ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 854 ใครจะอยู่ใครจะตาย
ตอนที่ 854 ใครจะอยู่ใครจะตาย
“มาสิวะไอ้พายุทอร์นาโด!” ไจแอนท์กัดฟันพูดแต่เขาก็ยังพยายามจะหนีเพราะท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้โง่ขนาดที่จะยอมตายเช่นนี้หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขากำลังมองหาความตายเพื่อต่อสู้กับพายุทอร์นาโดด้วยชีวิตเล็กๆของเขาเอง
ดูเหมือนพระเจ้าจะเข้าข้างพวกเขาเพราะในวินาทีสุดท้ายเมื่อทุกคนรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายกำลังจะถูกดูดเข้าไปจู่ๆพายุทอร์นาโดก็เปลี่ยนทิศทางและพัดหายไปในอีกทิศทางหนึ่ง ทั้งทรายและฝุ่นที่ม้วนตัวขึ้นจนปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าและบดบังดวงอาทิตย์ราวกับว่าเม็ดทรายกำลังตกลงมาเหมือนกับฝน
เมื่อปราศจากภัยคุกคามจากความตายแล้วทุกคนก็สูญเสียพละกำลังและทันใดนั้นก็นั่งลงบนพื้นพร้อมกับหอบเฮือกอย่างหมดแรง
“ทุกคนตรวจเช็คสัมภาระทั้งหมด!” อู๋เต๋อพูดไปหอบไป “มันอันตรายจริงๆเราเกือบจะตายไปแล้ว..ฉันเพิ่งรู้ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าธรรมชาติที่โหดร้ายแบบนี้และมันกำลังจะลงโทษพวกเราแล้วเราไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ได้เลย”
“เวรเอ๊ย!..ฉันทำน้ำหาย” ไจแอนท์ตะโกน “ฉันมั่นใจว่าฉันไม่ได้ทิ้งน้ำไปนะแล้วมันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย”
“แล้วพวกนายล่ะ?” อู๋เต๋อถามต่อหลังจากเหลือบมองไปที่คนอื่นๆ
“น้ำกับอาหารและอาวุธอยู่ครบแต่อย่างอื่นฉันทิ้งไปหมดแล้ว” เจสันพูด
“ไม่มีปัญหา..ฉันเชื่อว่าเราจะไปถึงโอเอซิสได้” ไจแอนท์พูดด้วยความโล่งอก
“แต่ถ้าไม่มีอูฐช่วยในการเดินทางความเร็วของเราจะช้าลงมากอย่างแน่นอน..กำหนดการของเราที่จะไปถึงโอเอซิสภายในห้าวันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว..อย่างน้อยๆก็น่าจะใช้เวลาทั้งหมดเจ็ดวัน” ไป๋ฮวยพูด
“ก็พอได้..อาหารและน้ำที่เหลืออยู่น่าจะพอสำหรับเจ็ดวัน” ไจแอนท์พูด
“แต่ถ้าไม่มีผ้าห่มคืนนี้คงจะแย่น่าดู” อู๋เต๋อพูด “ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์สื่อสารก็หายไปด้วยและดูเหมือนว่าไม่มีทางติดต่อกับเบรนเดนและคนอื่นๆได้แล้ว”
“ตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่นั่นก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว” ไจแอนท์พูด “ไม่ต้องกังวลไปฉันจะพาพวกเราทุกคนไปบุกทำลายศัตรูให้สิ้นและออกจากทะเลทรายนี้ไปพร้อมๆกัน” ไจแอนท์พูดอย่างหนักแน่นและทุกคนก็เชื่อมั่นในสิ่งนี้อย่างแรงกล้า
หลังจากพักสักครู่ทุกคนก็เดินต่อไป
หนึ่งวัน..สองวัน..สามวัน..วันเวลาผ่านไปอย่างน่าเบื่อแต่พวกเขาก็ไม่พบความเสี่ยงและอันตรายใดๆอีก จนวันเวลาผ่านไปห้าวันในชั่วพริบตาและความแข็งแกร่งทางกายภาพของทุกคนก็ถูกเผาผลาญไปอย่างรวดเร็วและการเดินของพวกเขาไม่ได้รวดเร็วเหมือนก่อนหน้านี้
“เฮ้พวกดูนั่นสิ!” อู๋เต๋อพูดพร้อมชี้ไปที่ฝูงชนที่อยู่ไกลออกไป
“ในที่สุดพวกเราก็เจอ!” ไจแอนท์กำหมัดอย่างดุเดือดจากนั้นก็ตรวจเช็คอาวุธแล้วพูดต่อ “ฉันทรมานมามากเกินไปแล้วเพราะงั้นฉันต้องได้ถลกผิวหนังของพวกมันออก!”
