ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 815 อดีตวันวาน
ตอนที่ 815 อดีตวันวาน
เย่เชียนนั้นต้องการทำให้ซงเจิ้งหยวนนั้นโกรธเกรี้ยวเพราะเขาอยากจะทำให้ซงเจิ้งหยวนก่อปัญหาที่นี่จนเกิดความวุ่นวาย ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นสำนักหยุนหยานเหมินก็จะไม่กล้าปล่อยผ่านใช่มั้ย? ท้ายที่สุดพวกเขาต้องรักษาหน้าตาในสังคม ดังนั้นหากซงเจิ้งหยวนต่อสู้กับเย่เชียนที่นี่ล่ะก็มันจะทำให้สำนักหยุนหยานเหมินเสื่อมเสียอย่างมาก เย่เชียนนั้นคุ้นเคยกับคำพูดเหล่านี้ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กและเก่งในการยั่วยุให้คนอื่นโกรธเกรี้ยว เขารู้ดีว่าหูวเค่อเป็นจุดอ่อนของซงเจิ้งหยวนด้วยเหตุนี้เย่เชียนจึงสามารถยั่วยุซงเจิ้งหยวนได้หลายครั้ง ท่าทางและปฏิกิริยาที่โกรธเกรี้ยวของซงเจิ้งหยวนดูเหมือนจะกลืนกินเย่เชียนราวกับว่าเขาต้องการเขมือบเย่เชียนทั้งเป็น
ในขณะนั้นจู่ๆก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆและเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงจากนั้นก็ยิ้มเล็กน้อยพร้อมคิดกับตัวเองว่าเธอคงคิดถึงฉันไม่ไหวแล้วเธอจึงรีบมาหา หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นหูวเค่อที่กำลังดูแลสิ่งต่างๆในไต้หวันอยู่และเธอเองก็เป็นลูกศิษย์ของสำนักหยุนหยานเหมินอีกด้วย
ในบรรดาลูกศิษย์ที่กล้าท้าทายซงเจิ้งหยวนในสำนักหยุนหยานเหมินนั้นมีเพียงหูวเค่อและเหยาซื่อฉีเท่านั้นและพวกเธอยังเป็นศิษย์รักของฮัวหยาซินอีกด้วย ที่สำคัญกว่านั้นสำนักหยุนหยานเหมินก็มีกฎที่ไม่ได้เขียนเอาไว้นั่นคือเจ้าสำนักหรือผู้นำจะต้องเป็นผู้หญิง ซึ่งถูกกำหนดเอาไว้โดนฮัวหยาซินและถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดแต่ทุกคนต่างก็ชัดเจนมากว่าผู้นำสำนักหยุนหยานเหมินคนต่อไปก็คือหูวเค่อนั่นเอง
เมื่อเธอเกินไปถึงด้านข้างของซงเจิ้งหยวนและเมื่อเห็นท่าทางโกรธของเขาหูวเค่อก็เดาได้คร่าวๆว่าเกิดอะไรขึ้นและนี่คือศาลาใหญ่ของสำนักหยุนหยานเหมินเพราะงั้นแขกทุกคนต้องปลดอาวุธ ซึ่งหูวเค่อก็รู้ดีว่าเย่เชียนมีฉีจือเต๋าอยู่ดังนั้นเธอจึงรีบมาที่นี่หลังจากที่รู้ว่าเย่เชียนกำลังจะมาเยือนและจุดประสงค์ก็เพื่อปิดบังการมีอยู่ของฉีจือเต๋าต่อผู้คนในสำนักหยุนหยานเหมิน
จากนั้นหูวเค่อก็ถอนหายใจและก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วกระซิบเบาๆว่า “ส่งมีดนั้นมาให้ฉันแล้วฉันจะเก็บเอาไว้ให้คุณชั่วคราว..นี่คือศาลาใหญ่ของสำนักเพราะงั้นไม่ว่าใครก็ตามทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎนี้เมื่อมาที่นี่และคุณก็ไม่มีข้อยกเว้น”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “ดูที่คุณพูดสิ..เราสองคนยังคงมีความแตกต่างอย่างชัดเจน..ถ้าผมแต่งงานกับคุณในอนาคตนั่นก็ถือได้ว่าผมเป็นเขยของสำนักหยุนหยานเหมินสิและสำนักหยุนหยานเหมินก็เป็นเหมือนบ้านของผมเพราะงั้นจะไปสนใจกฎพวกนั้นทำไมเล่า!” เย่เชียนสวมกอดหูวเค่ออย่างจงใจพร้อมกับมองไปที่ซงเจิ้งหยวนและยักคิ้วเบาๆ ซึ่งดวงตาของเย่เชียนนั้นเต็มไปด้วยการยั่วยุ
เมื่อเห็นเช่นนั้นซงเจิ้งหยวนก็ได้แต่โกรธเกรี้ยวจนตัวสั่นแต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้เพราะต่อหน้าหูวเค่อแล้วเขาต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีของเขาเอาไว้ ถ้าเขาทำให้ภาพลักษณ์ของตัวเองพังทลายไปเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกเลย
