CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 420 ออกแบบ (2)

  1. Home
  2. ยอดวิถีแห่งปีศาจ
  3. บทที่ 420 ออกแบบ (2)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 420 ออกแบบ (2)

หน้าผาสีน้ำตาลถูกหลอมละลายกลายเป็นหินเหลวไหลลงมา จิ่งหงกระอักเลือดคำโต แขนสองข้างหักเป็นผุยผง เยื่อดำแหลกสลาย ใบหน้าและร่างกายโชกเลือด ขาข้างหนึ่งขาดเป็นสองท่อน ทว่าเขายังคงไม่ยอมแพ้ กำลังพยายามพิงหน้าผาเพื่อลุกขึ้น

ลู่เซิ่งเดินช้าๆ ไปถึงด้านหน้าเขา

“นี่ก็คือการสำนึกตัวของเจ้า เป็นหลักการของเจ้าหรือ”

จิ่งหงไอหลายครั้ง พร้อมกับกระอักเลือดออกมาอีก จากนั้นก็พลันหัวเราะเบาๆ

เหอะๆ…เหอะๆๆ…

เขาใช้วิธีการทั้งหมดและพลังทั้งหมดก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนตรงหน้า แต่มาถึงขั้นนี้กลับยังรอดตายได้ ถ้าไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายมีเป้าหมายอื่น ยังจะเป็นอะไรได้อีก

“ในโลกที่มืดมิดแบบนี้ต้องมี…มีคนมา…ยืดหยัดรักษา…” จิ่งหงกล่าวเสียงทุ้ม แม้เสียงจะขาดๆ หายๆ เพราะอาการบาดเจ็บ แต่ในน้ำเสียงมีปณิธานที่ไม่มีวันสำนึกเสียใจ

“แต่ละคนต่างมีคุณธรรมและแสงสว่างของตัวเอง…” เขาพูดอย่างยากลำบาก

ลู่เซิ่งมองผู้ถืออาวุธที่ใกล้จะพิการตรงหน้า เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ผู้ถืออาวุธอัจฉริยะที่เข้าใกล้ระดับอริยะเจ้าเพียงแข็งแกร่งกว่าเด็กทารกที่ไร้แรงขัดขืนไม่เท่าไหร่ ทว่าแม้จะบาดเจ็บจนมีสารรูปเช่นนี้ อีกฝ่ายก็ยังคงไม่ยอมแพ้

“คุณธรรมใช่หรือไม่ แสงสว่างหรือ คนที่อยู่ในโลกใบนี้ไม่มีสิทธิ์ถามหาสิ่งเหล่านี้มากที่สุด” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างราบเรียบ “แม้แต่การมีชีวิตอยู่ก็ยังต้องพยายามดิ้นรน ยังจะถามหาคุณธรรมอะไรอีก”

“เจ้าไม่เข้าใจ…มันไม่เหมือนกัน…ถ้าหากโลกไม่ใช่แบบนี้ บางทีโศกนาฎกรรมทุกอย่างอาจไม่เกิดขึ้น…แค่กๆ” จิ่งหงพึมพำ

“ช่างเถอะ ดูเหมือนเจ้าจะละทิ้งการขัดขืนแล้ว” ลู่เซิ่งยกมือขึ้น กลางฝ่ามือมีแสงสีทองสว่างไสวสาดกระจายอย่างช้าๆ จากนั้นก็หุบตัวกลายเป็นดาบยาวขนาดหนึ่งหมี่กว่าๆ เล่มหนึ่งอย่างรวดเร็ว

“ยังมีคำสั่งเสียอะไรหรือไม่” เขากล่าวอย่างไม่นำพา

จิ่งหงหัวเราะพลางส่ายหน้า

“อย่างนั้นก็…ลาก่อน” ลู่เซิ่งยกดาบขึ้น ดาบยาวสีทองสาดแสงเจิดจ้าแยงตาอยู่ในมือของเขา ก่อนจะฟันลงด้านล่างอย่างฉับพลัน

ฟ้าว!