จากนั้นไจแอนท์ก็หยิบกล้องส่องทางไกลออกมาดูแล้วพูดว่า “ใช่!..นั่นพรรตพวกของแดนนี่บอลล์..ดูเหมือนว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกมันเพราะงั้นพวกมันเลยชะลอการเดินทาง..เอาล่ะตรวจสอบอาวุธและเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะ!”
เมื่อทุกคนตรวจสอบปืนและกระสุนเสร็จทุกอย่างก็พร้อมแล้วและรอเพียงคำสั่งของไจแอนท์ “ที่นี่ไม่มีอุปสรรคอะไรมันเป็นที่โล่งเพราะงั้นพวกนายต้องระวัง” อู๋เต๋อพูด “ฉันเพิ่งเห็นแดนนี่บอลล์อยู่ในฝูงชนและตราบใดที่เรากำจัดพวกมันได้เราก็จะชนะ..ทุกคนพร้อมมั้ย?”
“พร้อม!” ทุกคนตะโกนพร้อมกัน
จากนั้นไจแอนท์ก็พยักหน้าเล็กน้อยและหันไปมองไป๋ฮวยและมองดูเขา เมื่อเห็นเช่นนั้นไป๋ฮวยก็เข้าใจว่าไจแอนท์กำลังบอกให้เขาดูแลเย่เชียนให้ดี “เอาล่ะเริ่มปฏิบัติการโจมตีได้!” ไจแอนท์ตะโกน
ด้วยคำสั่งทุกคนก็แยกย้ายกันไปด้านหน้าเป็นรูปพัด “ปัง..ปัง..ปัง” เสียงปืนดังขึ้นและกระสุนพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
“แดนนี่น้อยออกมามอบตัวและให้ฉันระเบิดประตูหลังของแกซะ” ไจแอนท์ตะโกนเสียงดังพร้อมถือปืนกลมือหนักและบนไหล่ก็มีกระสุนจำนวนมาก
ในเวลานี้อีกฝ่ายก็ตอบโต้อย่างรวดเร็วและเปิดการโต้กลับอย่างรวดเร็ว เดิมทีในกลุ่มของแดนนี่บอลล์มีคนอยู่ 20 คน แต่ตอนนี้เหลือคนเพียงแค่หนึ่งโหลเท่านั้น ในแง่ของตัวเลขนั้นแน่นอนว่าพวกเขาได้เปรียบแต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็อยู่ในทะเลทรายมานานกว่าเย่เชียนและคนอื่นๆพอสมควรและนอกจากนี้พวกเขายังโดนพายุทรายเมื่อวานนี้อีกดังนั้นจึงทำให้พวกเขาสูญเสียอาหารและน้ำจนหมดแรงและทำให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกเขาก็อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
“พวกแกเป็นใคร?” แดนนี่บอลล์ตะโกนถามอย่างเสียงดังเมื่อเห็นร่างของพวกเขาจากระยะไกล
“เราไม่ได้มีความเกลียดชังหรือความแค้นต่อกันไม่ใช่เหรอ?..ทำไมเราต้องฆ่าฟันกันด้วย?..เราเลิกฆ่ากันและออกไปจากทะเลทรายด้วยกันเถอะ..ฉันจะให้พวกแกมากกว่าที่พวกนั้นให้เป็นสามเท่า!” แดนนี่บอลล์พูด
“ช่างหัวค่าว่าจ้างเวรนั่น!..ตอนนี้ฉันอยากได้ชีวิตของแก!..ฉันต้องทนทุกข์ทรมานในทะเลทรายก็เพราะแกเพราะงั้นฉันจะปล่อยแกไปได้ยังไง!” ไจแอนท์จะโกนเสียงดัง
“แดนนี่บอลล์แกเองก็เป็นทหารรับจ้างเหมือนกันเพราะงั้นแกก็ควรจะรู้กฎเหล็กของทหารรับจ้างอย่างเราดีไม่ใช่เหรอ..แต่ว่าแกยังมีทางรอดอยู่และนั่นคือแกต้องวางอาวุธและมอบตัวซะไม่งั้นมันก็มีแค่ทางตันเท่านั้น!” อู๋เต๋อพูด
“หมายความว่าฉันไม่สามารถเจรจาได้งั้นเหรอ?..หึ..ทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่ามันก็เป็นได้แค่องค์กรทหารรับจ้างระดับล่างและพวกแกก็มีแค่หกคนเท่านั้นแกจะสู้กับพวกเราได้ยังไง” แดนนี่บอลล์พูด
“หมาป่าตัวเดียวน่ะไม่ได้น่ากลัวเลยแต่เมื่อมันรวมฝูงเมื่อไหร่แม้แต่เสือก็ยังต้องหวาดผวา!..พวกเราทั้งหมดเป็นฝูงหมาป่าที่หิวโหยและรอกินเนื้อของพวกแกอยู่!” เจสันพูด
