ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 855 ขัดแย้ง
ตอนที่ 855 ขัดแย้ง
ในปฏิบัติการครั้งนั้นด้วยจำนวน 5 ต่อ 16 จึงทำให้เขี้ยวหมาป่าได้สูญเสียบุคคลสำคัญไปถึง 3 ได้แก่ ไจแอนท์,อู๋เต๋อและเจสัน แต่เพื่อแลกกับการสูญเสียของอีกฝ่าย 16 คนแล้วนั่นก็ทำให้ชื่อเสียงขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าโด่งดังขึ้นโดยสมบูรณ์และเป็นเพราะปฏิบัติการครั้งนี้ที่ทำให้องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาขึ้นเป็นองค์กรทหารรับจ้างระดับแนวหน้าของโลกอย่างแท้จริง
ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นภารกิจแรกของเย่เชียนและยังเป็นภารกิจที่ปลุกความป่าเถื่อนที่ซ่อนอยู่ในร่างของเย่เชียนอย่างแท้จริง ซึ่งสงครามในนี้ทำให้เย่เชียนเข้าถึงแก่นแท้ของทหารและเริ่มต้นชีวิตอย่างชายชาติทหารที่รุ่งโรจน์ได้อย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในองค์กรทหารรับจ้างมานานแต่เขาก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในสงครามมาก่อนดังนั้นเย่เชียนจึงไม่สามารถถูกมองว่าเป็นทหารรับจ้างที่แท้จริงได้เลย
หลังจากลงจากรถแล้วเย่เชียนก็เดินตามหม่าเต๋อหงเข้าไปยังค่ายทหารและในห้องนั้นก็มีคนอยู่ประมาณสิบคนและทุกคนก็อยู่ในชุดพรางตัวและมีโคลนและฝุ่นจำนวนมากเลอะอยู่บนร่างกายของพวกเขา ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเพิ่งผ่านการฝึกฝนอย่างหนักหน่วงมา ข้างในสุดก็มีชายชราในชุดสูทและไม่ใช่ใครอื่นเพราะเขาคือหวงฟู่ชิงเตี๋ยนผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติจีน
เมื่อเห็นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้วหม่าเต๋อหงก็อดไม่ได้ที่จะแน่นิ่งไปชั่วขณะและเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเจอกับหม่าเต๋อหงและเขาก็รู้อารมณ์กับนิสัยของหม่าเต๋อหงเป็นอย่างดี แต่เมื่อเขาเห็นเย่เชียนถัดจากหม่าเต๋อหงแล้วหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ถึงกับตกตะลึงแล้วยิ้มให้เย่เชียนจากนั้นเขาก็พูดว่า “เจียงซินเป็นคนอันตรายและนี่อยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ..หากมีอะไรเกิดขึ้นมันจะไม่ดีสำหรับทุกคนและประเทศชาติ!”
“หืม..อย่าคิดเองเออเอง” หม่าเต๋อหงโบกมือแล้วพูดว่า “เจียงซินเป็นคนของผมและไม่ว่าเขาจะทำผิดพลาดขนาดไหนผมก็ควรจะเป็นคนจัดการ..มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณ..หน่วยพิทักษ์มังกรต่อให้ต้องตายพวกเขาก็ต้องตายด้วยน้ำมือของพรรคพวกและพี่น้องของตัวเอง..พวกเขาจะไม่มีวันจบชีวิตเพราะคนอื่น!”
“นี่คุณกำลังพูดถึงอะไร..คุณกับผมพวกเราก็ทำเพื่อประเทศเหมือนกันทั้งคู่และไม่ใช่ว่าคุณไม่รู้ถึงสามารถของเจียงซิน..คุณรู้ดีกว่าใครๆว่าหน่วยพิทักษ์มังกรของคุณเป็นยังไง..ซึ่งถ้าคนแบบนี้หลุดหลอดออกไปข้างนอกมันจะเป็นภัยใหญ่หลวงต่อประเทศอย่างแน่นอน..เพราะงั้นเดี๋ยวผมจะจัดการเองเพราะมันเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ!” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด
“ให้ผมบอกอีกครั้งมั้ยว่าคุณไม่ต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้..ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจแต่ถ้าคุณกล้าเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ล่ะก็คุณกับผมได้เห็นดีกันแน่” หม่าเต๋อหงตะโกนเสียงดังจากนั้นเขาก็หันไปมองชายหนุ่มในวัยสามสิบแล้วพูดว่า “เถียหนานเกิดอะไรขึ้น?”
