ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 841 สถานการณ์ผลิกกลับ
ตอนที่ 841 สถานการณ์ผลิกกลับ
เมื่อเห็นหม่าห่าวยู่เป็นเช่นนี้แล้วความโกรธภายในดวงตาของหม่าเต๋อหงก็ปะทุขึ้นเพราะพวกเขาอยู่ด้วยกันมานานหลายปีในฐานะปู่กับหลานแต่มันกลับไม่สามารถเทียบได้กับคนที่ช่วยชีวิตอย่างเย่เชียนได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตนี้เย่เชียนจงใจวางแผนเอาไว้ล่วงหน้าหรือไม่เพราะทหารรับจ้างที่สนุกกับการไล่ฆ่าคนไปวันๆนั้นไม่สามารถเทียบได้กับทหารที่แท้จริงและหม่าเต๋อหงก็เชื่ออย่างนั้น
“ผมคิดว่าการให้เกียรติผมถึงขนาดนั้นก็เพราะว่าผมยังมีค่าให้ใช้งานอยู่แต่ทำไมประเทศถึงไม่คิดให้อำนาจกับผมบ้างล่ะ?..มันจะมีสักกี่คนที่เต็มใจจะใช้ชีวิตแบบนี้..ใช่ผมเป็นทหารรับจ้างแต่ผมก็ภูมิใจเพราะทหารของจีนหลายล้านคนมันจะมีสักกี่คนที่กล้าทำสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของรัฐบาลกัน?..ผมไม่ได้โอ้อวดหรืออะไรแต่ผมมั่นใจมากว่าถ้าหากวัดกันที่กำลังพลจำนวนๆเท่าๆกันล่ะก็มันไม่มีกองทัพหรือหน่วยไหนๆในโลกใบนี้ที่เก่งเท่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าของผมหรอก!” เย่เชียนพูดอย่างภาคภูมิใจ
อันที่จริงไม่มีใครสามารถปฏิเสธเรื่องนี้ได้เพราะความสามารถในการสู้รบของเขี้ยวหมาป่านั้นก็เป็นสิ่งที่แม้แต่ประเทศสหรัฐอเมริกาและหลายๆประเทศในสหภาพยุโรปต่างก็ชื่นชมและไม่ว่าจะเป็นการสู้รบในป่าหรือการสู้รบในทะเลทรายก็ตามและไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการต่อสู้เดี่ยวหรือการรบแบบกองกำลังนั้นองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก็เหนือกว่าใครๆ
เย่เชียนนั้นยอมปล่อยให้คนอื่นดูถูกเขาได้แต่เขาจะไม่ยอมให้คนอื่นดูถูกองค์กรและพี่น้องของเขาเพราะสำหรับเย่เชียนแล้วเขี้ยวหมาป่าคือความเชื่อและความสามารถที่สร้างขึ้นโดยพี่น้องของพวกเขาและไม่มีใครมีสิทธิ์หรือคุณสมบัติที่จะมาดูถูกได้
ก่อนหน้านี้เย่เชียนได้ยินเย่เจียอู๋พูดว่าหม่าเต๋อหงตัดความสัมพันธ์ไปตั้งแต่เย่เจิ้งหรานเสียชีวิตลง ซึ่งเย่เชียนก็คิดว่าหม่าเต๋อหงจะเป็นผู้อาวุโสที่คู่ควรแก่การยกย่องแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ต่างกันอะไรกับคนเฒ่าคนแก่ที่หัวโบราณ
“จริงเหรอ?” หม่าเต๋อหงยิ้มอย่างดูถูกและพูดว่า “คุณคิดว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเป็นกองกำลังพิเศษที่ทรงพลังที่สุดในประเทศจีนงั้นเหรอ?..หึ..องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่คุณภาคภูมิใจมันก็เป็นเพียงกลุ่มอาชญากรแค่นั้นแหละ..ถ้ารัฐบาลต้องการกำจัดล่ะก็มันแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย”
จิตใจของเย่เชียนก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปชั่วครู่และเมื่อนึกถึงสิ่งที่หม่าห่าวยู่พูดแล้วเย่เชียนก็ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “นั่นคุณหมายถึงหน่วยพิทักษ์มังกรอะไรทำนองนั้นใช่มั้ย..ถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยเห็นว่าพวกเขาเป็นกองทัพแบบไหนแต่ผมก็กล้าที่จะยืนยันว่ามันไม่มีกองทัพใดในโลกนี้ที่สามารถเผชิญหน้ากับองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าของผมได้โดยไม่ต้องสูญเสียมากกว่าสิ่งที่ได้เลย”
“นี่คุณรู้จักหน่วยพิทักษ์มังกรด้วยงั้นเหรอไม่เลวเลย” หม่าเต๋อหงพูด “บอกผมมาว่าจุดประสงค์ของคุณในการเข้าหาห่าวยู่โดยเจตนาคืออะไร”
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มอันเย็นชาว่า “จงใจเข้าหางั้นเหรอ?..คนอื่นอาจจะคิดว่าการเข้าหาพวกคุณนั้นเป็นประโยชน์อย่างมากก็ตามแต่ในสายตาของผมมันไร้สาระสิ้นดี..สิ่งที่ผมต้องการคือการต่อสู้ด้วยกำลังและความสามารถของตัวเอง..เมื่อคุณคิดแบบนั้นก็ดูเหมือนเราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคุยกันอีก..ลาก่อนครับ!”
