ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 849 หมาป่าตื่นขึ้นแล้ว
ตอนที่ 849 หมาป่าตื่นขึ้นแล้ว
แดนนี่บอลล์เป็นอาชญากรอันดับต้นๆของโลกที่เป็นที่ต้องการตัวในระดับสากลซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าอาวุธที่ผิดกฎหมายและเขาก็มีกองทัพที่ทรงพลังจนทำให้หลายๆประเทศต้องสูญเสียนับไม่ถ้วน เมื่อไม่กี่วันก่อนแดนนี่บอลล์ได้นำกองทหารของเขาไปยังลิเบียเพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงด้านอาวุธกับกลุ่มติดอาวุธในท้องถิ่นและตำรวจลิเบียก็ได้ส่งตำรวจกับทหารจำนวนมากเพื่อต่อต้านพวกเขาจนพวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักและในที่สุดพวกเขาก็ต้องหลบหนีข้ามประเทศไป
ด้วยความสิ้นหวังตำรวจลิเบียจึงต้องว่าจ้างองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเพื่อช่วยพวกเขาจับตัวแดนนี่บอลล์
หลังจากที่เครื่องบินลงจอดที่สนามบินตริโปลีเมืองหลวงของประเทศลิเบียแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นก็พาพวกเขาไปยังเมืองเบงกาซีโดยตรงลิเบียเป็นประเทศทะเลทรายและมากกว่า 95% ของพื้นที่ทั้งหมดเป็นทะเลทรายและกึ่งทะเลทราย ซึ่งมีทรัพยากรน้ำมันที่อุดมสมบูรณ์และเนื่องจากการผลิตน้ำมันที่อุดมสมบูรณ์จึงเป็นประเทศการค้าที่สำคัญของประเทศต่างๆในยุโรปและมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างคนรวยและคนจนในประเทศ
รถก็มาจอดที่ค่ายทหารเฉพาะกิจในเมืองเบงกาซี “นี่เป็นแคมป์ชั่วคราวของเรา..ได้โปรดมากับพวกเราด้วยเดี๋ยวจะมีคนอธิบายรายละเอียดให้พวกคุณฟัง” เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลในการต้อนรับพูด
“ขอบคุณ!” ไป๋ฮวยพูดพร้อมพยักหน้า
ถนนที่นี่เป็นหลุมเป็นบ่อซึ่งต้องข้ามทะเลทรายแห่งนี้จนกว่าจะถึงค่ายซึ่งมันทำให้เย่เชียนดูเหมือนจะอยู่ในโลกใหม่อีกใบหนึ่งและหลังจากเดินทางมาหลายวันเย่เชียนก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ซึ่งเขาไม่ได้หลับสบายตลอดทางและร่างกายของเขาก็ปรับตัวได้ไม่เต็มที่จนเขาไม่รู้เลยว่าเขาอาเจียนไปกี่ครั้งแล้ว
เมื่อเข้าไปในเต็นท์แล้วก็มีคนอยู่ประมาณหนึ่งโหลซึ่งทุกคนเป็นทหารติดอาวุธครบมือและมีแผนที่ขนาดใหญ่ติดอยู่บนผนัง และรายละเอียดบนนั้นก็ชัดเจนมาก “รายงานครับท่าน!..ทีมทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ามาถึงแล้ว!” เจ้าหน้าที่ต้อนรับพูด
ทหารที่ยืนอยู่ข้างๆแผนที่ก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วหันกลับมาอย่างช้าๆและมองทุกคน ซึ่งรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขาและพูดว่า “แบบนี้เรียกว่าทหารอย่างงั้นเหรอ” ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างกายของเย่เชียนซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการดูถูกเหยียดหยามเย่เชียน