“เราตรวจสอบบันทึกการโทรของเจียงซินแล้วและดูเหมือนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับแฟนสาวของเขา..ผมคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับแฟนสาวของเขาเพราะงั้นเราจึงได้ติดต่อตำรวจในท้องถิ่นแล้วและพวกเขาก็ได้ปะทะกับเจียงซิน” เถียหนานพูด “แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเหล่านั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงซินเลย..ดังนั้นเราจึงต้องส่งคนไปเร่งดำเนินการจัดการในทันที”
“แล้วมีทีมที่เหมาะสมกับภารกิจหรือยัง” หม่าเต๋อหงถาม
“ผมจะไปที่นั่นด้วยตนเอง..เพราะนอกจากผมแล้วผมคิดว่าไม่มีใครสามารถรับมือกับเจียงซินได้อีกแล้ว” เถียหนานพูด “ไม่ต้องกังวลไปหัวหน้า..ผมสัญญาว่าจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ” เถียหนานนั้นรู้ดีถึงความสามารถของเจียงซินและถ้าหากจะหาใครที่หยุดยั้งเจียงซินได้นั้นก็ไม่มีใครนอกจากตัวเขาแล้ว แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเขาก็ตามแต่ก็ใช่ว่าจะทำสำเร็จแต่ความหวังเดียวก็คือเขาและยิ่งไปกว่านั้นเถียหนานนั้นยังสามารถใช้ความสัมพันธ์ของเขากับเจียงซินเพื่อเกลี้ยกล่อมเขาได้และไม่ว่าเจียงซินจะทำผิดแค่ไหนแต่เจียงซินก็ยังเป็นเหมือนพี่น้องของเขา สมาชิกหน่วยพิทักษ์มังกรทุกคนคือหัวใจและเลือดเนื้อของเขาและเขาจะไม่ยอมเสียใครไปอย่างแน่นอน แต่ทว่าหากจะต้องเผชิญหน้ากับความถูกต้องแล้วเขาก็ต้องเลือกที่จะฆ่าเจียงซินในทางเลือกสุดท้าย
หม่าเต๋อก็หงสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “นี่คงเป็นวิธีเดียวเพราะงั้นจำเอาไว้ว่าถ้ามันจำเป็นเราค่อยเลือกวิธีการสุดท้าย” เมื่อเสียงนั้นจบลงหยาดน้ำตาก็หยดลงจากหางตาของหม่าเต๋อหงทันที ซึ่งคนเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติของเขาและเป็นความภาคภูมิใจของชาติเพราะพวกเขาเสียเลือดเนื้อและเสียสละเพื่อประเทศชาติมานาน ดังนั้นหากเป็นไปได้หม่าเต๋อหงก็ไม่ต้องการให้พวกเขาตายและจบลงเช่นนี้ อย่างไรก็ตามความผิดพลาดที่เจียงซินทำลงไปนั้นก็ไม่สามารถให้อภัยและย้อนกลับได้ ซึ่งลึกๆแล้วหม่าเต๋อหงก็กลัวว่าเจียงซินจะตัดสินใจทำอะไรเลวร้ายลงไปและทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจย้อนกลับได้เลย
“รับทราบครับ!” เถียหนานตอบรับและทำความเคารพแบบทหาร
“เดี๋ยวก่อน!” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนโบกมือและพูดว่า “พวกคุณควรรู้เกี่ยวกับความสามารถของเจียงซินมากกว่าที่ผมรู้..ผมจึงอยากรู้ว่าพวกคุณมีความมั่นใจว่าภารกิจนี้จะสำเร็จอย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่เพราะถ้าไม่นั่นก็หมายความว่าพวกคุณกำลังฝืนทำไปโดยเปล่าประโยชน์”
“หวงฟู่ชิงเตี๋ยนคุณอยากที่จะขัดแย้งกับผมงั้นเหรอ?..แล้วคนของคุณล่ะมีความสามารถมากแค่ไหน..ถ้างั้นก็ให้พวกเขาลองทำดูสิ” หม่าเต๋อหงพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ผมไม่สนใจหรอกว่าคนของผมจะทำสำเร็จหรือไม่แต่ผมเชื่อในทหารของผม..และผมก็เชื่อว่าเจียงซินจะไม่ทำอะไรที่โง่เง่าจนเกินไป”
“พวกคุณกำลังเสี่ยงเพียงเพราะความเชื่องั้นเหรอ..ถ้าหากพวกคุณแพ้การเดิมพันครั้งนี้พวกคุณรู้ไหมว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง..ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อในความสามารถของเถียหนานแต่ทว่าความสามารถของเจียงซินนั้นเราไม่สามารถประมาทได้เลย..ผมไม่สามารถเสี่ยงกับการเดิมพันครั้งนี้ได้” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดต่อ “เว้นแต่จะมีคนที่ผมไว้วางใจไปด้วยไม่อย่างนั้นสำนักความมั่นคงแห่งชาติจะต้องเข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!”
