ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 601 สามขีดจำกัดใหญ่ (3)
บทที่ 601 สามขีดจำกัดใหญ่ (3)
“ไม่พูดถึงเรื่องของศิษย์พี่ใหญ่แล้ว ช่วงนี้เจ้าเจอวิธีการลดความอ้วนดีๆ บ้างไหม ข้ารู้สึกว่าช่วงนี้ข้าอ้วนขึ้นนิดหน่อยแล้ว…” เซินเซินเปลี่ยนหัวข้อ
“อ้วนขึ้น…นิดหน่อยหรือ…” ลู่เซิ่งมองไขมันที่ใหญ่กว่าเขาเกือบห้าเท่าบนขาของเซินเซินอย่างเอือมระอาเล็กน้อย
แต่เอือมระอาก็ส่วนเอือมระอา แผนการยังต้องดำเนินต่อไป เขาต้องรีบเอาสามขีดจำกัดใหญ่มาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นค่อยเริ่มวางแผนหาเงิน การยกระดับจิตวิญญาณเป็นเรื่องเร่งด่วน ผ่านมานานขนาดนี้ เขาเข้าใจกฎเกณฑ์ของนครตราชั่งออกแล้ว
“วิธีการ กลับมีอยู่นิดหน่อย ทว่า…” เขาทำเป็นลังเล
“ทว่าอะไร” เซินเซินตาเป็นประกายเล็กน้อย
“แต่ว่า ตอนนี้ข้ายังไม่ค่อยมีความมั่นใจในวิชาแพทย์ของข้ามากนัก ถ้าหากท่านช่วยข้าขอให้บิดาท่านมอบสามขีดจำกัดใหญ่ให้ข้าได้ อย่างนั้นก็จะไม่มีปัญหาแล้ว” ลู่เซิ่งไม่คิดจะล่อลวงหรือหลอกเซินเซิน หากแต่เสนอการแลกเปลี่ยนที่ใกล้เคียงกับการค้าขายให้
ซึ่งความจริงมีแต่ถูจินคนเดียวเท่านั้นที่เห็นความสำคัญของวิชารักษาที่มีแบบแผน คนอื่นๆ ไม่ได้สนใจอะไรนัก ในนครหลวงขอแค่รวย ล้วนแลกวรยุทธ์วิชาลับระดับสูงมาได้ทั้งหมด คงไม่มีใครกินอิ่มแล้วอยู่ๆ ก็เบื่อ เลยมาจมปลักกับวิชาแพย์ที่ใช้โจมตีไม่ได้ของที่นี่กระมัง
ต้องบอกก่อนว่าวิชาหลักมากกว่าห้าส่วนในตลาดของยุคสมัยนี้ล้วนมีผลรักษาอาการบาดเจ็บ ยิ่งอย่าว่าแต่พวกผู้เข้มแข็งที่มีระดับสูงกว่าเลย หลายๆ คนล้วนมีคุณสมบัติร่างกายอันน่าสะพรึงที่สามารถตัดแขนขาแล้วงอกได้ใหม่
กอปรกับโอสถขัดหลักธรรมชาติและค่ายกลฟื้นฟูของพวกปรมาจารย์โอสถและปรมาจารย์ค่ายกลซึ่งมีประสิทธิผลเหี้ยมหาญสุดเปรียบปาน จึงทำให้วิชาแพทย์มีประโยชน์ไม่มากนักเมื่ออยู่ที่นี่
“นี่เจ้าเอาจริงเหรอเนี่ย” เซินเซินมองลู่เซิ่งอย่างแปลกใจ
“ข้าเป็นคนรักสงบ หลังจากเข้าใจว่าวิชารักษาที่มีแบบแผนไม่ใช่วิชาที่มีคุณสมบัติโจมตี ข้าก็ถูกใจวิชาแพทย์วิชานี้เป็นอย่างยิ่ง” ลู่เซิ่งรำพึงรำพัน “ชีวิตตั้งแต่เกิดมาจนร่วงโรย อย่างไรชีวิตหนึ่งก็ต้องเดินสู่ความตาย ทั้งๆ ที่มีชะตาลิขิตเหมือนกัน เหตุใดทุกคนจึงเข่นฆ่ากันเองเล่า”
เซินเซิน “…”
