ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 636 ทรัพยากร (2)
บทที่ 636 ทรัพยากร (2)
ปฏิบัติการณ์นาฬิกาเทพอันแสนวุ่นวายจบลงด้วยการที่ลู่เซิ่งสามารถควบคุมทุกด้านได้อย่างรวดเร็ว
โจวเฉวียนอู่โดนจับตัวเป็นเชลย คนธรรมดาทุกคนซึ่งรวมถึงพ่อของเธอถูกจิตโน้มนำจนกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดที่ช่วยลู่เซิ่งควบคุมสถานการณ์ใหญ่
ทางด้านเก๋อซา นอกจากสองสามคนที่ตายไปในตอนแรก ที่เหลือล้วนถูกลู่เซิ่งควบคุมได้แล้ว
ต่อให้มีจิตปณิธานแรงกล้า แต่หลังจากถูกลู่เซิ่งทุบตี ก็โดนเขาใช้จิตรักษาในสภาพมึนงงสับสนอยู่ดี
ลู่เซิ่งควบคุมตัวตนที่มีจิตวิญญาณอ่อนแอและพลังต่อสู้เหี้ยมหาญอย่างเก๋อซาได้อย่างหมดจด
หลังจากสถานการณ์ใหญ่ถูกกำหนด เขาก็พาตู้เซี่ยกับตู้ชิวกลับบ้านเพื่อให้พวกเขาได้พบกับพ่อแม่ ทางพวกตู้ซวี่หนิงปลอดภัยไร้เรื่องราว อาจะเป็นเพราะเก๋อซาคนอื่นๆ คิดว่าจะจัดการตู้เซี่ยได้ เลยไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเพิ่มเติม
นี่กลับประหยัดแรงลู่เซิ่งได้ส่วนหนึ่ง
จากนั้นตัวเขาก็ได้สั่งให้คนคุ้มครองนาฬิกาเทพ แล้วกลับทุ่งหญ้าเงียบๆ
…
ลมเย็นดั่งมีดกรีดเฉือน พัดเส้นผมทุกคนตั้งไปด้านบน
ลู่เซิ่งยืนอยู่หน้านาฬิกาเทพอย่างสงบขณะยื่นมือไปลูบผิวหินที่ยิ่งใหญ่ไพศาล
“คนที่ให้พวกเธอเตรียมไว้ พาตัวมาหมดหรือยัง” เขาถามเงียบๆ
“พาตัวมาหมดแล้วค่ะ!”
ด้านหลังลู่เซิ่ง โจวเฉซียนอู่ที่หน้าเหี้ยมเกรียมถือกระบี่ยาว สวมเสื้อกล้ามสีขาว สองแขนที่เผยออกมาบึกบึน ผิวสำริดเต็มไปด้วยเส้นเอ็นที่เหมือนกับรากไม้หนาแน่น
หงส์จักรพรรดิยืนอยู่ทางซ้ายมือของเธอ จั่วซิงหวังหัวหน้าจากทรายดารายืนอยู่ทางขวา ทั้งสองโกนศีรษะ สวมกางเกงขายาวสีดำ เปลือยร่างท่อนบน สักคำว่ากำปั้นตัวใหญ่ไว้กลางหลัง
“นำตัวมาให้หมด!” หงส์จักรพรรดิเลียริมฝีปากพร้อมกับโบกมือส่งเสียงตวาด
ไม่นานนักก็มีรถบรรทุกขนาดเล็กคันหนึ่งขับมาจากด้านหลังไม่ไกลออกไป
บนรถมีคนสิบกว่าคนถูกมัดกองระเกะระกะอยู่ ล้วนเป็นเด็กชายเด็กสาวที่มีอายุต่ำกว่าสิบหกปีทั้งสิ้น คนเหล่านี้ส่วนใหญ่มีใบหน้าชั่วร้าย ดูเหมือนเป็นนักเรียนธรรมดา แต่ดวงตากลับแฝงความเกรี้ยวกราด
“เด็กๆ ที่เคยฆ่าคนในสหพันธรัฐ ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา คนที่จับมาดำเนินคดีได้ล้วนอยู่นี่หมดแล้วครับ” หงส์จักรพรรดิเข้ามาอธิบาย