เมื่อเห็นเย่เชียนสวมกอดหูวเค่อเอาไว้ในอ้อมแขนแล้วหญิงสาวทั้งสองคนที่อยู่ด้านข้างก็ถึงกับตกตะลึงและเมื่อพวกเธอได้ยินเย่เชียนพูดว่าตอนนี้เขาคือคนรักของหูวเค่อแล้วพวกเธอยิ่งไม่เชื่อและคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่เย่เชียนคิดไปเอง อย่างไรก็ตาม ในความคิดของพวกเธอเย่เชียนนั้นดีกว่าซงเจิ้งหยวนมากในทุกด้านและเขาก็คู่ควรกับหูวเค่อมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นพวกเธอรู้สึกว่าวิธีพูดเหมือนอันธพาลของเย่เชียนนั้นไม่ใช่ว่าดูไม่ดีหรือไม่มีมารยาทเลยเพราะพวกเธอคิดว่ามันน่ารักอย่างมาก
“อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ” หูวเค่อเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “รีบส่งอาวุธให้ฉันเร็ว..อาจารย์รู้ว่าคุณมาแล้วและกำลังรอคุณอยู่ที่ห้องโถงใหญ่”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีความสุขและส่งมีคลื่นโลหิตเอาไว้ในอ้อมแขนของหูวเค่อ เนื่องจากพวกเขาใกล้ชิดกันมันจึงสามารถหลบสายตาของทุกคนได้อย่างราบรื่นและไม่มีใครเห็นว่าสิ่งที่เย่เชียนนำออกมานั้นเป็นมีดคลื่นโลหิต อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทำให้พวกเขามีความคิดที่คลุมเครือมากราวกับว่าเย่เชียนกำลังสัมผัสหน้าอกของหูวเค่ออยู่
หูวเค่อก็อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงและมองเย่เชียนอย่างดุร้ายแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรพลางหยิบมีดคลื่นโลหิตไปอย่างระมัดระวัง จากนั้นเธอก็มองไปที่ซงเจิ้งหยวนแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ฉันจะพาเย่เชียนไปหาอาจารย์เอง..ศิษย์พี่ไปทำธุระของตัวเองเถอะ”
ซงเจิ้งหยวนก็ไม่รู้จะพูดยังไงเขาได้แต่เหลือบมองเย่เชียนอย่างโกรธเกรี้ยวและถอนหายใจจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
เมื่อเห็นซงเจิ้งหยวนออกไปหูวเค่อก็หันไปเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ..ฉันจะพาคุณไปพบอาจารย์เอง”ไอรีนโนเวล
หูวเค่อนั้นดิ้นรนเล็กน้อยในขณะที่เย่เชียนสวมกอดเอาไว้ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่เต็มใจที่จะปล่อยเถอะและกอดเธอแน่นขึ้นราวกับว่าเขาต้องการประกาศให้คนในสำนักหยุนหยานเหมินรู้ว่าหูวเค่อนั้นเป็นของเขาแล้ว แน่นอนว่าหูวเค่อนั้นรู้ดีว่าเธอไม่สามารถห้ามเย่เชียนเอาไว้ได้แล้วและยิ่งไปกว่านั้นเธอก็ไม่ได้พบเย่เชียนมาเป็นเวลานานดังนั้นเธอเองก็รู้สึกสบายใจและมีความสุขอย่างมากที่เย่เชียนทำเช่นนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ปฏิเสธหรือขัดขืนแต่อย่างใด
“คุณกลับมาจีนตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่โทรมาบอกผมล่ะ..คุณทำให้ผมกังวลอยู่ตั้งนาน..แต่ก็ไม่เป็นไรในเมื่อผมได้อยู่กับคุณที่นี่แล้วผมก็รู้สึกสบายใจ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฉันเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เอง” หูวเค่อพูด “เก็บรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ของคุณเอาไว้..ฉันขอเตือนเลยว่าอาจารย์เกลียดรอยยิ้มแบบนี้มาก..อย่าไปทำให้เธอขุ่นเคืองเด็ดขาด” หลังจากหยุดไปชั่วขณะหูวเค่อก็หันหน้าไปและเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “คุณกลัวหรือเปล่า?..ฉันไม่รู้จริงๆว่าในโลกนี้มันมีอะไรที่ทำให้คุณกลัวได้..แต่คุณน่าจะคุ้นเคยกับสถานการณ์อันตรายๆมาเยอะแล้ว..ยินดีด้วยนะ”
เย่เชียนก็งุนงงอยู่พักหนึ่งและถามด้วยความประหลาดใจว่า “ยินดีด้วย?..ทำไมคุณถึงแสดงความยินดีกับผมล่ะ..มีอะไรน่ายินดีงั้นหรอ..หรือคุณยินดีที่จะแต่งงานกับผม?”
