CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 500 ความปั่นป่วน (2)

  1. Home
  2. ยอดวิถีแห่งปีศาจ
  3. บทที่ 500 ความปั่นป่วน (2)
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

บทที่ 500 ความปั่นป่วน (2)

“ไม่ต้องสนใจมัน จากไปด้วยความเร็วสูงสุด” ลู่เซิ่งสั่งเสียงทุ้ม

ครั้งนี้ความเร็วของทั้งสองทบทวีขึ้น

อวิ๋นเหย่ไม่ได้ว่องไวเท่าไหร่ พอดีที่หลิ่วเอ๋อร์รอบรู้เรื่องวิชาเคลื่อนไหว เมื่อครู่ไม่ได้ตั้งตัว พอตอนนี้เดินทางด้วยความเร็วสูงสุด ความแตกต่างระหว่างสองฝ่ายไม่เพียงไม่หดสั้นลง กลับมีแต่จะห่างออกไปมากขึ้น

อวิ๋นเหย่ร้อนใจ อุตส่าห์ตามเจ้าสำนักสี่สมุทรที่ได้รับบาดเจ็บหนักทัน ถ้าหากกลืนกินสองคนนี้ได้ล่ะก็ ความก้าวหน้าในการฟื้นฟูพลังของเขาจะเร็วขึ้นอย่างใหญ่หลวง

สีหน้าของเขาฉายแววละโมบ ปราณมารสีดำทะลักออกมาทั่วร่างเพื่อใช้เพิ่มความเร็วในการเหาะเหินของตัวเอง

“สหายร่วมเส้นทาง หยุดสักครู่ได้หรือไม่ ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย” เขาจงใจแสร้งทำตัวเป็นคนผ่านทางที่บริสุทธิ์เพื่อทำให้ทั้งสองตรงหน้าชะงัก แต่นึกไม่ถึงว่าสองคนนี้จะไม่ติดกับ

“ข้าคือผู้พเนจรซื่อหยวน ผ่านมาเจอสหายร่วมเส้นทางเข้าพอดี เห็นสีหน้าของท่านไม่ดี เกรงว่าจำเป็นต้องใช้โอสถวิญญาณยาวิเศษเพื่อกลับคืนจุดสูงสุด เผอิญข้ามีของดีๆ แบบนี้อยู่ไม่น้อย ราคาตกลงกันได้ สหายร่วมเส้นทางสองคนไม่ลองหยุดพิจารณาดูหรือ”

อวิ๋นเหย่หาสถานะมาปลอมแปลง ผู้พเนจรซื่อหยวนมีตัวตนอยู่จริงๆ เป็นจอมสัจจะฝ่ายมาร นอกจากนี้ยังเป็นสายลับสองหน้าในหมู่จอมสัจจะด้วย เขามีงานอดิเรกแปลกแปลกประหลาด ปกติจะชอบรวบรวมยาประหลาดๆ

น่าเสียดายที่จอมสัจจะผู้นี้ถูกกลืนกินไปหลังจากโดนเขาเจอตัว ยาหลากหลายชนิดบนร่างอีกฝ่ายย่อมตกเป็นของเขาอวิ๋นเหย่

เขาคิดว่าสำนักสี่สมุทรอยู่โพ้นทะเล ไม่รู้จักจงหยวนดีนัก จึงจงใจปลอมตัวเป็นผู้พเนจรซื่อหยวน

ผู้พเนจรซื่อหยวนมีพลังฝึกปรือระดับทารกจิตช่วงต้น กลิ่นอายพลังฝึกปรือที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้ก็เป็นช่วงต้นเช่นกัน หลิ่วเอ๋อร์เองก็เป็นช่วงต้น ความจริงไม่ได้มีการคุกคามอะไรนัก

พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ หลิ่วเอ๋อร์ก็ลังเลเล็กน้อย

นางเคยได้ยินเรื่องผู้พเนจรซื่อหยวนมาก่อน แต่ไม่เคยเจอหน้าจริงๆ ที่แล้วมาคนผู้นี้พกพาของวิเศษที่เป็นหน้ากากหลากหลายรูปแบบ จากข่าวลือทำให้นางทราบว่าคนผู้นี้ครอบครองยาล้ำค่าไว้ในมือไม่น้อย ถ้าหากแลกเปลี่ยนยาที่ฟื้นฟูพลังฝึกปรือชั่วคราวได้ส่วนหนึ่ง สมควรมีประโยชน์ต่อเจ้าสำนักเป็นอย่างมาก

