ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 632 นาฬิกาเทพ (2)
บทที่ 632 นาฬิกาเทพ (2)
ตู้เซี่ยอ้าปากน้อยๆ ความคิดสับสน เป็นเขาไปได้ยังไงกัน!?
เธอรู้สึกว่าสิ่งที่ตนได้เรียนรู้มามันผิดไปหมด หัวสมองขาวโพลน คิดจะทำความเข้าใจ กลับไม่ทราบว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี
เธอรู้จักคนคนนั้นเป็นอย่างดี เลยนึกไม่ถึงว่าเขาจะมีพลังคล้ายกับตน
แต่ปัจจุบัน เรื่องราวที่ทำให้เธอเหลือเชื่อนี้ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้า ตู้เซี่ยถึงขั้นรู้สึกว่าตนหลอนไปเองหรือไม่
โจวเฉวียนอู่ลืมตาโตคู่งาม เธอเดาถึงเก๋อซาระดับสุดยอดส่วนหนึ่ง และเดาถึงผู้ยิ่งใหญ่ที่หยั่งคาดไม่ถึงบางส่วน
แต่คนตรงหน้าเป็นคนที่ทำให้เธอนึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิง
ลมเย็นพัดผ่านทุ่งหญ้า เงาคนร่างสูงใหญ่หลายสายเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ มองเห็นเส้นสายกล้ามเนื้อที่กำยำของพวกเขาที่น่ากลัวเหมือนกับรากต้นไม้ได้แม้จะอยู่ไกล
ชายที่เป็นผู้นำตัดผมทรงสกินเฮด แค่สองแขนที่ไม่ได้ปิดคลุมอะไรไว้ก็ทำให้ผู้คนนึกถึงสิ่งของหนักๆ เช่นพวกเหล็กกล้า กำแพงเมือง และเตาหลอม
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือดวงตาของเขาที่เหมือนกับเหยี่ยวและหมาป่าแฝงความคุกคามอย่างรุนแรง และกำลังกวาดมองไปทั่วร่างของโจวเฉวียนอู่อย่างช้าๆ
“เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก ฉันคือตู้สยง เสี่ยวเซิ่งน้องสาวฉันรบกวนเธอแล้ว” ลู่เซิ่งบีบแว่นกันแดดในมือจนแหลก ก่อนจะโยนทิ้งไป
เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงยีนสต์สีดำพอดีตัว แบะอกเสื้อออก บนคอที่บึกบึนราวกับหมีแขวนจี้คริสตัลทรงขนมเปียกปูนสีเขียวไว้ บนจี้สลักคำว่าเซี่ยอยู่
“ตู้สยง…!” ไม่ว่าอย่างไรโจวเฉวียนอู่ก็จินตนาการไม่ถึงว่า พี่ชายของตู้เซี่ยที่ตนมองข้ามมาโดยตลอดจะเป็นบุคคลเหี้ยมหาญที่เก็บเนื้อเก็บตัว เขาไม่ใช่เก๋อซา กลับกล่อมให้จอมเผด็จการจันทราน้ำแข็งกับเซียนร้อยบุปผาลงมือกับตนเองพร้อมกันได้
ชั่วขณะนั้นสีหน้าเธอเปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน พร้อมกับนึกย้อนถึงรายละเอียดในอดีตที่ไม่ได้สังเกตเห็น กลับนึกช่องโหว่ของผู้ชายคนนี้ไม่ออกเลย
ตู้เซี่ยอ้าปากกว้างจนแทบจะยัดไข่ใบหนึ่งเข้าไปได้
เธอคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะเกิดการหักมุมหนึ่งร้อยแปดสิบองศาขึ้นในสภาพการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้