เคร้ง!

แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน เสียงใสระเบิดขึ้นตรงหน้าดาบอย่างชัดเจน หอกยาวสีฟ้าเล่มหนึ่งกันตัวดาบไว้อย่างแน่นหนา สัญลักษณ์สามเหลี่ยมสีน้ำเงินที่แยงตากะพริบแสงบนหอกยาว ในสัญลักษณ์นั้นคือม้าบินที่หมุนวนอย่างช้าๆ ตัวหนึ่ง

คนที่ถือหอกไม่ทราบว่ายืนอยู่ด้านข้างลู่เซิ่งตั้งแต่เมื่อไหร่

นี่คือบุรุษหล่อเหลาที่รูปร่างสมส่วนและสูงใหญ่กำยำ เขาไว้ผมสั้นสีน้ำเงินที่สง่างาม สองตาฉายความเย็นชา ความทะนงตน รวมถึงความแน่วแน่สุดเปรียบปานอย่างจิ่งหง สวมชุดที่คล้ายเกราะหนังรัดตัว ด้านหน้าทรวงอกมีคันฉ่องสำริดป้องกันหัวใจที่ส่องแสงสีเงินติดอยู่

“ท่านพี่…ท่านมาแล้ว…” จิ่งหงกล่าวพลางไอพลางอย่างจนใจ

“สวีฉีหรือ” ลู่เซิ่งหยีตาพร้อมกับกล่าวชื่อที่น่าจะเป็นชื่อปลอม ในที่สุดเป้าหมายหลักก็มาถึงแล้ว…อย่างนั้น ละครงิ้วที่วางไว้ก็ควรเริ่มได้แล้วเช่นกัน คำว่าชั่วร้ายกลางฝ่ามือของเขาสั่นไหวน้อยๆ และเริ่มปล่อยสัญญาณประสานไปทางผู้ใช้วิชาชั่วร้ายสองคนที่อยู่ไกลออกไปแล้ว

นั่นคือสัญญาณแจ้งให้ลงมือ

“ลู่เซิ่งแห่งสำนักพันกำเนิด เจ้าอยากตายอย่างไร” สวีฉีเสียงเย็นชาเฉียบขาด ดวงตาที่เย็นเยียบคมกริบจับจ้องลู่เซิ่งในพริบตา แม้จะเพิ่งมาถึงไม่นาน แต่เขาอ่านแผนการของลู่เซิ่งออกไม่น้อยแล้ว

นี่เป็นเพราะลู่เซิ่งไม่ได้ปิดบัง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำในด้านการสันนิษฐานและการตรวจสอบของคนผู้นี้เช่นกัน

“ข้าไม่รู้ว่าตัวเองจะตายอย่างไร” ลู่เซิ่งหัวเราะ “แต่ข้ารู้ว่า อีกเดี๋ยวเจ้าจะต้อง…ตายแล้ว!”

ทันใดนั้นเขายืดตัวขึ้น สองขาขยายเปลี่ยนรูปร่างด้วยความเร็วสูง แล้วกลายเป็นสภาพของร่างหลัก ความเร็ว พลังระเบิด และพละกำลังเพิ่มขึ้นอย่างใหญ่หลง ก่อนจะต่อยหมัดออกไป

“คร่าวิญญาณ!”

หลังจากฟื้นคืนสองขาสู่สภาพเดิม ร่างกายในด้านต่างๆ เช่นความเร็วและพละกำลังของลู่เซิ่งก็ยกระดับขึ้น ถึงแม้ระดับของอริยะเจ้าจะไม่อาจใช้ความแข็งแกร่งทางกายเนื้อมาให้คำนิยามได้ ทว่ากายเนื้อที่แข็งแกร่งก็มอบการคุกคามให้แก่อริยะเจ้าได้ไม่น้อย

พละกำลัง ความเร็ว รวมถึงพลังกระแทกอันน่าสะพรึงกลัวที่เหมือนกับระเบิด ชนใส่ร่างสวีฉีอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น

ตูม!

