ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 792 การปฏิเสธ
ตอนที่ 792 การปฏิเสธ
หวงฟู่เส้าเจี๋ยนั้นเข้าใจผิดในความหมายของเย่เชียนโดยคิดว่าคำพูดของเย่เชียนเมื่อวานนี้นั้นหมายความว่าเขาจะต้องทรมานพี่น้องทั้งสามคนของเย่เชียนมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงพยายามหาเหตุผลต่างๆนาๆมาทำโทษคนเหล่านี้ แน่นอนว่าเย่เชียนเองก็รู้เกี่ยวกับความคิดของหวงฟู่เส้าเจี๋ยด้วยแต่เขาขี้เกียจที่จะอธิบายเพราะถ้าหวงฟู่เส้าเจี๋ยเข้าใจผิดมันก็ช่วยไม่ได้ อย่างไรก็ตามนี่ก็ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายสำหรับคนเหล่านั้นเพราะยิ่งการฝึกยิ่งรุนแรงและเข้มข้นมากเท่าไหร่พวกเขาก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น
การฝึกเด็กเล่นเหล่านี้ไม่มีอะไรควรค่าแก่การกล่าวถึงในองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเลย นอกจากนี้สองพี่น้องเย่หานรุ่ยและเย่หานห่าวก็เป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ดังนั้นการฝึกดังกล่าวคงจะไม่ยากสำหรับพวกเขาใช่ไหม ตราบใดที่พวกเขาตั้งใจและอดทนมันก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากเลย
“นี่คุณจงใจแกล้งหรือเปล่า” เย่หานห่าวพูดอย่างโกรธเคือง “มันช้าไปแค่วินาทีเดียวเองถึงกับต้องลงโทษกันเลยเหรอ..ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่นี่คือสิ่งที่หัวหน้าของคุณสั่งใช่มั้ย?..คุณจงใจกดดันพวกเขาให้พวกเราถอดใจและถอนตัวใช่มั้ย?”
“นี่คือกองทัพไม่ใช่สนามเด็กเล่น..คนที่นี่ล้วนเป็นลูกผู้ชาย..ถ้าคุณไม่แข็งแกร่งพอก็ออกไปซะ!” หวงฟู่เส้าเจี๋ยตะโกน “ไปวิ่งรอบสนามสี่สิบรอบ..ปฏิบัติ!”
เย่หานห่าวก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจและหันไปมองเย่เชียนด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์เพราะเมื่อคืนนี้เขาได้มองเย่เชียนเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคำพูดของเย่เชียนเมื่อคืนนี้จะเป็นเพียงการแสดงพูดอย่างหนึ่งและทำอย่างอื่นจริงๆ เมื่อเห็นดวงตาของเขาเย่เชียนก็เดาได้ว่าเย่หานห่าวนั้นกำลังคิดอะไรอยู่และส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แต่ไม่ได้พูดอะไรใดๆ
เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่หานรุ่ยก็สะกิดเย่หานห่าวและขยิบตาให้เขาเพราะเขารู้ดีว่านี่คือในกองทัพและเป็นดินแดนของคนอื่นและตัวเองก็ไม่มีสิทธิ์พูดเช่นนั้น หากเขาไม่อยากถูกลงโทษรุนแรงกว่านี้เขาก็ต้องทำอย่างเชื่อฟัง ถ้าเขาออกจากกองทัพตอนนี้เย่เจียอู๋จะไม่สบอารมณ์อย่างมากและถึงแม้ว่าเย่เจิ้งเซียงพ่อของพวกเขาจะเป็นผู้นำของตระกูลเย่ก็ตามแต่อำนาจที่แท้จริงของตระกูลเย่ก็ยังคงอยู่กับเย่เจียอู๋ ดังนั้นคำพูดของเย่เจียอู๋จึงเทียบเท่ากับพระราชกฤษฎีกาของจักรพรรดิ ด้วยเหตุนี้ถ้าหากเย่เจียอู๋ไม่ยอมรับพวกเขาล่ะก็พวกเขาจะไม่มีวันนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูลอย่างแน่นอน