และสิ่งที่ทำให้เธอเหลือเชื่อยิ่งกว่าก็คือ พี่ชายของตัวเอง พี่ชายที่เธอคิดมาโดยตลอดว่าเป็นคนธรรมดา ถึงกับ…แอบยุยงให้เก๋อซาระดับแม่มดสองคนลงมือเล่นงานโจวเฉวียนอู่พร้อมกันได้
“พี่คะ…” ตู้เซี่ยอ้าปากอยากจะถามคำถาม แต่พอคิดได้ว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาถาม จึงเก็บความสงสัยไว้ในใจก่อน
“พี่รู้ว่าเธอจะถามอะไร พลังของพี่ไม่ได้เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดเหมือนพวกเธอ แต่ได้จากการฝึกฝนและไต่เต้าขึ้นมาทีละก้าวๆ” ลู่เซิ่งยื่นมือไปบีบปากน้อยของตู้เซี่ยที่อ้าอยู่เหมือนไม่ได้ตั้งใจตอนเดินผ่านเธอ
หัวสมองของตู้เซี่ยสับสนอลหม่าน เธอนึกย้อนได้ว่าก่อนหน้านี้พี่ชายฝึกฝนวรยุทธ์อย่างลึกลับมาโดยตลอด เมื่อบวกรวมกับอานุภาพตรงหน้า เธอก็มีคำถามมากมายในใจที่ต้องการคำตอบ
“เอาไว้ก่อน เดี๋ยวที่นี่พี่จัดการเอง” ลู่เซิ่งจับตู้เซี่ยไว้เบาๆ แล้วดึงตัวออกไปด้านข้าง
“พาเสี่ยวเซี่ยไปพักผ่อนที”
ไม่นานนักบนทุ่งหญ้าก็ปรากฏผู้หญิงผมดำที่มัดผมหางม้าทรงสูงสองคน ทั้งสองประคองตู้เซี่ยอย่างระมัดระวังพลางโค้งตัวน้อยๆ เพื่อคำนับลู่เซิ่ง
“แค่กๆ…” โจวเฉวียนอู่กลับกระแอมออกมา “ใครอนุญาตให้พวกเธอไป” แสงสีขาวกลุ่มหนึ่งระเบิดออกมาด้านหลังเธอ บนทุ่งหญ้าปรากฏเก๋อซาเหี้ยมหาญสิบกว่าคนที่แต่งตัวแตกต่างกันขึ้น
“นอกจากตู้เซี่ย คนอื่นให้กำจัดทิ้งซะ” โจวเฉวียนอู่สั่งเสียงเย็น “นอกจากนี้ มิโกะทรายดารา หงส์จักรพรรดิ พวกเธอจะดูเฉยๆ อีกนานขนาดไหน ถ้าไม่มีแกนหลักที่สามอย่างตู้เซี่ย พวกเราก็เปิดนาฬิกาเทพไม่ได้นะ”
บาดแผลบนร่างโจวเฉวียนอู่ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่ตาเนื้อมองเห็นได้ ตอนนี้สมานตัวไปได้พอประมาณแล้ว
แสงสีขาวสองสามกลุ่มค่อยๆ ตกลงมาบนทุ่งหญ้าที่โล่งกว้างรอบๆ หลังจากแสงสลายไปเด็กหนุ่มสองคนที่สวมเครื่องแบบสีขาวของหงส์จักรพรรดิก็ก้าวออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ส่วนแสงอีกกลุ่มหนึ่งหลอมรวมเข้ากับทุ่งหญ้าโดยสมบูรณ์ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อยู่ชั่วขณะ น่าจะเป็นมิโกะที่ว่านั่นเอง
“หงส์จักรพรรดิ ทรายดารา หัวหน้าของหมอกกัดกร่อน มาพร้อมหน้ากันแล้วเหรอ” ลู่เซิ่งนึกไม่ถึงเหมือนกันว่าจะยังมีคนซ่อนอยู่อีก จิตวิญญาณของเขาสัมผัสไม่ได้
“เงื่อนไขหนึ่งเดียวในการเปิดใช้นาฬิกาเทพคือตู้เซี่ยต้องยอมสละชีวิตกลายเป็นกุญแจ นี่ไม่สามารถยอมให้ได้” หงส์จักรพรรดิเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันไม่สนใจเรื่องราวไร้สาระของพวกแกหรอก แต่นาฬิกาเทพต้องเปิด ถ้าไม่เปิด ทุกคนที่อยู่ที่นี่” เขาชี้นี้วใส่ทุกคน
“ต้องตายให้หมด!”