“เจ้าอย่าใช้น้ำเสียงปลอมๆ แบบนี้พูดได้หรือไม่” นางขนลุกขนพอง
“แล้วข้าควรพูดอะไรเล่า” ลู่เซิ่งยักไหล่ “สรุปคือ ความจริงข้าสนใจในสามขีดจำกัดใหญ่ของอาจารย์มาก กอปรกับข้าพบว่าข้าเหมือนจะมีพรสวรรค์ที่ไม่เลวทางด้านวิชาแพทย์ ดังนั้นคิดจะศึกษาให้ลึกลงไปอีก แล้วค่อยคิดวิธีหาเงิน”
“เหตุผลนี้ไม่เลว ก็ได้ ข้าจะช่วยเจ้า ถึงอย่างไรนอกจากเจ้า ตาเฒ่าก็ไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่าแล้ว วิชาล้าหลังที่ขนาดเอาโยนลงพื้นยังไม่มีใครแล ยังจะมาซ่อนเอาไว้อีก ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่” เซินเซินทำท่าผ่าเผย
“สามขีดจำกัดใหญ่ใช่ไหม ข้ารู้ว่าเขาเก็บไว้ไหน ตอนเด็กๆ ข้าเคยแอบเอาออกมาดูหลายครั้งแล้ว เป็นของเล่นที่ลี้ลับทีเดียว ตาเฒ่าฝึกมาหลายปี ทว่ายังแตะชายขอบไม่ได้ด้วยซ้ำ อีกประเดี๋ยวข้าจะเอาออกมาให้เจ้า”
เซินเซินหัวเราะคิก “ตาเฒ่านั่นบื้อจะตาย นึกเอาเองว่าเก็บซ่อนไว้ดีแล้ว ไม่รู้เลยว่าข้าเอาออกมาอ่านนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”
ลู่เซิ่งนึกไม่ถึงว่าจะได้ของมาง่ายขนาดนี้ พลันกล่าวอย่างชื่นใจว่า “ได้ ท่านเอามาให้ข้า แล้วข้าจะช่วยลดน้ำหนักให้ท่านเอง!”
“ไม่มีปัญหา!” เซินเซินพยักหน้า “พรุ่งนี้ตาเฒ่าจะออกไปตรวจที่หมู่บ้านใกล้ๆ ถึงตอนนั้นข้าจะเอาออกมาให้เจ้าเอง”
“ดี!” ลู่เซิ่งพยักหน้า “ข้าจะช่วยท่านเริ่มขั้นที่หนึ่งของการลดน้ำหนักก่อน”
ครั้งนี้สองฝ่ายต่างปรีดา
ลู่เซิ่งพาเซินเซินเข้าไปในห้องนาง จากนั้นก็เตรียมมีดผ่าตัด ธูปเมฆาดำ และน้ำละลายไขมันขวดหนึ่ง
น้ำละลายไขมันเป็นยาที่ตัวเขาปรุงขึ้นเอง โดยออกแบบให้ส่งผลต่อไขมันส่วนเกิน หากหยดลงบนไขมันแล้ว จะมีผลทำให้น้ำมันหลุดออกจากน้ำด้วยความเร็วสูงสุด
แต่เป็นเพราะส่งผลรุนแรงถึงขีดสุด ดังนั้นจึงต้องใช้ความสามารถควบคุมระดับจุลภาคที่พิสดารของลู่เซิ่งคอยควบคุม
“ถอดชุดออกให้หมดก่อน” ลู่เซิ่งหาผ้าสีดำมาปิดตาไว้ “ไม่ต้องห่วง ข้าไม่แอบดูหรอก”
เซินเซินอึ้งไป
“ถอดจนหมดเลยหรือ เกิดว่าแตะโดนจะทำอย่างไรเล่า” แม้นางจะเปิดเผยตรงไปตรงมาจนไม่ได้มองตัวเองเป็นอิสตรี แต่อย่างไรการถอดเสื้อผ้าต่อหน้าบุรุษคนหนึ่งก็ยังน่าอายถึงขีดสุดอยู่ดี
“ไม่หรอก ข้าจะระวัง ประตูห้องเองก็ลงสลักไว้แล้วเช่นกัน” ลู่เซิ่งตอบกลับอย่างใจเย็น
