ยอดวิถีแห่งปีศาจ - บทที่ 659 บรรลุ (1)
บทที่ 659 บรรลุ (1)
“หัตถ์แห่งประกายนิล…หัตถ์สีเงิน…โอซีลิส…” ฮอลส์หน้าซีดกว่าเดิม ไม่เหลือความเยือกเย็นของก่อนหน้านี้อยู่อีกแม้แต่น้อย เขารู้แล้วว่าว่าตนเองไปหาเรื่องขุมกำลังไหนเข้า
เนตรแห่งเทพ…เขี้ยวแห่งมาร…
คนหนุ่มที่อายุยังไม่มากคนนั้น ถ้าหากว่าคำเรียกจากปากอีกฝ่ายเป็นจริง อย่างนั้นครั้งนี้ตัวเขาฮอลส์จะลำบากมากแล้ว
ลู่เซิ่งสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงถึงขั้นยิ้มน้อยๆ อย่างชื่นชมขณะมองโอซีลิสที่เดินเข้ามาทีละก้าวๆ
จำนวนของกองทัพของหัตถ์แห่งประกายนิลลดลงอย่างรวดเร็ว พิษทั้งหมดบนร่างเหล่าจิตรกรระดับสูงในทัพองครักษ์โลหิตวิญญาณล้วนถูกขจัดทิ้ง
“นึกไม่ถึงว่านายจะขจัดพิษผสมที่ฉันสร้างขึ้นเองได้อย่างหมดจดแบบนี้” ในน้ำเสียงของลู่เซิ่งแฝงความตกตะลึงพรึงเพริด
เขาสัมผัสได้ว่าไม่เพียงพิษที่ตนใช้กับทัพองครักษ์วิญญาณโลหิตถูกขจัดเท่านั้น
แม้แต่พิษควบคุมที่ใช้กับปรมาจารย์ภาพวาดทั้งหมดในหัตถ์สีเงินก็ถูกขจัดไปด้วยเช่นกัน พูดอีกอย่างก็คือ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เขาได้สูญเสียจักรวรรดิจิตรกรใต้ดินที่ยิ่งใหญ่ไพศาลไปแล้ว เหลือแค่ตัวคนเดียว
ทุกสิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะโอซีลิสขจัดพิษควบคุมที่เขาปล่อยออกไปได้โดยสมบูรณ์
“ฉันเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่า ผู้ที่ควบคุมทุกสิ่งอยู่หลังฉากจะเป็นแค่…” โอซีลิสไม่ได้พูดต่อ เขาเดินมาถึงหลังคาที่อยู่ในความสูงเดียวกับลู่เซิ่ง ทั้งสองสบตากัน สิ่งที่ฉายออกมาจากในดวงตาของเขาคือความโกรธแค้นและความเคร่งขรึม อารมณ์ที่เกือบจะขัดแย้งกันสองชนิดกำลังปรากฏอยู่ในดวงตาของเขาพร้อมกัน
แต่ในดวงตาของลู่เซิ่งกลับมีแต่ความสงบนิ่ง เป็นความสงบนิ่งอันบริสุทธิ์ที่แทรกไว้ด้วยความชื่นชม
“ยอมให้จับแต่โดยดีเถอะ” โอซีลิสเอ่ยอย่างราบเรียบ “สี่ตำหนักของหัตถ์สีเงินได้แอบจับมือเป็นพันธมิตรกับฉันแล้ว พิษที่นายใส่ไว้ในตัวยอดฝีมือระดับเหนือกว่าวิญญาณภาพและเจตภาพก็ถูกฉันขจัดทิ้งไปหมดเหมือนกัน ตอนนี้นายไม่เหลืออะไรอีกแล้ว”
เสียงเพิ่งจะขาดลง เงาร่างที่มีลวดลายอันพิสดารกระจายไปทั่วร่างก็พากันปรากฏตัวขึ้นรอบๆ คฤหาสน์ตระกูลจัว
ไม่เพียงยอดฝีมือจากเนตรแห่งเทพที่มาถึงเท่านั้น แม้แต่ปรมาจารย์จิตรกรสี่คนแห่งหัตถ์สีเงินก็มาแล้วเช่นกัน
ทุกคนต่างก็โอบล้อมรอบๆ ไว้โดยไม่ได้นัดหมาย
จิตรกรทั้งหมดที่ยังไม่ถูกขจัดพิษพากันโดนจับกุมและสังหาร สถานการณ์เริ่มแน่นอนขึ้นเรื่อยๆ
ลู่เซิ่งกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย “นายไม่เข้าใจงั้นเหรอ”
“นายอยากพูดอะไรอีก” โอซีลิสยกมือขึ้น รอเขาฟันมือลง จะเป็นสัญญาณให้ทุกๆ คนลงมือโจมตีพร้อมกันทันที
ราชาสีเงิน มือมืดหลังฉากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหัตถ์สีเงิน หรือมะเร็งร้ายของโลกผู้นี้ วันนี้จะต้องถูกขุดรากถอนโคน
“นายนึกว่าฉันพึ่งพาขุมกำลังของหัตถ์สีเงินหรือไง ผิดแล้ว ฉันไม่ได้พึ่งพาหัตถ์สีเงิน หัตถ์สีเงินต่างหากที่…พึ่งพาฉัน!”