“ปากดีนักนะ!” หลินชือชือเดินออกมาจากด้านข้าง ถอดแว่นกันแดดบนใบหน้าออก ดวงตาเย็นชาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“คนที่กล้าพูดกับนายท่านแบบนี้บนโลกใบนี้มีแกเป็นคนแรก” เธอจ้องมองหงส์จักรพรรดิเขม็ง ไม่สนใจสถานะทางตำแหน่งในรัฐบาลของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง
“จะกำจัดเขาทิ้งไหมคะ ตอนนี้เป็นเวลาที่นายท่านต้องการพวกเราแล้ว” เด็กสาวงดงามผู้สวมกระโปรงตัวยาวสีชมพูอีกคนหนึ่งทิ้งตัวลงมาจากกลางอากาศอย่างแผ่วเบา แล้วหยุดยืนอยู่ด้านหน้าลู่เซิ่งโดยไร้เสียง
“หงส์จักรพรรดิเหรอ ฉันอยู่ในหงส์จักรพรรดิมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นบอสใหญ่กับตาตัวเอง” เก๋อซาเพศหญิงอีกหลายคนที่สวมเครื่องแบบสีขาวของหงส์จักรพรรดิปรากฏตัวขึ้นด้านหลังลู่เซิ่งพลางกล่าวสัพยอก
สิ่งที่ทำให้หงส์จักรพรรดิลืมตาโตยิ่งกว่าเดิมก็คือ เก๋อซาสิบกว่าคนที่เขาเพิ่งจัดวางให้หมอบซุ่มอยู่รอบๆ เมื่อสักครู่นี้ ตอนนี้มีมากกว่าครึ่งเดินออกจากตำแหน่งมาทางด้านนี้แล้ว
ทว่าจุดที่พวกเขายืนอยู่ไม่ใช่ฝั่งเดียวกับเขา หากเป็นฝั่งตรงข้าม…
เก๋อซาหลายคนพากันปรากฏตัวขึ้น ในนี้มีคนจากทรายดารา มีคนจากเสาพิภพดารา และมีคนของหงส์จักรพรรดิ
แสงจากพลังเทพรังสรรค์หลายสายสว่างขึ้น งดงามและมีสีสันนาๆ ทว่าพวกหงส์จักรพรรดิกับโจวเฉวียนอู่กลับไม่ผ่อนคลายแม้แต่น้อย
เป็นเพราะสายตาที่เต็มไปด้วยจิตมุ่งร้ายอย่างเข้มข้นของเก๋อซามากกว่าเก้าส่วนกำลังมองมาทางพวกเขา
พวกเขาเรียงแถวกันเป็นวงล้อมใหญ่ โอบล้อมพวกผู้นำทั้งสามเข้าไปด้านใน
ส่วนลู่เซิ่งกับตู้เซี่ยยืนอยู่ด้านนอกวงล้อม
“ใครยอมเป็นแกนหลักที่สามคนใหม่บ้าง” ลู่เซิ่งเมินสีหน้าบูดบึ้งของพวกหงส์จักรพรรดิ ทอดตามองนาฬิกาเทพขนาดยักษ์ที่อยู่ไกลออกไป
“การได้ตายเพื่อนายท่านเป็นเกียรติของพวกเรา!” แทบทุกคนในฝูงชนต่างขานรับเสียงกระหึ่ม
เสียงสั่นสะเทือนในอาณาเขตหลายเมตรรอบๆ บนใบหน้าของทุกคนฉายแววเซื่องซึมและคลั่งไคล้
พวกหงส์จักรพรรดิกับโจวเฉวียนอู่ต่างจิตใจหนาวเหน็บ พากันกำหมัดแน่น
“ไม่ได้ต้องการมากขนาดนี้” ลู่เซิ่งไม่รู้สึกว่ามีปัญหา
มีแต่เก๋อซาระดับแม่มดเท่านั้นที่ไม่ถูกเขาควบคุมสะกดจิต ทางเซียนร้อยบุปผากับจอมเผด็จการจันทราน้ำแข็ง เขาได้แต่ใช้ความสามารถอื่นๆ บังคับให้พวกเขาลงมือลอบโจมตีเท่านั้น
“กำจัดพวกมันทิ้งก่อน” ลู่เซิ่งชี้ไปที่พวกโจวเฉวียนอู่กับหงส์จักรพรรดิอีกสามคน
“หนีเร็ว!!” มิโกะทรายดาราหันหลังกลับกระโดดขึ้นไป ร่างเกือบจะหายไปในอากาศ
เขามีความเร็วสูงสุดในหมู่เก๋อซาแม่มด หากระเบิดพลังออกมาในพริบตา แม้แต่พวกเซียนร้อยบุปผาก็ตอบสนองไม่ทัน
ขณะที่เขากำลังจะหนีได้สำเร็จนั่นเอง
ฟ้าว!