ทันทีที่คำพูดจบลงเย่เชียนก็หันกลับและกำลังจะเดินจากไปเพราะสำหรับคนที่ไม่เคารพตัวเองและองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าแล้วเย่เชียนก็รู้สึกว่ามันไม่จำเป็นต้องคุยอะไรกับคนๆนั้นอีกต่อไปและถึงแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นพ่อทูนหัวของพ่อตัวเองก็ตามแต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย
“คุณคิดว่าที่นี่คือที่ไหน..มันไม่ใช่ที่ที่คุณต้องการจะมาก็มาและจะไปตอนไหนก็ได้ที่คุณต้องการงั้นเหรอ?” หม่าเต๋อหงตะโกนและพูด
“ไม่มีที่ไหนในโลกนี้ที่จะหยุดผมได้..ผมสามารถเดินเข้าเดินออกCIAของสหรัฐได้อย่างอิสระแล้วนับประสาอะไรกับที่นี่?” เย่เชียนหยุดและพูดโดยไม่หันหลังกลับและเดินไปออกไปข้างนอก
นายพลผู้ทรงศักดิ์แต่กลับถูกทหารรับจ้างข่มขู่ดังนั้นหม่าเต๋อหงจึงไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขานั้นไม่กังวลความสัมพันธ์ระหว่างเย่เชียน,หวงฟู่ชิงเตี๋ยนและหูวหนานเจียงอีกต่อไปเพราะเขาต้องสั่งสอนบทเรียนให้กับเย่เชียนในวันนี้ไม่เช่นนั้นศักดิ์ศรีของทหารแห่งชาติของจีนจะเป็นอย่างไร? แบบนี้ประเทศจีนจะไม่ถูกรุกรานในอนาคตหรือ?
หม่าเต๋อหงตะโกนและทหารยามสองคนก็เล็งปืนไปที่เย่เชียนทันทีแล้วตะโกนว่า “หยุด..ถ้าขยับผมจะยิง!”
หม่าห่าวยู่ก็ถึงกับตกตะลึงและเป็นกังวลอย่างมากเพราะเย่เชียนเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้และเขาก็ชื่นชอบเย่เชียนมาก ดังนั้นเขาจะปล่อยให้ปู่ของเขาฆ่าเย่เชียนได้อย่างไร? เขารู้ดีว่าในที่แห่งนี้ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะถูกฆ่าตายแต่มันก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อยอยู่ดี “คุณปู่!..คุณปู่สอนให้ผมตอบแทนบุญคุณไม่ใช่เหรอ..แบบนี้คุณปู่จะฆ่าผู้มีพระคุณของผมได้ยัง?” หม่าห่าวยู่พูดอย่างเร่งรีบ
“หุบปาก!..เอ็งไม่มีสิทธิ์พูด!” หม่าเต๋อหงตะโกนและการแสดงออกของเขาก็ดูจริงจังมาก ซึ่งในครอบครัวนี้หม่าห่าวยู่เป็นมารตัวน้อยที่ไม่กลัวฟ้าดินแต่กลัวหม่าเต๋อหงผู้นี้อย่างมาก
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็หันกลับมาอย่างช้าๆและมองดูทหารยามสองคนที่จ่อปืนมาที่เขาและหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็เหลือบมองหม่าห่าวยู่และพูดว่า “ปู่ของเอ็งพูดถูก..นี่มันไม่ใช่เรื่องของเอ็งเพราะงั้นอย่าเข้ามายุ่ง” เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เชียนหม่าห่าวยู่ก็เหลือบมองไปที่หม่าเต๋อหงด้วยความขุ่นเคืองแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป
“ถึงแม้ว่าการป้องกันของที่นี่จะดูเข้มงวดมากแต่ถ้าผมต้องการจะออกจากที่นี่มันก็ไม่มีใครหยุดผมได้” เย่เชียนเหลือบมองไปที่ทหารยามทั้งสองแล้วพูดเบาๆ “คุณรู้มั้ยว่าผมเกลียดอะไรมากที่สุด?..ผมเกลียดคนที่จ่อปืนมาที่ผม..คนที่เคยทำแบบนี้ทุกคนไปลงนรกกันหมดแล้วเพราะงั้นพวกคุณอยากตามไปด้วยมั้ย?”