เขาที่ก่อนหน้านี้จะต่อสู้เป็นตายกับลู่เซิ่ง ตอนนี้ได้กลายเป็นสุนัขรับใช้ที่ภักดีกับลู่เซิ่งมากที่สุดด้วยจิตใจโน้มนำไปแล้ว
“อืม” ลู่เซิ่งพยักหน้าช้าๆ ดวงตากวาดผ่านร่างเด็กๆ พวกนี้ทีละคน
“ไม่มีจับผิดตัวใช่ไหม”
“เป็นไปไม่ได้ครับ เด็กพวกนี้ถ้าไม่ฆ่าลักทรัพย์ก็ฆ่าข่มขืน ยังมีพวกค้ายากับพวกที่ขายเด็กผู้หญิงด้วย ถึงขั้นยังมีพวกที่เป็นมือสังหารให้คนอื่น มีทุกประเภทเชียวล่ะครับ” หงส์จักรพรรดิกล่าวอย่างรังเกียจ ในฐานะองค์กรเก๋อซาที่มีความสัมพันธ์กับรัฐบาล กองกำลังที่หงส์จักรพรรดิเรียกใช้ได้อยู่เหนือจินตนาการของคนธรรมดา
ลู่เซิ่งพยักหน้าน้อยๆ
“ยกของมาเลย”
หลังจากสั่งออกไป ไม่นานก็มีคนหลายคนหามอ่างกลมขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายเมตรเข้ามา
อ่างกลมเหมือนกับสร้างขึ้นจากหยกสีดำชนิดหนึ่ง ตรงขอบสลักลวดลายอักขระลี้ลับหลากหลายชนิด ยังมีรูปปั้นสัตว์ประหลาดอันพิสดารสี่คู่ที่เหมือนกับค้างคาวเกาะอยู่ตรงขอบอ่างด้วย
“เริ่มเลย” ลู่เซิ่งผงกศีรษะ
ไม่นานนักชายฉกรรจ์ตัวเล็กสองคนก็ก้าวเข้ามา คนหนึ่งจับตัวฆาตกรฆ่าคน แล้วปาดคออีกฝ่ายด้วยมีด
ฉูด!
เลือดสองสายพุ่งออกมา แล้วไหลเข้าไปในอ่างใหญ่บนพื้นอย่างแม่นยำ
พอเห็นฉากนี้ เด็กๆ ที่ถูกมัดและอุดปากไว้ล้วนตัวสั่น ต่างคนต่างตกใจจนหน้าถอดสี
เลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง แล้วช้าลงเรื่อยๆ จนกระทั่งแทบแห้ง
ชายฉกรรจ์ทั้งสองคนทิ้งศพไปด้านข้าง จากนั้นก็จับเด็กมาอีกสองคน แล้วทำแบบเดิม
ไม่มีใครเห็นใจ เด็กชายเด็กหญิงที่ถูกหงส์จักรพรรดิจับมาพวกนี้ต่างก็ทำความผิดร้ายแรง เป็นพวกใจคอเหี้ยมโหด ที่เหลือล้วนเป็นพวกนิสัยบิดเบี้ยวและโมโหร้าย
ไม่มีใครบริสุทธิ์ ทั้งหมดเป็นพวกที่ได้รับการยกเว้นซึ่งได้รับการคุ้มครองจากช่องโหว่ของกฎหมาย เลือดแต่ละสายไหลลงอ่างหยกสีดำอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือทั้งๆ ที่อากาศเย็นขนาดนี้ แต่เลือดในอ่างที่ออกจากตัวไปนานแล้วกลับไม่แข็งตัว
รอจนรีดเลือดออกจากตัวผู้ร้ายทั้งหมดเสร็จ ลู่เซิ่งก็ปรบมือ มีคนอ้วนร่างกำยำที่สูงสองเมตรกว่าๆ อีกคนเข้ามา
“โยนวัตถุดิบทั้งหมดเข้าไปเลย” ลู่เซิ่งสั่ง
“ครับ!” คนอ้วนรีบขานรับ ก่อนจะปลดถุงพลาสติกมากมายที่แบกไว้บนหลังลงมา
ซ่า…
ผงสีแดงหลายถุงถูกเทลงไปในอ่าง
เลือดในอ่างค่อยๆ กลายเป็นสีขาว สีแดงในตอนแรกหายไปอย่างช้าๆ สิ่งที่มาแทนที่คือกลิ่นหอมอ่อนๆ
ลู่เซิ่งดีดนิ้ว จุดแสงสีรุ้งจุดหนึ่งพุ่งออกไป แล้วหล่นลงอ่างอย่างแผ่วเบา
ฟู่ว!