ชั่วขณะนั้นมิโกะวูบไหวร่างมาปรากฏด้านหลังลู่เซิ่ง แล้วฟันมีดสั้นสีขาวบริสุทธิ์ใส่ท้ายทอยของลู่เซิ่งด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียมและชั่วร้าย
บนคมมีดมีพลังเทพรังสรรค์ทั้งหมดของเขารวมตัวกันอยู่ มีดนี้ต่อให้เป็นยานเกราะที่หนาที่สุดในโลกก็ป้องกันไม่ไหว บนโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่เขาฟันไม่ได้
คมมีดเข้าใกล้กว่าเดิม จากนั้นก็จะแทงทะลุเสื้อผ้าและผิวบนศีรษะ เขาสัมผัสได้ถึงสัมผัสแข็งๆ ที่คมมีดป้อนมาแล้ว
แค่พริบตาเดียว อีกพริบตา…
ตูม!
ทันใดนั้นแสงสีขาวขมุกขมัวชั้นหนึ่งปรากฏแวบขึ้นบนผิวของลู่เซิ่ง
มิโกะร่างสั่นไหว มีดบนมือแตกกระจายทีละส่วนๆ เขาสัมผัสได้ว่ามีพลังที่ยิ่งใหญ่จนไม่อาจบรรยายได้สายหนึ่งทะลักออกมาจากคมมีด
เปรี้ยง!
เกิดเสียงดังกังวาน
มิโกะทรายดารากุมหน้าอกตนเองอย่างเหลือเชื่อ รูเลือดขนาดเท่าหัวคนตรงนั้นมีควันขาวหลายสายลอยออกมาอย่างต่อเนื่อง
มือของลู่เซิ่งเจาะทะลุร่างของเขาและค้างไว้อย่างนั้นเหมือนกับส้อม
ซู่…
ลู่เซิ่งค่อยๆ ชักแขนกลับมาแล้วมองไปยังอีกสองคนที่เหลือ
เขากางมือขวาออกช้าๆ บนนิ้วทุกนิ้วมีกลุ่มแสงทรงรีสีขาวที่แวววาวลอยขึ้นมา
เป็นกลุ่มแสงบริสุทธิ์เหมือนคริสตัล ทั้งสวยงามทั้งประณีต
ปราณโซ่ภายใน พลังงานอันน่ากลัวที่ตอนแรกลู่เซิ่งไม่รู้ว่าใช้อย่างไรชนิดนี้ เป็นพลังโต้กลับอันน่าหวั่นสะพรึงที่เมื่อครู่นี้เขาใช้ฆ่ามิโกะ
ปราณโซ่ภายในมีคุณสมบัติกล้าแข็งที่น่าสะพรึงกลัว ปราณภายในชนิดนี้จะรวมพลังงานทั้งหมดไว้ที่จุดสิบจุด โดยที่ลู่เซิ่งใช้นิ้วทั้งสิบข้างในการควบคุม
กลุ่มแสงบนนิ้วทุกนิ้วเทียบได้กับอานุภาพห้าส่วนเวลาที่ลู่เซิ่งลงมืออย่างสุดกำลัง
กลุ่มแสงทั้งสิบกลุ่ม หากลงมือพร้อมกัน จะเท่ากับระเบิดพลังห้าเท่าออกมาในชั่วอึดใจเดียว
จึงเห็นถึงความน่ากลัวของปราณโซ่ภายในได้จากจุดนี้
ปราณภายในแบบนี้มีแต่ร่างคงกระพันสูงสุดของลู่เซิ่งในเวลานี้เท่านั้นถึงจะควบคุมได้
“ฉัน…ฉันมาตาย…ในที่แบบนี้ได้ยังไง…” มิโกะทรายดาราโซเซถอยหลังไปหลายก้าว ก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้น