หม่าเต๋อหงก็ระงับความโกรธในใจแล้วพูดว่า “ถ้างั้นก็ตกลง..แล้วคุณมองใครเอาไว้บ้าง?..ถ้าเป็นตัวคุณเองผมขอปฏิเสธ!”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ฉีกยิ้มและหันไปมองเย่เชียนข้างๆหม่าเต๋อหงแล้วพูดว่า “คุณหม่าผมฉันมั่นใจได้เลยว่าเขาสามารถทำสิ่งต่างๆได้เป็นอย่างดีและนอกจากนี้ผมก็ยังเชื่อว่าเขามีความสามารถในการจัดการเรื่องนี้ได้”
เย่เชียนก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วมองหวงฟู่ชิงเตี๋ยนด้วยความประหลาดใจเพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาดังนั้นทำไมเขาถึงต้องดึงตัวเองเขาไปเกี่ยวข้องด้วย ถ้าหากเย่เชียนเสียท่าเจียงซินคนนั้นจริงๆมันจะไม่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่เหรอ? อย่างไรก็ตาม เมื่อนึกถึงสิ่งที่หม่าห่าวยู่พูดกับเขาก่อนที่จะมาที่นี่เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านในใจและไม่พูดอะไรเพราะเย่เชียนเคารพชายชาติทหารมาเสมอและเมื่อรวมกับความจริงที่ว่าเขาได้รับความไว้วางใจจากผู้อื่นให้จงรักภักดีแล้วเย่เชียนก็รู้สึกว่าเขาควรช่วยหม่าห่าวยู่แก้ไขปัญหานี้
จากนั้นหม่าเต๋อหงก็ไปสนใจที่เย่เชียนแล้วหยุดนิ่งครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “เอ็งมั่นใจมั้ย?”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า “เมื่อใดก็ตามที่ผมทำอะไรผมจะไม่ถามตัวเองว่าผมมีความมั่นใจก่อนหรือเปล่าเพราะผมต้องก้าวไปข้างหน้าและต้องชนะเพียงเท่านั้น!”
“ว่าแต่หัวหน้าครับเขาคือ..” เถี่ยหนานเหลือบมองเย่เชียนและถามด้วยความสงสัย
“ผมชื่อเย่เชียน..สังกัดองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า..โค้ดเนมและฉายาคือ..ราชาหมาป่าเย่เชียน” เย่เชียนพูด
ร่องรอยของการดูถูกปรากฏบนใบหน้าของเถี่ยหนานเพราะเขาไม่สามารถคิดหาเหตุผลใดๆที่จะเชื่อในตัวทหารรับจ้างเช่นนี้ได้ ซึ่งในสายตาของเขาไม่ว่าทหารรับจ้างเหล่านี้จะแข็งแกร่งขนาดไหนแต่ก็ไม่สามารถเทียบกับหน่วยพิทักษ์มังกรของกองทัพแห่งชาติอย่างพวกเขาได้ บางทีพวกเขาอาจจะเก่งกว่ากองกำลังหน่วยรบพิเศษธรรมดาๆได้แต่เมื่อเทียบกับหน่วยพิทักษ์มังกรแล้วทหารรับจ้างก็เป็นเพียงขยะ
เย่เชียนนั้นมองเห็นความสงสัยในดวงตาของเถียหนานอย่างชัดเจน เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็ยิ้มเบาๆและพูดว่า “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่เชื่อผมถ้างั้นก็ไม่เป็นไรเพราอันที่จริงผมก็ไม่เชื่อในตัวเองจริงๆหรอก” เมื่อพูดจบร่างกายของเย่เชียนก็พุ่งออกไปอย่างกะทันหันและใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางโจมตีเข้าไปที่ต้นคอของเถียหนาน
การโจมตีกะทันหันทำให้เถี่ยหนานประหลาดใจและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะทำเช่นนี้ที่นี้ อย่างไรก็ตามในฐานะครูฝึกและหัวหน้าหน่วยพิทักษ์มังกรแล้วปฏิกิริยาของเถียหนานนั้นก็ยอดเยี่ยมและโดยไม่ลังเลใดๆเขาก็หลีกเลี่ยงการโจมตีได้อย่างรวดเร็ว
