่เชียนพูด “ที่จริงแล้วเขาก็มียศเดียวกับนายนั่นแหละผู้บังคับการกองพันของเขตทหารเสิ่นหยางเพราะงั้นการฝึกแบบนี้โดยปกติแล้วมันจะไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาเลย”
“ผู้บังคับการกองพัน?” หวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ตกตะลึงเล็กน้อยและพูดว่า “อาจารย์ครอบครัวของอาจารย์เนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ..แล้วผู้บังคับการกองพันมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”
“ผู้อาวุโสในตระกูลส่งมาให้เข้าร่วมการฝึกทหารน่ะสิและทุกคนก็ต้องปฏิบัติตาม..อย่ากังวลไปเรามาทำในสิ่งที่เราควรทำดีกว่า” เย่เชียนพูด
หวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ถึงกับตกตะลึงเล็กน้อยและเขาก็ไม่เข้าใจว่าผู้อาวุโสที่เย่เชียนหมายถึงนั้นคือใครแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งสามคนบนลู่วิ่งก็เห็นการสนทนาที่ดูสนิทสนมของเย่เชียนกับหวงฟู่เส้าเจี๋ยแล้วพวกเขาก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งและเย่หานซวนก็ส่งยิ้มให้เย่เชียนเมื่อรู้ว่าเย่เชียนไม่ได้ทำให้หวงฟู่เส้าเจี๋ยขุ่นเคืองเขาก็โล่งใจโดยธรรมชาติ แต่สองพี่น้องอย่างเย่หานรุ่ยกับเย่หานห่าวนั้นที่คิดว่าตนกำลังวิ่งอยู่อย่างเหน็ดเหนื่อยแต่เย่เชียนกลับยืนพูดคุยกันอย่างสบายๆที่นั่นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะโกรธและความเกลียชังที่มีต่อเย่เชียนก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นก่อนที่จะมาที่นี่เย่เจียอู๋ก็ได้กำชับเอาไว้แล้วว่าจะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ใช้อำนาจของตระกูลเพื่อสิทธิพิเศษและการอำนวยความสะดวกสบาย แต่ตอนนี้พวกเขาเห็นเย่เชียนทำแบบนั้นจนทั้งสองแอบตัดสินใจว่าพวกเขาจะต้องโทรหาเย่เจียอู๋ในภายหลังและรายงานเรื่องเย่เชียนอย่างเข้มงวด เมื่อคิดว่าเย่เชียนจะต้องถูกเย่เจียอู๋ตำหนิในภายหลังทั้งสองก็รู้สึกโล่งใจอย่างมากจากความเกลียดชังของพวกเขา
ไม่นานนักรถจี๊ปก็หยุดอยู่ตรงหน้าหวงฟู่เส้าเจี๋ยกับเย่เชียนและขับออกไปยังบริเวณเขตทหารช่องทางพิเศษเป็นการส่วนตัว
แน่นอนว่าระดับหวงฟู่ถิงเตี๋ยนที่เป็นถึงเสนาธิการใหญ่ของเขตทหารหนานจิงโดยธรรมชาติแล้วเขาจะไม่อาศัยอยู่ในเขตทหารธรรมดาแต่อยู่ในเขตของนายทหารระดับสูงซึ่งมีทหารรักษาการณ์อยู่ภายใน ไม่นานนักหลังจากออกจากค่ายทหารมารถก็มาถึงบ้านของหวงฟู่เส้าเจี๋ย เมื่อลดกระจกรถลงแล้วเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของหวงฟู่เส้าเจี๋ยแล้วทหารรักษาการณ์ก็วันทยหัตถ์