เย่เชียนก็ผงะไปครู่หนึ่งและพยายามจะสะกิดแขนของไป๋ฮวยแต่เขาไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าคนอื่นเพราะอารมณ์ส่วนตัวของเขาเอง อย่างไรก็ตามไป๋ฮวยก็ยิ้มอย่างเฉยเมยและเหลือบมองไปที่เย่เชียนจากนั้นจ้องไปที่ชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและพูดอย่างช้าๆว่า “พวกคุณไม่สามารถจัดการกับแดนนี่บอลล์ได้เพราะงั้นพวกคุณจึงร้องขอให้พวกผมมาช่วยไม่ใช่เหรอ? ”
ในดวงตาของทหารคนนั้นมีความโกรธเล็กน้อยและเขาก็พูดอย่างเย็นชาว่า “หืม..ถึงยังไงพวกมันก็หนีไม่พ้นฝ่ามือผมหรอก..ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมรัฐบาลถึงขอให้พวกคุณเข้ามาแทรกแซงเพราะเรื่องแค่นี้พวกเราทำกันเองได้”
“มันจะเป็นแบบที่คุณพูดจริงๆเหรอ?” ไจแอนท์พูด “ผมคิดว่าพวกคุณเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าแดนนี่บอลล์นั้นร้ายกาจแค่ไหน..ไม่อย่างนั้นพวกคุณคงจะไม่เสียคนไปตั้งมากมายแต่พวกคุณก็ยังทำอะไรไม่ได้แบบนี้หรอก”
“หืม..ผมไม่เชื่อว่าทหารรับจ้างจะแข็งแกร่งและมีความสามารถมากกว่าทหารของกองทัพแห่งชาติอย่างพวกเราหรอก” นายทหารพูด “ผมล่ะอยากเห็นจริงๆว่าทหารรับจ้างมีอะไรดี”
“ถ้างั้นก็ต้องมาลองกันสักหน่อย” ไจแอนท์พูดอย่างภาคภูมิใจเพราะสำหรับเขาแล้วความยิ่งใหญ่ของเขี้ยวหมาป่านั้นไม่อาจถูกมองข้ามและหมิ่นประมาทได้ ดังนั้นการยั่วยุซ้ำๆของอีกฝ่ายเช่นนี้ไจแอนท์จะยอมรับได้อย่างไรไม่เช่นนั้นจะไม่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นหากเขาไม่แสดงความสามารถให้คนกลุ่มนี้เห็นจริงๆล่ะก็เกรงว่าการร่วมมือกันในอนาคตคงจะยากขึ้น
“ลองอะไร” นายทหารถาม
“ไม่ว่าจะเป็นทักษะการยิงปืนหรือการต่อสู้ก็ได้หมด..แล้วแต่พวกคุณเลย” ไจแอนท์พูดอย่างมั่นใจ
“แข่งยิงปืนก็แล้วกันเพราะพวกคุณคงจะไม่เคยอยู่ท่ามกลางสนามรบมาก่อนเพราะงั้นการต่อสู้มันคงจะไม่เท่าเทียมกันสักเท่าไหร่” นายทหารพูดอย่างมั่นใจ
“เนื่องจากเป็นการแข่งขันเพราะงั้นมันก็ควรจะมีการเดิมพัน..พวกคุณกล้าเดิมพันหรือเปล่า” ไจแอนท์พูด
“ถึงยังไงพวกคุณก็ต้องแพ้อยู่ดีแล้วผมจะไปกลัวอะไร..พนันก็พนันว่ามาเลย” นายทหารพูด
“มันง่ายมากถ้าพวกผมแพ้คุณจะสั่งหรือจะขออะไรก็ได้..แต่ถ้าหากพวกคุณแพ้พวกคุณต้องฟังพวกเราและคุณต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเราในทุกกรณี” ไจแอนท์พูด
“ได้!..ไม่มีปัญหา” นายทหารพูดอย่างมั่นใจ “มาเลย..รวบรวมทุกคนแล้วมาดูกันว่าพวกเขี้ยวหมาป่าจะมีความสามารถขนาดไหนกัน”
ไจแอนท์ก็หันไปมองเย่เชียนและถาม “เป็นไงนายมีปัญหาอะไรมั้ย?”