ท่ามกลางเสียงดัง กล้ามเนื้อทั่วร่างลู่เซิ่งพองขยายอย่างรวดเร็ว บนร่างปรากฏลวดลายพิสดารสีทองเข้มหลายสาย ชุดบนตัวถูกดันจนปริขาดในพริบตา เผยให้เห็นเค้าโครงกล้ามเนื้อที่บิดเบี้ยวและแข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า
“ลงมือ?!” โอซีลิสม่านตาหดตัว ก่อนจะฟันมือลงอย่างแรง จากนั้นเขาก็กระโจนพุ่งเข้าใส่ลู่เซิ่งเป็นคนแรก
กลางอากาศ ปีกสีขาวที่ซ้อนทับกันนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นแล้วสลายหายไปด้านหลังเขา ทุกครั้งที่ปีกสลายไป พละกำลังและความเร็วอันยิ่งใหญ่มหาศาลจะเพิ่มขึ้น
ปีกหลายสิบคู่สลายไปไปในพริบตา เสริมความเร็วในการโจมตีที่ไม่อาจเทียบเคียงกับสิ่งใดได้ให้กับร่างกายของเขา
“พายุแห่งเทพ!” พายุนับไม่ถ้วนรวมตัวกันด้านหน้าโอซีลิสอย่างฉับพลัน ลมมากมายรวมตัวกันในระดับสูง จากนั้นขั้วประจุไฟฟ้าก็แยกตัว กลายเป็นลูกบอลสายฟ้าสีดำอมน้ำเงินกลุ่มหนึ่ง
“ราชาสีเงิน ยุคสมัยของแกจบลงแล้ว!”
เขาที่ถือลูกบอลสายฟ้าอยู่ จ้องมองลู่เซิ่งที่เข้าใกล้ดุจสายฟ้าแลบ ในใจกลับนิ่งสงบ
ตูม!
ลูกบอลสายฟ้าโดนเป้าหมาย ความร้อนน่ากลัวที่สูงถึงหลายแสนองศา มากพอจะหลอมละลายทุกสิ่งได้ในพริบตา
โอซีลิสบินถอยหลังออกไปทิ้งตัวลงบนดาดฟ้าด้านข้างเบาๆ ขณะกำลังจะถอนใจนั่นเอง
“ยัง…ไม่ตายอีกเหรอ!?” อยู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงอุทานของคนรอบๆ จึงรีบมองไปยังทิศทางที่ลูกบอลสายฟ้าระเบิด
เปลวเพลิงสีน้ำเงินกลุ่มหนึ่งกำลังลุกโหมอยู่ตรงนั้น แต่ในนั้นกลับมีเงาคนสูงใหญ่คนหนึ่งยืนนิ่งอยู่ด้วย
ราชาสีเงิน!
ลู่เซิ่งแสยะยิ้มอยู่กลางกลองเพลิง คล้ายกำลังหัวเราะอยู่
“เป็น…เป็นไปได้ยังไงกัน!?” คนทุกคนที่เห็นต่างตกตะลึง
โดนการระเบิดที่รุนแรงเข้าไปตรงๆ ยังรอดมาได้อีก!? นี่มันน่าเหลือเชื่อโดยแท้
สนามรบพลันเงียบสงัด
พอพวกฮอลส์กับหลินเซิ่งหย่าที่เพิ่งถูกคนพาออกมาเห็นภาพนี้เข้า ก็ตกใจจนชินชาบ้างแล้ว
แต่ก็เข้าใจในพริบตาเช่นกันว่า เหตุใดลู่เซิ่งจึงรักษาความเยือกเย็นได้ตลอดเวลา
ถ้าครอบครองพลังแบบนี้ ก็มีสิทธิ์ดูแคลนทุกสิ่งจริงๆ
เปรี้ยง!