อ่างหยกสีดำพลันลุกโหม เปลวเพลิงไม่ใช่สีแดง หากเป็นสีรุ้งกึ่งโปร่งแสงที่บริสุทธิ์
“สำเร็จแล้ว ไหนมาลองดูสักคน” ลู่เซิ่งกวาดตามองทุกคนที่อยู่รอบๆ ในกลุ่มคนที่อยู่ที่นี่มีอยู่ครึ่งหนึ่งที่เป็นเก๋อซา
“ฉันก็แล้วกันค่ะนายท่าน” โจวเฉวียนอู่ก้าวขึ้นหน้าพลางกล่าวอย่างสงบ จากนั้นเธอก็เดินไปถึงด้านหน้าอ่างหยกสีดำและจับรูปปั้นสัตว์สองตัวข้างอ่าง
โอ้!
สองแขนของเธอขยายและเกิดเลือดคั่งอย่างรวดเร็ว หน้าอกและแผ่นหลังฉีกออก ถูกกล้ามเนื้อที่พิลึกพิลั่นดันออกมา เผยให้เห็นเสื้อชั้นในแนบเนื้อที่สวมไว้ด้านใน
อ๊าก!
เธอตะโกนลั่น สองขาใหญ่ขึ้นเป็นเท่าตัว ก้อนกล้ามเนื้อสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ที่เหมือนกับเกราะนูนขึ้นบนหลัง เอ็นเขียวและเส้นเลือดนับไม่ถ้วนที่คล้ายใยแมงมุมปรากฏบนผิว
ฮ่า!
อ่างหยกสีดำพลันถูกยกขึ้นเหนือศีรษะ อ่างหยกที่เมื่อครู่ยังแผ่วเบา ตอนนี้น้ำหนักกลับกลายเป็นหลายสิบเท่าของก่อนหน้าราวกับบรรจุเหล็กหนักนับไม่ถ้วน
ซ่า!
โจวเฉวียนอู่ยกอ่างใหญ่เทใส่ตัวเอง โลหิตสีน้ำนมที่ลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีรุ้งถูกราดลงไปตามตัวเธอ
เปลวเพลิงสีรุ้งแผ่ขยายไปทั่วร่างเธออย่างรวดเร็ว
“ความ…ความรู้สึกนี้!?” โจวเฉวียนอู่วางอ่างหยกลง ร่างสั่นเทา ก่อนจะทรุดเข่าลงอย่างไม่อาจควบคุม
เปลวเพลิงสีรุ้งลุกไหม้อย่างรุนแรง ราวกับกำลังกัดกร่อนบางสิ่งบนร่างเธออยู่
ลู่เซิ่งมองเงียบๆ อยู่ด้านข้าง รออยู่แค่สักพัก โจวเฉวียนอู่ก็ค่อยๆ ยันกายขึ้น
“ฉัน…ยังมีชีวิตอยู่เหรอ” เธอยื่นมือออกมามองดูนิ้วที่บวมเล็กน้อยของตัวเองอย่างเหลือจะเชื่อ
ลู่เซิ่งที่อยู่ด้านข้างสัมผัสได้อย่างชัดเจน สิ่งที่เปลวเพลิงเผาไหม้คือพลังแห่งเก๋อซาทั้งหมดบนร่างของโจวเฉวียนอู่
ตอนนี้เปลวไฟมอดดับลงแล้ว หมายความว่าพลังแห่งเก๋อซาถูกเผาจนหมดแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ ตั้งแต่นี้ โจวเฉวียนอู่จะไม่ใช่เก๋อซาอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องเติมอายุขัยให้แกนหลักแห่งเก๋อซาอีก
เลือดในอ่างหยกป้อนอายุขัยที่เธอเสียไปคืนให้
“สำเร็จแล้ว” ลู่เซิ่งพยักหน้าเบาๆ
“สิ้นเปลืองกว่าที่จินตนาการไว้ แต่ก็คุ้มค่าอยู่ คนต่อไป” เขามองคนต่อไปที่อยู่ใกล้ๆ หงส์จักรพรรดิ
“ครับ!” หงส์จักรพรรดิก้าวออกมาก้าวหนึ่ง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เก๋อซาหลายคนที่ผ่านการทดสอบต่างได้รับข้อสรุป วิธีการที่หมีก่วงอิงถ่ายทอดให้สะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง นอกจากค่าตอบแทนที่มากไปสักหน่อยแล้ว ที่เหลือก็ไม่มีปัญหาอะไร