“จับตาดูพวกเขาเอาไว้แล้วถ้าเขาไม่วิ่งก็เพิ่มรอบวิ่งซะ!” หวงฟู่เส้าเจี๋ยมองไปที่ผู้ใต้บังคับบัญชาแล้วพูด
“รับทราบครับ!” ผู้ใต้บังคับบัญชาตอบรับและวิ่งไปไล่ตามหลังเย่หานรุ่ยกับเย่หานห่าวทันที ทหารคนนี้ก็รู้สึกอึดอัดในใจเช่นกันเพราะการลงโทษทั้งสองคนแต่เขากลับต้องวิ่งตามหลังคนเหล่านั้นเพื่อคุมระเบียบอีกด้วย สิ่งนี้คือการลงโทษทางอ้อมเช่นกันและย่อมมีความคับข้องใจมากมายอยู่ในใจของเขา เรื่องนี้เขาจะโทษใครได้? นั่นก็คือสองพี่น้องอย่างเย่หานรุ่ยกับเย่หานห่าวนั่นเองและคาดว่าวันดีๆของพวกเขาอาจจะจบลงแล้ว
“เอาล่ะทุกคนฟัง!..ต่อจากนี้ทุกคนจะต้องวิ่งแบกสัมภาระน้ำหนักห้าสิบกิโลกรัม..ปฏิบัติ” หวงฟู่เส้าเจี๋ยตะโกน แน่นอนว่าเขาไม่สามารถเพิกเฉยทั้งสามคนไปได้เพราะเย่เชียนบอกแค่ว่าควรดูแลพวกเขาเหล่านั้นเป็นพิเศษและการฝึกฝนเช่นนี้จะไม่ทำให้พวกเขาลำบากโดยธรรมชาติ
“เรายังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเลย!” หนึ่งในเหล่าผู้เข้าฝึกฝนพึมพำ
“กินข้าวเช้า?..ถ้าศัตรูอยู่ข้างหน้าตอนนี้และกำลังจะฆ่าเราผมต้องรอคุณกินข้าวเช้าเสร็จก่อนใช่มั้ย?” หวงฟู่เส้าเจี๋ยพูด “วิ่งข้ามฟากค่ายทหารพร้อมสัมภาระห้าสิบกิโลกรัม..ถ้าใครทำไม่ได้ตามเวลาที่กำหนดก็จะไม่ได้กินข้าวเช้า!”
หลังจากนั้นหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็มองไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาอีกครั้งแล้วพูดว่า “บอกให้พวกเขาตามมาทันทีหลังจากวิ่งรอบสนามเสร็จ”
หวงฟู่เส้าเจี๋ยนั้นเคยเป็นคนที่อยู่ภายใต้การดูแลและการฝึกฝนของเย่เชียนซึ่งเย่เชียนได้ให้การฝึกอบรมที่โหดร้ายและเข้มงวดที่สุดแก่เขาและนั่นคือการที่หวงฟู่เส้าเจี๋ยถูกทรมานโดยการวิ่งไปซื้อเต้าหู้ครั้งก่อนที่เหน็ดเหนื่อยอย่างมาก ดังนั้นเด็กคนนี้จึงได้รับการปลูกฝังนับตั้งแต่นั้นมา ในเขตทหารหนานจิงนั้นการฝึกของหวงฟู่เส้าเจี๋ยถือได้ว่าโหดร้ายและเข้มงวดที่สุดในค่ายทหารแห่งนี้ อย่างไรก็ตามทหารที่ได้รับการฝึกกับเขาจนจบหลักสูตรต่างก็มีอันดับคะแนนสูงในการทดสอบทักษะต่างๆของเขตทหารหนานจิงทุกคน
เย่เชียนนั้นไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่น่าเบื่อเช่นนี้เพราะหลังจากที่เห็นหวงฟู่เส้าเจี๋ยขยิบตาให้เขาเย่เชียนก็หยุด หน้าที่การเป็นผู้นำทีมสามารถฝากไว้กับเย่เชียนได้และหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ดังนั้นเมื่อเห็นทุกคนรีบวิ่งออกไปหวงฟู่เส้าเจี๋ยก็รีบเดินเข้าไปหาแล้วกระซิบเบาๆว่า “อาจารย์ต้องช่วยผมนะเพราะอาจารย์เป็นผู้เชี่ยวชาญในการฝึกจริง..ถ้าอาจารย์ไม่ช่วยผมแล้วใครจะช่วยผมได้?”
เย่เชียนก็ถึงกับผงะและถามอย่างว่างเปล่าว่า “มีอะไรให้ฉันช่วยงั้นเหรอ?..ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้บอกนายอย่างชัดเจนหรอกเหรอ?”