เย่เชียนก็ส่ายหัวเล็กน้อยและพูดว่า “ก็ดีมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร”
“กัปตัน..ให้ฉันทำเถอะฉันทนไม่ไหวกับไอ้พวกเย่อหยิ่งพวกนี้จริงๆ..ตอนที่พวกเราออกรบกันพวกเขายังนั่งดูดนมแม่อยู่เลยมั้ง” ไจแอนท์พูด
“ไม่!” ไป๋ฮวยปฏิเสธและพูดว่า “เย่เชียนต้องเป็นคนรับมือกับการประลองในครั้งนี้เพราะเขาเสียหน้าและเขาก็ต้องกู้คืนศักดิ์ศรีด้วยตัวของเขาเอง”
“จริงเหรอ?” อู๋เต๋อพูด “ไป๋ฮวยนายไม่ได้กำลังล้อฉันเล่นใช่มั้ย?..เขาจะทำได้เหรอและถ้าพวกเราแพ้เราจะไม่เสียหน้าหรือไง?..ฉันคัดค้านนายให้ไจแอนท์ไปแข่งเถอะ”
“ถ้านายไม่เชื่อในพี่น้องของตัวเองแล้วนายจะไปเชื่อใครได้อีก..เราเป็นพี่น้องที่อาศัยและตายร่วมกันเพราะงั้นเราต้องเชื่อในตัวของเย่เชียนและเชื่อว่าเขาทำได้..เขาต้องผ่านการทดสอบนี้ไม่งั้นเขาก็คงจะทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว” ไป๋ฮวยพูดอย่างหนักแน่น
จากนั้นไป๋ฮวยก็หันไปมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “นายมั่นใจมั้ย?..อันที่จริงนายไม่จำเป็นต้องกดดันอะไรเลยเพราะการจัดการกับพวกเขานั้นไม่ยากและตราบใดที่นายแสดงสิ่งที่นายเคยฝึกมานายก็สามารถชนะพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ”
เย่เชียนก็พยักหน้าอย่างหนักและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลหรอกผมจะไม่ทำให้เขี้ยวหมาป่าต้องอับอาย”
“เยี่ยมมาก!” ไจแอนท์พูด “เย่เชียนไปสอนบทเรียนให้พวกเขาซะ..นายจะทำยังไงก็ได้ขอแค่ไม่ฆ่าพวกเขาก็พอ”
“เดี๋ยวก่อนฉันขอค้าน..ฉันไม่เห็นด้วย!” อู๋เต๋อส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“ตอนนี้ฉันเป็นกัปตันทีมและทุกคนจะต้องทำตามที่ฉันบอก!” ไป๋ฮวยพูดอย่างเคร่งขรึมโดยไม่มีที่ว่างสำหรับการโต้แย้งเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ไป๋ฮวยได้พูดอย่างนั้นแล้วและดึงเอาตัวตนของกัปตันทีมออกมาอ้างดังนั้นถึงแม้ว่าอู๋เต๋อจะค้านอีกครั้งแต่เขาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกเพราะทหารต้องเชื่อฟังคำสั่งของผู้บัญชาการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ไหนใครจะเป็นคนออกมาแข่ง?” นายทหารถามด้วยท่าทางที่ดูถูกและหลังจากมองดูพวกเย่เชียนแล้วในความเห็นของเขาทหารรับจ้างเหล่านี้เป็นเพียงกลุ่มคนที่สิ้นหวังและพวกเขาก็ไม่ได้มีทักษะที่แท้จริงมากนักและเขาก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ใครก็ตามที่ออกมาก็ไม่ต่างกัน
“ผม!” เย่เชียนก้าวออกมาข้างหน้าสองสามก้าวแล้วพูด
ดวงตาของนายทหารชื่อเบรนเดนก็จ้องมองไปที่ร่างกายของเย่เชียนและรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็มากกว่าเดิม ตอนนี้เย่เชียนก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าเบรนเดนดูถูกเขาจนเจตนาฆ่าที่รุนแรงภายในดวงตาของเย่เชียนเริ่มเปิดเผยออกมา เมื่อไป๋ฮวยเห็นเช่นนี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มที่มุมปากเพราะแบบนี้เหมือนสันชาตตยานหมาป่าในตัวของเย่เชียนจะตื่นขึ้นแล้ว
“การปิดปากคนและทำให้เขาหัวเราะไม่ได้อีกนั่นก็คือการถอนฟันของเขาออกที่ละซี่” ดวงตาของเย่เชียนเป็นประกายไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงและเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