“ผู้พเนจรซื่อหยวนหรือ” ลู่เซิ่งถามอย่างสงสัย “คนผู้นี้เป็นใคร”

“จอมสัจจะพเนจรที่มีงานอดิเรกประหลาดคนหนึ่ง งานอดิเรกของเขาในยามปกติคือการสนทนากับผู้คนและรวบรวมสิ่งของกับยาประหลาดๆ” หลิ่วเอ๋อร์อธิบาย จากนั้นก็บอกข้อมูลที่ตนรู้เกี่ยวกับผู้พเนจรซื่อหยวนให้ลู่เซิ่งฟังอย่างละเอียด

พอฟังคำแนะนำคร่าวๆ จบ ลู่เซิ่งก็ไตร่ตรองดู

“ใกล้ๆ นี้มีที่ลับตาคนหรือไม่ ทางที่ดีให้เป็นด้านในแดนต้องห้ามที่ขวางกั้นปราณกำเนิดฟ้าดินได้”

“เอ่อ…” หลิ่วเอ๋อร์ครุ่นคิด “มีอยู่ที่หนึ่ง ไปทางตะวันตกสองร้อยลี้ จะมีบึงมังกรอยู่ ปกติด้านในมีควันพิษกระจายอยู่ ปราณกำเนิดฟ้าดินเลยเข้าไปไม่ได้ ไม่ทราบว่าจะทำให้เจ้าสำนักพอใจหรือไม่”

“ไปที่นั่นเลย” ลู่เซิ่งพยักหน้า ก่อนจะหลับตารักษาอาการบาดเจ็บอีกรอบ

ทั้งสองคนเหาะเหินอยู่ด้านหน้า อวิ๋นเหย่ติดตามอยู่ด้านหลังอย่างไม่ยอมลดละ คนสองกลุ่มทยอยเข้าไปในท้องฟ้าเหนือป่ารกชัฏเงียบสงัดแห่งหนึ่ง

หลิ่วเอ๋อร์ลดความเร็วลงพร้อมกับบินไปด้านในตามคำสั่งของลู่เซิ่ง ควันพิษสีเขียวอมเทาค่อยๆ หนาตัวขึ้นในอากาศ ต่อให้ดมไปเพียงครั้งเดียว ก็สัมผัสถึงความแสบที่ทิ่มแทงจมูกได้อย่างชัดเจน

หลังจากเข้าสู่บึงมังกร หลิ่วเอ๋อร์ก็ค่อยๆ ลดความเร็วในการเหาะเหินลง ในที่สุดอวิ๋นเหย่ก็ตามทัน เคลื่อนที่เคียงคู่คนทั้งสอง

“ตอนนี้สหายร่วมเส้นทางสองท่านควรจะหยุดได้แล้วกระมัง” เขาปล่อยปราณมารสีดำสายหนึ่งออกมาขวาวด้านหน้าเมฆขาวอันเป็นพาหนะของพวกลู่เซิ่งอย่างแม่นยำ

หลิ่วเอ๋อร์รีบควบคุมให้เมฆขาวสลายไป พร้อมกับประคองลู่เซิ่งกระโดดลงมาอยู่กลางป่าด้านล่างที่เกลื่อนด้วยใบไม้

ป่าสีเขียวเข้ม พื้นหญ้าสีเหลืองหม่น แสงอาทิตย์สีแดงก่ำส่องกระจัดกระจายมาจากเหนือศีรษะ สองฝ่ายหยุดลงกลางสภาพแวดล้อมเช่นนี้อย่างรวดเร็ว

อวิ๋นเหย่ค่อยๆ ทิ้งตัวลงพื้น ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

“เหตุใดพอทั้งสองท่านเห็นข้าจึงเร่งความเร็วหลบหนี ที่แล้วมาการแลกเปลี่ยนของข้าขึ้นอยู่กับความสมัครใจ มีความยุติธรรม จำไม่ได้ว่าเคยมีชื่อเสียงแย่ๆ แบบนี้”

เขาพูดไปพลาง หยดของเหลวเหนียวหนืดสีดำจากปลายนิ้วที่ซ่อนไว้ด้านหลังออกมาไปพลาง พอของเหลวเจอดินก็มุดเข้าไป จากนั้นก็หายไปเหมือนกับสิ่งมีชีวิต