หลังจากที่รถหยุดลงเย่เชียนก็มองเข้าไปที่บ้านจากนั้นหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็เปิดประตูให้เย่เชียนแล้วพูดว่า “เชิญครับอาจารย์”
เย่เชียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ซึ่งหลังจากลงรถแล้วเย่เชียนก็เดินเข้าไปข้างในพร้อมกับหวงฟู่เส้าเจี๋ย
ที่ประตูผู้ใต้บัญชาการของหวงฟู่ถิงเตี๋ยนได้หยุดเย่เชียนเอาไว้และทำความเคารพอย่างสุภาพ “ขออภัยครับ..เราต้องตรวจค้นก่อน”
หวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อยและมองเย่เชียนอย่างขอโทษแล้วพูดว่า “ขอโทษนะอาจารย์แต่มันเป็นกฎ”
เย่เชียนก็ยักไหล่เล็กน้อยและยกแขนของเขาขึ้น จากนั้นนายทหารก็ค้นตัวเย่เชียนชั่วขณะหนึ่งและพบมีดเล่มหนึ่งซึ่งเป็นมีดคลื่นโลหิตที่เย่เชียนพกติดตัวไปทุกที่เหมือนปกติ “ขออภัยครับผมจะขอเก็บมันเอาไว้ก่อนชั่วคราวนะครับ” นายทหารพูด
“คุณเคยอ่านนิยายกำลังภายในหรือเปล่า?” เย่เชียนมองดูนายทหารและนายทหารก็รู้สึกประหลาดใจกับสิ่งที่เย่เชียนถามและเขาไม่รู้ว่าเย่เชียนหมายถึงอะไร “ในนิยายกำลังภายในหรือศิลปะการต่อสู้น่ะเหล่าจอมยุทธไม่เคยเอาศาสตราวุธอยู่ห่างจากตัวไม่งั้นมันก็เท่ากับตาย..ถึงผมจะไม่ใช่จอมยุทธแต่ผมก็ทิ้งมีดเล่มนี้ไว้กับคุณไม่ได้” เย่เชียนพูดเบาๆ
“นี่เป็นกฎผมหวังว่าคุณจะยกโทษให้ผม” นายทหารพูดแต่ไม่ได้เย่อหยิ่ง
“ให้ตายสิเขาคือหัวหน้าของฉันมันจะปล่อยผ่านไม่ได้เลยเหรอ?..เอาเถอะไม่น่าแปลกใจเลยที่พ่อของฉันไว้ใจนาย” หวงฟู่เส้าเจี๋ยพูดต่อ “ไม่เป็นไรนายไปทำงานของนายเถอะเดี๋ยวฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง” หวงฟู่เส้าเจี๋ยนั้นไม่ได้ตั้งใจจะตำหนินายทหารคนนี้ ซึ่งแน่นอนว่าการมีผู้ใต้บังคับบัญชาที่เข้มงวดและมีความรับผิดชอบอยู่ข้างๆพ่อของเขามันจะเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากและเขาคงไม่อยากให้คนที่ไม่มีความรับผิดชอบคอยติดตามและทำงานกับพ่อของเขาใช่ไหม?
“ผมขอโทษครับแต่เพื่อความปลอดภัยของหัวหน้าผมจึงต้องทำแบบนี้..ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย” นายทหารยังคงพูดอย่างแน่วแน่
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เพราะชายหนุ่มคนนี้กล้าหาญจริงๆ ในขณะนั้นจู่ๆประตูก็ถูกเปิดออกและชายวัยกลางคนอายุห้าสิบต้นๆก็เดินออกมาจากบ้าน หลังจากเห็นหวงฟู่เส้าเจี๋ยกับเย่เชียนเขาก็ถึงกับผงะไปชั่วขณะจากนั้นก็ยิ้มและเขาก็มองไปที่ผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วพูดว่า “นี่มันอะไรกัน?”
