ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 852 มุ่งสู่ทะเลทราย
ตอนที่ 852 มุ่งสู่ทะเลทราย
ทะเลทรายลิเบียเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาเหนือซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลทรายซาฮารา รวมทั้งอียิปต์ตอนกลางและตะวันตกและลิเบียตะวันออก ทะเลทรายลิเบียเป็นที่ราบสูงที่ลาดจากใต้สู่เหนือและมีความสูง 350 ถึง 500 เมตรในทิศใต้ ส่วนในทิศเหนือมีความสูงประมาณ 150 ถึง 250 เมตร ยิ่งไปกว่สนั้นยังมีภูมิประเทศที่สูงที่สุดด้วยระดับความสูงถึง 1,800 เมตร
ทะเลทรายลิเบียมีธรณีสัณฐานที่แห้งแล้งหลายประเภทซึ่งประกอบด้วยทะเลทรายหิน,ทะเลทรายกรวดและทะเลทรายราบ ซึ่งทะเลทรายที่เย่เชียนและคนอื่นๆ ไปเยือนนั้นเป็นทะเลทรายราบขนาดใหญ่ซึ่งประกอบด้วยเนินทรายที่ซับซ้อนที่มีลักษณะหลากหลายรวมถึงเนินทรายสูง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ขนาดใหญ่ของโอเอซิสและที่ราบ
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากจัดกระเป๋าเดินทางเตรียมอาวุธและกระสุนรวมทั้งอาหารแห้งและน้ำดื่มแล้ว พวกเขาก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์โดยตรงจากค่ายไปยังทางเข้าทะเลทราย ซึ่งภารกิจครั้งนี้ถือเป็นปฏิบัติการครั้งสำคัญขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า ซึ่งแดนนี่บอลล์นั้นมีชื่อเสียงมากในโลกของทหารรับจ้างดังนั้นหากเอาชนะได้สำเร็จองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะหลุดออกจากองค์กรทหารรับจ้างระดับกลางไปเป็นทหารรับจ้างอันดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นภารกิจในครั้งนี้จึงเป็นการต่อสู้ที่สำคัญและไม่สามารถพ่ายแพ้ได้เลย
“เป็นยังไงบ้างนายประหม่าหรือเปล่า” บนเฮลิคอปเตอร์ไป๋ฮวยเหลือบมองที่เย่เชียนและถาม
“ทะเลทราย..นายรู้หรือเปล่าว่ามันคืออะไร? ..นายเคยดูหนังสัตว์ประหลาดในทะเลทรายพวกนั้นบ้างมั้ย? ..นั่นแหละในนั้นมันอันตรายเหมือนในหนังจริงๆ ..เพราะงั้นระวังตัวเอาไว้” ไจแอนท์พูดด้วยท่าทางสยดสยอง
“ใช่..มันมีพายุทอร์นาโดและพายุทรายด้วย..เมื่อพวกมันมาเราจะไม่สามารถต้านทานได้เลย” อู๋เต๋อพูดเสริม
“เอาล่ะเลิกล้อเล่นกันได้แล้ว” ไป๋ฮวยจ้องมองพวกเขาด้วยความโกรธเล็กน้อยและพูด จากนั้นเขาก็เหลือบมองเย่เชียนและพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอก..มันไม่ได้น่ากลัวอย่างนั้น”
เย่เชียนก็พยักหน้าอย่างหนักหน่วงและพูดว่า “จริงๆ แล้วตื่นเต้นมากเพราะตอนที่ผมยังเด็กผมยังคิดที่จะไปเที่ยวที่ทะเลทรายเพื่อฝึกการเอาตัวรอดด้วยการเดินเท้าและในที่สุดผมก็มีโอกาสได้ทำแล้ว”