แค่กๆ…

ลู่เซิ่งเอื้อมมือไปยันต้นไม้ต้นหนึ่งพร้อมกับไอสองครั้ง ก่อนจะยืดตัวขึ้นมองร่างนักพรตที่ค่อยๆ ทิ้งตัวลงตรงหน้า

“ดูเหมือนพลังฝึกปรือจะแย่ไปหน่อย ช่างเถอะ ยังดีกว่าไม่มีอะไรชดเชย”

อวิ๋นเหย่ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอะไร แต่ว่าเจ้าสำนักสี่สมุทรที่ได้รับบาดเจ็บตรงหน้าจะต้องเป็นโอกาสที่ดีที่สุดของตนเท่าที่ประวัติศาสตร์เคยมีมาเป็นแน่แท้ พลังอาคมอันน่ากลัวที่ยิ่งใหญ่จนทำให้เขาคันหัวใจยากอดกลั้นสายนั้นเป็นสุดยอดยาบำรุงในปัจจุบันนี้ของเขาอย่างแน่นอน

เวลานี้ดินโคลนใต้เท้าเขาค่อยๆ ปรากฏสีดำขึ้น ปราณมารที่เหมือนเงามืดกลุ่มใหญ่แผ่กระจายออกมาจากรอบๆ อย่างไร้สุ้มเสียง ไม่นานก็ยึดครองอาณาเขตใต้ฝ่าเท้าของคนทั้งสามเอาไว้โดยสิ้นเชิงง

“เดี๋ยวสิ เจ้าคือ!?” หลิ่วเอ๋อร์พลันงุนงง แล้วพบความผิดปกติทันที จึงรีบถอยหลังสองก้าว แต่กลับตะลึงงันว่าสองขาของตนหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม มิอาจขยับเขยื้อนได้

“เหอะ…” ปราณมารสีดำที่พลิกม้วนบิดเบี้ยวกลุ่มหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นด้านหลังอวิ๋นเหย่ ดวงตามังกรสีแดงก่ำสองดวงสว่างขึ้นในปราณมาร แล้วจับจ้องพวกลู่เซิ่งด้วยความชั่วร้าย บ้าคลั่ง และละโมบ

“ถูกพบเร็วขนาดนี้เชียว…ความรู้สึกไวจริงๆ…” เขาเลียริมฝีปากและเดินเข้าไปใกล้อย่างช้าๆ

เงามารด้านหลังใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากสูงเท่าหนึ่งคนครึ่งในตอนแรก กลายเป็นสองหมี่ สามหมี่ สี่หมี่ และห้าหมี่อย่างรวดเร็ว…!

เงามารที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ค่อยปรากฏเค้าโครงแจ่มชัดพร้อมกับปราณมารที่ทะลักเข้าไป

นั่นเป็นมารร่างคนที่มีเปลวไฟสีแดงก่ำลุกไหม้บนผม สวมเกราะอ่อนติดหนามแหลมหนาหนักน่ากลัว สองบ่าคล้ายรัดพันสิ่งที่เหมือนกับผืนผ้าเอาไว้

มารยึดครองด้านหลังอวิ๋นเหย่ สองตาแดงฉาน ปล่อยความเย็นเยียบเสียดกระดูกไปรอบๆ เหมือนกับตาพายุ

“แต่ไม่เป็นไร…พบแล้วอย่างไร เพราะพวกเจ้าจะต้องหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับข้าอยู่ดี จงรู้สึกโชคดีเสียเถอะที่สามารถรวมเป็นหนึ่งกับข้าผู้เป็นมารโบราณสูงสุดได้ นี่เป็นความโชคดีที่ต่อให้เป็นเผ่ามารระดับสูงในพิภพมารก็ยังจินตนาการไม่ออกเลย”

มารขยายร่างขึ้นเรื่อยๆ ดุร้ายและบิดเบี้ยวขึ้นเรื่อยๆ กล้ามเนื้อบนร่างมันเริ่มปรากฏดวงตาสีดำขนาดเล็กๆ จำนวนมาก