“…ก็ได้” ความจริงเซินเซินก็รู้เช่นกันว่า ต่อให้มอบร่างกายของตัวเองให้ลู่เซิ่ง อีกฝ่ายก็คงไม่เอา แถมยังรังเกียจที่ตนขี้เหร่และอ้วนเกินไปด้วย
พอนึกได้ว่าจะผอมลงสิบกว่าชั่งหลังกินยาที่ลู่เซิ่งปรุง ในใจนางก็ค่อยๆ เกิดความกล้าขึ้นมา
เซินเซินนั่งอยู่บนขอบเตียงสักพัก ครู่ต่อมาค่อยถอดชุดออกอย่างกระบิดกระบวน
จากนั้นก็ถอดเสื้อชั้นในออกอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นไขมันสีขาวที่ทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ
แม้ลู่เซิ่งจะมัดผ้าสีดำไว้ แต่ผ้าดำชั้นเดียวย่อมบดบังสายตาของเขาไม่ได้ เพียงแต่เป็นอย่างที่เซินเซินคิดไว้ ใครที่มีอารมณ์กับสุกรได้ ไอ้หมอนั่นคงเป็นคนบ้าเต็มตัว
กระบวนการลดความอ้วนเป็นไปอย่างราบรื่น ลู่เซิ่งใช้ด้ายกระตุ้นวิญญาณส่งยาสลายไขมันเข้าไปในชั้นไขมันของเซินเซินทีละนิดด้วยความระมัดระวัง ละลายไขมันทุกส่วนของนางอย่างแม่นยำ
“ข้าสลายไขมันบนหลังให้ท่านก่อน อีกประเดี๋ยวท่านต้องระวังเวลาเดินเหินด้วย หากสลายเยอะเกินไปในคราวเดียว จะทำให้เกิดความรู้สึกติดขัดได้” ลู่เซิ่งเตือน
“ได้”
เวลารักษาดำเนินไปไม่เกินครึ่งชั่วโมง
รอจนออกมา ลู่เซิ่งแสดงสีหน้าราบเรียบ เซินเซินกลับเหงื่อโชก ส่วนหลังยุบลงไป เห็นเป็นส่วนเล็กๆ อย่างชัดเจน
ดูเหมือนจะผอมลงกว่าก่อนหน้านี้เล็กน้อย
“เอาแบบนี้ก่อน จากนี้จะลดไขมันวันละครั้ง ท่านต้องใส่ใจเรื่องการกินอาหารชดเชยด้วย ไม่อย่างนั้นหากดึงน้ำออกมากเกินไปจะทำให้ร่างกายเสียหายได้” ลู่เซิ่งกำชับ
“รับทราบ” เซินเซินพยักหน้าพร้อมกับใช้สายตาส่งลู่เซิ่งออกจากห้อง
ลู่เซิ่งเพิ่งเดินออกจากห้อง ไม่นานเท่าไหร่ก็ได้ยินเสียงตะโกนด้วยความยินดีของเซินเซินที่อั้นไว้ไม่อยู่
เช้าตรู่วันต่อมา ถูจินแบกหีบยาออกไปแล้ว ทั้งยังบอกว่าจะกลับมาในอีกสามวันให้หลัง
จากนั้นเซินเซินก็ส่งสมุดสามขีดจำกัดใหญ่มาถึงห้องของลู่เซิ่งในช่วงเวลาเช้าตรู่ตามสัญญา
ลู่เซิ่งลดไขมันให้นางอีกรอบ
พอรักษาเสร็จ ร่างของเซินเซินก็บางลง หลังจากไขมันตรงใบหน้า คาง และคอถูกตัดทิ้งไปไม่น้อย นางก็ดูงดงามขึ้นมาก อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นหญิงอ้วนที่ดูน่าเกลียดเหมือนเมื่อก่อนหน้านี้อีก หากกลายเป็นหญิงอวบหน้าตาดี
หลังลู่เซิ่งได้สามขีดจำกัดใหญ่มา ก็หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้อยู่บ้าง