แสงสีฟ้าจางๆ ชั้นหนึ่งระเบิดขึ้นกลางคนทั้งสอง หอกยาวในมือสวีฉีปรากฏขึ้นด้านหน้าด้วยความเร็วสุดจินตนาการที่แทบเหมือนกับการก้าวกระโดด แล้วแทงใส่หมัดของลู่เซิ่ง แสงสีฟ้าระเบิดขึ้น จากนั้นลู่เซิ่งก็ถอยหลังกลับไป

“สะท้อนกลับ!” ตัวหอกของสวีฉีสั่นไหว พละกำลังอันมหาศาลที่บ้าคลั่งแทบจะเหมือนกันแล่นกลับไปตามแขนของลู่เซิ่ง

นี่เป็นพละกำลังของตัวเขาเอง เป็นพละกำลังอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดจากการระเบิดกายเนื้อของร่างหลักเมื่อก่อนหน้า

ตึง! ตึง! ตึง!

ถอยหลังติดต่อกันสามก้าว บนแขนข้างขวาของลู่เซิ่งมีควันสีขาวลอยขึ้นช้าๆ นั่นเป็นผลหลงเหลือที่เกิดจากการต้านรับการโต้กลับในครั้งนี้

“นี่ก็คือความสามารถของดาบสดับฟ้าหรือ” เขาผุดสีหน้าประหลาดใจ หรือว่าจะได้เจอคนที่สามารถโจมตีเขาจนถอยเข้าเสียแล้ว พึงทราบว่าต่อให้จะเป็นอริยะเจ้า ก็มีไม่กี่คนเท่านั้นที่กายเนื้อทัดเทียบกับเขาได้

สวีฉีที่อยู่ตรงหน้ากลับกล้าปะทะพละกำลังกับเขา ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ

“ไม่ใช่ดาบสดับฟ้า…เจ้าไปฟังมาจากไหนกัน นี่เป็นพลังทางสายเลือดของอาวุธเทพคู่ชะตาของข้าต่างหาก” สวีฉีสีหน้าเย็นเยียบ พอจะทราบวัตถุประสงค์ของลู่เซิ่งแล้ว

“เจ้าไม่ได้ใช้ดาบสดับฟ้าเป็นอาวุธเทพหลักหรือนี่” ลู่เซิ่งขยับกำปั้น “น่าสนใจ” แม้หมัดของเขาจะยังมีควันลอยอยู่ และแขนท่อนปลายปวดแปลบชาดิก ทว่าสำหรับกายเนื้ออันแข็งกล้าของเขาแล้ว ความเสียหายเท่านี้ไม่นับเป็นอะไร

“เจ้าเป็นคนของตระกูลจิ่งเหมือนกันกระมัง เป็นพี่ชายแท้ๆ ของจิ่งหงหรือ พลังนั่น เหมือนกับเขามาก…” ลู่เซิ่งถาม

“หอกเทพแยกฟ้า!”

นึกไม่ถึงว่าสวีฉีที่อยู่ตรงหน้าจะกระโดดพุ่งเข้ามา หอกยาวในมือวาดครึ่งวงกลมวงหนึ่งเหมือนสายฟ้าฟาด ก่อนที่ควงฟาดลงมา

ครืน!

หอกยาวกลายเป็นสายฟ้าสีน้ำเงินเข้มสายหนึ่งในพริบตาเดียว ตัวหอกหลอมรวมเข้ากับประกายแสงสีน้ำเงินที่พร่างพราว รูปม้ามีปิกที่เกิดจากสายฟ้าสีน้ำเงินปรากฏขึ้นด้านหลัง พร้อมกับเหยียบย่ำลงใส่ลู่เซิ่งอย่างรุนแรง

ฮี้!

