CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 322 คลื่นใต้น้ำ (2)

  1. Home
  2. ยอดวิถีแห่งปีศาจ
  3. บทที่ 322 คลื่นใต้น้ำ (2)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 322 คลื่นใต้น้ำ (2)

“เป็นมนุษย์หรือ” ใบหน้าคนขนาดมหึมาแสดงสีหน้าโกรธขึ้ง “สมควรตายจริงๆ! คิดเปิดผนึก จะต้องทำลายผนึกบนแท่นบูชาทั้งหมดก่อน เจ้าแน่ใจหรือว่าแท่นบูชาทั้งหมดถูกทำลายแล้ว”

“แน่ใจ แน่ใจอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” ข่าเฟยรีบก้มหน้า

“เจ้ามนุษย์บัดซบ!” ใบหน้าคนขนาดมหึมาพลันแผดเสียงคำราม

เสียงคำรามอันยิ่งใหญ่ถึงขั้นรบกวนเมฆด้านบนท้องฟ้าจนปั่นป่วน เมฆดำกลุ่มใหญ่ก่อตัวขึ้น ฟ้าแลบฟ้าร้องอยู่ชั่วขณะ ฟ้าดินมืดครึ้มลง

“ฝ่าบาทโปรดระงับโทสะก่อน! ดีที่หุบเหวมารไม่ได้ถูกทำลายจริงๆ…”

เปรี้ยง!

ร่างของข่าเฟยถูกพละกำลังอันมหาศาลที่มองไม่เห็นกระแทกใส่อย่างรุนแรง ทรวงอกของเขายุบลงไปในทันที ไม่ทราบว่ากระดูกหน้าอกหักไปกี่ท่อน

ร่างของเขาราวกับถูกค้อนยักษ์ฟาดใส่จากด้านล่าง พื้นทรายรอบๆ กลายเป็นหลุมลึกทรงถ้วยขนาดมหึมา

“เจ้าจะเข้าใจอะไร!? สวะ! ล้วนเป็นสวะ!” ใบหน้าคนแผดเสียง “นางต้องออกมาแล้วแน่! ออกมาแล้ว! สัตว์ประหลาดนั่น สัตว์ประหลาดบัดซบน่ารังเกียจนั่น!”

ข่าเฟยเงยหน้ากระอักเลือดสีม่วงออกมา ศีรษะถูกกระแทกจนมึนงง ไม่รู้ว่าใบหน้าคนพูดอะไรอยู่

“ฝ่าบาท…”

“เสินหลิง” ใบหน้าคนไม่แยแสเขา หันไปเรียกชื่อคนอีกคน

ทรายเหลืองนับไม่ถ้วนก่อตัวกันเป็นร่างคนอย่างรวดเร็ว หลังจากเม็ดทรายสลายไปก็เผยให้เห็นเงาคนร่างสูงโปร่งแช่มช้อย

“ฝ่าบาท แล้วแต่ท่านจะบัญชา” เงาคนคุกเข่าข้างหนึ่ง หน้าอกใหญ่ตระหง่านแตะพื้นเบาๆ เกราะรูปกระโปรงสีดำสนิทด้านหลังกระจายออก ผ้าเนื้อบางสีดำรัดส่วนสะโพกเอาไว้ ขับเน้นความโค้งมนและความเลียบเนียนอันน่าลุ่มหลงใต้แสงอาทิตย์

“เจ้าคุ้นเคยกับมนุษย์ที่สุด จงไป ไปจับตัวคนที่ทำลายผนึกหุบเหวมารผู้นั้นกลับมา” ใบหน้าคนในทรายเหลืองกล่าวเสียงทุ้ม

“ตามบัญชาของท่าน” เงาคนค่อยๆ ลุกขึ้น เมื่อเงยศีรษะก็เผยให้เห็นเครื่องหน้าที่น่าเอ็นดูและบริสุทธิ์อ่อนแอ

ถ้าหากมีคนของตระกูลซั่งหยางอยู่ใกล้ๆ จะนึกออกทันทีว่าเจ้าของใบหน้านี้ก็คืออดีตอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งตระกูลซั่งหยาง ซั่งหยางเฟย!