หม่าเต๋อหงไม่ได้หยุดเขาเพราะเขายังต้องการเห็นทักษะและความสามารถของเย่เชียนเพื่อดูว่าหลานชายของเขามีความสามารถเพียงใด ถ้าไม่ใช่เพราะเย่เชียนให้คำมั่นสัญญากับหม่าห่าวยู่เอาไว้เย่เชียนก็ขี้เกียจเกินไปที่จะเข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้ แต่เนื่องจากเขาได้ตกลงกันแล้วเย่เชียนก็ต้องทำให้ดีที่สุดและถ้าหากเย่เชียนตกลงที่จะทำแล้วเย่เชียนก็ต้องจัดการเรื่องของเจียงซินให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบและทำให้ทุกคนเห็นว่าเขามีความสามารถแค่ไหน ควบคู่ไปกับคำแนะนำของหวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้วไม่สามารถปล่อยผ่านได้เลย
พลังปราณก็หมุนวนอย่างดุเดือดในร่างกายของเย่เชียนและการโจมตีจากการเคลื่อนไหวของเขาก็เต็มไปด้วยพลังที่รุนแรง ซึ่งท่วงท่าการโจมตีของเขานั้นไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างใดแต่มันเป็นท่าสังหารที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมาแต่ทรงพลังอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามเถียหนานก็ยังคงรู้สึกถึงแรงกดดันต่อร่างกายของเขาเพราะการโจมตีของเย่เชียนนั้นแข็งแกร่งเกินไปจนเขาหายใจไม่ภายใต้แรงกดดันนี้ ซึ่งเขารู้ดีว่าถ้าหากเขายังฝืนต่อไปเขาจะต้องพ่ายแพ้เย่เชียนอย่างแน่นอน เถียหนานนั้นได้เห็นคนหนุ่มสาวที่โดดเด่นมาหลายคนรวมทั้งพี่น้องและสมาชิกในหน่วยพิทักษ์มังกรของเขาแต่ทว่าความสามารถของเย่เชียนนั้นทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก
ด้วยเสียงตะโกนเถียหนานก็ใช้กำลังทั้งหมดของเขาเพื่อตอบโต้เย่เชียนอย่างไร้ความปรานี ซึ่งหากเขาโจมตีเย่เชียนด้วยกำลังทั้งหมดที่มีเย่เชียนจะไม่ถึงตายแต่จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น อย่างไรก็ตามเถี่ยหนานก็มีความคิดว่าถ้าหากเย่เชียนไม่สามารถรับมือกับการโจมตีของเขาได้นั่นก็แสดงว่าเย่เชียนยังไม่มีความสามารถมากพอ
รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเย่เชียนแล้วเย่เชียนก็พูดว่า “ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งนั้นผมจะบอกคุณบางอย่างให้ว่าการปฏิบัติต่อศัตรูด้วยความเมตตานั่นหมายถึงการโหดร้ายกับตัวเองและเมื่อไหร่ที่เราโจมตีจงอย่าปรานีใคร!” จากนั้นเย่เชียนก็หันกลับมาและหลบการโจมตีของเถียหนานแล้วใช้ข้อศอกกระแทกเข้าที่ต้นคอของเถียหนาน ซึ่งหมัดของเถียหนานนั้นช้าไปสำหรับเย่เชียนดังนั้นมันจึงสายเกินไปที่เถียหนานจะหลบได้
“เสี่ยวเชียนช่วยเมตตาด้วย!” หม่าเต๋อหงก็ตกใจและตะโกนอย่างเร่งรีบ
“ปัง” เย่เชียนโจมตีเถียหนานด้วยข้อศอกจนเถียหนานกระเด็นถอยออกไปสองสามก้าวก่อนที่จะรักษาร่างกายของเขาให้มั่นคง ถึงแม้ว่าในนาทีสุดท้ายเย่เชียนจะแสดงความเมตตาและสลายพลังปราณที่ปล่อยออกมาแต่ความแข็งแกร่งนั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เถียหนานรู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มเล็กน้อยและเดินไปอย่างช้าๆไปหาเถียหนานแล้วพูดว่า “เป็นยังไงบ้าง?