“หืม..ช่างเป็นชายหนุ่มที่หยิ่งผยองจริงๆ” หม่าเต๋อหงพูด “ผมล่ะอยากเห็นจริงๆว่าคุณมีความสามารถมากแค่ไหน..คนที่ถูกเรียกว่าผู้นำองค์กรทหารรับเขี้ยวฟันหมาป่าที่โด่งดังนั้นจะเป็นยังไง”
“มีบางสิ่งบางอย่างมันก็ลองไม่ได้หรอก..แต่ในเมื่อคุณต้องการแบบนั้นผมจะทำให้เห็นเอง..ไม่งั้นเดี๋ยวคุณจะทำตัวโออ่าและคิดว่าฉันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกกันพอดี..เอาล่ะตั้งใจดูให้ดีและจำใส่สมองเอาไว้” เมื่อเสียงของเย่เชียนจบลงร่างของเขาก็พุ่งออกไปในทันที
เห็นได้ชัดว่าทหารยามทั้งสองตระหนักดีว่ามีบางอย่างผิดปกติและพวกเขาก็ต้องการจะเหนี่ยวไกในทันที ส่วนหม่าห่าวยู่ก็หลับตาลงด้วยความสิ้นหวังและเกลียดมาเต๋อหงอย่างสุดซึ้ง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเกลียดตัวเองและโทษตัวเองว่าทำไมเขาถึงพาเย่เชียนมาที่นี่? ถ้าหากเขาไม่พาเย่เชียนมามันจะเกิดเรื่องแบบนี้กับเย่เชียนได้อย่างไร
แต่ทว่าฉากต่อไปต้องทำให้ทุกคนถึงกับประหลาดใจเพราะทุกคนไม่สามารถเห็นการเคลื่อนไหวของเย่เชียนได้เลยแต่อาวุธปืนในมือของทหารยามทั้งสองกลับถูกเย่เชียนปลดออกและจู่ๆก็มีสีแดงวาบและมีดคลื่นโลหิตในมือของเย่เชียนก็ถูกฟันออกไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเย่เชียนไม่ได้ทำอะไรที่โหดเหี้ยมและไม่ได้โจมตีที่เส้นเลือดใหญ่ของพวกเขาไม่เช่นนั้นชีวิตของพวกเขาจะต้องจบลงและไม่สามารถเป็นทหารได้อีกต่อไป
เห็นได้ชัดว่าหม่าเต๋อหงก็ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่งแต่เขาก็สามารถเห็นมีดในมือของเย่เชียนได้อย่างชัดเจน
ร่างกายของเย่เชียนก็หันกลับมาและใช้ฝ่ามือกระแทกคอของทหารยามทั้งสองอย่างรวดเร็วและทันทีที่ทหารยามทั้งสองหมดสติไปโดยไม่ได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งและการเคลื่อนไหวทั้งหมดสามารถจบลงได้ในครั้งเดียวซึ่งยอดเยี่ยมมาก
เมื่อหม่าห่าวยู่ลืมตาทุกอย่างก็จบลงแล้วและเขาก็มองดูทหารยามสองคนที่ล้มลงกับพื้นด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขาก็ตะโกนว่า “ใช่!..แบบนั้นแหละพี่ชายยอดเยี่ยมมาก..พี่ชายเป็นไอดอลของผม”
“คุณมีดเล่มนั้นมาจากไหน” หม่าเต๋อหงถามอย่างตรงๆไม่อ้อมค้อมเพราะเขากับตระกูลเย่และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาก ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วหลังจากที่เย่เจิ้งหรานเสียชีวิตไปและกริชเจ็ดมหัศจรรย์ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแต่ตอนนี้มันกลับมาปรากฏขึ้นในมือของเย่เชียนเช่นนี้ก็ทำให้เขางงงวยและประหลาดใจอย่างมาก ถึงแม้ว่าหลังจากที่เย่เจิ้งหรานเสียชีวิตลงหม่าเต๋อหงจะตำหนิเย่เจียอู๋และตัดขาดกับตระกูลเย่แล้วก็ตามแต่เขาก็ยังคงจับตาดูการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงของตระกูลเย่เสมอ