ซั่งหยางเฟยสวมเกราะหนังรัดตัวสีดำ ท่อนล่างปิดด้วยเกราะรูปกระโปรงทรงกระบี่ทำจากโลหะ สองขาไปจนถึงส่วนสะโพกสวมผ้าเนื้อบางสีดำเหมือนกับถุงน่อง โผล่ให้เห็นวับแวมใต้เกราะรูปกระโปรงนั่น

เพียงแต่สองเท้าของนางไม่ได้เป็นฝ่าเท้าปกติของมนุษย์ หากเหมือนสวมรองเท้าหนังสีดำที่เต็มไปด้วยหนามสีดำน่ากลัวหลายแท่ง บนหลังเท้ายังมีอักขระรูปกางเขนสีแดงเลือดซึ่งกำลังกะพริบแสงสีแดงอ่อนๆ ติดอยู่

ใบหน้าคนขนาดยักษ์ค่อยๆ สลายไป เหลือแค่ข่าเฟยมารโบราณที่ลุกขึ้นบนตำแหน่งเดิมกับซั่งหยางเฟยเพียงสองคน

“บอกข้อมูลที่ท่านรู้ให้ข้าฟังเถอะ” ซั่งหยางเฟยสางผมดำประไหล่ที่นุ่มลื่นของตัวเองพร้อมกล่าวกับข่าเฟยอย่างราบเรียบ

‘แค่แม่ทัพมารตนเดียว…’ ข่าเฟยคับข้องใจ อีกฝ่ายมีพลังแค่ระดับแม่ทัพมารเท่านั้น ไม่ใช่ราชามารด้วยซ้ำ ส่วนเขาเป็นราชามารระดับสูงสุด! เป็นมารโบราณ! ข่าเฟยราชาแหล่งปฐพีมารโบราณที่แข็งแกร่งซึ่งปกป้องหุบเหวมารมามากกว่าพันปี!

ถ้าหากเป็นสถานการณ์ปกติ หากแม่ทัพมารพูดกับเขาแบบนี้ คงถูกเขากลืนกินไปแล้ว

แต่ว่ากลิ่นอายอันตรายที่แผ่ซ่านจากตัวซั่งหยางเฟยในเวลานี้ มาจากกลิ่นอายอันตรายของฝ่าบาท ทำให้เขาไม่กล้าเคลื่อนไหวผิดปกติ

“ฝ่าบาททิ้งร่างแยกไว้บนตัวข้า จะปรากฏตัวขึ้นเองเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ใต้เท้าข่าเฟยไม่ต้องห่วงหรอกว่าข้าจะทำให้ภารกิจสำเร็จได้หรือไม่” ซั่งหยางเฟยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“อย่างนั้นหรือ เช่นนั้นข้าก็วางใจแล้ว” ข่าเฟยมีสีหน้าอึมครึม ก่อนจะยกมือขึ้นน้อยๆ ม้วนกระดาษหนังสีดำที่เตรียมไว้แล้วหมุนวนเข้าไปหาซั่งหยางเฟย

หมับ

ซั่งหยางเฟยรับไว้ แล้วค่อยๆ คลี่ออก

“เอ๋?” นางจำคนที่ถูกวาดบนม้วนกระดาษได้ทันที

นี่มันคนเถื่อนจากแดนเหนือที่อยู่ในสังกัดของซั่งหยางจิ่วหลี่เมื่อก่อนหน้านี้ไม่ใช่หรือ

นางยื่นนิ้วชี้เรียวยาวเรียบเนียนออกมาลูบภาพเหมือนเบาๆ พลางแสยะมุมปากอย่างสนอกสนใจ

“คนผู้นี้ มันซ่อนความสามารถไว้ล้ำลึกมาก! ข้าไม่รู้ว่ามันหลอมรวมกับอาวุธเทพศัสตรามารชิ้นไหน แต่พลังของมันไม่มีทางต่ำกว่าข้าแน่” ข่าเฟยคิดว่าถ้าในตอนนั้นไม่ใช่ตนประมาทไป คงไม่พ่ายแพ้เร็วแบบนั้น

“น่าสนใจ…” ซั่งหยางเฟยม้วนเก็บม้วนกระดาษ “ใต้เท้าข่าเฟย ยอดฝีมือระดับสูงสุดแบบนี้ยอมลดสถานะของตัวเองมาซ่อนอยู่ในหมู่ผู้อ่อนแอ เรื่องนี้มีความลับอะไรซ่อนอยู่กันแน่ ช่างน่าคาดหวังเสียจริง”

ข่าเฟยคร้านจะสนใจว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่บนร่างของเสินหลิงผู้นี้ เขาถือโอกาสเล่าแผนการของตนเองออกมา