ดวงตานับไม่ถ้วนกระจายอยู่กลางทรวงอกของเงามาร กะพริบทีละกลุ่มใหญ่

“เจ้าสำนักสี่สมุทรคงคิดไม่ถึงกระมังว่าตัวเองที่มุ่งหน้าไปทวงถามความยุติธรรมจากวิถีธรรมะจะถูกคนเล่นงานสาหัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ตอนนี้ยังถูกหมายตาระหว่างกลับอีก ตอนแรกข้านึกว่าไอ้โชคชะตาที่วิถีธรรมะพูดถึงเป็นแค่สิ่งเลื่อนลอยซึ่งไม่มีอยู่จริง ตอนนี้ดูเหมือนจะมีหลักการอยู่ส่วนหนึ่งจริงๆ มนุษย์มักจะสรุปสิ่งที่น่าอัศจรรย์สุดหยั่งซึ่งแปลกประหลาดแต่กลับสมเหตุสมผลออกมาได้เสมอ ทั้งๆ ที่เมื่อครู่เจ้าขาดอีกนิดเดียวก็จะทำลายวิถีธรรมะได้โดยสมบูรณ์แล้วแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ยังโดนจอมมรรคานั่นพลิกกระดานจนประสบโศกนาฎกรรมนี้”

ร่างหลักของเขาค่อยๆ หลอมรวมกับร่างมาร จากนั้นก็หมุนตัวไปเงยหน้ามองฟ้า และบรรยายความคิดที่เก็บไว้ในใจตนอย่างสะท้อนใจ

“ช่างน่าเศร้าจริงๆ นี่ก็คือมนุษย์ มนุษย์ที่ไม่เคยมองข้อบกพร่องของตัวเองตรงๆ ข้อตกลงนั่นหรือ เป็นของไร้สาระโดยแท้ ชีวิตสมควรวิวัฒนาการจากการเข่นฆ่ากันต่างหาก ข้อตกลง ความน่าเชื่อถือ สัญญา คำสาบาน? ของพวกนี้ล้วนไม่จำเป็น ขอแค่แข็งแกร่งขึ้นได้ ข้าก็ละทิ้งได้ซึ่งทุกสิ่ง หรือควรบอกว่า สิ่งเหล่านี้เดิมทีเป็นเครื่องมือที่มนุษย์ใช้มาพันธนาการตนเองซึ่งจะมีก็ได้หรือไม่มีก็ได้ บางครั้งเจ้าจะเข้าใจว่าแก่นสารของสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงพันธนาการก็ต่อเมื่อละทิ้งพันธนาการเท่านั้น และตอนนี้ ให้ข้าได้เห็นหน่อยเถอะว่า ความตระหนักรู้สุดท้ายของเจ้าในฐานะมนุษย์นั้น…” อวิ๋นเหย่หมุนตัวมา กำลังจะกางสองมือ อยู่ๆ ใบหน้าก็แข็งทื่อ

ไม่ไกลจากเงามารของเขา มารสีดำขนาดมหึมาที่น่ากลัวและเต็มไปด้วยหนามแหลมกำลังก้มมองเขาด้วยความสนอกสนใจ

มารสูงถึงหกเจ็ดสิบหมี่ ปล่อยกลิ่นอายประหลาดที่บิดเบี้ยวปั่นป่วนอย่างไม่รู้ตัวในขณะที่นั่งขัดสมาธิ

หางหยาบใหญ่ที่มีขนาดมหึมาส่ายไหวโดยที่ไม่ได้ควบคุม เงามืดขนาดมโหฬารทาบลงบนร่างอวิ๋นเหย่ บดบังเขาจนมิด

“พูดต่อสิ ข้าเพิ่งเคยได้เห็นเป็นครั้งแรกว่ามีมารที่มีแนวคิดที่ล้ำลึกแบบนี้อยู่ด้วย” ลู่เซิ่งร่างหลักกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมกับก้มหน้ามองอวิ๋นเหย่ที่ไม่ต่างอะไรจากหนูขนปุยเมื่อเทียบกับตน

อวิ๋นเหย่มีสีหน้าตกตะลึง มองลู่เซิ่งพักหนึ่ง ก่อนที่สายตาจะค่อยๆ เลื่อนอย่างแข็งทื่อไปยังผู้ครองเขาฉีซันหลิ่วเอ๋อร์ที่อ่อนระทวยล้มลงกับพื้นใกล้ๆ ด้วยมีสีหน้าหวาดผวา เหงื่อไหลลงมาจากหน้าผากอย่างช้าๆ

“ยะๆๆๆ…อยู่ๆ ข้าก็นึกได้ว่า ยังมี…มีเรื่องสำคัญมากที่…ที่ยังไม่ได้ทำ…ทะ…ทะ…ทะ…ท่านเจ้าสำนักกำลังรีบกลับไม่ใช่หรือ ข้าน้อยขอตัว…ขอ….”