มีรอยยิ้มอยู่ที่มุมปากของไจแอนท์ส่วนเจสันที่อยู่ด้านข้างก็ตกใจเพราะหลายปีที่ผ่านมาในเขี้ยวหมาป่าเย่เชียนนั้นเป็นเพียงเด็กน้อยในสายตาของพวกเขาแต่ตอนนี้คำพูดของเย่เชียนถึงกับทำให้พวกเขาต้องประหลาดใจจริงๆ แต่พวกเขาก็โล่งใจเพราะอย่างน้อยเย่เชียนก็เติบโตขึ้นแล้วจริงๆ
นอกเต็นท์บัญชาการทุกคนก็มารวมตัวกันและเบรนเดนก็ชำเลืองมองทุกคนแล้วพูดว่า “ให้ผมแนะนำทุกคน..ทั้งหกคนนี้เป็นสมาชิกทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่ถูกส่งมาเพื่อช่วยเราจับแดนนี่บอลล์และพวกเขาทั้งหมดแข็งแกร่งมากและพวกเราก็เทียบกับพวกเขาไม่ได้ไม่อย่างนั้นหัวหน้าของเราคงไม่ขอให้พวกเขามาช่วยหรอกใช่มั้ย?” คำพูดของเบรนเดนเต็มไปด้วยการยั่วยุจงใจปลุกระดมอารมณ์ของผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
“ตอนนี้สมาชิกเขี้ยวหมาป่าต้องการประลองวัดฝีมือกับพวกเราและฝ่ายที่ชนะก็สามารถเป็นผู้บัญชาการของภารกิจนี้ได้..ศักดิ์ศรีของทั้งสองฝ่ายขึ้นอยู่กับการดวลครั้งนี้” เบรนเดนยังคงพูดเพื่อเติมเชื้อไฟต่อไป
“ฆ่าพวกเขาซะ!..ฆ่าพวกเขาซะ!” เหล่าทหารตะโกนพร้อมๆกันและเบรนเดนก็เพิ่มความโกรธในใจของพวกเขาได้สำเร็จ เหล่าทหารภูมิใจที่มีบูชาที่แข็งแกร่งและไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ ซึ่งการที่งานสำคัญเช่นนี้ถูกส่งมอบให้กับคนอื่นเดิมทีภายในใจของพวกเขาก็ลุกโชนไปด้วยไฟอยู่แล้วและตอนนี้พวกเขาก็มาทายอีกซึ่งมันเกินกว่าจะอดทนไหว
ไป๋ฮวยก็หันไปมองเย่เชียนและพูดว่า “สุนัขที่เห่าเก่งมันก็ได้แต่เห่าเท่านั้นไม่กัดหรอก..ไม่ต้องกลัวไปฉันเชื่อนาย”
เย่เชียนก็พยักหน้าอย่างหนักหน่วงและความตั้งใจในการต่อสู้ในดวงตาของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น
“แอชบี้ออกไป!” เสียงของเบรนเดนดังขึ้นและชายหนุ่มที่สูงประมาณสองเมตรก็ยืนขึ้นและยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆราวกับภูเขา ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกกดดันอย่างหาที่เปรียบมิได้และเขาเป็นทหารที่เชี่ยวชาญการต่อสู้อันดับหนึ่งของที่นี่ ถึงแม้ว่าเบรนเดนจะดูถูกเขี้ยวหมาป่าก็ตามแต่เขาก็ไม่สามารถประมาทและแพ้ได้ ดังนั้นเพื่อที่จะชนะเขาต้องไม่ประมาทและต้องใช้ข้อได้เปรียบและคนที่แข็งแกร่งที่สุดตัวในการแข่งขันและเขาไม่โง่พอที่จะเลือกคนที่แย่ที่สุดเพื่อไปดวลกับคนที่แย่ที่สุดของฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน
“กดดันมั้ย?” ไป๋ฮวยเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูด “จริงๆแล้วศัตรูยิ่งตัวใหญ่เท่าไหร่การเคลื่อนไหวของเขาก็จะช้าลงมากเท่าขึ้นนั้น..ทักษะการต่อสู้ของพวกต่างชาติค่อนข้างที่จะเน้นไปที่ช่วงบนเพราะงั้นพวกเขามักจะไม่ได้ฝึกซ้อมช่วงล่างนัก..ตราบใดที่นายโจมตีส่วนล่างนายก็จะชนะได้ง่ายๆ”
ดวงตาของเย่เชียนก็เปล่งประกายไปด้วยความมุ่งมั่นและความอุตสาหะที่แตกต่างจากในอดีตและพูดว่า “ผมจะเหยียบย่ำเขาด้วยเท้าของผมเอง”
ไป๋ฮ่วยก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งจากนั้นก็เหลือบมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจจากนั้นก็ฉีกยิ้มและไม่พูดอะไร
มาเริ่มกันเลย!