“ข้าได้ทิ้งแก่นมารสายหนึ่งของตัวเองเอาไว้บนร่างมัน คนผู้นั้นดูดซับปราณมารแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ตัวเองได้ กระนั้นมันไม่มีทางรู้เด็ดขาดว่าแก่นมารของข้ามีคลื่นพิเศษที่แม้แต่ฝ่าบาทก็ขจัดไม่ได้โดยธรรมชาติ ในหุบเหวมารมีแก่นมารที่ข้าปล่อยออกมาตลบอบอวลอยู่ไม่น้อย และมันก็ได้ดูดซับไปจนหมดแล้ว ดังนั้น ขอแค่เจ้าเข้าใกล้มันในรัศมีร้อยลี้ ก็จะสัมผัสตำแหน่งคร่าวๆ ของมันได้เอง”

เขาดึงเกล็ดสีดำอมม่วงชิ้นเล็กๆ บนร่างใต้เสื้อคลุมสีดำออกมา ก่อนจะโยนออกไปเบาๆ เกล็ดลอยไปถึงตรงหน้าซั่งหยางเฟยแล้วตกลงในฝ่ามือนาง

“ถือมันไว้ จะสัมผัสและไล่ล่าคนผู้นั้นได้เอง” ข่าเฟยพูดอย่างเย็นชา

“เข้าใจแล้ว รอข่าวดีจากข้าเถอะใต้เท้าข่าเฟย” ซั่งหยางเฟยยิ้มน้อยๆ

ข่าเฟยหนังหน้ากระตุก ไม่ได้ตอบอะไร เขาทำลายแผนการใหญ่ของฝ่าบาท ถ้าไม่ใช่เพราะคุณงามความดีที่คอยปกป้องมาตลอดพันปียังอยู่ การที่ครั้งนี้ไม่ถูกกำจัดทิ้งก็นับว่าไม่เลวมากแล้ว

“ตอนนี้คนผู้นั้นน่าจะอยู่ที่ราชวงศ์ต้าอิน ที่นั่นเป็นอาณาเขตของฝ่าบาทเหวยลา เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่ให้ข้าช่วย” เขายังคิดจะสร้างผลงานเพื่อล้างมลทิน

“แน่นอนว่า…ไม่ต้องการ” รอยแผลแนวตั้งสีดำแกมน้ำเงินสายหนึ่งปรากฏแวบบนหว่างคิ้วซั่งหยางเฟยเหมือนกับสายฟ้าสายหนึ่ง และเหมือนกับกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง

“เมื่อมีร่างแยกของฝ่าบาท ต่อให้เป็นจ้าวแห่งมารก็หนีไม่พ้น ขอแค่ใช้สถานะมนุษย์ของข้าในการปกปิด ยังมีอะไรน่าเป็นห่วงอีก”

…

รถม้าค่อยๆ หยุดลงด้านหน้าสิ่งก่อสร้างที่ทำจากหินขาวแห่งหนึ่ง สิ่งก่อสร้างเหมือนกับโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีหลังคาแบน ภายนอกติดตั้งหน้าต่างกระจกทรงยาวสีเทาไว้มากมาย รูปสลักงูหน้าคนสองรูปตั้งอยู่สองด้านของประตู

พวกลู่เซิ่งลงจากรถแล้วมุ่งหน้าไปหาบุรุษอาภรณ์สีเทาสองคนที่เฝ้าประตูอยู่

“พวกเราเป็นผู้ได้รับการแนะนำที่มาจากอำเภอจันทราหลับไหล” อวิ๋นซิ่วเฟยหยิบเอกสารฉบับหนึ่งออกมาจากในแขนเสื้อ ก่อนจะส่งให้องครักษ์ตรวจสอบ

ลู่เซิ่งกับหวังอวิ่นหลงนำเอกสารออกมาคนละฉบับแล้วส่งให้

องครักษ์ตรวจสอบเสร็จก็หยิบของที่เหมือนตราประทับอันหนึ่งออกมาจากหว่างเอว จากนั้นก็ประทับมันลงบนเอกสารสามฉบับเบาๆ

“ท่านทั้งสามโปรดเข้าไป ด้านในจะมีเจ้าหน้าที่ต้อนรับเอง”

อวิ๋นซิ่วเฟยพยักหน้า เดินนำหน้าเข้าไปในสิ่งปลูกสร้าง ข้ามผ่านประตูใหญ่ ด้านในมีบ่อน้ำทองแดงทรงวงรีบ่อหนึ่งซึ่งกำลังพ่นของเหลวสีเขียวจางๆ และส่งกลิ่นสดชื่นอ่อนๆ