“พ่อ!” หวงฟู่เส้าเจี๋ยเรียกและแนะนำว่า “พ่อ!..เขาคืออาจารย์ของผมเย่เชียน..อาจารย์นี่คือพ่อของผม”
หวงฟู่ถิงเตี๋ยนก็มองไปที่หวงฟู่เส้าเจี๋ยแล้วพูดว่า “ฉันรู้แล้วๆ” จากนั้นเขาก็ยิ้มและก้าวไปข้างหน้าเพื่อจับมือกับเย่เชียนแล้วพูดว่า “คุณเย่ครับผมได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของคุณมานานแล้ว..ช่างโชคดีจริงๆที่มีโอกาสได้พบคุณในวันนี้..มันเป็นเกียรติสำหรับผมจริงๆ”
“ท่านเสนาธิการครับผมต่างหากที่โชคดี..เป็นเกียรติของผมมากครับที่ได้พบท่าน” เย่เชียนพูด “มันกระทันหันไปหน่อยผมเลยไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรมาเลย..ผมหวังว่าท่านเสนาธิการจะไม่ขุ่นเคืองนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับผมไม่ได้ต้องการให้คุณนำของขวัญหรืออะไรมาให้เลยเพราะกองทัพของเราต่อต้านการติดสินบนเจ้าหน้าที่น่ะ..ฮ่าๆ” หวงฟู่ถิงเตี๋ยนยิ้มและพูด จากนั้นเขาก็หันไปมองผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วพูดว่า “นายไปทำหน้าที่ของนายต่อเถอะ”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มเบาๆแล้วยื่นมือออกมาจากนั้นก็พูดว่า “คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า?”
นายทหารก็ถึงกับผงะไปชั่วครู่จากนั้นเขาก็มองไปที่หวงฟู่ถิงเตี๋ยนและเมื่อเห็นคนหลังพยักหน้าเขาก็ขอโทษอย่างรวดเร็วแล้วส่งมีดคลื่นโลหิตให้เย่เชียน ซึ่งเย่เชียนก็รับมันด้วยรอยยิ้มแล้วเก็บมันเอาไว้ หลังจากนั้นเย่เชียนก็มองไปที่หวงฟู่ถิงเตี๋ยนอย่างขอโทษแล้วพูดว่า “ผมต้องขอโทษท่านเสนาธิการด้วย..ผมเป็นคนประเภทที่ไม่มีอาวุธอยู่ข้างกายไม่ได้น่ะ”
“ต่างคนต่างความคิด..คนเรามีความคิดและทัศนคติไม่เหมือนกันหรอก..ในประเทศจีนน่ะขาดคนที่กล้าหาญอย่างคุณมากๆ” หวงฟู่ถิงเตี๋ยน “เชิญเข้ามาข้างในก่อน” ขณะที่เขาพูดหวงฟู่ถิงเตี๋ยนก็ทำท่าทางเชิญเย่เชียนเข้าไปข้างในบ้าน
การตกแต่งภายในบ้านของเหล่าตระกูลทหารนั้นเทียบไม่ได้กับคนทั่วไปเพราะถึงแม้จะเรียบง่ายแต่มันก็สง่างามและเต็มไปด้วยรางวัลเกียรติและใบสำเร็จทางการทหารต่างๆถูกจัดวางอย่างประณีตบนชั้นวางของในห้องนั่งเล่น หลังจากเชิญชวนให้นั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วหวงฟู่ถิงเตี๋ยนก็โบกมือให้หวงฟู่เส้าเจี๋ยและบอกให้เขาเตรียมชา จากนั้นเขาก็หันไปหาเย่เชียนแล้วพูดว่า “คุณเย่คุณไม่รู้หรอกว่าผมน่ะอยากเชิญคุณมาที่บ้านตั้งนานแล้วแต่คุณมีธุระมากมายที่ต้องทำ..คราวนี้มีโอกาสทั้งทีเพราะงั้นอย่าเพิ่งรีบกลับนะครับ”
“คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอกครับท่านเสนาธิการ..คุณเรียกผมว่าเย่เชียนเฉยๆก็ได้ครับ” เย่เชียนพูด “คนระดับเสนาธิการเป็นคนที่น่านับถือมากและคนอย่างผมก็เทียบคุณไม่ได้เลย”
.
.
.