ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 821 อาจารย์กับศิษย์เอก
ตอนที่ 821 อาจารย์กับศิษย์เอก
ภายใต้การควบคุมของเย่เชียนสิ่งที่เหมือนถั่วเหลืองก็เริ่มหมุนอย่างช้าๆและพลังปราณที่เป็นเกลียวก็หมุนผ่านร่างกายของเย่เชียนและค่อยๆกลับสู่จุดเดิม อย่างไรก็ตามหลังจากหมุนเวียนได้ไม่นานดูเหมือนมันจะแข็งแกร่งขึ้นและเย่เชียนรู้สึกได้ชัดเจนว่าดูเหมือนว่าจะมีร่องรอยของอ่อร่าบางอย่างเข้าสู่ร่างกายของเขาจากภายนอกซึ่งทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยสำหรับนักสู้โบราณแล้วเขาจะอาศัยการรวบรวมสมาธิเพื่อขัดเกลาพลังในตัวเองเพื่อขยายพลังปราณอย่างช้าๆ แต่ตอนนี้เย่เชียนรู้สึกว่าพลังภายนอกถูกดึงดูดเข้าไปภายในร่างกายของเขาซึ่งนี่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตามเย่เชียนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาและค่อยๆดูดกลืนและดูดซับพลังและในที่สุดมันก็หมด จากนั้นเย่เชียนก็ปลดปล่อยพลังที่ไม่บริสุทธิ์ออกจากร่างกายและส่วนที่เหลือทั้งหมดก็เข้าไปในตันเถียน ทั้งหมดนี้ทำให้เย่เชียนมีความสุขมากหากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปความเร็วในการฝึกฝนของเขาจะเร็วขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ตอนนี้หลังจากรวบรวมพลังจากธรรมชาติแล้วเย่เชียนก็รู้สึกโล่งใจมาก ซึ่งในตอนนี้อวัยวะภายในที่ได้รับบาดเจ็บจากฝ่ามือของฮัวหยาซินก็ค่อยๆหายดีเป็นปกติและนี่เป็นปาฏิหาริย์อย่างมากถึงแม้ว่าพลังทำลายล้างของพลังปราณจะมีมากแต่มันก็มีพลังในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งมากด้วย หากยังคงเป็นเช่นนี้ตราบใดที่เย่เชียนไม่ได้ถูกฆ่าตายในทันทีละก็มันคงจะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?
อย่างไรก็ตามหลังจากที่คิดอย่างใจเย็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เย่เชียนก็ยังคงมีความกังวลหลังจากที่เขามีความสุขได้ไม่นานเพราะท้ายที่สุดสถานการณ์ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นประโยชน์ต่อเขามากแต่สถานการณ์ที่ยังไม่อธิบายได้และไม่มีสัญญาณหรือการแจ้งเตือนใดๆมันก็ยังคงซ่อนอยู่ ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆและนำประโยชน์เหล่านี้มาปรับใช้ให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด น่าเสียดายที่เย่เจิ้งหรานไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้อีกต่อไปแล้วไม่เช่นนั้นเย่เชียนก็คงจะไปถามเขาเพราะเขาจะต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นอย่างแน่นอน
จนถึงตอนนี้เย่เชียนก็ยังคงฝืนและเหตุผลที่เย่เจิ้งหรานฝึกฝนศิลปะการต่อสู้นี้ก็ไม่ใช่เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขายอดเยี่ยมเพียงใด แต่เพื่อก้าวข้ามผ่านขอบเขตศิลปะการต่อสู้ระดับอื่นๆ แต่นั่นเพื่ออะไรเย่เชียนก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
เย่เชียนตัดสินใจหยุดมันลงชั่วคราวและถึงแม้ว่าเขาอยากที่จะทำต่อแต่มันก็ไม่มีประโยชน์ ทว่าอย่างน้อยๆมันก็มีประโยชน์กับเขามากในตอนนี้ ซึ่งเย่เชียนก็เข้าใจสถานการณ์ที่แตกต่างของตัวเองได้อย่างถ่องแท้
หูวเค่อไปรับใบสั่งยาที่เหมิงฉีแต่ก็มียาบางตัวที่เหมิงฉีไม่มีดังนั้นหูวเค่อจึงขอให้ลูกศิษย์ของสำนักหยุนหยานเหมินให้ออกจากภูเขาไปเพื่อซื้อยา หลังจากนั้นเธอก็บอกลาเหมิงฉีแล้วหูวเค่อก็เดินตรงไปที่ห้องของฮัวหยาซิน
