ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 833 ปรึกษา
ตอนที่ 833 ปรึกษา
เมื่อเห็นพฤติกรรมของชายวัยกลางคนแล้วเย่เชียนก็รู้สึกผิดเล็กน้อยและถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับข้อมูลที่ดีจากชายวันกลางคนก็ตามแต่เย่เชียนก็มั่นใจได้ว่าเขาต้องถูกบังคับให้ปิดปากอย่างแน่นอน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเค้นข้อมูลจากคนเหล่านี้ได้
คนอย่างชายวัยกลางคนนั้นพวกเขาคือคนที่อยู่ก้นบึ้งของสังคมปัจจุบันและหลายสิ่งหลายอย่างพวกเขาก็ไม่สามารถควบคุมได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือชีวิตของพวกเขาน่าอนาถและชีวิตของพวกเขาก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
ปักกิ่งเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ผู้คนนับไม่ถ้วนมาที่นี่และหวังจะสร้างครอบครัวและปักหลักที่นี่และเป็นส่วนหนึ่งของเมืองนี้แต่จะมีสักกี่คนที่ทำได้จริงๆกัน? เพราะบางคนเพื่อที่จะได้อยู่ในเมืองนี้ต้องยอมสละทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเองและแม้แต่ความรักอันบริสุทธิ์ที่สุดเท่าที่เคยมีมาแต่เมื่อประสบความสำเร็จจริงๆพวกเขาก็พบว่าตัวเองไม่มีความรักที่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้ว จนเป็นความเศร้าและความทุกข์ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับใครหลายๆคนแต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังคงเดินหน้าต่อไปและปฏิเสธที่จะเดินตามรอยเท้าของตนเอง
เย่เชียนนั้นก็เลิกคิดที่จะขุดคุ้ยข่าวใดๆจากชายวัยกลางคนแล้วเพราะในเมืองนี้หลายสิ่งหลายอย่างมันควบคุมไม่ได้และยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ชายวัยกลางคนก็ตกอยู่ในที่นั่งลำบากและเย่เชียนก็ไม่ต้องการบังคับจนเขาจนตรอกและสิ้นหวังแต่อย่างใด
หลังจากออกจากเรือนจำแล้วเย่เชียนก็โบกแท็กซี่ไปที่โรงแรมใกล้ๆบริษัทและจองห้องพักเสร็จจากนั้นก็โทรหาเย่หานหลินและบอกชื่อโรงแรมให้เขาทราบ ซึ่งตอนนี้คนที่เย่เชียนต้องสืบค้นนั้นมีแต่ชางกวนเจ้อและซือจื้อเท่านั้นและเย่เชียนจะต้องระมัดระวังตัวเองให้มากเพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าใกล้คนเหล่านั้นเพื่อขุดคุ้ยข้อมูลต่างๆและทุกอย่างก็ต้องรอให้เย่หานหลินหาข้อมูลก่อนแล้วใช้ประโยชน์จากแหล่งข่าวเหล่านั้น แต่อันที่จริงแล้วซือจื้อผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะรับมือได้ไม่ยากแต่ถ้าเธอเริ่มรู้ตัวล่ะก็มันจะค่อนข้างยากอย่างมาก
หลังจากคิดดูแล้วเย่เชียนก็กดเบอร์โทรศัพท์ของหลี่เหว่ยเพราะสำหรับผู้ชายคนนี้แล้วไม่มีผู้หญิงคนใดในโลกที่สามารถรอดพ้นจากมือของเขาไปได้เพราะหลี่เหว่ยมีประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาเสมอ เมื่อได้ยินเสียงของเย่เชียนแล้วหลี่เหว่ยก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากและทันทีที่เชื่อมต่อสายเขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า “บอส!..ผมไม่เคยคิดว่าการเป็นทหารเรือจะสนุกขนาดนี้..เมื่อวานเราปล้นเรือสินค้าที่ปลายทางเป็นประเทศญี่ปุ่น..บอสลองเดาสิว่ามันคือเรืออะไร?”