เพราะค่าตอบแทนแค่นี้เป็นแค่ชีวิตไม่กี่ชีวิต จึงไม่ใช่ปัญหา ไม่ว่าจะสำหรับตัวหงส์จักรพรรดิ เสาพิภพดารา หรือทรายดารา
ในทางตรงกันข้าม หลังจากพวกเขาค่อยๆ ถูกลู่เซิ่งควบคุม สมาชิกส่วนใหญ่กลับรู้สึกว่า การเสียสละชีวิตแค่นี้แต่กลับแลกความปลอดภัยของทุกคนมาได้ ช่างคุ้มค่าจริงๆ
หลังจากผ่านการทดสอบของเก๋อซาห้าคนติดต่อกันบนทุ่งหญ้า ลู่เซิ่งก็ยืนยันได้แล้วว่าวิธีการนี้สามารถขจัดพลังแห่งเก๋อซาออกไปได้จริงๆ หนำซ้ำยังเสริมอายุขัยที่เคยเสียไปได้ด้วย
ไม่นานเขาก็จัดให้ตู้เซี่ยกับตู้ชิวทำพิธีขจัด ลบพลังทั้งหมดบนตัวทั้งสองออกจนหมด และเติมอายุขัยของพวกเขา
เวลาค่อยๆ เคลื่อนคล้อย พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกหลายวัน
…
สี่วันต่อมา…ด้านในนาฬิกาเทพ
ลู่เซิ่งเดินอยู่ในช่องแตกอย่างช้าๆ ยังไม่ทันเดินไปถึงถ้ำที่หมีก่วงอิงอยู่ ก็พลันหยุดนิ่ง
เขายื่นมือออกไปวางบนผนังหินด้านข้าง
ลู่เซิ่งครอบครองแกนหลักแห่งเก๋อซามาได้หลายวันแล้ว ตอนแรกหมีเซิงหลงจะโผล่มาด่าสักสองประโยค ภายหลังพอพบว่าไม่มีประโยชน์ ก็เริ่มวิงวอนและโกหกไปเรื่อย
แสดงให้เห็นชัดว่า พอไม่ได้รับการบำรุงจากพลังของค่ายกลเพราะแกนหลักเก๋อซาอยู่ห่างจากนาฬิกาเทพ หมีเซิงหลงก็เริ่มร้อนรนจริงๆ แล้ว
พลังที่เขาสะสมไม่ใช่สิ่งที่ไร้สิ้นสุด แต่ต้องผลาญพลังเป็นจำนวนมากเพื่อรักษาจิตวิญญาณของตัวเองไว้ ทว่าตอนนี้ลู่เซิ่งกลับดึงพลังแห่งเก๋อซามากมายออกไป แม้จะมีการชดเชยเล็กน้อย แต่ก็เกิดการสิ้นเปลืองขณะสูบพลังเป็นอย่างมาก จึงไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ เลย
การดิ้นรนขอร้องของหมีเซิงหลงไม่อาจโยกคลอนลู่เซิ่งได้ สิ่งที่เขาพิจารณาอยู่ในตอนนี้คือจะหาประโยชน์สูงสุดจากโลกใบนี้ได้อย่างไร
อันดับแรกคือนาฬิกาเทพที่เก็บพลังอาวรณ์ไว้ไม่ทราบเท่าไหร่เรือนนี้
เขาที่ได้สติกลับมายื่นมือไปลูบไล้ผนังหินของนาฬิกาเทพเบาๆ
ชิ้ง!
ทันใดนั้น เขาแทงนิ้วเหมือนกับกรงเล็บแหลมเข้าไปด้านในอย่างหนักหน่วง ปักลึกจนถึงข้อมือ
“ขอร้อง…” เสียงของหมีเซิงหลงดังมาจากแกนหลักในทรวงอก
ลู่เซิ่งไม่สนใจแม้แต่น้อย หลังจากหมีเซิงหลงอ่อนแอลงเรื่อยๆ การป้องกันโดยรวมของนาฬิกาเทพก็อ่อนแรงลงเช่นกัน
พลังอาวรณ์ในนี้ปลอดโปร่งกว่าเดิม ตอนนี้ถึงเวลาเก็บค่าความลำบากที่ทนทรมานในช่วงนี้คืนแล้ว
ซู่…
พลังอาวรณ์ไร้รูปร่างจำนวนมากทะลักเข้ามาในร่างลู่เซิ่งอย่างบ้าคลั่งผ่านฝ่ามือ
หนึ่งพัน สองพัน สามพัน สี่พัน…
การกักเก็บพลังอาวรณ์พุ่งทะยานขึ้นอย่างคลุ้มคลั่ง
อินเตอร์เฟสดีปบลูกางออกด้านหน้าลู่เซิ่งอยู่แล้ว เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าจำนวนของพลังอาวรณ์ที่อยู่บนนั้นกำลังพุ่งขึ้นเหมือนจรวด