บุรุษสตรีอาภรณ์ดำจำนวนหนึ่งกำลังคุยะไรกันอยู่ข้างบ่อน้ำเบาๆ

ลู่เซิ่งสังเกตเห็นว่าเครื่องแบบบนร่างบุรุษสตรีพวกนี้ล้วนเป็นชุดที่เหมือนกับชุดทหารรัดรูป บนบ่ายังมีโซ่สีเงินและสีขาวติดอยู่ เหมือนกับเป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แบ่งแยกสถานะ

สตรีอาภรณ์ดำคนหนึ่งในนี้ก้าวเข้ามาพยักหน้าให้คนทั้งสาม

“ผู้ได้รับการแนะนำจากอำเภอจันทราหลับใหลโปรดตามข้ามา เดี๋ยวจัดการที่พักให้พวกท่านก่อน ต้องขออภัยด้วย ช่วงนี้ผู้ได้รับการแนะนำจากอำเภอต่างๆ ใกล้เคียงใช้จำนวนสิทธิ์มากที่สุด ที่อยู่ออกจะคับแคบไปบ้าง ขออย่าถือสา”

“มิกล้า พวกเราไม่ได้มาเที่ยวเล่น การผ่านการทดสอบเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง” หวังอวิ่นหลงตอบอย่างราบเรียบ

สตรียิ้มแย้มไม่ได้พูดอะไรอีก

ทั้งสามได้รับการจัดการให้ไปอยู่ในกระท่อมขนาดเล็กธรรมดาๆ ซึ่งอยู่ด้านหลังเยื้องไปทางขวาอย่างรวดเร็ว

กระท่อมห้าแถวเชื่อมติดกันอย่างเป็นระเบียบ เรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สมบูรณ์แบบ แบ่งแยกอย่างชัดเจนกับสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใกล้ๆ

ทั้งสามได้ไปคนละหนึ่งห้อง ลู่เซิ่งจัดการสัมภาระเสร็จแล้ว ก็ออกไปเดินเตร็ดเตร่รอบๆ

เหนือศีรษะยังมีฝาครอบที่ดูดซับสารกายครอบคลุมอยู่ตลอด เขาจงใจปล่อยสารกายหลายสายให้ลอยขึ้นไปเพื่อไม่ให้สะดุดตาคน คนอื่นๆ จึงสัมผัสความผิดปกติไม่ได้

ตัดทะลุสิ่งปลูกสร้าง เดินไปถึงด้านหลัง ด้านหลังเป็นหอคอยสูงสิบกว่าชั้นสามแห่ง ทั้งสามหอคอยหันเข้าหากันเหลือตรงกลางเป็นพื้นที่ว่าง

ลู่เซิ่งเดินอ้อมที่ว่างรอบหนึ่ง จดจำอุปกรณ์ทดสอบส่วนหนึ่งที่วางอยู่ใกล้ๆ ได้คร่าวๆ แล้ว

ตอนนี้มีคนทดสอบบนที่ว่างแล้ว เป็นคนหนุ่มที่อายุน้อยจำนวนหนึ่ง ดูท่าทางจะเป็นคนที่ทางอำเภออื่นๆ แนะนำมา

ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายก็คือ หลังทดสอบไปหลายครั้ง ผู้ได้รับการแนะนำจากอำเภออื่นๆ มีไม่กี่คนที่ผ่านมาตรฐานต่ำสุด

บุรุษอาภรณ์ดำที่รับผิดชอบการทดสอบแสดงสีหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย กำลังกอดอกจดจ้องเด็กบ้านนอกหลายคนที่กำลังต่อแถวทดสอบอยู่

สำหรับคนในนครเขต แม้คนที่มาจากอำเภออื่นๆ เหล่านี้จะมีผู้โดดเด่นเช่นกัน แต่ก็น้อยถึงขีดสุด ส่วนใหญ่แล้วไม่สมประกอบ ต่อให้มายังนครเขต ก็ตามวิธีการเรียนการสอนที่แตกต่างโดยสิ้นเชิงของที่นี่ไม่ทัน

ลู่เซิ่งยืนมองอยู่ด้านข้างสักพัก หลังเกิดความเข้าใจเล็กน้อยแล้วก็กลับไปพักผ่อนในห้อง พร้อมทั้งฝึกฝนปราณจริงแท้ไปด้วย

เนื่องจากไม่ได้มีสิทธิ์ในจุดเชื่อมบนค่ายกลสารกายของที่นี่ ดังนั้นการพัฒนาจึงช้าลงมาก แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ การดูดซับสารกายของที่นี่ก็สูงกว่าระดับเฉลี่ยของอำเภอจันทราหลับไหลสี่ถึงหกส่วน