เปรี้ยง!

ร่างของมนุษย์มารที่สูงเจ็ดหมี่กว่าๆ ของเขาถูกนิ้วมือใหญ่ข้างหนึ่งกดจมลงไปในโคลนดำและใบไม้แห้ง

พื้นในรัศมีหลายร้อยหมี่จมลง อวิ๋นเหย่ที่ร่างอ่อนระทวยถูกลู่เซิ่งคีบออกมาจากในดิน แล้วโยกส่ายไปมากลางอากาศ

“เมื่อครู่เจ้าพูดได้ไม่เลวนี่ พูดต่อสิ เป็นทฤษฏีที่น่าสนใจมาก ข้ากินเผ่ามารมาตั้งมากมาย เพิ่งจะเคยเห็นพวกที่มีความคิดอย่างเจ้าเป็นครั้งแรก” ลู่เซิ่งสะบัดโคลนบนตัวอวิ๋นเหย่ออกด้วยความสนใจยิ่ง

พืชผักก็มีความคิดได้เช่นกัน นี่เป็นความคิดของลู่เซิ่งในตอนนี้ น่าสนใจยิ่ง

ปราณมารโบราณทั่วร่างอวิ๋นเหย่โดนสนามพลังที่น่ากลัวและบิดเบี้ยวบนตัวลู่เซิ่งสะกดโดยสมบูรณ์ ในสายตาของลู่เซิ่ง ปราณมารบนร่างอีกฝ่ายเป็นแบบเจือจางกว่าปราณมารในพิภพมารที่แสนธรรมดาในโลกของต้าอินเท่านั้น

เขาจำไม่ได้แล้วว่าตนกินมารแบบนี้มามากเท่าไหร่ แม้ตัวมารตรงหน้าจะมีปราณมารจำนวนมาก แต่ก็ยังคงหลุดไม่พ้นจากขอบเขตนี้

แปดวิถีมารสูงสุดของเขาแทบกลายเป็นดาวข่มเผ่ามารไปแล้ว

“ขะๆๆๆ ข้า…” อวิ๋นเหย่ตัวอ่อนยวบ ปราณมารบนตัวสั่นไหวอย่างรุนแรงเหมือนไม่ใช่ของเขา พร้อมกับส่งสัญญาณความหวาดกลัว การคิดหลบหนี และความหวั่นเกรงออกมาทางเส้นประสาทอย่างอย่างบ้าคลั่งราวกับเจอศัตรูทางธรรมชาติ

“ตกใจจนสติแตกไปแล้วหรือ” ลู่เซิ่งผิดหวังเล็กน้อย ตอนนี้ร่างหลักสามารถปรากฏตัวบนโลกใบนี้ได้ในเวลาสั้นๆ ไม่อาจอยู่เกินหนึ่งชั่วยาม ไม่อย่างนั้นจะถูกธรรมชาติของโลกใบนี้กีดกัน

พอเห็นอวิ๋นเหย่ตกใจจนสติแตก เขาก็ได้แต่หิ้วอีกฝ่ายขึ้นมาแล้วหย่อนใส่ปากอย่างจนปัญญา

“ช่างเถอะ ถึงจะโง่ไปหน่อย แต่มีคุณค่าก็พอ” ฟันแหลมสามแถวบดเคี้ยวดังกร้วมๆ ก่อนจะกลืนอวิ๋นเหย่ลงไป

อึก

เลือด กระดูก และกล้ามเนื้อที่มีปราณมารสีดำแทรกอยู่ไหลออกมาจากมุมปากของลู่เซิ่ง แล้วถูกเขาใช้ลิ้นสีแดงที่มีหนามกลับด้านงอกอยู่เต็มไปหมดเลียกลับเข้าไป

แค่คำเดียว มารโบราณที่มีชื่อว่าอวิ๋นเหย่และภัยพิบัติในอนาคตที่สุดจินตนาการก็หายไปจากโลก

ลู่เซิ่งจุ๊ปาก แล้วมองไปยังหลิ่วเอ๋อร์ที่แกล้งสลบอยู่ใกล้ๆ

ลังเลเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็ไม่จับกิน ปีศาจงูตนนี้นับว่ายังรู้ความอยู่

……………………………………….

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "บทที่ 500 ความปั่นป่วน (2)"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์