“เรืออะไร?” เย่เชียนอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
“นอกจากสินค้าไม่กี่ชิ้นแล้วก็ยังมีสาวประเภทสองซ่อนอยู่กว่ายี่สิบคนและทั้งหมดมาจากประเทศไทย!” หลี่เหว่ยพูดอย่างตื่นเต้น “บอส..ผมไม่เคยเห็นสาวประเภทสองมาก่อนเลย..พวกเธอดูเป็นผู้หญิงมากและทุกคนก็เป็นผู้หญิงที่สวยด้วย”
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “อย่าบอกนะว่านายเคยเล่นกับสาวประเภทสองน่ะ?..ถ้าอย่างงั้นในอนาคตนายอย่ามาเรียกฉันว่าพี่ชายอีก!”
“ตอนแรกผมก็มีความคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกันแต่เมื่อผมรู้ว่าพวกเธอเป็นผู้ชายแปลงเพศแล้วผมรู้สึกขยะแขยงเพราะงั้นผมจึงปล่อยให้พวกโจรสลัดซาตานจัดการต่อ” จากนั้นหลี่เหว่ยก็พูดว่า “ใช่แล้วบอส!..บอสจะให้ผมไปสู้กับใคร..รอบนี้ผมต้องรับมือกับอะไร..ตอนนี้ผมเบื่อมากเพราะแต่ละครั้งผมต้องเผชิญหน้ากับพวกที่ไม่มีกำลังที่จะต่อสู้กลับได้เลย..มันไร้ความท้าทายจริงๆ”
“ถ้างั้นนายก็คุมกองทัพเรือไปยังฐานทัพเรือของประเทศสหรัฐอเมริกาในวันพรุ่งนี้และถล่มมันให้ราบซะ!” เย่เชียนกลอกตาไปมาและพูดว่า “นายคิดว่าพวกเราเป็นกองทัพเรือจริงๆงั้นเหรอ?..ด้วยกำลังการรบเล็กๆน้อยๆของเรามันไม่สามารถรับมือกับกองทัพแห่งชาติได้เลย..แบบนี้นายกล้าที่จะใช้มันเพื่อต่อสู้กับกองทัพแห่งชาติหรือเปล่า?” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “ที่ฉันขอให้นายมาช่วยในครั้งนี้เพราะมีบางอย่างที่ลำบากกว่าเรื่องนั้น..ฉันอยากจะถามนายว่านายมีวิธีที่ดีบ้างมั้ย”
“บอสควรถามแจ็คเกี่ยวกับเรื่องสำคัญเพราะเขาเก่งกว่าผมเพราะนอกจากเรื่องผู้หญิงแล้วผมไม่ได้เก่งอะไรเลย” หลี่เหว่ยพูด
“ฉันก็จะถามนายเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงเนี่ยแหละ” เย่เชียนพูด
“อ๋อถ้างั้นก็ถามมาได้เลย..ถ้าใครบอกว่าผมเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงเป็นอันดับสองของโลกมันก็คงจะไม่มีคนแรกแล้ว..เพราะตราบใดที่เธอเป็นผู้หญิงและไม่ว่าเธอจะเย็นชาหรือเร่าร้อนก็ตามยังไงพวกเธอก็หนีไม่พ้นหลี่เหว่ยคนนี้ไปได้อยู่ดี” หลี่เหว่ยพูดอย่างมีชัย “บอส!..บอกมาสิว่าบอสจะให้ผมทำอะไร”
เย่เชียนนั้นไม่ได้คุยกับหลี่เหว่ยมากเกินไปเพราะหลี่เหว่ยมักจะมีความคิดสกปรกอยู่ตลอดทั้งวันและนอกเหนือจากเรื่องนี้เขาก็ไม่มีอะไรอื่น หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดอย่างตรงไปตรงมา “ตอนนี้มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเย็นชาและหยิ่งยโสเข้าถึงยาก..แต่อันที่จริงแล้วดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความต้องการ..ฉันเดาว่าเธอน่าจะเป็นผู้หญิงประเภทที่ชอบเล่นตัว..นายคิดว่าไง?.ยอมจำนนผู้หญิงคนนั้น?”