เปลวเพลิงระเบิดในพริบตา ไอขาวกลุ่มหนึ่งระเบิดตรงตำแหน่งที่ลู่เซิ่งอยู่
โอซีลิสยังตั้งตัวไม่ทัน ก็รู้สึกได้ว่ามีพละกำลังอันน่ากลัวและยิ่งใหญ่กระแทกเข้ากับทรวงอกของตัวเอง
เขารีบยกมือขึ้นกุมหน้าอก
ตูม!
หลุมขนาดใหญ่ยักษ์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางสิบกว่าเมตรโผล่ขึ้นบนพื้น โอซีลิสนอนหงายอยู่ตรงกลาง ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยเลือด สีหน้าซีดขาว
ลู่เซิ่งทิ้งตัวลงพื้นเบาๆ ขนาดตัวของเขาสูงใหญ่ขึ้นราวๆ หนึ่งเท่าของคนทั่วไปเท่านั้น ดูไม่อลังการเท่าไหร่ แต่คล่องแคล่วกว่าก่อนหน้ามาก
นี่ก็คือผลลัพธ์ที่เขาได้จากโลกใบนี้หลังจากใช้ประโยชน์จากเส้นทางภาพวาด
พละกำลังของจักรพรรดิมวยเงามารประสานกับเส้นทางภาพวาดของโลกใบนี้ ทำให้เขาได้บรรลุถึงจุดสุงสุดที่ตนบรรลุได้แล้ว ทั้งยังเป็นจุดสูงสุดที่โลกอนุญาตด้วย
ปังๆๆๆๆๆ!
ทันใดนั้น เฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ไกลออกไปก็กราดปืนกลใส่ลู่เซิ่ง แนวกระสุนที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างระเบิดพื้นรอบๆ ตัวเขาเป็นหลุมขนาดต่างๆ
“พินาศในพริบตา!”
ลู่เซิ่งหันหน้าไป จากนั้นหมัดขวาก็สูญหาย
ตูม!
เฮลิคอปเตอร์สองลำที่อยู่ห่างออกไปด้านหน้าเขาหลายร้อยเมตรมีรูขนาดใหญ่สองรูเพิ่มขึ้นมาในพริบตาเดียว ด้านในรูเป็นรูปโค้งมนเหมือนกับถูกกำปั้นขนาดยักษ์ต่อยทะลุ
เปรี้ยง!
ช่วงกลางของตึกใหญ่ด้านหลังเฮลิคอปเตอร์หายไปส่วนหนึ่ง มองดูไกลๆ ถึงกับมีลักษณะเป็นรอยหมัดขนาดยักษ์
ลู่เซิ่งก้าวออกไปเบาๆ บนพื้นอีกครั้ง
เกิดเสียงระเบิดดังตูม
กรวดหินนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากพื้นเหมือนกับกระสุน เฮลิคอปเตอร์สิบกว่าลำรอบๆ ระเบิดกลายเป็นก้อนไฟหลายก้อนพร้อมกับร่วงตกลงพื้นแทบจะพร้อมกัน
หลังทำทุกอย่างนี้เสร็จแล้ว ลู่เซิ่งจึงค่อยเดินไปหาโอซีลิสที่อยู่กลางหลุม
“นายมีศักยภาพของผู้แข็งแกร่ง โอซีลิส มาเถอะ มาเป็นศิษย์ฉันเถอะ แล้วฉันจะมอบพลังที่เหนือกว่าสิ่งใดให้กับนาย”
“พลังที่ใช้ปกครองโลกใบนี้” ลู่เซิ่งเดินไปถึงขอบหลุมแล้วเอื้อมมือไปหาโอซีลิสช้าๆ
ตึกใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลออกไปซึ่งเกือบถูกตัดช่วงกลางทิ้งค่อยๆ เอียงไถลลงมากระแทกพื้นจนเกิดเสียงดังกระหึ่ม
โอซีลิสยังมีสีหน้าราบเรียบ
“นายแน่ใจเหรอ”
“แน่นอน” ลู่เซิ่งตอบยืนยัน
“ฉัน…” โอซีลิสอ้าปากคิดจะพูด
แกว๊ก!