ในเวลานี้ฮัวหยาซินเองก็ได้ขับไล่พลังปราณที่เย่เชียนส่งเข้าไปในร่างกายของเธอออกอย่างสมบูรณ์แต่เส้นประสาทและเส้นะพลังปราณของเธอได้รับความเสียหายบางอย่างทำให้ปราณในร่างกายของเธอไม่สามารถระเบิดออกมาได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นฮัวหยาซินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเล็กน้อยเพราะเธอรู้สึกตกตะลึงไปกับพลังทำลายล้างของเย่เชียนเพราะคนที่อ่อนแอกว่าตัวเองกลับทำให้ตัวเองบาดเจ็บได้เช่นนี้ ถ้าหากเย่เชียนแข็งแกร่งกว่านี้เธอคงไม่ตายในทันทีหรอกหรือ
ฮัวหยาซินก็รู้สึกประหลาดใจมากที่ผู้มากพรสวรรค์เช่นนี้จะสามารถปรากฏตัวมาในรุ่นลูกรุ่นหลานของตระกูลเย่ จากข้อมูลที่รวบรวมมาได้นั้นมันไม่มีคนที่มีพรสวรรค์ดังกล่าวในหมู่ลูกลหานของตระกูลเย่เลย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเย่เชียนในฐานะทายาทคนใหม่จะประสบความสำเร็จและอาจสูงกว่าของเย่เจิ้งหรานพ่อของเขาเลยด้วยซ้ำ
อาการบาดเจ็บของฮัวหยาซินนั้นไม่ได้รุนแรงมากแต่เธอก็ยังคงต้องพักอีกสักพักเพราะหลังจากใช้พลังปราณจำนวนมากในการขับไล่พลังของเย่เชียนออกไปจากร่างกายของเธอ ซึ่งหลังจากที่เธอหยุดเธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตูจากข้างนอกเธอจึงพูดว่า “เข้ามาเลย”
เมื่อเสียงจบลงประตูถูกผลักเปิดออกด้วยเสียงดังเอี๊ยด จากนั้นหูวเค่อก็เดินเข้ามาจากด้านนอกและเมื่อเธอเห็นฮัวหยาซินเธอก็โค้งคำนับทำความเคารพแล้วพูดว่า “ท่านอาจารย์”
ฮัวหยาซินก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “เย่เชียนเป็นยังไงบ้าง?..ไม่มีอะไรร้ายแรงเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของเขาหรือเปล่า?”
หูวเค่อก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะเพราะนี่ไม่ใช่นิสัยของฮัวหยาซินเลยเพราะที่ผ่านมาฮัวหยาซินจะไม่ถามคำถามเช่นนี้ หลังจากหยุดไปชั่วขณะหูวเค่อก็ตอบว่า “ฉันเชิญลุงเหมิงมาตรวจดูอาการให้เขาแล้วและพบว่าไม่มีอะไรที่ร้ายแรง..แค่ทานยาแล้วพักสักสองสามวันก็หายดีแล้ว”ไอรีนโนเวล
จากนั้นฮัวหยาซินก็โบกมือแล้วพูดว่า “อาการบาดเจ็บของฉันก็ไม่ได้รุนแรงแต่เส้นปราณที่แขนของฉันค่อนข้างเสียหาย..ฉันเองถ้าได้พักสองสามวันก็น่าจะหายเหมือนกัน”
“อาจารย์มันเกิดอะไรขึ้นทำไมอาจารย์ถึงต้านการโจมตีของเย่หานหลินไม่ได้..หมัดของเขานั้นธรรมดามากและมันก็ไม่น่าจะยากในการป้องกันสิ” หูวเค่อพูด
“ไม่ใช่เพราะฉันอยากจะปิดบังหรืออะไรแต่เพราะมันไม่มีเวลาที่จะป้องกันได้เลย” ฮัวหยาซินพูด “รูปแบบการโจมตีของเย่หานหลินน่ะเดาทางได้ง่ายเพราะงั้นในสายตาของฉันมันจึงไม่ได้เป็นภัยอะไรแต่เป็นเพราะฉันที่ปะทะกับเย่เชียนก่อนหน้านั้นจนพลังปราณของเย่เชียนเข้ามาแทรกซึมในร่างกายของฉันและกัดเซาะภายในจนฉันต้องรีบขับไล่มันออกไปเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้..ในสายตาของคนอื่นมันอาจจะเป็นพลังอันน้อยนิดแต่มันกลับเป็นการทำลายล้างที่รุนแรงมากเพราะงั้นฉันจึงต้องถ่ายพลังออกไปไม่อย่างนั้นอาการบาดเจ็บของฉันคงแย่กว่านี้”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะฮัวหยาซินก็พูดว่า “เค่อเอ๋อในฐานะอาจารย์ฉันขอถามเธอตรงๆว่าพ่อหนุ่มคนนั้นไม่เคยรู้จักศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณมาก่อนจริงๆงั้นเหรอ?..ทำไมในช่วงเวลาสองสามปีอันสั้นนี้เขากลับสามารถทะลวงผ่านขอบเขตศิลปะการต่อสู้นั้นได้ล่ะ?”