แค่อยู่ที่นี่เขาก็รู้สึกได้แล้วว่ามีสารกายทะลักเข้ามาในร่างอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

‘ทดสอบความเร็ว พละกำลัง กับความเร็วในการดูดซับสารกายของผู้ได้รับการแนะนำอย่างนั้นหรือ’ ลู่เซิ่งรู้หัวข้อการทดสอบแล้ว

เขานั่งขัดสมาธิอยู่กลางห้อง ฝึกฝนปราณจริงแท้ไปพลาง ใคร่ครวญไปพลาง

คิดจะดึงดูดความสนใจให้เร็วที่สุด แต่ไม่ให้เกิดความแตกตื่นเกินไป เขารู้ว่าตนเองต้องแสดงคุณสมบัติอันน่าทึ่งซึ่งต้องอยู่ในขอบเขตอันสมเหตุสมผล

ลู่เซิ่งเคยอ่านเจอในตำราว่า ความเร็วและพละกำลังของเขาไม่นับว่าหายากนัก เนื่องจากมีคนไม่น้อยที่มีสายเลือดแตกต่างกัน มีแต่ในสถานที่เล็กๆ อย่างอำเภอเท่านั้นจึงค่อยโดดเด่น ความจริงในสถานที่อื่นๆ มีคนที่มีสายเลือดพิเศษจำนวนไม่น้อย กอปรด้วยพรสวรรค์อันเหี้ยมหาญเช่นกัน พลังช้างสารเป็นแค่หนึ่งในจำนวนนี้ ในนครเขต พละกำลังระดับนี้หาไม่ยาก อีกทั้งพละกำลังที่ไปถึงระดับพันธนาการก็มีไม่น้อยเช่นกัน ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะมีสายเลือดเผ่าปีศาจหรือไม่ก็มีระดับความเข้มข้นทางสายเลือดสูง

ในบันทึกบนตำรา คนที่ฝึกฝนปราณจริงแท้ไปถึงขอบเขตปฐมมนุษย์ได้ล้วนเป็นคนที่มีสายเลือดแตกต่าง ส่วนคนธรรมดาจะติดอยู่ในข้อจำกัดทางชีววิทยา ในตอนที่เข้าใกล้ขอบเขตปฐมมนุษย์ เนื่องจากร่างกายจะไม่สามารถพัฒนาได้อีก

ขอบเขตปฐมมนุษย์ก็คือระดับพันธนาการ

‘คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่มีสายเลือด ได้แต่เข้าใกล้ระดับพันธนาการ ต่อให้ดูดซับสารกายก็ไม่อาจก้าวข้ามขีดจำกัด มีแต่คนที่มีสายเลือดเท่านั้น ที่หลังจากไปถึงขีดจำกัดแล้ว สามารถใช้สารกายเป็นเชื้อเพลิงในการกระตุ้นและเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่สายเลือดในร่างกาย แล้วเข้าสู่ขอบเขตปฐมมนุษย์ได้’

ลู่เซิ่งนึกทบทวนคำพูดประโยคนี้ในตำรา พอเปรียบเทียบกันดูก็เข้าใจว่า นี่คือความแตกต่างเหลื่อมล้ำอันเด็ดขาดระหว่างคนธรรมดากับตระกูลขุนนางที่มีสายเลือดในราชวงศ์ต้าอิน

‘โดยเปลือกนอกผู้ที่อยู่ในจุดเชื่อมอย่างพวกเราสามารถยกระดับจากคนธรรมดาได้ แต่ความจริงแล้วในร่างกายของพวกเรามีการดำรงอยู่ของสายเลือดอาวุธเทพอยู่ไม่มากก็น้อย’ ลู่เซิ่งแยกแยะจุดสำคัญออกรางๆ แล้ว

คนธรรมดาได้แต่กลายเป็นอาหาร มีแต่ผู้ที่มีสายเลือดเท่านั้นจึงจะกลายเป็นผู้ปกครอง ต้าอินเหมือนกับสำนักร้อยเส้นสายในรูปแบบที่แข็งแกร่งกว่าเดิม หรือกล่าวอีกอย่างก็คือ มีความเป็นไปได้ถึงขีดสุดที่สำนักร้อยเส้นสายอาจจะเลียนแบบระบบของราชวงศ์ต้าอิน น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้เรียนค่ายกลสารกายที่เป็นแก่นแท้ไปด้วย

……………………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 322 คลื่นใต้น้ำ (2)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์