อยู่ๆ ก็มีฝูงอีกาดำกลุ่มใหญ่บินมาจากท้องฟ้า กาสีดำที่มีตาสีแดงนับไม่ถ้วนพุ่งลงมาใส่ตำแหน่งที่ลู่เซิ่งอยู่อย่างบ้าคลั่งเหมือนกับลูกศร
“นี่เป็นความสามารถที่ฉันเคยสอนให้แก ตอนนี้เอามาใช้กับฉันหรือ” ลู่เซิ่งเงยหน้ามองฝูงอีกาสีดำสนิทนับไม่ถ้วนทั่วฟ้า
“หมื่นอัคคีดับสิ้น!” ชายร่างสูงใหญ่ที่มีรอยสักสีดำเต็มตัวกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ไกลออกไป แล้วทิ้งตัวลงยืนอยู่บนหลังคาทางขวามืออย่างมั่นคง
เสียงของเขาเพิ่งจะขาดลง อีกาที่พุ่งลงมานับไม่ถ้วนก็กลายเป็นก้อนเพลิงสีแดงเข้มที่มีควันพิษสีฟ้าประกอบอยู่ด้วยหลายกลุ่ม พร้อมกับพุ่งเข้าใส่ลู่เซิ่ง
ลู่เซิ่งคว้ามือหนึ่งไปด้านหน้าและกำเป็นหมัด
“จะให้พวกแกได้เห็นขีดสูงสุดของเส้นทางภาพวาดที่แท้จริงก็แล้วกัน”
เขาค่อยๆ คลายกำปั้น เส้นสีแดงเข้มหลายสายลอยออกมาจากกลางกำปั้น แล้วหมุนวนรอบตัวเขาอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็กลายเป็นอีกาสีแดงเข้มที่เหมือนกันหลายตัว
“อัคคีสวรรค์ทำลายล้าง!”
เส้นตรงกลางกำปั้นลู่เซิ่งหมุนวนอย่างฉับพลัน อีกาที่รวมตัวรอบๆ บริเวณส่งเสียงร้องแหลม พร้อมกับพุ่งเข้าหาอีกาเพลิงนับไม่ถ้วนกลางท้องฟ้าดุจห่าฝน
ฟุ่บๆๆๆ!
อีกานับไม่ถ้วนหักล้างกันเอง ไม่นานอีกาของสองฝ่ายก็หายไปจนหมดสิ้น แต่ทางลู่เซิ่งยังคงสร้างอีกาสีแดงเข้มจำนวนมากออกมาอย่างต่อเนื่อง
ต่อให้ชายร่างสูงใหญ่จะเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ภาพที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แต่พอเห็นภาพนี้สีหน้าก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน เขารีบร้อนโบกมือสะบัดสีสันจำนวนมากออกไป สีสันนับไม่ถ้วนกระจัดกระจายกลายเป็นอักขระและลวดลายมากมายกลางอากาศ หมายจะล่อลวงอีกาสีแดงเข้มที่บินมา
“ทุกสิ่งของพวกแกเป็นสิ่งที่ฉันสอนให้ ตอนนี้ ถึงเวลาฉันเอาคืนแล้ว…” ลู่เซิ่งคว้ามือ
อีกาสีแดงเข้มนับไม่ถ้วนเจาะทะลุสีสันแล้วพุ่งใส่ร่างอีกฝ่าย ก่อนจะเผาอีกฝ่ายกลายเป็นมนุษย์เพลิงในพริบตา
“หอกเนตรวายุ!”
อยู่ๆ ก็มีเสียงตวาดดังมาจากด้านข้าง ลู่เซิ่งหันไปมอง เห็นโอซีลิสถือหอกยาวที่เกิดจากการแยกตัวของอากาศนับไม่ถ้วนไว้เล่มหนึ่ง แล้วแทงมาทางเขาดุจสายฟ้าแลบ
เขายกขาขวาขึ้น จากนั้นขาก็หายไปกลางอากาศ
ตูม!
หอกยาวแหลกสลายไปในพริบตา กระดูกหน้าอกของโอซีลิสยุบลงไป ก่อนที่ตัวเองจะกระเด็นออกไปชนใส่ตึกใหญ่ด้านหลังเหมือนกับโดนเรือรบขนาดยักษ์กระแทกใส่
ท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง ตรงกลางตึกใหญ่ปรากฏหลุมขนาดยักษ์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางหลายสิบเมตร
ขณะลู่เซิ่งกำลังจะโจมตีต่อนั่นเอง
“แหฟ้า!”