สามขีดจำกัดใหญ่นี้ลี้ลับอัศจรรย์ บันทึกการคาดเดาส่วนขยายต่อวิชาการรักษาของเหล่าบรรพชนตระกูลถูเอาไว้ พวกเขาไม่ยอมรับว่าวิชารักษาที่มีแบบแผนเป็นแค่การรักษา ไม่มีคุณสมบัติโจมตี ดังนั้นจึงศึกษาจนได้ผลิตผลประหลาดอย่างสามขีดจำกัดใหญ่ขึ้นมา
สามขีดจำกัดใหญ่แบ่งเป็นทักษะลับสามกระบวนท่า
ทักษะลับสามกระบวนท่านี้อาศัยด้ายกระตุ้นวิญญาณในการใช้ ทุกๆ กระบวนท่าล้วนมีการพัฒนาศักยภาพที่ไม่เลว
ลู่เซิ่งจดจำสามขีดจำกัดใหญ่ไว้ จากนั้นจึงค่อยให้เซินเซินส่งสมุดกลับที่เดิม
ตอนนี้ ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว เขาควรจะเริ่มแผนหาเงินของตัวเองได้สักที
…
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา…
“ผู้ใดคือถูจิน”
ชายกลุ่มหนึ่งที่สวมชุดทะมัดทะแมงสีดำประคองชายชราหน้าเขียวที่มีผมหงอกเต็มศีรษะเอาไว้พร้อมกับพุ่งเข้ามาในห้องรักษาตระกูลถู
“รีบๆ มาดูนายผู้เฒ่าเร็ว! ถ้าหากเขามีอันเป็นไป กำจัดครอบครัวพวกเจ้าทิ้งไปก็ยังไม่พอชดใช้!”
ถูจินเข้าไปในหมู่บ้าน เดิมทีจะกลับในอีกสามวัน ดันนึกไม่ถึงว่าทางนั้นจะเกิดโรคระบาดขึ้นเสียก่อน จึงได้แต่เก็บสมุนไพรที่นั่นเพื่อเอามาต้มทำยาชนิดพิเศษที่ป้องกันโรคระบาดได้
ถูจินไม่อยู่ เต๋ออวิ๋นกับลู่เซิ่งกำลังรักษาโรคให้แก่ผู้ที่กำลังต่อแถวซึ่งเป็นคนที่อาศัยอยู่รอบๆ
พอเห็นชายชราคนนี้พุ่งเข้ามา เต๋ออวิ๋นก็ตรงเข้าไปต้อนรับ ลู่เซิ่งกลับลุกขึ้นพูดก่อนว่า
“หน้าเป็นสีเขียว หายใจหอบ มุมปากเปื้อนละอองน้ำสีเหลือง ตรงติ่งหูมีจุดสีดำรูปตะขอด้วยหรือไม่?!” ลู่เซิ่งรีบถาม
“ใช่…ใช่แล้ว!” ชายชรางุนงง ก่อนจะรีบตอบด้วยความยินดี
ลู่เซิ่งจำชายชราคนนี้ได้ ก่อนหน้านี้เขามาสองครั้งแล้ว คล้ายจะต้องพิษเข้า ไม่รู้ว่าเป็นพิษอะไร มองออกว่าเขาใช้สารกายที่มีความลึกล้ำสะกดพิษในร่างมาโดยตลอด สองครั้งก่อนยังไม่เห็นหน้าเหยเกขนาดนี้
ทว่าครั้งนี้…
ลู่เซิ่งเข้าไปประคองชายชรานั่งลงบนเก้าอี้ก่อน
จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้แตะขมับของอีกฝ่ายเบาๆ
ซู่!
ด้ายกระตุ้นวิญญาณโปร่งแสงหลายสายมุดเข้าไปในจุดฝังเข็มของอีกฝ่ายในพริบตา ด้ายกระตุ้นวิญญาณแสดงผลทันที
“ซี้ด…” ใบหน้าที่เขียวปี๋ของชายชราปรากฏสีแดงเรื่อ “ได้ผล! เร็วสิ! รีบรักษาต่อ!”