ม้ามีปีกกางปีกทั้งสองข้าง ยกขาหน้าขึ้นสูง แล้วเหยียบย่ำลงด้านล่าง

ครืน!

เกิดเสียงดังสนั่น สายฟ้าสีน้ำเงินระเบิดขึ้น ลู่เซิ่งยกสองแขนขึ้นมา ร่างกายไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เขาสี่ข้างงอกขึ้นบนศีรษะ เกราะเกล็ดสีดำสนิทโผล่บนตัว ด้านหลังมีหางหยาบใหญ่งอกขึ้นมา ปากกลายเป็นฟันแหลมสามแถวแน่นขนัดเหมือนสัตว์ประหลาด

ม้าสายฟ้ามีปีกร่อนลงพร้อมเสียงดังกึกก้อง แต่กลับถูกเขาคว้าจับกีบเท้าสองข้างไว้ ยันมันไว้กลางอากาศไม่ให้พุ่งลงมา

“พละกำลังไม่เลว…น่าเสียดาย…แต่ก็เพียงเท่านี้ อานุภาพเทพ!”

ตูม!

ลู่เซิ่งเหวี่ยงม้ามีปีกขึ้นไปฟาดใส่หน้าผาด้านนอกอย่างหนักหน่วง

ม้ามีปีกระเบิดแหลก สวีฉีพุ่งตัวออกมาจากในสายฟ้าที่ระเบิดออก หอกยาวกลายเป็นพายุฝนฟ้าคะนอง พร้อมกับทิ่มแทงใส่จุดอ่อนตรงสองตาและสองหูของลู่เซิ่งอย่างบ้าคลั่ง

ลู่เซิ่งใช้สองแขนกันไว้อย่างรวดเร็ว ป้องกันหอกทุกหอกที่ทิ่มแทงเข้ามาได้อย่างแม่นยำและสมบูรณ์แบบ

“เจ้ามีการสำนึกตัวแค่นี้หรือ” เขาอ้าปากหัวเราะเยาะเย้ย

หอกเมื่อครู่มีอานุภาพไม่เลวจริงๆ อย่างน้อยก็มีอานุภาพในระดับสูงสุดของใบไม้ทองคำ แต่นี่ไม่ใช่ขีดจำกัดของลู่เซิ่ง เขาในตอนนี้ การโจมตีที่ไม่ถึงจุดสูงสุดของดาวหยกไม่มีผลต่อเกราะเกล็ดและแก่นหยางของร่างหลักแม้แต่น้อย

อย่างน้อยก่อนที่แก่นหยางของเขาจะหมดเกลี้ยง การโจมตีที่อยู่ต่ำกว่าระดับดาวหยกต่อให้โดนตัวเขาก็เหมือนไม่โดน

ซึ่งความจริง ถ้าไม่ใช่ว่าจิตวิญญาณคอยถ่วงแข้งถ่วงขา ตอนนี้ลู่เซิ่งคงมีกายเนื้ออันเหี้ยมหาญที่ก้าวข้ามระดับดาวหยกไปแล้ว เพียงแต่เขาไม่เคยประมือกับอริยะเจ้าระดับเทวปัญญาอย่างสุดกำลังมาก่อน จึงไม่รู้ว่าพลังของตัวเองไปถึงระดับไหนแล้ว

สวีฉีเป็นอริยะเจ้าระดับสุดยอดดาวหยกตามมาตรฐาน เรื่องนี้มีการพูดถึงในข้อมูลแล้ว ลู่เซิ่งกำลังคิดจะใช้เขาเป็นมาตรฐานการเปรียบเทียบสำหรับวัดพลังของตัวเองอยู่พอดี เขาหลุดจากสารบบของอริยะเจ้าดั้งเดิมไปแล้ว จึงได้แต่มองหาจุดอ้างอิงมาเปรียบเทียบพลังที่แท้จริงเอง

“หนามพสุธาแยกปฐพี” หลังต่อสู้กันพักหนึ่ง สวีฉีต้องเอาจริง อยู่ๆ เขาก็ถอยหลัง แล้วฟาดตัวหอกใส่พื้นดิน

ลู่เซิ่งตอบสนอง กระทืบเท้าขวาใส่พื้นอย่างหนักหน่วงเช่นกัน

แก่นหยางสีทองซึมเข้าไปในพื้นดิน แล้วปะทะกับหอกสายฟ้าสีน้ำเงินที่กำลังจะพุ่งออกมาจากข้างล่าง

ตูมๆๆๆ!