“ก็มาวัดกันเลยว่าใครจะอยู่หรือใครจะตาย!” แดนนี่บอลล์สูดลมหายใจอย่างเย็นชาแล้วพูดกับลูกน้องของเขาว่า “ฟังนะทุกคน พวกมันต้องมีอาหารและน้ำที่เราต้องการเพราะงั้นถ้าพวกนายต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อนี่ก็เป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะอยู่รอดได้และนั่นคือการฆ่าพวกมันให้หมด!” เมื่อเผชิญกับความกลัวความตายคนเหล่านี้ก็แทบจะเป็นบ้าแต่โอกาสเดียวของพวกเขาที่จะรอดคือการเอาอาหารและน้ำของพวกเย่เชียนมานั่นเอง
ภายใต้ความหิวโหยทั้งสองฝ่ายก็เริ่มโจมตีใส่กันอย่างรวดเร็ว ซึ่งภูมิประเทศของทะเลทรายนั้นเปิดกว้างเกินไปและเมื่อต้องเผชิญกับความได้เปรียบในด้านจำนวนแล้วสมาชิกเขี้ยวหมาป่าจึงเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด “ปัง..ปัง..ปัง” กระสุนหลายนัดผสมกับเสียงลมที่ตัดผ่านพุ่งเข้าไปที่ร่างของเจสันแล้วเลือดก็ไหลออกมาทันที
“เวรเอ๊ยฉันถูกยิง!” เจสันพึมพำ “ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมด” จากนั้นเจสันก็ลุกขึ้นและวิ่งไปข้างหน้าด้วยปืนกลมืออย่างเดือดดาล
“อย่า!” อู๋เต๋อตะโกนเสียงดังอย่างไรก็ตามมันสายเกินไปแล้วเพราะเจสันค่อยๆล้มลงจมไปในกองเลือดอย่างช้าๆ
มีผู้บาดเจ็บล้มตายทั้งสองฝ่ายจนทั้งสองฝ่ายเริ่มมีการระมัดระวังอย่างมาก “เจสัน..เจสัน!” ไจแอนท์มองดูร่างของเจสันที่ล้มลงแล้วร้องออกมาจากนั้นก็จะโกนด้วยความโกรธว่า “ไอ้เวรแดนนี่ฉันจะถล่มพวกแกให้ราบ” ร่างใหญ่ๆของไจแอนท์นั้นเคลื่อนที่ไปราวกับภูเขาอย่างช้าๆและกระสุนก็ยังคงถูกยิงออกจากปืนเรื่อยๆไม่หยุดยั้ง
“ปัง..ปัง..ปัง!” จากนั้นไจแอนท์ก็มองลงไปที่ร่างของเขาที่ถูกยิงและยิ้มอย่างเศร้าสร้อยแล้วพูดว่า “มันจบแล้วสินะ” แล้วเขาก็หยิบระเบิดมือออกมาแล้วขว้างใส่ฝ่ายตรงข้ามโดยตรง เพียงได้ยินเสียงดังปังฝั่งตรงข้ามก็ระเบิดเป็นจุล เมื่อเห็นเช่นนั้นไจแอนท์ก็ยิ้มอย่างน่าสังเวชและล้มลงกับพื้นทันที
“ไจแอนท์..ไจแอนท์!” เมื่อเห็นพี่น้องของเขาตายไปต่อหน้าเขาความเจ็บปวดในหัวใจของเย่เชียนก็ไม่สามารถจินตนาการได้และเป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสกับความโหดเหี้ยมในสนามรบจนเย่เชียนรู้สึกเพียงว่ามนุษย์นั้นบอบบางมาก อย่างไรก็ตามฉากนองเลือดก็ค่อยๆกระตุ้นความป่าเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในหัวใจของเขาเรื่อยๆ
“ไม่นะ!..พายุทรายกำลังจะมา” อู๋เต๋อถึงกับผงะและพูดอย่างเร่งรีบ “ทุกคนหมอบลง”
ตอนนี้ทุกคนเห็นว่าท้องฟ้ามืดและแผ่นดินก็มืดทั้งทรายและหินต่างก็ปลิวว่อนพร้อมลมหวนและไม่นานนักท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยทรายที่หมุนวนอย่างบ้าคลั่งบนท้องฟ้า เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งสองฝ่ายจะกล้าที่สู้กันต่อได้ที่ไหนเพราะตอนนี้พวกเขาหมอบลงกับพื้นทีละคน อย่างไรก็ตามพายุทรายที่รุนแรงยังคงกวาดพวกเขาและทรายสีเหลืองทองก็ตกลงมาจากท้องฟ้าฝังพวกเขาทั้งเป็น เมื่อเห็นเช่นนั้นไป๋ฮวยก็แทบจะไม่คิดเรื่องนี้เลยเพราะเขารีบกระโดดทับตัวของเย่เชียนเอาไว้ใต้ตัวของเขาและใช้แขนขาของเขาเป็นพื้นที่เล็กๆเพื่อกำบังให้กับเย่เชียน