เส้นสีขาวหลายร้อยสายยืดขยายออกมาจากด้านหลังของเขาอย่างแน่นขนัด แล้วห่อหุ้มรัดพันร่างของเขาอย่างบ้าคลั่ง
จิตรกรหลายสิบคนในรัศมีสองสามร้อยเมตรรอบๆ ต่างถือกรอบรูป เส้นนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากกรอบรูปและพุ่งเข้าหาตัวลู่เซิ่งอย่างต่อเนื่อง
เงาร่างที่ลู่เซิ่งคุ้นตาทิ้งตัวลงด้านหลังเขาเบาๆ
“เกอเลียน…แม้แต่นายก็ทรยศฉันเหรอ” ลู่เซิ่งหมุนตัวไปอย่างประหลาดใจอยู่บ้าง
เกอเลียนเป็นสุดยอดจิตรกรคนแรกที่เขารับเป็นพวก หลังจากทำลายข้อจำกัดของโรค อีกฝ่ายก็เลื่อนไปถึงระดับปรมาจารย์ภาพสำเร็จ นับได้ว่าเป็นจิตรกรที่แข็งแกร่งที่สุดในหัตถ์สีเงินนอกจากลู่เซิ่ง
“ฉันไม่อยากจะเป็นหุ่นเชิดตลอดชีวิต” ดวงตาของเกอเลียนฉายแววซับซ้อนขณะมองลู่เซิ่งที่อยู่ไกลออกไป
ฟิ้ว!
กระบองโลหะยาวแท่งหนึ่งดีดออกมาจากใต้มือเขา กระบอกยาวสีเงินอมดำยืดออกเป็นท่อนๆ ไม่นานก็กลายเป็นอาวุธสมส่วนที่ยาวถึงสามเมตรกว่าๆ
“ลงมือ!” เกอเลียนก้าวออกไปด้านหน้า ร่างระเบิดคลื่นโซนิคบูม แล้วโผล่ขึ้นมาด้านข้างลู่เซิ่งในพริบตา ก่อนจะกวาดกระบองยาวออกในแนวขวาง
แทบจะในเวลาเดียวกัน เงาร่างหลายร่างโผล่ขึ้นรอบตัวลู่เซิ่งพร้อมกัน ต่างคนต่างก็ถืออาวุธโจมตีใส่จุดตายของลู่เซิ่ง
แสงสีขาวแผ่ตลบอบอวลบนร่างโอซีลิส บาดแผลทั้งหมดสมานตัวอย่างรวดเร็ว เขากระโดดขึ้นมาประกบมือและดึงออก พลันสร้างสายฟ้าที่กะพริบกลุ่มหนึ่งขึ้นมา
“จักรพรรดิสายฟ้า…!” รอยสักภาพทั้งหมดบนใบหน้าของเขาเรืองแสงสีฟ้า ตาข่ายสายฟ้าขนาดยักษ์ที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัวโผล่ขึ้นด้านหลัง แล้วพุ่งลงไปด้านล่าง
แต่แค่พริบตาเดียว ด้านหน้าเขาก็พร่ามัว ร่างสูญเสียศูนย์ถ่วง พอได้สติกลับมา รอบๆ ตัวก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
โอซีลิสตื่นตระหนก เขายืนอยู่ในตำหนักยักษ์ที่กว้างใหญ่ไพศาลเพียงลำพัง
ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ในความมืดด้านบนสุดของตำหนักก็คือลู่เซิ่งที่เมื่อครู่ยังสู้กับตนอยู่นั่นเอง
“นี่คือ…ภาพหลอนเหรอ?!” เขาที่เป็นปรมาจารย์ภาพที่แข็งแกร่งที่สุดโดนภาพหลอนเข้าให้เหรอเนี่ย?!
โอซีลิสสายตาเคร่งเครียด พลังของราชาสีเงินอยู่เหนือการคำนวณของเขาไปไกลโข แต่ยังมีโอกาสชนะ ยังมีโอกาสอยู่อีก!
ขอแค่…
โอซีลิสสร้างหอกยาวอย่างฉับพลัน แล้วเหยียบอากาศกระโจนเข้าใส่ลู่เซิ่ง
ตุบๆๆๆๆ!
ก้าวแล้วก้าวเล่า เขารู้สึกทุกๆ ย่างก้าวต้องใช้แรงมากขึ้นเรื่อยๆ หัวเข่าส่งเสียงครวญคราง กล้ามเนื้อสั่นไหวอย่างรุนแรง เหงื่อทำให้เสื้อและกางเกงเปียกชุ่มอย่างรวดเร็ว
……………………………………….
——————————————