เกิดเสียงระเบิดหลายครั้ง ใต้พื้นดินสั่นสะเทือน

จิ่งหงที่อยู่ไม่ไกลออกไปโดนลูกหลง อดส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดไม่ได้ สวีฉีใบหน้าเปลี่ยนแปลง ทราบว่าเรื่องราวในครั้งนี้ไม่มีทางสำเร็จแล้ว เขาสู้กับลู่เซิ่งอย่างเต็มที่ ไม่มีการออมแรงแม้แต่น้อย แต่ก็ยังจัดการอีกฝ่ายไม่ได้ ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเวลาอื่นสถานที่อื่น เขาอาจจะทำศึกกับอีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่

ทว่าตอนนี้ทำไม่ได้ จิ่งหงทนไม่ไหวแล้ว

สวีฉีนึกถึงลู่เซิ่งที่เล่นงานน้องชายจนบาดเจ็บขนาดนี้ ในใจเกิดความเคียดแค้น แต่ก็จนปัญญา

เขาพุ่งเข้าไปอุ้มน้องชายขึ้น แสงสายฟ้าขนาดยักษ์กลุ่มหนึ่งระเบิดออกจากหอกเทพสีน้ำเงินพร้อมเสียงดังสนั่น

แสงสายฟ้าขนาดยักษ์รวมตัวกันเป็นก้อนกลม ยิ่งมายิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งมายิ่งแยงตา ด้านในมีเสียงม้ามีปีกร้องดังมารำไร

“หอกเทพแปรเปลี่ยนแตกกระจาย!” เขาตวาดพร้อมกับยกหอกเทพด้วยมือหนึ่ง ก่อนจะหวดลงไปด้านล่าง

ปลายหอกที่มีก้อนสายฟ้าขนาดยักษ์ฟาดใส่พื้นอย่างฉับพลัน

ตูม!

ก้อนสายฟ้าตกลงพื้น สายฟ้าสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนกลายเป็นงูสายฟ้าบินฉวัดเฉวียนและระเบิดออก พื้นดินและต้นไม้ในรัศมีหลายร้อยหมี่ที่มีทั้งสองเป็นศูนย์กลางยุบลงกลายเป็นดินไหม้

ในประกายสายฟ้าอันเจิดจ้า ม้ามีปีกสีฟ้าตัวหนึ่งโผพุ่งขึ้นฟ้า เงยหน้าร้องคำราม เมฆสายฟ้าสีดำแผ่กระจายตลบอบอวลในอากาศด้วยความเร็วสูง

ในประกายสายฟ้า เงาคนสายหนึ่งพยายามลุกขึ้น สายฟ้านับไม่ถ้วนไหลเวียนและเต้นระริกบนร่างของเขา

ลู่เซิ่งหัวเราะอย่างดุดันขณะมองดูสวีฉีกระโจนออกไปไกล แขนขวาพองขยายด้วยความเร็วสูง อึดใจเดียวก็พองจนหนาเกือบสามหมี่กว่าๆ ประกายสีทองกลุ่มหนึ่งหมุนวนและสว่างขึ้นกลางฝ่ามือของเขาด้วยความเร็วสูง ทั้งยังเล็งไปยังพวกสวีฉีที่อยู่ไกลออกไป

“อานุภาพเทพ…ไร้ขอบเขต!”

ฟ้าว!