“ฉันไม่ได้โกหกจริงๆเพราะตอนที่ฉันพบเย่เชียนในเมืองเซี่ยงไฮ้ช่วงแรกๆถึงแม้ว่าเขาจะเก่งแต่นั่นก็ศิลปะการต่อสู้และการป้องกันตัวทั่วๆไปและการเคลื่อนไหวนั้นก็เรียบง่ายและตรงไปตรงมาตามหลักสูตรต่างๆ..ซึ่งพลังการโจมตีนั้นก็ทรงพลังมาก แต่มันไม่ได้มีพลังปราณเหมือนพวกเรา..ในตัวเขานั้นไม่มีพลังแฝงหมุนเวียนเลยเมื่อเขาเคลื่อนไหว” หูวเค่อพูด “อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันเห็นเขาครั้งแรกฉันก็สังเกตเห็นความผิดปกติในตัวเขาได้และถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยได้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ตามตำราโบราณก็เถอะแต่เขากลับมีพลังที่แปลกประหลาดในร่างกายและพลังนั้นก็ชั่วร้ายและอันตรายมาก”
ฮัวหยาซินก็ขมวดคิ้วและเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเพราะเย่เจิ้งหราน..ฉันคิดว่าพลังที่เธอพูดมาคงจะถูกทิ้งเอาไว้โดยเย่เจิ้งหราน..ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อที่เขาเอาชนะเหมิงฉีได้เพราะงั้นฉันจังต้องการไปที่บ้านของตระกูลเย่เพื่อพบเย่เจิ้งหรานและเอาชนะเขาเพื่อฟื้นฟูชื่อเสียงของสำนักหยุนหยานเหมิน..แต่ทว่าเย่เจิ้งหรานกลับได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้กับฟู่จื้อซานและเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา..อันที่จริงเขานั้นทำให้ฉันกังวลมาเสมอเพราะเห็นได้ชัดว่าฉันเองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เจิ้งหรานเลย..เหมิงฉีเคยบอกกับฉันว่าศิลปะการต่อสู้ของเย่เจิ้งหรานนั้นก้าวข้ามไปอีกระดับหนึ่งแล้ว..ด้วยเหตุนี้ฉันจึงคิดว่ามันคงจะไม่มีใครในโลกใบนี้ที่เป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้..แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเย่เชียนคนนี้..ฉันคิดว่าออร่าและหลังแปลกๆในร่างกายของเย่เชียนน่าจะถูกผนึกเอาไว้โดยเย่เจิ้งหรานเพราะแค่พลังเพียงเล็กน้อยมันก็เพียงพอที่จะทำร้ายฉันจนเป็นแบบนี้ได้ซึ่งมันไม่ธรรมดาเลย”
“วันนี้ฉันรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเย่เชียนเพราะดูเหมือนเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก..ถึงแม้ว่าวิญญาณที่ชั่วร้ายดูเหมือนจะยังคงอยู่ในร่างกายของเขาแต่ดูเหมือนว่ามันจะถูกกักขังเอาไว้โดยพลังบางอย่างแต่มันก็ไม่เหมือนถูกกักขังเพราะมันเหมือนกับการหลอมรวมเป็นอย่างอื่นเสียมากกว่า..คล้ายๆกับพลังของลัทธิเต๋า” หูวเค่อพูด “แต่ก่อนฉันมักจะสัมผัสมันได้จากร่างกายของเย่เชียนแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามันดูสงบมากกว่าเดิม..ฉันไม่รู้ว่าพลังทั้งสองผสมผสานเข้ากันได้อย่างกลมกลืนได้ยังไง..มันอยู่เหนือจินตนาการของฉันมาก”