“ข้อมูลที่บอสพูดมาผมคิดว่ามันดูธรรมดาไปหน่อย..ว่าแต่เธอแต่งตัวยังไงและเธอมีคนรักหรือเปล่า..คนรักของเธอทำงานอะไรและเธอทำงานอะไร” หลี่เหว่ยถาม
“นายจำเป็นต้องรู้ข้อมูลขนาดนั้นเลยเหรอ?” เย่เชียนถามด้วยความประหลาดใจ
“แน่นอนสิเพราะผมต้องใช้การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและนั่นคือการประเมินจากทุกด้านในชีวิตของเธอเพื่อเราจะได้คำตอบที่ถูกต้องและกำหนดวิธีการจัดการที่ดีที่สุด” หลี่เหว่ยพูดอย่างเชี่ยวชาญ
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและพูดว่า “เธอเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงินของเครือน่านฟ้ากรุ๊ป..ฉันเคยคุยกับเธอเพียงแค่ครั้งเดียว..เธอสวมชุดสูทแบบมืออาชีพซึ่งไม่แตกต่างจากพนักงานบริษัททั่วไปมากนัก..ฉันได้ยินมาว่าเธอเป็นคนรักของรองผู้จัดการบริษัทน่ะ”
“อะไรนะเธอมีคนรักแล้วเหรอ?” หลี่เหว่ยประหลาดใจและพูดว่า “บอสเปลี่ยนรสนิยมตั้งแต่เมื่อไหร่..บอสสนใจผู้หญิงแบบนี้ด้วยหรือนี่..กระต่ายไม่นิยมกินหญ้าที่รังนะ..บอสไม่กลัวเขาซุบซิบกันหรอ?”
“ไอ้บ้านี่มันเป็นภารกิจ..ฉันไม่ได้ชอบแบบนั้น..ฉันถามว่านายมีวิธีที่ดีบ้างมั้ย” เย่เชียนพูดอย่างหมดความอดทน
“โดยทั่วไปแล้วคู่รักมักจะมีเหตุผลบางอย่างที่ผูกมัดทั้งสองเอาไว้ด้วยกันแต่ตามที่บอสพูดเนื่องจากเธอเป็นผู้จัดการการเงินของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเพราะงั้นเธอจะต้องไม่ขาดแคลนเงินเพราะงั้นเราต้องมองหาสิ่งเร้าของเธอ..เพราะงั้นมันคือสิ่งที่อยู่กับรองผู้จัดการคนนั้นแหละ..ถ้าเรารู้ผู้หญิงแบบนี้ก็รับมือได้ไม่ยากเลย” หลี่เหว่ยพูดต่อ “จริงๆแล้วผู้หญิงก็เหมือนกันหมดและพวกเธอก็มนุษย์เหมือนกัน..ผมเคยบอกไปแล้วไงว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการไล่ตามผู้หญิงคือเราต้องกล้าหาญและหน้าด้านเข้าไว้ให้ถึงขีดสุด..ตราบใดที่บอสเข้าใจแก่นแท้ของสิ่งนี้บอสก็จะทำได้..แต่ถ้าบอสไม่เชื่อผมก็แล้วแต่เพราะข้อมูลที่บอสให้มามันก็ยังน้อยเกินไปอยู่ดีและมันไม่ง่ายเลยจริงๆที่จะกำหนดวิธีรับมือได้”
จากนั้นหลี่เหว่ยก็บอกเย่เชียนว่าเย่เชียนควรทำอย่างไรและต้องใช้คำพูดแบบไหนที่เขาพูดและบอกสิ่งที่ต้องทำอย่างละเอียด ซึ่งเย่เชียนก็ฟังและใช้เวลาครุ่นคิดในใจเป็นเวลานานและหลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “ไอ้น้องชายถ้านายใส่ใจกับรายละเอียดแบบนี้กับงานของนายล่ะก็มันดีมากแค่ไหน?..นายเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเรื่องเหล่านี้ตลอดทั้งวันนายจะมัวจีบผู้หญิงเป็นงานหลักไม่ได้!”