ไป๋ฮวยและคนอื่นๆ ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปชั่วขณะเพราะเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดและอธิบายไม่ได้เล็กน้อย เมื่อคืนนี้เย่เชียนได้กระจ่างแจ้งว่าจริงๆ แล้วชีวิตของผู้คนไม่สามารถตัดสินได้ด้วยตัวเองแล้วทำไมพวกเขาถึงต้องกลัว? บางครั้งถึงกลัวก็ไม่ช่วยอะไรสู้เผชิญหน้ากับมันเสียยังดีกว่า ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขาเข้ามาในองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าแล้วเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่โหดร้าย เมื่อคิดถึงวันที่เขาเป็นขอทานบนท้องถนนและถูกขับไล่เหมือนสุนัขแล้วเย่เชียนก็รู้สึกหดหู่มาก ดังนั้นเขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองและทำให้ทุกคนหันมามองที่เขาให้ได้
เมื่อเฮลิคอปเตอร์จอดทุกคนก็เดินออกจากเครื่องและมองดูทะเลทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุดข้างหน้าและพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่นในใจเพราะความจริงแล้วไม่มีใครไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับทะเลทราย แม้แต่นักธุรกิจที่เดินทางผ่านทะเลทรายอยู่บ่อยครั้งแต่ทุกๆ ครั้งที่พวกเขาเห็นทะเลทรายพวกเขาก็มักจะรู้สึกหวาดกลัวในใจเสมอ
ด้านล่างมีรถวิบากมากมายและอูฐสองสามตัวและทั้งหมดถูกจัดเตรียมโดยเบรนเดนตามคำสั่งของเบื้องบน การเดินทางในทะเลทรายนั้นการมีอูฐก็ดีกว่าพาหนะอื่นๆ เสมอ
“ตอนนี้ผมไม่เห็นด้วยกับคำพูดของคุณและผมก็ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าคนของแดนนี่บอลล์อยู่แถวๆ บริเวณนั้นและถึงแม้จะอยู่ในนั้นผมก็สงสัยจริงๆ ว่าพวกคุณรู้ได้ยังไงว่าพวกมันอยู่ทิศไหน” เบรนเดนพูด
ไป๋ฮวยก็ฉีกยิ้มเล็กน้อยและเหลือบมองไปยังไจแอนท์ที่อยู่ข้างๆ แล้วพูดว่า “พวกเรามีคนที่เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่และตราบใดที่มีเบาะแสเพียงแค่เล็กน้อยเราก็สามารถหาพวกมันเจอได้..คุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้หรอกแค่ทำตามพวกผมและแผนการเท่านั้น”
เบรนแดนไม่รู้จริงๆ ว่าพวกเขามีความสามารถแบบไหนถึงจะมั่นใจได้ขนาดนี้ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้เพราะมันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากแผนเดิมของเขามากนัก ตราบใดที่เขาพบร่องรอยของแดนนี่บอลล์ที่อื่นได้สำเร็จถึงยังไงความดีความชอบและผลงานก็ยังเป็นของเขาอยู่ดี
เย่เชียนก็เอาสัมภาระของเขาผูกเอาไว้กับอูฐและจู่ๆ ไจแอนท์ก็พูดขึ้นมาว่า “เราควรจจะแบกมันเอาไว้บนหลัง” เย่เชียนก็ถึงกับตกตะลึงและไม่แน่ใจว่าทำไม “ซึ่งในทะเลทรายเราจะเผชิญกับอันตรายตลอดเวลาและเราต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้กับตัวเราเองเพราะถ้าอูฐหายไปอย่างน้อยๆ ของก็ยังอยู่กับเราไม่หายไปไหนด้วย” ไป๋ฮวยพูดอย่างจริงจัง
จากนั้นเย่เชียนก็หันไปมองไป๋ฮวยและเมื่อเห็นคนหลังพยักหน้าให้เขาเย่เชียนก็แบกสัมภาระใส่หลังของเขาอีกครั้ง