หูวเค่อก็ชำเลืองมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “ช่วยจริงจังกว่านี้หน่อยจะได้มั้ย..ฉันแสดงความยินดีกับศิลปะการต่อสู้ของคุณ..ฉันยังจำได้ว่าเมื่อเราเพิ่งพบกันตอนแรกคุณไม่สามารถแม้แต่จะสู้ฉันได้เลยแต่ภายในระยะเวลาแค่สองปีคุณก็สามารถมาถึงระดับนี้ได้..ดูเหมือนว่าอีกไม่นานฉันคงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณแล้ว”
“นั่นก็หมายความว่าคุณมีวิสัยทัศน์ที่ดีและเลือกสามีได้เก่งมาก..นอกจากนี้ผมเองก็เป็นผู้ชายเพราะงั้นถ้าหากผมอ่อนแอกว่าผู้หญิงของตัวเองมันก็คงจะดูไม่ดี..นั่นจะทำลายความภาคภูมิใจในตัวเองไปคุณรู้มั้ย..สองปีที่ผ่านมานี้มาผมทุกข์ทรมานทุกวันและรู้สึกว่าผมไม่มีศักดิ์ศรีความเป็นผู้ชายเลย..เพราะฉะนั้นผมก็เลยตื่นมาฝึกฝนขัดเกลากลางดึกทุกวันหวังว่าสักวันจะผ่านพ้นไปได้..นี่คือศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย” เย่เชียนพูด
“การฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมาก..ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณใช้วิธีไหนในการเร่งความเร็วของการขัดเกลาแต่คุณก็ต้องวางรากฐานให้ดีไม่งั้นมันจะมีแต่โทษ..จากนั้นคุณก็จะสูญเสียมันไป” หูวเค่อพูดอย่างจริงจัง
“ขอบคุณสำหรับความห่วงใยคุณภรรยาของผม” เย่เชียนพูด หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็เอ่ยปากถามว่า “ว่าแต่คุณกับปู่หวงฟู่รู้จักกันมานานแล้วหรอ?”
หูวเค่อก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและเธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเย่เชียนถึงพูดเกี่ยวกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยน แต่เธอก็พยักหน้าเล็กน้อยและตอบว่า “เมื่อตอนที่ฉันยังเด็กเขามักจะมาที่บ้านของฉันบ่อยๆ..ทำไมไม่ลองถามเขาเองล่ะ?..ความสัมพันธ์ของคุณกับเขาก็ไม่ธรรมดาเลยไม่ใช่หรอ..มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
“เปล่า..ผมแค่อยากรู้” เย่เชียนส่ายหัวแล้วพูด
“อยากรู้?..อยากรู้อะไร” หูวเค่อถามด้วยความประหลาดใจ
“หลังจากที่ผมมาถึงปักกิ่งเมื่อวานนี้ผมก็คุยกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและพบว่าปู่เขาดูเหมือนจะรู้จักอาจารย์ของคุณและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็ไม่ธรรมดาเลย” เย่เชียนพูด “เนื่องจากคุณรู้จักเขามาก่อนคุณก็น่าจะรู้อะไรบ้างใช่มั้ยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับอาจารย์ของคุณคืออะไร..บอกผมหน่อยสิว่าเหตุผลที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนยังไม่ได้แต่งงานนั้นเป็นเพราะอาจารย์ของคุณหรือเปล่า”
“ฉันขอเตือนคุณอย่างจริงจังนะว่าอย่าพูดถึงหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเมื่อคุณเข้าพบอาจารย์ของฉัน..ไม่งั้นฉันเองคงจะไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้” หูวเค่อพูดอย่างจริงจัง “ใช่อาจารย์ของฉันกับผู้อำนวยการหวงฟู่เคยเป็นคนรักกันในสมัยก่อน..แต่ภายหลังพวกเขาแยกทางกันเพราะความขัดแย้งต่างๆ..หลายปีที่ผ่านมาความเกลียดชังของอาจารย์ที่มีต่อหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อยเพราะงั้นใครก็ตามที่พูดถึงหวงฟู่ชิงเตี๋ยนต่อหน้าเธอจะมีจุดจบที่ไม่สวยงามอย่างแน่นอน ”