“ก็เมื่อวานผมบอกอาจารย์ไปแล้วไม่ใช่หรอว่าศูนย์บัญชาการกลางจะส่งบุคลากรมาที่เขตทหารหนานจิงเพื่อตรวจสอบหลักสูตรการฝึกฝนน่ะ..ผมไม่อยากเสียหน้าเขตทหารเขตอื่นๆ” หวงฟู่เส้าเจี๋ยพูด “ผมต้องการชนะหรืออย่างน้อยๆก็เสมอเพราะถ้าผมแพ้ล่ะก็ผมจะมีหน้าไปฝึกคนอื่นได้ยังไง?..อาจารย์ต้องช่วยผมนะ..อาจารย์คือผู้นำเขี้ยวหมาป่าไม่ใช่เหรอ..อาจารย์เป็นถึงผู้นำเพราะงั้นอาจารย์ก็น่าจะมีความคิดที่ดีและเห็นผลได้ในทันทีด้วย”
“ฉันไม่อยากทำ” เย่เชียนปฏิเสธ “เข้าร่วมการแข่งขันอะไรกันฉันไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่โดยเปล่าประโยชน์และฉันก็ไม่อยากได้เหรียญหรือรางวัลจากทางการสักหน่อย..นอกจากนี้ฉันเองก็ไม่ได้ฝึกอย่างเป็นทางการมาเป็นเวลานานแล้วเพราะงั้นถึงแม้ว่าฉันอยากจะทำมันก็ทำไม่ได้อยู่ดี”
“ไม่จริงๆ..อาจารย์เป็นวีรบุรุษเพียงคนเดียวใต้ผืนฟ้าและบนแผ่นดินนี้..มันไม่มีอะไรที่อาจารย์ไม่สามารถทำได้!” หวงฟู่เส้าเจี๋ยพูดอย่างประจบสอพลอ “ตราบใดที่อาจารย์ลงมือทำเรื่องแบบนี้มันก็เป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ..พูดตามตรงถึงแม้ว่าการฝึกทางทหารของจีนจะค่อนข้างเข้มงวดแต่ก็แย่กว่าเขี้ยวหมาป่ามาก..นอกจากนี้อาจารย์ก็มีประสบการณ์การต่อสู้จริงมานับไม่ถ้วนเพราะงั้นคนพวกนี้เทียบกับอาจารย์ไม่ได้หรอก”
“อย่ามาเสแสร้งเยินยอฉัน..ฉันน่ะพูดความจริง” เย่เชียนพูด “นี่คือการแข่งขันการวัดทักษะกันอย่างเป็นทางการและเป็นการประเมินคุณภาพของผู้ใต้บังคับบัญชาและตัวของนายเอง..นายควรจะแข่งขันด้วยฝีมือและความสามารถของตัวเอง..มันไม่ใช่สิ่งที่จะมาใช้กลโกงกันได้”
“กลโกงอะไรกันอาจารย์อย่าลืมสิว่าตอนนี้อาจารย์อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของผมเพราะงั้นอาจารย์ก็ถูกนับว่าเป็นสมาชิกของเขตทหารหนานจิงในหน่วยของผมใช่มั้ย?..ถึงแม้ว่าอาจารย์จะอยู่ที่นี่แค่หนึ่งวันแต่ถึงยังไงอาจารย์ก็ยังเป็นบุคลากรของเขตทหารหนานจิงอยู่ดี..แบบนี้มันจะถือว่าเป็นการโกงได้ยังไง?” หวงฟู่เส้าเจี๋ยพูดด้วยรอยยิ้ม
“บ้าจริง..นี่นายจะบังคับฉันอย่างงั้นเหรอ?..นายต้องการใช้ยศของนายกดดันฉันงั้นเหรอ?” เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูด บางทีพวกเขาอาจจะห่างกันนานจนเกินไปเพราะเย่เชียนรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหวงฟู่เส้าเจี๋ยเปลี่ยนไปและไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งถึงแม้ว่าพวกเขาจะดูสนิทสนมกันมากแต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาขาดความเข้าใจกันโดยปริยาย
“ดูสิ่งที่อาจารย์พูดสิ..ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” หวงฟู่เส้าเจี๋ยพูด “ผมกำลังทำเพื่อเขตทหารหนานจิงของเราเพราะพวกเราเป็นเจ้าภาพซึ่งถ้าหากเราแพ้การแข่งขันนี้มันจะเป็นเรื่องน่าอายและเสียหน้าอย่างมาก”
“ฉันจะบอกให้นะว่าฉันมาที่นี่แค่ชั่วคราวและฉันก็จะออกไปเร็วๆนี้” เย่เชียนพูด “นายอยู่กับฉันมานานมากเพราะงั้นนายก็น่าจะเข้าใจนะว่าฉันไม่เพิกเฉยกับเรื่องแบบนี้และถ้าฉันจะทำอะไรมันก็ต้องเป็นไปตามเกม..แบบบนี้ฉันไม่เอาด้วยหรอก”
หวงฟู่เส้าเจี๋ยก็เบะปากของเขาเล็กน้อยโดยรู้ว่ามันจะไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรอีกต่อไปดังนั้นเขาจึงปิดปากของเขาไป อันที่จริงผู้ใต้บังคับบัญชาของหวงฟู่เส้าเจี๋ยนั้นค่อนข้างเก่งแต่หวงฟู่เส้าเจี๋ยปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้และไม่รู้ความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงกังวลและหวังว่าเย่เชียนจะทำให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถชนะได้
ขณะพูดอยู่จู่ๆโทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้นและเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นเฉินโม่ที่โทรเข้ามาและเขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หลังจากกดรับสายเสียงของเฉินโม่ก็มาจากอีกด้านหนึ่งว่า “บอส..อาการป่วยของคุณดีขึ้นหรือยัง?”