“บอสอย่าประมาทมารยาของผู้หญิงเป็นอันขาด” หลี่เหว่ยพูด “แต่ตอนนี้ผมอยู่ท่ามกลางดอกไม้หลายหมื่นดอกแล้วและไม่มีใบใดที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน..แบบนี้บอสจะให้ผมทิ้งสิ่งนี้ไปอย่างงั้นหรอ..บอสคิดว่าผมคือชิงเฟิงหรือไง..ผมจะไม่โง่ขนาดนั้นและผมจะไม่มีวันมอบหัวใจให้ผู้หญิงเพียงคนเดียวเพราะผมคงจะต้องเสียใจในภายหลังเป็นแน่”
“นายไม่รู้เหรอว่ารักแท้นั้นมีค่าแค่ไหน..นายอาจจะเสียโอกาสนั้นไปตลอดกาล” เย่เชียนพูดต่อ “ในอนาคตนายจะต้องเสียใจ”
“เอาหน่าบอสไม่ต้องเป็นห่วงผม..บอสดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ” หลี่เหว่ยพูด “ถ้าพวกพี่สะใภ้รู้ว่าบอสนอกใจพวกเธอล่ะก็ระวังเอาไว้ให้ดีล่ะ”
“อย่ามาย้อนฉัน!..ฉันขอให้นายมาช่วยหาวิธีจัดการกับผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่วิธีการรับมือกับผู้หญิงในอนาคต!” เย่เชียนพูด
“โถ่บอสถึงแม้ว่าบอสจะใช้วิธีของผมแต่มันก็ขึ้นอยู่กับบอสว่าจะสำเร็จหรือเปล่าเพราะถ้าจะทำก็ต้องทำให้สำเร็จภายในครั้งเดียวไม่งั้นมันจะยากและซับซ้อนกว่าเดิมแน่นอน” หลี่เหว่ยพูด
“ฉันขี้เกียจคุยแล้ว..อย่าเพิ่งสร้างปัญหาให้ฉันล่ะ..นายช่วยอยู่อย่างสงบสักสองสามวันจะได้มั้ย..ระหว่างนั้นก็ฝึกศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณได้ด้วยไม่งั้นถ้าฉันเจอนายในอนาคตฉันจะฆ่านายเอง” เย่เชียนพูดจบแล้ววางสายไป เย่เชียนไม่ได้โต้เถียงกับหลี่เหว่ยอีก
อันที่จริงแล้วเย่เชียนยังคงเข้าใจหลี่เหว่ยเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าหลี่เหว่ยจะค่อนข้างยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของเขาแต่เย่เชียนก็รู้ลำดับความสำคัญและจะไม่โทษหรือตำหนิหลี่เหว่ยเลยเพราะถือว่าเขาเป็นหนึ่งในเขี้ยวของฟูงหมาป่าเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นทักษะการสะกดรอยตามและหลบหนีของเขานั้นก็หาที่เปรียบมิได้ ในแง่ของการฝึกศิลปะการต่อสู้ตำราโบราณแล้วเย่เชียนก็เชื่อว่าหลี่เหว่ยจะสามารถเข้าใจได้ง่ายและน่าจะคลั่งไคล้อย่างมาก ซึ่งนี่ไม่ใช่เพราะเขารักในศิลปะการต่อสู้เหล่านี้มากหลี่เหว่ยคนนี้ชอบทำตัวเท่และดูดีต่อหน้าสาวๆและศิลปะการต่อสู้นี้ก็เป็นหนึ่งในสรรพคุณและความสามารถที่ต้องนำมาโอ้อวดโดยธรรมชาติ