“แต่เดิมมันก็ต้องเป็นของผมและตอนนี้มันก็อยู่กับผมแล้ว..ดูเหมือนว่าผมไม่จำเป็นต้องตอบคำถามของคุณนะ” เย่เชียนพูดเบาๆ “โทษทีนะ..ลาก่อน” หลังจากพูดจบร่างของเย่เชียนก็พุ่งออกไปและหลังจากออกจากบ้านเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและการเคลื่อนที่และการกระโดดนั้นก็เร็วมากจนทหารเหล่านั้นไม่สามารถสังเกตได้เลย ซึ่งการกระทำเหล่านี้ของเย่เชียนเห็นได้ชัดว่าเหนือชั้นกว่าทหารเหล่านี้มาก
เย่เชียนรู้ดีว่าเมื่อมีการเคลื่อนไหวเช่นนี้เกิดขึ้นภายในทหารยามจำนวนมากก็จะมาถึงในไม่ช้าและไม่ว่าทักษะของเขาจะดีสักแค่ไหนแต่มือและเท้าเปล่าๆก็ยังยากนักที่จะสู้ปืนได้และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลบหนีไปได้อย่างสมบูรณ์แบบโดยรายล้อมไปด้วยทหารยามจำนวนมากพร้อมกระสุนจริง ซึ่งเขาคงไม่โง่พอที่จะนั่งนิ่งๆอยู่ที่นี่และถึงแม้ว่าเขาจะพูดถึงตัวตนของเขาไปแล้วแต่หม่าเต๋อหงก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดที่หยิ่งผยองและเย่เชียนก็ไม่ชอบชายชราคนนี้เอามากๆและเขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนเลย หม่าเต๋อหงนั้นเป็นคนหัวโบราณและเห็นแก่ตัวมากเกินไป
เมื่อมองไปที่สถานที่ที่เย่เชียนหายตัวไปคิ้วของหม่าเต๋อหงก็ขมวดเข้าหากันแน่นเพราะนี่เป็นพรสวรรค์ที่หายากจริงๆแต่เย่เชียนนั้นไม่ง่ายเลยที่จะควบคุมและคนเช่นนี้ก็จะไม่มีทางที่จะซื้อด้วยชื่อเสียงและโชคลาภจนหม่าเต๋อหงรู้สึกว่าการปล่อยบุคคลดังกล่าวเอาไว้ในประเทศจีนจะเป็นภัยคุกคามต่อประเทศอย่างมากจนเขาแอบคิดในใจว่าเขาจะต้องไปคุยกับใครสักคนเพื่อกำจัดเย่เชียนคนนี้
“ยอดเยี่ยมมาก..เห็นมั้ยคุณปู่ดูสิลูกน้องของคุณปู่อ่อนแอเกินไป..พี่ชายคือทหารตัวจริง” หม่าห่าวยู่พูดอย่างภาคภูมิใจ
“เอ็งรู้มั้ยว่าทหารคืออะไร..หืม..เอ็งอยากจะเป็นทหารกับคนที่ไม่เข้าใจเรื่องความรักชาติเลยด้วยซ้ำ?” หม่าเต๋อหงตะโกนเสียงดัง
หม่าห่าวยู่ก็ทำหน้าบึ้งเล็กน้อยและพูดว่า “แต่ผมคิดว่าเขาแข็งแกร่งกว่าลูกน้องของคุณปู่มาก..ต่อให้เป็นหน่วยพิทักษ์มังกรก็เถอะแต่พวกเขาคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่ชายเลย”
“ยังจะพูดอีก!..การอยู่กับคนแบบนั้นมีแต่จะทำให้อนาคตของเอ็งพังทลาย” หม่าเต๋อหงตะโกนเสียงดังจนหม่าเต๋อหงเม้มปากแน่นและไม่พูดอะไร
หม่าเต๋อหงก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆและดูเหมือนว่าจำเป็นจะต้องติดต่อไปหาเย่เจียอู๋เพราะเมื่อกริชเล่มนี้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ผู้คนในตระกูลเย่ก็ควรจะมีสิทธิ์รับรู้