“ไม่ต้องรีบร้อนไป การช่วยเหลือคนเจ็บป่วยเป็นหน้าที่ฟ้าลิขิตของหมออย่างพวกเราอยู่แล้ว รักษานั้นต้องรักษาแน่นอน” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างจริงจัง
พิษในร่างชายชราไม่ซับซ้อน เป็นพิษของงูพิษจุดแดงอายุร้อยปี คนป่วยที่ติดพิษชนิดนี้ ต่อให้เป็นหมอธรรมดา หากทักษะการรักษาดีหน่อย ก็สามารถรักษาได้
“ไม่ต้องรีบ พิษในตัวท่านตึงมือมาก จำเป็นต้องตรวจดูอย่างละเอียด” ลู่เซิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม พร้อมกับปล่อยพิษผสมในตัวเขาส่วนหนึ่งเข้าไปในร่างชายชราผ่านด้ายกระตุ้นวิญญาณ
เนื่องจากต้องการทำให้พิษซับซ้อนและรักษาได้ยากกว่าเดิม เขาจึงได้ใช้ด้ายกระตุ้นวิญญาณแทรกไปอีกสักหน่อย เพื่อให้พิษหลายชนิดผสมกัน จะได้รักษายากกว่าเดิม
“พิษท่าน…ยากเย็นมาก!” ลู่เซิ่งขมวดคิ้ว ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วเติมพิษผสมที่ตนดูดซับสมัยอยู่ในสำนักมารกำเนิดเข้าไปอีก แบบนี้จะมีแต่เขาคนเดียวที่รักษาได้
ครั้งนี้เรียบร้อยแล้ว พิษรุนแรงสามชนิดผสมกัน พลางเกิดการเร่งปฏิกิริยาจนกลายเป็นพิษร้ายชนิดใหม่ซึ่งยากแก่การแยกแยะแก้ไข
“อะไรนะ ข้าถูกงูสีแดงตัวหนึ่งกัดเองไม่ใช่หรือ” ชายชราสับสนเล็กน้อย เขาถูกกัดในป่าโดยไม่ทันระวังตัวเท่านั้น เหตุใดดูจากท่าทางของหมอหนุ่มคนนี้แล้ว คล้ายจะสาหัสมาก
“ไม่ใช่…ไม่ใช่แค่พิษงูเท่านั้น…” ลู่เซิ่งส่ายหน้า “ขออภัยที่ข้าพูดตามตรง พิษนี้…ข้ามีความมั่นใจแค่หกส่วนเท่านั้น ถ้าหากท่านผู้เฒ่าไม่วางใจ ไปยังเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดดีกว่า บางทีหมอทางนั้นอาจจะมีความมั่นใจมากกว่า” ลู่เซิ่งกล่าวเสียงขรึม
“เอ่อ…” หกส่วนหรือ
ชายชราขนลุก อัตราส่วนนี้ต่ำไปหน่อยกระมัง
“หมอหนุ่ม เจ้ามั่นใจแค่หกส่วนจริงๆ หรือ!?” ชายชราถามเสียงขรึม
“จริงขอรับ”
“ได้ๆ…” ชายชราไม่ได้ตัดสินใจรักษา แต่พาคนจากไปทันที
ลู่เซิ่งไม่ได้ขัดขวาง เพียงแค่กระตุ้นพิษพิเศษในตัวชายชราในตอนที่พวกเขาจากไปอีกครั้ง
ด้วยพฤติกรรมของเขา ต่อให้จะไม่ได้สัมผัสโดยตรง ก็สามารถกระตุ้นปฏิกิริยาของพิษร้ายในตัวชายชราได้อย่างง่ายดายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
เป้าหมายของเขาก็คือ ทำให้มีแต่เขาเท่านั้นที่รักษาพิษของชายชราได้ อย่างน้อยในรัศมีหลายพันลี้มีแต่เขาที่รักษาได้
หากต้องการเงิน การใช้สถานะของเขาในตอนนี้ ย่อมทำการรักษาได้เร็วที่สุด
แล้วการรักษาโรคอะไรที่ได้เงินเร็วที่สุด
ย่อมเป็นโรคเรื้อรัง
โรคเรื้อรังไม่เพียงต้องการการตรวจสอบบ่อยๆ เท่านั้น ยังต้องซื้อยาพิเศษเพื่อคงสภาพโรคไว้ด้วย
การตรวจสอบนี้ต้องจ่ายเงิน การซื้อยายิ่งต้องใช้เงินมากกว่า พอมีคนเยอะเข้าๆ ก็จะกลายเป็นรายรับที่เข้ามาไม่ขาดสาย
แน่นอนว่าลู่เซิ่งไม่ใช่คนชั่วช้าที่หาเงินจากคนดีๆ ดังนั้นเขาจึงคิดจะใช้คนชั่วช้าเลวทรามพวกนั้นมาดำเนินแผนการโรคเรื้อรัง
……………………………………….