“บางทีมันอาจจะเป็นพลังแฝงของเย่เจิ้งหรานก็เป็นได้” ฮัวหยาซินพูด “ลุงของเธอเหมิงฉีน่ะเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งของสำนักหยุนหยานเหมินและในเมื่อเขาพูดเองว่าขอบเขตศิลปะการต่อสู้ของเย่เจิ้งหรานอยู่ไกลเกินจินตนาการของเขาล่ะก็มันคงจะไม่มีใครที่ทราบอีกแล้ว..เอาเถอะอันที่จริงฉันน่ะไม่ใช่คนไร้เหตุผลแบบนั้นเพราะฉันเองก็รู้ว่าเธอชอบเย่เชียนและเด็กคนนั้นก็มีพรสวรรค์จริงๆ..ฉันคิดว่าในอนาคตความสำเร็จของเขาอาจจะเหนือกว่าพ่อของเขาเลยด้วยซ้ำ..ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเธอและสำนักหยุนหยานเหมินของเรา..แต่ทว่าทัศนคติซงเจิ้งหยวนนั้นเลวร้ายเกินไป..เขามีความอิจฉาและโซ่ตรวนมากเกินไปและนั่นจะทำให้เขาเดินไปในเส้นทางที่ผิด..ดังนั้นในฐานะอาจารย์ฉันยังคงหวังว่าเธอจะพิจารณามันอย่างรอบคอบและนอกจากนี้ เขาก็เป็นทั้งพี่ชายและคนรักในวัยเด็กของเธอเพราะงั้นเธอคงไม่ต้องการให้เขาเดินในเส้นทางที่ผิดเพราะรเองนี้หรอกใช่มั้ย?”
“อาจารย์คะฉันจำได้ว่าเย่เชียนเคยพูดกับฉันว่าเขายับยั้งผู้คนที่เดินในเส้นทางที่ผิดและจะส่งเสริมและสนับสนุนผู้คนไปในทางที่ดี..แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นมันขึ้นอยู่กับเจ้าตัวที่จะตัดสินใจแต่ถ้าหากใครเชื่อในตัวเขาล่ะก็เขาจะนำคนเหล่านั้นไปสู่ความรุ่งโรจน์..ฉันเองก็เชื่อว่าเขาทำแบบนั้นได้” หูวเค่อพูด “จริงๆแล้วความรู้สึกของฉันที่มีต่อพี่น้องมันก็เป็นได้แค่พี่น้องกันเท่านั้น”
ฮัวหยาซินก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันไม่เข้าใจความรู้สึกของคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่อย่างพวกเธอเลยจริงๆ..เอาเถอะฉันไม่อยากสนใจเรื่องนี้อีกต่อไปฉันแค่หวังว่าพวกเธอคงจะจัดการและคิดได้ด้วยตัวเอง..ถึงแม้ว่าศิษย์พี่ของเธอจะผิดแต่เขาก็เป็นลูกศิษย์ของฉันเสมอ..ฉันหวังว่าเย่เชียนจะไปพูดกับผู้อาวุโสของตระกูลเย่ในทางที่ดีเพื่อให้ปัญหานี้มันจบไป”
“อาจารย์ไม่รู้จักเย่เชียนเหมือนฉัน..ฉันรู้ดีว่าเขาไม่ได้คิดที่จะตำหนิศิษย์พี่เลยแต่เขาเป็นคนที่รักในศักดิ์ศรีและยิ่งคนอื่นท้าทายเขามากเท่าไรเขาก็ยิ่งไร้เหตุผลและดื้อรั้นมากขึ้นเท่านั้น” หูวเค่อพูด “ฉันคิดว่าตระกูลเย่คงไม่ได้มีความคิดที่จะทำสิ่งต่างๆมากเกินไปหรอกไม่งั้นเขาคงจะไม่ส่งเย่เชียนมาอย่างแน่นอน..ยังไงก็เถอะอาจารย์คะฉันคิดว่าพฤติกรรมของศิษย์พี่ดูไม่สมเหตุสมผลเลย..ทำไมเขาถึงคิดที่จะครอบครองฉีจือเต๋าโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะ?”
ฮัวหยาซินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและเธอก็เงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่าเธอหมายถึงอะไร..เธอกำลังคิดว่าศิษย์พี่มีความลับและแผนการบางอย่างใช่มั้ย?..ฉันเลี้ยงเจิ้งหยวนมากับมือแล้วฉันจะไม่รู้ได้ยังไง..นั่นเป็นเพราะความทะเยอทะยานของเขานั้นยิ่งใหญ่เกินตัว..แต่ฉันก็คิดว่าเขาคงไม่กล้าพอที่จะต่อต้านและฝ่าฝืนกฎของสำนักหยุนหยานเหมินของเราหรอก”