เขาคิดจะใช้สองมือมาปิดรูเลือดตรงหน้าอก แต่เป็นเพราะว่ารูมีขนาดใหญ่เกินไป จึงไม่อาจปิดแผลไว้ได้
ตู้เซี่ยคลายฝ่ามือที่เตรียมจะลงมือ ก่อนจะเงยหน้ามองลู่เซิ่งอย่างงุนงง พริบตาเมื่อครู่นี้เธอนึกว่าพี่ชายต้องตายแน่ ถึงขั้นที่คิดจะเปิดใช้พลังเทพรังสรรค์เพื่อป้องกันมีดนี้ไว้แล้วด้วย
แต่สุดท้ายคนที่ตายกลับเป็นมิโกะ
ลู่เซิ่งพาตู้เซี่ยเดินผ่านร่างมิโกะไป
“น่าสงสาร พวกเธอเพียงถูกควบคุมเหมือนกับตุ๊กตาชักใย ทุกๆ ห้าปีต้องถูกเก็บเกี่ยวรอบหนึ่ง ไม่เห็นทั้งความหวัง ไม่เห็นทั้งอนาคต ถึงขั้นที่อดีตของตัวเองอาจจะถูกตัวเองทำลายทิ้ง โจวเฉวียนอู่…เธอคิดจะขัดขืนอนาคต ฉันเข้าใจได้ ตอนแรกฉันไม่คิดจะยุ่งเรื่องของพวกเธอหรอก แต่เธอลากเสี่ยวเซี่ยเข้ามาเกี่ยวข้อง แถมยังฆ่าเสี่ยวชิวอีก ดังนั้น…”
“พี่ครับ…” ลู่เซิ่งยังไม่ทันพูดจบ กลับถูกเสียงเด็กผู้ชายที่ไร้เดียงสาและขาดเขลาตัดบทขึ้นมา
เก๋อซาคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังหงส์จักรพรรดิเดินออกมาแล้วปลดหมวกลง เผยให้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เป็นตู้ชิวที่ตายไปแล้วนั่นเอง!
ลู่เซิ่งชะงัก
“ผมยังไม่ตายครับ พี่อู่วางแผนไว้เพื่อผมอย่างดีที่สุด เธอเพียงแค่…อยากหลอกให้พี่สาวทิ้งภาระทั้งหมดเท่านั้น” ตู้ชิวเอ่ยเสียงแห้งผาก “ส่วนการลอบสังหารต่อจากนั้น ขุมกำลังอื่นๆ เป็นคนส่งมา”
ลู่เซิ่งเงียบงัน ก่อนจะมองไปยังโจวเฉวียนอู่ที่เม้มปากแน่น
เปรี้ยง!
ลู่เซิ่งฟาดใส่แก้มของโจวเฉวียนอู่ดุจสายฟ้าฟาดจนเธอกระเด็นไปตกลงบนพื้นไกลๆ แล้วไถลต่อไปอีกสิบกว่าเมตร พร้อมกับกระอักเลือดคำโตออกมาอีกรอบ
“เรื่องนี้ไว้คิดบัญชีทีหลัง” ลู่เซิ่งละสายตาจากร่างโจวเฉวียนอู่ของ แล้วมองดูนาฬิกาเทพที่อยู่ไกลออกไป
ในเมื่อเสี่ยวชิวไม่ตาย อย่างนั้นบุญคุณความแค้นทั้งหมดก็หายไปแล้ว
ต่อจากนี้จะเป็นเป้าหมายที่แท้จริงที่เขามาที่นี่ ถึงเวลาจัดการเรื่องสำคัญแล้ว
ปัญหาที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
……………………………………….