“แล้วทำไมอาจารย์ของคุณที่รู้ทั้งรู้ว่าคุณรู้จักหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันแต่ทำไมเธอถึงไม่ห้ามไม่ให้คุณติดต่อกับปู่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนล่ะ” เย่เชียนพูดต่อ “จากมุมมองของผมในความเป็นจริงแล้วอาจารย์ของคุณน่ะยังรักปู่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนอยู่แต่แค่เธอไม่อยากที่จะยอมรับก็เท่านั้นเอง..นอกจากนี้ยังมีคำกล่าวที่ว่าที่ไหนมีความรักที่นั่นก็ย่อมมีความเกลียดชังเสมอ..เพราะงั้นยิ่งอาจารย์ของคุณเกลียดปู่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนมากเท่าไหร่นั่นก็แสดงว่าเธอรักปู่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนมากเท่านั้น”
หูวเค่อก็ถึงกับตกตะลึงเล็กน้อยเพราะเธอเองก็ไม่เคยคิดเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้แต่เธอรู้ว่าอาจารย์ของเธอไม่เต็มใจที่จะพูดถึงหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเท่านั้น ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้ต่อหน้าอาจารย์ของเธอและสำหรับคำถามที่ลึกล้ำเช่นนี้เธอก็ไม่เคยค้นหามันหรือคิดไตร่ตรองเกี่ยวกับมัน แต่อันที่จริงแล้วหูวเค่อนั้นเธอก็อยากรู้เรื่องของคนอื่นมากดังนั้นเธอจึงคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เย่เชียนพูด “อาจจะใช่..แต่ฉันไม่กล้าถาม” หูวเค่อพูด
“ในฐานะลูกศิษย์แล้วคุณแย่มาก..ถ้าคุณเห็นอาจารย์ของคุณเป็นทุกข์แบบนี้คุณก็ควรจะหาทางช่วยอาจารย์สิ..บางทีมันอาจจะมีทางออกและช่วยเธอได้..ผมคิดว่าปู่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนยังคงรักอาจารย์ของคุณอยู่..ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงยังไม่แต่งงานสักทีล่ะ?..ดังนั้นในเมื่อทั้งคู่ยังรักกันอยู่แล้วทำไมเราถึงไม่ช่วยไม่ทำให้เรื่องนี้มันสมบูรณ์แบบตามที่ควรจะเป็นล่ะ?” เย่เชียนพูด “ว่าแต่คุณรู้มั้ยว่าทำไมอาจารย์ของคุณกับปู่หวงฟู่ถึงได้เลิกรากัน?”
“ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไหร่แต่ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาขัดแย้งกันเพราะความเข้าใจในศิลปะการต่อสู้ที่แตกต่างกัน..ทั้งสองคนต่างก็เป็นคนที่ดื้อรั้นและมีความคิดเป็นของตัวเอง..เพราะงั้นจึงไม่มีใครยอมอ่อนข้อให้กันและนั่นก็เป็นเหตุผลที่มันกลายเป็นแบบนี้” หูวเค่อพูด
“ความเข้าใจในศิลปะการต่อสู้ต่างกัน?” เย่เชียนก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อยและพูดว่า “โถ่ๆ..ที่แท้ทั้งสองคนก็น่ารักมาก..ก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้เองเหรอ..มันจะไปยุ่งยากอะไรกัน?” เย่เชียนพูดและส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ เย่เชียนนั้นชื่นชมพวกเขาสองคนจริงๆเพราะพวกเขาทั้งสองนั้นทำตัวเหมือนวัยรุ่นหนุ่มสาวที่เพิ่งจะรักกันใหม่ๆ