เส้นสีทองเส้นหนึ่งพุ่งออกมาจากมือลู่เซิ่ง พริบตาเดียวก็ข้ามผ่านระยะห่างหลายร้อยหมี่ แล้วหมุนพุ่งเข้าหากลางหลังของสวีฉี

“วิญญาณจรสี่ทิศ” สวีฉีสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง พอสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังระดับสูงสุดของดาวหยกอันน่ากลัวด้านหลัง ดาบโค้งสีเขียวมรกตเล่มหนึ่งพลันลอยขึ้นด้านหลังเขา ก่อนจะหมุนวนด้วยความเร็วสูงและเปล่งแสงสีเขียว

แสงสีเขียวกลายเป็นใบหูข้างหนึ่งในพริบตา แล้วห่อหุ้มทั้งสองพร้อมกับโผบินไปยังที่ไกลด้วยความเร็วอันน่ากลัวที่ยากจะเข้าใจ

“ลงมือ!” ลู่เซิ่งเห็นดังนั้น แทนที่จะตกใจกลับยินดี พลันส่งเสียงตะโกน

ฟิ้ว!

โซ่สีขาวเทาเส้นหนึ่งทะลุมิติโผล่ขึ้นด้านหลังสวีฉี แล้วมัดดาบโค้งสีเขียวมรกตอย่างดุดัน

สวีฉีสีหน้าผกผัน ไม่เข้าใจโดยสิ้นเชิงว่าโซ่สีขาวเทาเส้นนี้พุ่งมาจากทางไหน

“ตาย!” ลู่เซิ่งกระโดดไล่ตาม ฝ่ามือขวาปล่อยแสงเจิดจ้าราวดวงอาทิตย์ออกมา เขาผลักฝ่ามือที่ใช้อานุภาพเทพออกไปสุดกำลัง แก่นหยางในกายระเบิดดุจเขาถล่ม พร้อมกับพุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่งตามฝ่ามือ

ทว่าในเวลาเดียวกัน สีหน้าสวีฉีเปลี่ยนไป ร่างกายที่ถูกโซ่สีขาวเทามัดไว้ระเบิดออกเป็นแสงสายฟ้าเข้มข้น หนึ่งวินาทีก่อนที่ลู่เซิ่งจะมาถึง สายฟ้าสีน้ำเงินห่อหุ้มเขากับจิ่งหงไว้ ทว่าพอสายฟ้าระเบิดอย่างสะเทือนเลือนลั่น ก็เผยให้เห็นร่างของทั้งสองอีกหนหนึ่ง

ตูม!

ฝ่ามือที่เปล่งแสงสีทองของลู่เซิ่งเจาะทะลุร่างของทั้งสอง เขาที่ลอยอยู่ถึงกับไม่รู้สึกถึงสัมผัสใดๆ

เวลานี้ร่างของสวีฉีกับจิ่งหงจึงค่อยๆ สลายไป กลายเป็นเงาลวงตาสองสายเท่านั้น!

เสียงเปรี้ยงดังขึ้นเมื่อลู่เซิ่งทิ้งตัวลงพื้นอย่างหนักหน่วงในลักษณะคุกเข่าข้างหนึ่ง พื้นดินรัศมีสิบกว่าหมี่ยุบตัวลงพร้อมกัน ถูกกดทับจนส่งเสียงแตกร้าว

อ๊าก!

เขาพลันลุกขึ้นแล้วต่อยใส่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง

ตูม!

แสงสีทองระเบิดออก ต้นไม้และพื้นดินทั้งหมดในรัศมีมากกว่าร้อยหมี่รอบๆ ถูกเสาแสงสีทองขนาดมหึมากวาดออกไปโดนจนระเบิด

เปลวไฟลุกโหมอยู่ชั่วขณะ ควันสีดำลอยตลบอบอวลบนกิ่งใบ ผ่านไปสักพักจึงโปรยปรายลงมาเหมือนกับหยาดฝน

……………………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 420 ออกแบบ (2)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์