“ไม่เป็นอะไรแล้ว” เย่เชียนพูด “ทำไมจู่ๆถึงได้โทรมาล่ะ..เกิดอะไรขึ้นที่ไต้หวันหรือเปล่า?”
“มันค่อนข้างวุ่นวายนิดหน่อย” เฉินโม่พูด “องค์กรใต้ดินสามขั้วอำนาจของไต้หวันได้เริ่มทำสงครามกันอย่างเป็นทางการแล้ว..แบบนี้พวกเราควรจะเริ่มลงมือด้วยมั้ย?”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แล้วเรื่องธุรกิจล่ะ?”
“ศูนย์โลจิสติกส์เริ่มดำเนินงานตามปกติและธุรกิจก็กำลังขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว..ผมเชื่อว่ามันคงใช้เวลาไม่นานในการกดดันศูนย์โลจิสติกส์อื่นๆ..แต่ตอนนี้ศูนย์โลจิสติกส์หลายแห่งถูกก่อตั้งขึ้นโดยสามขั้วอำนาจของไต้หวันจนผมต้องการกำจัดพวกมันให้หมด..บอสต้องทำลายองค์กรที่อยู่เบื้องหลังพวกมันให้หมดโดยเร็ว” เฉินโม่ตอบ
“แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกเพราะถึงจะรีบไปมันก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี..ใครจะไปรู้ว่ารัฐบาลจีนจะหันมาจับตามองและรอดูความเปลี่ยนแปลง..ด้วยเหตุนี้เราควรจะปล่อยพวกหมามันกัดกันเองไปก่อน..เมื่อพวกมันต่อสู้กันจนเหนื่อยทุกฝ่ายพวกเราค่อยเริ่มดำเนินการอีกครั้ง” เย่เชียนพูด “แล้วสถานการณ์ของกิจการแท็กซี่และอุตสาหกรรมการก่อสร้างเป็นยังไงบ้าง..มันไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย?”
“ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น” เฉินโม่ตอบกลับ “เรามีเป้าหมายที่จะผูกขาดตลาดรถแท็กซี่ทั้งเมืองไต้หวันในปีนี้และตราบใดที่เราออกคำสั่งบุคลากรทั้งหมดผมเชื่อว่าถนนทั้งไต้หวันจะเป็นอัมพาตได้อย่างง่ายดาย..สำหรับอุตสาหกรรมการก่อสร้างมันยังดำเนินไปอย่างราบรื่นและธุรกิจก็ขยายตัวไปอย่างรวดเร็ว..ยิ่งในตอนนี้สามขั้วอำนาจขององค์กรใต้ดินกำลังทำสงครามกันซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับเราและเราจะสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อพัฒนาอย่างจริงจังได้”
เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ดีมาก..จำเอาไว้ว่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าของเราทั้งหมดจะต้องใช้ตัวตนปลอมที่สร้างขึ้นมา..เราไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดได้..เราแค่ต้องช่วยหยานเทียนเป่าและคนที่อยู่เบื้องหลังเขาเท่านั้น..ตอนนี้ฉันยุ่งมากและจะไม่ได้ไปที่นั่นสักพักแต่ถ้านายมีอะไรก็ติดต่อไปหาแจ็คได้ทันที..เขาจะจัดการทุกอย่างให้เอง”
“รับทราบครับบอส!” เฉินโม่ตอบแล้วพูดว่า “บอสผมได้ยินมาว่าคุณได้พบญาติของคุณแล้วอย่างงั้นหรอ..ยินดีด้วยนะครับ”
“ขอบใจมาก” เย่เชียนพูด “จริงๆแล้วสำหรับฉันพวกนายน่ะเป็นญาติและครอบครัวของฉันเสมอและเป็นคนที่ฉันคู่ควรที่สุดที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้อง..เอาล่ะนายหมั่นฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ให้ดีเพราะมันจะมีศึกมากมายในอนาคตและเราจะต้องสู้ไปด้วยกัน”
.
.
.