หลังจากบอกลาเบรนเดนแล้วสมาชิกเขี้ยวหมาป่าทั้งห้าคนก็พาอูฐเข้าไปในทะเลทราย สมาชิกเหล่านี้ได้แก่ไจแอนท์,อู๋เต๋อ,เจสัน,ไป๋ฮวยและเย่เชียน เมื่อมองแวบเดียวก็มีทะเลทรายกว้างใหญ่ปราศจากภัยอันตรายตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้า จากนั้นทั้งห้าคนก็เดินตรงไปยังโอเอซิสตามการคาดการณ์ของไจแอนท์แดนนี่บอลล์นั้นเป็นจ้าวแห่งสงครามทะเลทรายดังนั้นเขาต้องรู้ว่าโอเอซิสมีอยู่จริงและเขาจะไปที่นั่นอย่างแน่นอน
รอยเท้าที่เหลืออยู่ในทะเลทรายถูกลมพัดปลิวไปอย่างรวดเร็วและไม่มีวี่แววใดๆ หลงเหลือยู่เลย ในตอนเช้าก็ดีขึ้นเล็กน้อยแต่ตอนเที่ยงและตอนบ่ายเห็นได้ชัดว่าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างมากและอุณหภูมิก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ประมาณห้าสิบองศาในขณะที่อุณหภูมิอาจสูงถึงเจ็ดสิบองศา ถึงแม้จะสวมรองเท้าเดินบนทรายแต่มันก็ยังรู้สึกร้อนได้อย่างชัดเจนและความชื้นในร่างกายของพวกเขาระเหยออกมาอยู่ตลอดเวลาจนเหงื่อออกตามร่างกายเรื่อยๆ
“แดนนี่บอลล์ฉันต้องถลกหนังของมันออกเมื่อเจอมัน” ไจแอนท์อดไม่ได้ที่จะบ่นและใช้ผ้าคลุมหน้าคลุมปากไปด้วย เหงื่อบนใบหน้าของเขาระเหยไปครั้งแล้วครั้งเหล่าและมันก็ไหลออกมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
“พูดให้น้อยลงเราจะต้องรักษากำลังเราจะได้ไม่กระหายน้ำ” ไจแอนท์พูด แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากก็ยังแห้งและแตกออกเป็นแผลอย่างสาหัสและถ้าหากอ้าปากเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของผิวหนังที่ริมฝีปากที่ฉีกขาด “ลองดูว่ามีอะไรอยู่บนพื้นบ้างหรือเปล่า..อาจจะเป็นของพวกแดนนี่บอลล์” อู๋เต๋อพูด
“เฮ้ยดูนี่สิพวก!” เจสันหยิบชิ้นส่วนของบาซูก้าขึ้นมาจากพื้นและยื่นมันออกมาแล้วพูด
“ดูเหมือนว่าเราไม่ได้มาผิดทาง..ถ้าฉันเดาถูกเราน่าจะเจอพายุทอร์นาโดเร็วๆ นี้..ฉันเคยเจอมันในทะเลทรายและพลังของพายุทอร์นาโดนั้นร้ายแรงมากและสามารถฉีกอะไรก็ได้เป็นชิ้นๆ ..บาซูก้าพวกนี้น่าจะโดนพายุทอร์นาโดทำลาย” ไจแอนท์เหลือบมองแล้วพูดว่า “เอาล่ะไปกันเลย”
“ไม่คิดว่าแดนนี่บอลล์และคนอื่นๆ ถูกพายุทอร์นาโดพัดถล่มไปแล้วบ้างเหรอ..ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็เหมือนเดินไปรอบๆ อย่างไร้ประโยชน์ไม่ใช่เหรอ?” อู๋เต๋อพูด
“แดนนี่บอลล์เป็นจ้าวแห่งสงครามในทะเลทรายเพราะงั้นมันไม่ควรจะตายง่ายขนาดนั้น..นอกจากนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าพวกมันตายแล้ว..เราต้องเดินหน้าต่อไป” ไป๋ฮวยพูด
“ขอให้อย่าเป็นแบบนั้นเลยเพราะถ้าพวกมันตายในทะเลทรายเราก็ไม่รู้เลยว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง..ฉันไม่ต้องการให้ใครมาบอกว่าเรามีชื่อเสียงจอมปลอม” อู๋เต๋อพึมพำ
“เอาล่ะอย่าเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลยเรารีบไปกันเถอะ..เดี๋ยวมันจะมืดแล้วและอุณหภูมิในทะเลทรายตอนกลางคืนก็ต่ำมาก อุณหภูมิต่ำสุดอาจถึงศูนย์องศาซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่” ไจแอนท์พูด