พลังอาวรณ์อันยิ่งใหญ่ของนาฬิกาเทพทะลักเข้ามาในตัวเขาทั้งหมดเหมือนกับลูกโป่งรั่วลมโดยใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
คุณลักษณะของนาฬิกาเทพไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย พลังอาวรณ์ไม่ได้ส่งผลต่อวัตถุสิ่งของมากนัก มองไปไม่ต่างจากเดิมเลย
สวบ
ลู่เซิ่งชักมือกลับ แล้วปิดอินเตอร์เฟสดีปบลู
“ที่เจ้ามาที่นี่ คิดดีแล้วหรือยัง” เสียงของหมีก่วงอิงพลันดังมาจากส่วนลึกของช่องแตก
“คิดดีแล้ว”
ลู่เซิ่งเดินไปด้านในต่อ
“ก่อนจะตัดสินใจจริงๆ ฉันอยากถามคำถามหนึ่ง” เขาผุดสีหน้าเรียบเฉย แสดงให้เห็นว่าได้ตัดสินใจแล้ว
“คำถามอะไร” หมีก่วงอิงถามด้วยรอยยิ้ม
“ฉันอยากจะแน่ใจว่า…คุณแข็งแกร่งขนาดไหน?!” เสียงยังไม่ทันขาด ลู่เซิ่งก็พุ่งเข้าใส่หมีก่วงอิงดุจสายฟ้าฟาด มือขวากลายเป็นดาบแล้วฟันใส่ศีรษะอีกฝ่ายสุดแรงเกิด!
หมีก่วงอิงยกมือขึ้น แขนที่สวมเกราะอ่อนสีดำป้องกันฝ่ามือของลู่เซิ่งได้อย่างแม่นยำ
ตูม!
พละกำลังอันยิ่งใหญ่สองสายปะทะกันอย่างรุนแรง คลื่นอากาศสีเทาจำนวนมากกระเด็นออกมา
“ฉัน…ไม่สนใจจะเข้าร่วมกลุ่มของผู้อ่อนแอหรอกนะ!”
ลู่เซิ่งตะโกนพร้อมกับกระแทกข้อศอกใส่อีกฝ่าย แต่หมีก่วงอิงใช้มืออีกข้างรับไว้
เปรี้ยงๆๆๆ!
ทั้งสองสู้กันในระยะประชิดอย่างดุเดือด ไม่มีพลังเหนือธรรมชาติใดๆ เพียงใช้กายเนื้อส่งพลังเท่านั้น
เสียงปะทะที่บ้าคลั่งและรุนแรงเชื่อมรวมกัน คลื่นเสียงหนาแน่นกระแทกนาฬิกาเทพจนสั่นสะเทือน
เศษหินนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงมาดุจห่าฝ่น
ลู่เซิ่งรุกใส่อย่างเต็มกำลังโดยไม่ป้องกันแม้แต่น้อย มีเพียงแต่การโจมตี กายเนื้อของเขาแข็งแกร่งสุดเปรียบปาน ต่อให้หมีก่วงอิงโจมตีโดนเขาสักทีสองที ก็เกิดแค่รอยถลอกเล็กๆ เท่านั้น ไม่นานก็หายไปเป็นปลิดทิ้งภายใต้การช่วยเหลือของด้ายกระตุ้นวิญญาณและแก่นหยาง
หมีก่วงอิงสวมเกราะดำ จุดที่เกราะแนบกับร่างมีคลื่นโปร่งแสงเล็กๆ กระเพื่อม ป้องกันหมัดเท้าที่โจมตีใส่เธอไว้ได้ทั้งหมด
“อานุภาพเทพ!” ลู่เซิ่งชักฝ่ามือกลับมาพนม แล้วหวดออกไปด้วยความเร็วอันน่ากลัวที่ไวกว่าเมื่อครู่หลายเท่าตัวทันที สองมือประกบกันกลายเป็นดาบพร้อมกับฟันลงด้านล่าง
“ฮ่าๆๆๆ!” หมีก่วงอิงหัวเราะลั่น ชักมือขวาไปด้านหลัง แล้วดึงดาบโค้งสีดำที่แคบยาวเล่มหนึ่งออกมาจากกลางอากาศพร้อมกับฟันไปด้านหน้า
ซู่! ตูม!
ดาบและมือของทั้งสองเชื่อมต่อกัน
คลื่นสีดำกลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ตอนแรกหดตัวก่อน จากนั้นก็ระเบิดอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น พื้นบนทุ่งหญ้าในรัศมีหลายพันเมตรค่อยๆ แยกออก ร่องแยกที่ลึกจนมองไม่เห็นก้นหลายสายขยายตัวอย่างรวดเร็ว
……………………………………….
———————————