มาเร็วไปเร็ว
เมื่อทุกคนลุกขึ้นอาวุธในมือก็หายไปแล้ว ส่วนอู๋เต๋อก็คอยปกป้องร่างของเจสันและไจแอนท์เพียงลำพัง ซึ่งอู๋เต๋อนั้นไม่ปล่อยให้พวกเขาถูกพายุทรายดูดพวกเขาไปและถึงแม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้วก็ตามแต่ทั้งสองตนนี้ก็เป็นพี่น้องของเขาเสมอและเป็นสหายร่วมรบของเขา ดังนั้นอู๋เต๋อจะไม่มีวันทอดทิ้งทั้งสองเอาไว้ในทะเลทรายอย่างแน่นอน
“ในสายตาของหมาป่าทุกสิ่งที่อยู่ข้างหน้าฉันมีแต่เนื้อที่จะมาอยู่ในปากของฉันเท่านั้น..เอาล่ะสหาย!” อู๋เต๋อตะโกนและคว้ามีดออกมาแล้วพุ่งไปอีกด้านหนึ่ง
ด้วยจำนวนคนสามต่อแปดพวกเขาเสียเปรียบในด้านจำนวนอย่างแน่นอนแต่เพื่อความอยู่รอดทั้งสองฝ่ายก็ต้องต่อสู้กันอย่างสิ้นหวัง ซึ่งแน่นอนว่าเย่เชียนเองก็ถือมีดในมือเอาไว้แน่นแล้วพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้และด้วยการสะบัดข้อมือร่างของเขาก็หมุนและมีดก็ตัดผ่านลำคอของคู่ต่อสู้ทันที
“ไม่เลวเลยนี่หว่า!” อู๋เต๋อพูด
ดวงตาของไป๋ฮวยในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าและมีดในมือของเขาก็แทงเข้าไปที่แดนนี่บอลล์ทันที ในบรรดาคนเหล่านี้ทักษะการต่อสู้ของไป๋ฮวยนั้นแข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“ถึงแล้ว..ลงจากรถกันเถอะ!” หม่าเต๋อหงปลุกเย่เชียนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ห้วงลึกและปลุกเขาให้ตื่นจากความทรงจำ
เย่เชียนก็ตกตะลึงและหันไปมองที่หม่าเต๋อหงและยิ้มอย่างน่าสังเวช ซึ่งเย่เชียนกับไป๋ฮวยนั้นโชคดีที่เอาชีวิตรอดจากการต่อสู้ที่โหดร้ายมาได้แต่พี่น้องคนอื่นๆนั้นถูกฝังอยู่ในทรายสีเหลืองทองไปตลอดกาลและไม่มีวันหวนกลับมาได้อีก
พวกเขาได้รับชัยชนะแต่ราคาที่ต้องจ่ายและเสียใจก็สูงเช่นกัน อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็รู้ดีว่าไม่ว่าจะเป็นไจแอนท์,เจสัน,อู๋เต๋อ ก็ตามถึงยังไงพวกเขาก็ไม่เคยเสียใจกับการเลือกของพวกเขาและการเกิดเป็นพี่น้องเขี้ยวหมาป่า ซึ่งพวกเขาได้ตายอย่างวิญญาณหมาป่าและพวกเขาก็เป็นทหารที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของเย่เชียน
เมื่อเห็นน้ำตาที่ทิ้งไว้ในดวงตาของเย่เชียนหม่าเต๋อหงก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและเขาอดไม่ได้ที่จะคิดอย่างลับๆว่า “เด็กคนนี้มีเรื่องราวกี่เรื่องที่ถูกฝังเอาไว้ในใจกันแน่” เขารู้ดีว่าในฐานะทหารรับจ้างเย่เชียนจะต้องมีเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและเศร้าโศกมากมายอย่างแน่นอน
“เป็นอะไรไปไม่สบายหรือเปล่า?” หม่าเต๋อหงมองเย่เชียนด้วยความเป็นห่วงและถาม
เย่เชียนก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่น่าสังเวชและปาดน้ำตาออกจากหางตาของเขาและพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ..แค่เห็นฉากบางฉากก็ทำให้ความทรงจำกลับมาอีกครั้ง”