“เป็นไงบ้าง..ไหวมั้ย?” ไป๋ฮวยเหลือบมองไปที่เย่เชียนและถาม
“ไม่เป็นไรผมทนได้” เย่เชียนพยักหน้าและพูด
“นี่แค่วันแรกนะถ้านายทนไม่ไหวนายก็คงจะไม่รอด..น้องชายนายจะไม่เป็นอะไรเพราะฉันจะนอนกอดนายในอ้อมแขนของฉันในตอนกลางคืนนายจะได้อบอุ่น” ไจแอนท์พูด “มองอะไรของนายฉันเป็นผู้ชายแท้ๆ อย่ามองผมด้วยตาสกปรกของคุณ”
เย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “จริงๆ แล้วผมมองว่าคุณเป็นแบบนั้นมาตลอดเพราะถึงแม้ว่าคุณจะดูสูงและแข็งแรงแต่ผมก็รู้สึกว่าคุณเป็นคนอ่อนโยนมาเสมอ”
“ไอ้บ้านี่ใครเขาพูดอย่างนั้นกัน..อาวุธของฉันไม่ธรรมดาเลยนะถ้าไม่เชื่อฉันจะให้นายลองชิมดู” ไจแอนท์พูดหยอกล้ออย่างเกรี้ยวกราด
อันที่จริงเย่เชียนก็ชัดเจนมากว่าถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะรู้สึกว่าตัวเองมีภาระแต่พี่น้องทุกคนก็เป็นห่วงเขาอย่างมาก แต่บางครั้งการแสดงออกของผู้ชายมักจะไม่ได้ตรงไปตรงมานักโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทหารรับจ้างเหล่านี้เพราะกลัวว่าจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะหากพวกเขาเป็นคนที่คอยเป็นห่วงและดูแลเอาใจใส่ผู้อื่นมากเกินไปจนเสียนิสัยและนี่ก็เป็นเรื่องจริงโดยธรรมชาติ
วันแรกผ่านไปอย่างสงบสุขยกเว้นเย่เชียนที่รู้สึกว่าทะเลทรายนั้นโหดร้ายกว่าสภาพแวดล้อมภายนอกเล็กน้อย แต่เขาไม่รู้สึกถึงอันตรายอื่นใดเพราะภายใต้แผนปฏิบัติการของไจแอนท์แล้วทุกคนก็หาจุดที่เหมาะสมตั้งเต็นท์ของพวกเขาและอูฐก็ถูกมัดเอาไว้อย่างดี ซึ่งหลังจากรับประทานอาหารเย็นง่ายๆ ทุกคนก็เริ่มพูดคุยกันถึงประเด็นต่างๆ เช่นการเดินทางในวันพรุ่งนี้และทิศทางของการค้นหา ส่วนอาหารก็เป็นแค่บิสกิตอัดแท่งและค่อนข้างแห้งแต่ก็อิ่มมาก
“ทุกคนผลัดกันเฝ้ายามกลางคืน..ไจแอนท์นายร่างกำยำที่สุดและความร้อนในร่างกายก็ค่อนข้างสูงกว่าคนอื่นเพราะงั้นนายเฝ้าตอนช่วงเช้าตรู่ก็แล้ว” ไป๋ฮวยสั่ง
“ไม่มีปัญหา” ไจแอนท์พยักหน้าและตกลงและเวลาเช้าตรู่เป็นเวลาที่หนาวที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยและการเฝ้าระวังในเวลานี้ไม่ใช่งานที่ง่ายเลย
“ห่มผ้าห่มให้หนาๆ และพรุ่งนี้ก็อย่าตื่นสาย..ฉันไม่อยากเห็นน้องชายของพวกนายแข็งเป็นท่อนไม้” อู๋เต๋อพูดด้วยรอยยิ้ม
“นอนกันได้แล้วตอนนี้อากาศอุ่นกำลังดี” เจสันพูด
คำพูดของเจสันนั้นถูกต้องเพราะกลางคืนในทะเลทรายนี้แทบจะเหมือนกับตอนกลางวันและบางวันก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าตอนไหนจะร้อนตอนไหนจะหนาวแต่ทว่ากลางคืนนั้นส่วนมากจะหนาวและดูเหมือนว่าอุณหภูมิจะต่ำสุดถึง 1 องศาซึ่งหนาวมากและทำให้คนสั่นเทา ถึงแม้ว่าทุกคนจะนอนด้วยกันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวประหนึ่งร้อนประหนึ่งเย็นไปพร้อมๆ กันและเป็นการทดสอบครั้งยิ่งใหญ่ของร่างกายมนุษย์ ไป๋ฮวยนั้นกอดเย่เชียนเอาไว้แน่นและใช้อุณหภูมิร่างกายของเขาเพื่อทำให้เย่เชียนอบอุ่น